เข้าระบบ

View Full Version : คาถาตะกรุด​มหาสะท้อนกับการรู้​ เห็น​ ได้ยิน​ แนวอภิญญา


ทองหยด
07-11-2018, 07:24
กราบนมัสการพระอาจารย์ที่เคารพอย่างสูง​ ขอกราบเรียนสอบถามดังต่อไปนี้


ได้ภาวนา​คาถา​ “เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา” โดยพยายามให้จิตมีความเมตตามากที่สุด​ ภาวนาเกือบตลอดเวลา​ ๒​ วัน​ รู้สึกว่ารู้กับการได้ยินดีและเร็วไวขึ้นมาก​ แต่ที่แปลกคือเหมือนจะเห็นภพภูมิอื่นด้วย​ จึงสงสัยว่าคาถานี้ช่วยส่งผลด้านนี้ด้วยหรือไม่

๒​ วันที่ภาวนาคาถานี้​ ปรากฏคนรู้จักมีอาการไม่สบาย​ ท้องเสียอย่างหนักเป็นไข้​ หน้าซีดเซียว​ คือคนนี้บ้านอยู่ใกล้​ มักชอบมามองสังเกตแล้วจับผิดหาเรื่องคิดเก็บไปโกรธเอง​ พูด​ว่านินทา​ ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรให้​ คาถานี้จะสะท้อนผลถึงผู้ที่ก่อการร้ายต่อผู้สวดคาถาในลักษณะใดบ้าง​


ตอนนี้จึงกลับมาภาวนาพุทโธเหมือนเดิม​ เพราะคิดว่าการภาวนาพุทโธหรืออานาปานสติจะช่วยเน้นด้านวิปัสสนามากกว่า​ ตรงนี้เข้าใจถูกหรือไม่


การรู้เห็นด้านอภิญญา​ จะมี​
ทิพจักขุญาณ​ การเห็นเป็นภาพ​ บางคนจะไม่ได้ยินเสียง
หูทิพย์​ การได้ยิน​ บางคนจะไม่เห็นภาพ
การรู้​ รู้เรื่องราวต่าง​ ​ๆ​ ไม่เห็นภาพและไม่ได้ยิน​
แต่ความรู้เรื่องราวจะผุดขึ้นมาเอง​ เมื่อตรวจสอบข้อมูลก็ตรง​ การรู้นี้เรียกว่าเรียกอะไร​

อภิญญา​ ๓​ อย่างนี้​ บางท่านสามารถทำได้ครบ​ แต่ถ้ายังมีกิเลสอยู่​ ไม่ว่ามีอภิญญาอย่างใดอย่างหนึ่งหรือครบทั้งสามอย่าง​ ก็โดนมารหลอกได้และผิดพลาดได้ใช่ไหม​ ดังนั้นจึงไม่ควรให้ความสำคัญเท่ากับการแก้ไขกิเลสร้ายในใจ​ ใช่หรือไม่

กราบขอบพระคุณและกราบขอขมาพระอาจารย์ด้วยค่ะ

เถรี
05-01-2019, 08:36
ถาม : ได้ภาวนาคาถา “เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา” โดยพยายามให้จิตมีความเมตตามากที่สุด ภาวนาเกือบตลอดเวลา ๒ วัน รู้สึกว่ารู้กับการได้ยินดีและเร็วไวขึ้นมาก แต่ที่แปลกคือเหมือนจะเห็นภพภูมิอื่นด้วย จึงสงสัยว่าคาถานี้ช่วยส่งผลด้านนี้ด้วยหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าสภาพจิตสงบและมีพื้นฐานทิพจักขุญาณมาแต่เดิม ไม่ว่าจะภาวนาคาถาอะไรก็เห็นได้ทั้งนั้น

ถาม : วันที่ภาวนาคาถานี้ ปรากฏคนรู้จักมีอาการไม่สบาย ท้องเสียอย่างหนักเป็นไข้ หน้าซีดเซียว คือคนนี้บ้านอยู่ใกล้ มักชอบมามองสังเกตแล้วจับผิดหาเรื่องคิดเก็บไปโกรธเอง พูดว่านินทา ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรให้ คาถานี้จะสะท้อนผลถึงผู้ที่ก่อการร้ายต่อผู้สวดคาถาในลักษณะใดบ้าง ?
ตอบ : หนักเบาแล้วแต่เขา เขาจะคิด จะพูด จะทำอะไรกับเรา เขาก็จะได้คืนไปมากกว่านั้น คาถานี้เป็นคาถาใจดี ใครให้อะไรมา ก็คืนกลับไปเยอะ ๆ

ถาม : ตอนนี้จึงกลับมาภาวนาพุทโธเหมือนเดิม เพราะคิดว่าการภาวนาพุทโธหรืออานาปานสติจะช่วยเน้นด้านวิปัสสนามากกว่า ตรงนี้เข้าใจถูกหรือไม่ ?
ตอบ : ผิด..วิปัสสนาเขาเอาไว้พิจารณา เขาไม่ได้เอาไว้ภาวนา

เถรี
05-01-2019, 08:37
ถาม : การรู้เห็นด้านอภิญญา จะมีทิพจักขุญาณ การเห็นเป็นภาพ บางคนจะไม่ได้ยินเสียง หูทิพย์ การได้ยิน บางคนจะไม่เห็นภาพ การรู้ รู้เรื่องราวต่าง ๆ ไม่เห็นภาพและไม่ได้ยิน แต่ความรู้เรื่องราวจะผุดขึ้นมาเอง เมื่อตรวจสอบข้อมูลก็ตรง การรู้นี้เรียกว่าเรียกอะไร ?
ตอบ : เห็นภาพเรียกว่าทิพจักขุ ได้ยินเสียงเรียกว่าทิพโสต เกิดความรู้สึกขึ้นมาแล้วเข้าใจเองโดยไม่ต้องเห็น เรียกว่าทิพจักขุญาณ

เอาให้แน่ ๆ นะ ทิพจักขุกับทิพจักขุญาณ คนละเรื่องกันนะ ทิพจักขุลักษณะเหมือนตาทิพย์คือเห็น ทิพจักขุญาณเป็นความรู้สึกเหมือนกับเห็น ชัดเจนมาก บอกได้ทุกอย่าง แต่ไม่เห็น

ถาม : อภิญญา ๓ อย่างนี้ บางท่านสามารถทำได้ครบ แต่ถ้ายังมีกิเลสอยู่ ไม่ว่ามีอภิญญาอย่างใดอย่างหนึ่งหรือครบทั้งสามอย่าง ก็โดนมารหลอกได้และผิดพลาดได้ใช่ไหม ?
ตอบ : ขนาดหมดกิเลสแล้ว มารยังพยายามหลอกเลย พวกไม่หมดกิเลสนี่เป็นลูกน้องของมารแน่ ๆ อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลหรอก เขาหลอกเป็นประจำ

ถาม : ดังนั้น เราจึงไม่ควรให้ความสำคัญเท่ากับการแก้ไขกิเลสร้ายในใจ ใช่หรือไม่ ?
ตอบ : พิจารณาเอาเองว่าใช่หรือเปล่า เขาเรียกว่าถามแบบอวดรู้ ไม่ใช่ถามเพื่อเอาความรู้