เถรี
06-08-2024, 00:56
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๕๖๗
ก่อนทำวัตรเย็น วันอาทิตย์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
Ub1I-3TdZnU
อาตมาตอนเด็ก ๆ ตีกบแทงปลาเป็นเรื่องปกติ แต่กว่าที่ผู้ใหญ่เขาจะสอน ก็มีประสบการณ์ด้วยตัวเอง ก็คือการใช้มีดฟันลงไปในน้ำ ถ้าเป็นน้ำลึกมีดจะแฉลบ เพราะว่าน้ำมีแรงต้าน ถ้าแฉลบพลาดก็โดนตัวเอง จะว่าไปแล้วอาตมาก็แก่มาก ก็เลยแปลกใจว่า ถ้านับตอนเด็ก ๆ ที่ยิงนกตกปลาอยู่เป็นอายุสัก ๕ - ๖ ขวบ ก็แปลว่าผ่านมาแค่ ๖๐ ปีเท่านั้น สัตว์น้ำที่มีจำนวนมากมายมหาศาล ไม่รู้ว่าหายไปไหนหมด..?!
สมัยเด็กไปบ้านป้าที่สวนแตง ปลาว่ายไปมาเต็มท่าน้ำไปหมด อย่างกับวังมัจฉาหน้าวัดสมัยนี้ พอถึงเวลาหน้าปลาสร้อยขึ้น ปลาสร้อยเป็นปลาเกล็ด หน้าตาคล้าย ๆ ปลาตะเพียน แต่ตัวเล็กกว่า ขึ้นมาทีเต็มแม่น้ำเลย ไม่รู้ว่าเป็นแสนเป็นล้านตัวหรือเปล่า ? แล้วก็ไม่ต้องใช้อะไรเลย เอาเข่งไปตักเอา ไม่ต้องใช้เครื่องมือดักปลา แล้วก็เลือกแต่ปลาสร้อยด้วยนะ ปลาอื่นไม่เอา เอามาหมักน้ำปลา ถึงเวลาก็ผ่าอ้อย ๖ ซีก ๘ ซีก รองก้นโอ่งก้นไห เอาปลาสร้อยอัดลงไป สลับกับเกลือ แล้วก็สานไม้ไผ่ปิดปากไว้ ผ่านไป ๑ ปีก็จะได้น้ำปลาน้ำหนึ่ง
ฟังดูแล้วน่ากินมาก แต่ขอโทษ..น้องชายพูดทีเดียวเท่านั้นแหละ อาตมาเลิกกินน้ำปลาไปเลย รู้ไหมว่าเขาพูดว่าอะไร ? เขาบอกว่า "น้ำเหลืองปลา" ของเราก็คนจินตนาการล้ำเลิศ นึกภาพออกเลย ก็คือปลาที่เน่า เลือด น้ำเหลือง อะไรทุกอย่างผสมกัน เสร็จแล้วเราก็เอามาคลุกข้าวกิน..!
ไปนึกถึงลุงมีสัปเหร่อ สมัยก่อนคนไม่ค่อยมีฐานะ พอถึงเวลาตายก็จะเอาศพไปฝากไว้ใน "โรงทึม" สมัยนี้ยังมีคำนี้หรือเปล่า ? เป็นอาคารใหญ่ ๆ ที่เขามุงสังกะสีปิดทึบรอบด้าน มีประตูเข้าด้านเดียว ถึงเวลาก็จะให้โยมเอาโลงศพไปฝากไว้ รอให้มีเงินก่อนแล้วค่อยทำพิธีเผา
คราวนี้บางทีคนเขาก็ทนไม่ได้ กับเรื่องกลิ่นเรื่องอะไร ก็ต้องจ้างสัปเหร่อให้รูดเอาเนื้อศพออก ให้เหลือแต่กระดูก ลุงมีแกก็ทำอาชีพนี้ เจ้าประคุณรุนช่องเถอะ..เสื้อผ้าแกกี่ชุดนี่ จะซักขนาดไหนก็ตาม กลิ่นน้ำเหลืองผีออกไม่หมด พอเปียก ๆ ชื้น ๆ หรือโดนเหงื่อหน่อย ก็จะเหม็นตลบขึ้นมาทันทีเลย..!
พอ ๆ กับจีวรพระสมัยนั้น เพราะว่าพระก็ต้องไปชักผ้าบังสุกุลจากศพ เขาจะทำเป็นเก้าอี้เอน ๆ ลักษณะเหมือนเหมือนกับ "เก้าอี้ฮ่องเต้" สมัยนี้ แล้วก็เอาศพนอนอยู่บนเก้าอี้ มีผ้าไตรพาดอยู่บนมือ แล้วส่วนใหญ่เขาก็ให้พระใหม่ไปชักผ้าบังสุกุลจากศพ เพื่อที่จะได้มีผ้าจีวรใช้ ต้องไปเหยียบตรงด้านหน้าเก้าอี้ เพื่อให้เก้าอี้กระดกขึ้นมา แล้วศพก็ลุกพรวด ยื่นผ้าไตรมาให้..!
ก่อนทำวัตรเย็น วันอาทิตย์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
Ub1I-3TdZnU
อาตมาตอนเด็ก ๆ ตีกบแทงปลาเป็นเรื่องปกติ แต่กว่าที่ผู้ใหญ่เขาจะสอน ก็มีประสบการณ์ด้วยตัวเอง ก็คือการใช้มีดฟันลงไปในน้ำ ถ้าเป็นน้ำลึกมีดจะแฉลบ เพราะว่าน้ำมีแรงต้าน ถ้าแฉลบพลาดก็โดนตัวเอง จะว่าไปแล้วอาตมาก็แก่มาก ก็เลยแปลกใจว่า ถ้านับตอนเด็ก ๆ ที่ยิงนกตกปลาอยู่เป็นอายุสัก ๕ - ๖ ขวบ ก็แปลว่าผ่านมาแค่ ๖๐ ปีเท่านั้น สัตว์น้ำที่มีจำนวนมากมายมหาศาล ไม่รู้ว่าหายไปไหนหมด..?!
สมัยเด็กไปบ้านป้าที่สวนแตง ปลาว่ายไปมาเต็มท่าน้ำไปหมด อย่างกับวังมัจฉาหน้าวัดสมัยนี้ พอถึงเวลาหน้าปลาสร้อยขึ้น ปลาสร้อยเป็นปลาเกล็ด หน้าตาคล้าย ๆ ปลาตะเพียน แต่ตัวเล็กกว่า ขึ้นมาทีเต็มแม่น้ำเลย ไม่รู้ว่าเป็นแสนเป็นล้านตัวหรือเปล่า ? แล้วก็ไม่ต้องใช้อะไรเลย เอาเข่งไปตักเอา ไม่ต้องใช้เครื่องมือดักปลา แล้วก็เลือกแต่ปลาสร้อยด้วยนะ ปลาอื่นไม่เอา เอามาหมักน้ำปลา ถึงเวลาก็ผ่าอ้อย ๖ ซีก ๘ ซีก รองก้นโอ่งก้นไห เอาปลาสร้อยอัดลงไป สลับกับเกลือ แล้วก็สานไม้ไผ่ปิดปากไว้ ผ่านไป ๑ ปีก็จะได้น้ำปลาน้ำหนึ่ง
ฟังดูแล้วน่ากินมาก แต่ขอโทษ..น้องชายพูดทีเดียวเท่านั้นแหละ อาตมาเลิกกินน้ำปลาไปเลย รู้ไหมว่าเขาพูดว่าอะไร ? เขาบอกว่า "น้ำเหลืองปลา" ของเราก็คนจินตนาการล้ำเลิศ นึกภาพออกเลย ก็คือปลาที่เน่า เลือด น้ำเหลือง อะไรทุกอย่างผสมกัน เสร็จแล้วเราก็เอามาคลุกข้าวกิน..!
ไปนึกถึงลุงมีสัปเหร่อ สมัยก่อนคนไม่ค่อยมีฐานะ พอถึงเวลาตายก็จะเอาศพไปฝากไว้ใน "โรงทึม" สมัยนี้ยังมีคำนี้หรือเปล่า ? เป็นอาคารใหญ่ ๆ ที่เขามุงสังกะสีปิดทึบรอบด้าน มีประตูเข้าด้านเดียว ถึงเวลาก็จะให้โยมเอาโลงศพไปฝากไว้ รอให้มีเงินก่อนแล้วค่อยทำพิธีเผา
คราวนี้บางทีคนเขาก็ทนไม่ได้ กับเรื่องกลิ่นเรื่องอะไร ก็ต้องจ้างสัปเหร่อให้รูดเอาเนื้อศพออก ให้เหลือแต่กระดูก ลุงมีแกก็ทำอาชีพนี้ เจ้าประคุณรุนช่องเถอะ..เสื้อผ้าแกกี่ชุดนี่ จะซักขนาดไหนก็ตาม กลิ่นน้ำเหลืองผีออกไม่หมด พอเปียก ๆ ชื้น ๆ หรือโดนเหงื่อหน่อย ก็จะเหม็นตลบขึ้นมาทันทีเลย..!
พอ ๆ กับจีวรพระสมัยนั้น เพราะว่าพระก็ต้องไปชักผ้าบังสุกุลจากศพ เขาจะทำเป็นเก้าอี้เอน ๆ ลักษณะเหมือนเหมือนกับ "เก้าอี้ฮ่องเต้" สมัยนี้ แล้วก็เอาศพนอนอยู่บนเก้าอี้ มีผ้าไตรพาดอยู่บนมือ แล้วส่วนใหญ่เขาก็ให้พระใหม่ไปชักผ้าบังสุกุลจากศพ เพื่อที่จะได้มีผ้าจีวรใช้ ต้องไปเหยียบตรงด้านหน้าเก้าอี้ เพื่อให้เก้าอี้กระดกขึ้นมา แล้วศพก็ลุกพรวด ยื่นผ้าไตรมาให้..!