เถรี
24-11-2016, 18:30
ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตนเอง ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เราถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ ที่จะกล่าวถึงในวันนี้คือเรื่องของการทรงฌาน
เนื่องจากว่าพวกเราทั้งหลายส่วนใหญ่แล้ว เมื่อทรงอารมณ์สมาธิหรือว่าฌานสมาบัติขั้นใดขั้นหนึ่งได้ เมื่อถึงเวลาเลิกแล้วก็มักจะทิ้งไปเลย จึงกลายเป็นบุคคลที่สามารถทรงฌานได้เฉพาะเวลาที่นั่งปฏิบัติเท่านั้น ส่วนในเวลาอื่น ๆ ซึ่งเป็นเวลาจำเป็นที่เราต้องใช้กำลังฌานในการกดกิเลส ใช้กำลังฌานในการสร้างสติ สร้างปัญญาของเรา เรากลับไม่ได้ทรงฌานเหล่านั้นไว้ ผลในการปฏิบัติธรรมของเราจึงมีน้อยมาก
เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากที่เราเจริญสมาธิภาวนาในแต่ละครั้ง เมื่อเลิกแล้วอย่าทิ้งการภาวนา แต่ให้ประคับประคองรักษาอารมณ์ในการภาวนาของเราเอาไว้ ใหม่ ๆ อาจจะได้แค่นาที สองนาที ก็พังไปแล้ว แต่ถ้าหากเรามีความเพียรพยายามไม่ย่อท้อ ก็จะได้ระยะเวลาที่นานขึ้น เป็นห้านาที สิบนาที สิบห้านาที ครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง
ยิ่งทำไปกำลังใจที่ห่างไกลจากกิเลส ทำให้เรามีความสุขความเยือกเย็น คราวนี้เราก็จะรู้แล้วว่า การทรงฌานนั้นมีประโยชน์อย่างไร ก็จะตั้งหน้าตั้งตาประคับประคองมากยิ่งขึ้น ความชำนาญที่มีมากขึ้นตามระยะเวลา ก็จะทำให้เราสามารถประคองรักษาอารมณ์ที่ได้จากการปฏิบัติไว้เป็นชั่วโมง สองชั่วโมง สามชั่วโมง ครึ่งวัน หนึ่งวัน สองวัน สามวัน ห้าวัน เจ็ดวัน สิบห้าวัน หนึ่งเดือน ถ้าบุคคลที่คล่องตัวมาก ๆ สามารถทรงฌานได้ตลอดเวลาทั้งหลับและตื่น เมื่อเวลาหลับก็รู้อยู่ว่าตนเองนั้นหลับ
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ ที่จะกล่าวถึงในวันนี้คือเรื่องของการทรงฌาน
เนื่องจากว่าพวกเราทั้งหลายส่วนใหญ่แล้ว เมื่อทรงอารมณ์สมาธิหรือว่าฌานสมาบัติขั้นใดขั้นหนึ่งได้ เมื่อถึงเวลาเลิกแล้วก็มักจะทิ้งไปเลย จึงกลายเป็นบุคคลที่สามารถทรงฌานได้เฉพาะเวลาที่นั่งปฏิบัติเท่านั้น ส่วนในเวลาอื่น ๆ ซึ่งเป็นเวลาจำเป็นที่เราต้องใช้กำลังฌานในการกดกิเลส ใช้กำลังฌานในการสร้างสติ สร้างปัญญาของเรา เรากลับไม่ได้ทรงฌานเหล่านั้นไว้ ผลในการปฏิบัติธรรมของเราจึงมีน้อยมาก
เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากที่เราเจริญสมาธิภาวนาในแต่ละครั้ง เมื่อเลิกแล้วอย่าทิ้งการภาวนา แต่ให้ประคับประคองรักษาอารมณ์ในการภาวนาของเราเอาไว้ ใหม่ ๆ อาจจะได้แค่นาที สองนาที ก็พังไปแล้ว แต่ถ้าหากเรามีความเพียรพยายามไม่ย่อท้อ ก็จะได้ระยะเวลาที่นานขึ้น เป็นห้านาที สิบนาที สิบห้านาที ครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง
ยิ่งทำไปกำลังใจที่ห่างไกลจากกิเลส ทำให้เรามีความสุขความเยือกเย็น คราวนี้เราก็จะรู้แล้วว่า การทรงฌานนั้นมีประโยชน์อย่างไร ก็จะตั้งหน้าตั้งตาประคับประคองมากยิ่งขึ้น ความชำนาญที่มีมากขึ้นตามระยะเวลา ก็จะทำให้เราสามารถประคองรักษาอารมณ์ที่ได้จากการปฏิบัติไว้เป็นชั่วโมง สองชั่วโมง สามชั่วโมง ครึ่งวัน หนึ่งวัน สองวัน สามวัน ห้าวัน เจ็ดวัน สิบห้าวัน หนึ่งเดือน ถ้าบุคคลที่คล่องตัวมาก ๆ สามารถทรงฌานได้ตลอดเวลาทั้งหลับและตื่น เมื่อเวลาหลับก็รู้อยู่ว่าตนเองนั้นหลับ