#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๖
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นวันตรวจประเมินโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ในเขตปกครองคณะสงฆ์ระดับหน (กลาง) สังกัดคณะสงฆ์ภาค ๒ จึงต้องวิ่งไปยังวัดอ่างทองวรวิหาร ถนนเทศบาล ๑ ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทองเสียก่อน เนื่องเพราะว่าท่านเจ้าคุณประเวศ โ พระสุวรรณวชิราทร เจ้าอาวาสวัดอ่างทองวรวิหาร รองเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง ท่านปวารณาเป็นเจ้าภาพ ถวายภัตตาหารเพลแก่คณะกรรมการทั้งหมด
เมื่อไปถึงกระผม/อาตมภาพก็ถวายมุทิตาสักการะ ที่ท่านได้รับพระราชทานตั้งเป็นพระราชาคณะที่พระสุวรรณวชิราทร ด้วยการถวายพระขุนแผนเคลือบหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ ให้ท่าน ๑ องค์ ซึ่งท่านเจ้าคุณประเวศรับเอาไว้ด้วยความยินดี เพราะว่าคนอื่นส่วนมากแล้วจะถวายเป็นปัจจัย ซึ่งท่านบอกว่าการคบหาสมาคมนั้น เราคบกันด้วยใจ ไม่ใช่คบกันด้วยเงิน กระผม/อาตมภาพฟังดูแล้วก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ว่าด้วยความที่ตนเองก็ไม่นิยมที่จะคบหาใครด้วยเงินเช่นกัน จึงได้ถวายเป็นวัตถุมงคลแทน และเมื่อผู้รับได้เห็นก็ดีอกดีใจ เนื่องจากว่าพระขุนแผนเคลือบ หลวงพ่ออั้น วัดพระญาตินั้น ราคาในปัจจุบันทะยานไปสูงมาก ใครก็ตามที่ไม่สามารถจะหาพระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคลที่ราคาขึ้นไปจนหูดับตับไหม้ได้ ก็จะมาหาพระขุนแผนเคลือบ วัดพระญาตินี้ไปใช้แทน หลังจากนั้นไม่นาน พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) ประธานคณะกรรมการอำนวยการกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ก็เดินทางมาถึง จึงได้ออกไปยังอุโบสถวัดอ่างทองวรวิหาร ทำการเจริญพระพุทธมนต์ อธิษฐานกันตามอัธยาศัย แล้วก็ออกไปเดินดูสถานที่ ซึ่งทางด้านท่านเจ้าคุณประเวศตั้งใจที่จะสร้างให้เป็นห้องพักของพระภิกษุสงฆ์ หรืออาจจะใช้เป็นห้องเรียนหรือห้องกรรมฐานได้ เป็นศาลาหลังใหญ่โตมหึมาทีเดียว เมื่อชมกันจนกระทั่งใกล้เวลาแล้ว ก็ตรงไปยังสถานที่ซึ่งจัดภัตตาหารถวายรอเอาไว้ ปรากฏว่าแม้จะเป็นฤดูกาลนี้ แต่หลวงพ่อเจ้าคุณประเวศก็ยังอุตส่าห์ไปหาทุเรียนมาถวายแก่คณะกรรมการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หน (กลาง) ได้ เพียงแต่ว่าทุเรียนของท่านน่าจะเป็นทุเรียนลงยันต์ เนื่องเพราะว่ามาในลักษณะที่เอานิ้วจิ้มแล้วไม่ยุบเลย จึงกลายเป็นลาภปากของบรรดาคนขับรถแทน เพราะท่านประกาศไว้ว่าเหลืออะไรให้ขนกลับไปด้วย ท่านจะได้ไม่ต้องมีภาระ ก็เห็นบรรดาคนขับรถคว้าทุเรียนบ้าง ไก่ทอดยี่ห้อดังขนาดเป็นถังบ้าง ขึ้นรถไปเป็นอาหารตอนเย็น ซึ่งพวกกระผม/อาตมภาพไม่เคยชินกับการกินอาหารเย็นมาเนิ่นนาน จนลืมไปแล้วว่าบางคนเขายังต้องกินกันอยู่
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2023 เมื่อ 19:13 |
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
จากนั้นก็ได้เดินทางไปยังสถานที่ตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของคณะสงฆ์ภาค ๒ จังหวัดอ่างทอง ก็คือบ้านไชโย หมู่ที่ ๓ ตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง โดยที่นัดตรวจกันที่วัดไชโยวรวิหาร ที่มีหลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ หรือที่เรียกกันว่าหลวงพ่อโต วัดไชโย ที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) มาสร้างเอาไว้
เมื่อรอจนกระทั่งคณะกรรมการมาถึงพร้อมแล้ว ก็เข้าไปเจริญพระพุทธมนต์ถวายหลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ และรูปปั้นหลวงพ่อโต วัดระฆัง องค์ใหญ่ในวิหาร เมื่ออุทิศส่วนกุศลกันตามอัธยาศัยแล้ว ก็เดินดูงานนิทรรศการที่จัดเอาไว้ เพียงแต่ว่าอากาศค่อนข้างที่จะร้อน เมื่อถ่ายรูปหมู่กันเสร็จเรียบร้อย ก็ขึ้นสู่ศาลาเพื่อทำการตรวจประเมิน ปรากฏว่าศาลาทั้งหลังนั้น ทางด้านเจ้าอาวาสได้ติดเครื่องปรับอากาศให้ ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าโชคดีมากที่มาตรวจประเมินยังที่นี้..! เมื่อถึงเวลา ทางด้านพิธีกรก็นิมนต์พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. ประธานคณะกรรมการอำนวยการกลาง จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เจริญพระพุทธมนต์สรรเสริญในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ แล้วก็เป็นการแนะนำตัวคณะกรรมการในการตรวจประเมิน และกล่าวถึงที่มาที่ไปในการตรวจประเมินครั้งนี้ จากนั้นก็มีเด็ก ๆ มากล่าวถึงประโยชน์ของการเจริญสมาธิ ทำให้เรียนเก่ง และมีงานแสดงในลักษณะของนางรำ ในเพลงหมู่บ้านรักษาศีล ๕ แล้วจึงเป็นการประเมินทั้ง ๔ ฝ่าย กระผม/อาตมภาพรับผิดชอบการตรวจประเมินในฝ่ายที่ ๓ เวลามีน้อย จึงให้คำแนะนำไปว่า การที่เอานักเรียนซึ่งเรียนเก่งให้มาบอกกล่าวเรื่องประโยชน์ของการทำสมาธิแล้วช่วยให้เรียนเก่งก็เป็นเรื่องดี เพียงแต่ว่าเด็กที่มานั้นไม่ได้ทำสมาธิด้วยตนเอง จึงไม่สามารถที่จะบอกกล่าวได้อย่างถูกต้อง นอกจากอ่านโพยที่ครูบาอาจารย์เขียนมาให้ แล้วครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้ปฏิบัติสมาธิ ก็เลยเขียนมาครึ่ง ๆ กลาง ๆ..! เราทำโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ จึงไม่ควรที่จะทำในลักษณะอย่างนี้ เพราะเหมือนอย่างกับมาหลอกลวงกัน โดยเฉพาะกรรมการแต่ละฝ่ายนั้น มีความชำนาญในงานของตัวเองอยู่แล้ว แค่พิจารณาดูก็รู้ว่าสิ่งที่กล่าวมานั้นเป็นของจริงหรือว่าของปลอม แล้วก็ได้ฝากงานถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทองว่า วัดไชโยวรวิหารนั้น ทำงานทุกอย่างอยู่ในลักษณะส่งเสริมการปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว ทำไมแค่เอกสารชุดเดียว ไม่สามารถที่จะดำเนินการให้ทางวัดไชโยวรวิหารเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอ่างทองได้ ขอให้ช่วยเร่งรัด เพื่อที่ถึงเวลามีการตรวจประเมินแล้ว จะได้ว่าจะตรงกับเกณฑ์กติกา ได้รับคะแนนเต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ไปเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2023 เมื่อ 19:16 |
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
และขอฝากถึงทางด้านวัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง ที่กลายเป็นคนเก่าคนแก่ ก็คือนางสาวพรพรรณ กลิ่นเกษร อดีตผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งย้ายไปเป็นวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ไม่นึกว่าเพิ่งจะได้รับการโยกย้ายมาเป็นวัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง เมื่อเป็นคนคุ้นเคยกัน จึงฝากให้ทางคุณพรพรรณว่า ให้ช่วยขุดเอาสิ่งที่เป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมมาแปรเป็นมูลค่าให้ได้ทั้งหมด เมื่อชาวบ้านอยู่ดีกินดีแล้ว เขาก็จะมีอารมณ์เข้าวัด รักษาศีล ปฏิบัติธรรมกันเอง
เพียงแต่ว่าในงานส่วนของกระผม/อาตมภาพนั้น ต้องบอกว่าเป็นงานคนละ "เลเวล" กัน เนื่องเพราะว่าโครงการหลักก็คือ โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ซึ่งเน้นในส่วนของเบญจศีลและเบญจธรรม ก็คือ เมื่อเว้นจากการฆ่าสัตว์แล้ว ต้องปฏิบัติในหลักเมตตากรุณาอย่างไร ? เมื่อเว้นจากการลักทรัพย์แล้ว ต้องกระทำในสัมมาอาชีพอย่างไร ? เมื่อเว้นจากการประพฤติผิดในกามแล้ว จะต้องมีกามสังวรอย่างไร ? เมื่อเว้นจากการโกหกหลอกลวงแล้ว ต้องพูดคำสัตย์คำจริงอย่างไร ? แล้วท้ายที่สุด เมื่อเว้นจากการดื่มสุรา หรือว่าเสพยาเสพติดแล้ว จะต้องมีการประพฤติปฏิบัติเพื่อให้ห่างจากสิ่งทั้งหลายเหล่านี้อย่างไร ? ซึ่งในส่วนนี้อยู่ในระดับของศีลเท่านั้น แต่ว่าสำนักปฏิบัติธรรมนั้น อยู่ในระดับของสมาธิ ซึ่งสูงขึ้นมาอย่างชนิดที่เรียกว่าคนละระดับหรือคนละขั้นกัน แล้วถ้าหากว่าสามารถไปถึงปัญญาได้ ก็ยิ่งห่างไกลจากศีลมากขึ้นไปอีก ดังนั้น..ในการประเมินตามเกณฑ์ ถ้าหากว่าจะเอากันจริง ๆ แล้ว ก็ไม่สามารถที่จะให้คะแนนมากได้ แต่ในเมื่อสิ่งที่เขาทั้งหลายเหล่านั้นทำ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาศีลและปฏิบัติธรรมก็ดี หรือว่าในลักษณะของการกระทำสัมมาอาชีพต่าง ๆ ก็ตาม ก็ถือว่ามีผลข้างเคียงของการปฏิบัติธรรมนั่นเอง จึงจำเป็นที่จะต้องควานหาคะแนนมาให้เขาให้มากที่สุด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2023 เมื่อ 19:17 |
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
เนื่องเพราะว่าเราจะไปหวังให้ชาวบ้านปฏิบัติธรรม จนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย ก็เป็นการตั้งความหวังไว้มากจนเกินไป หรือถ้าหากว่าปฏิบัติธรรมจนกลายเป็นพระอริยเจ้าไปเลย ก็เป็นการตั้งความหวังที่สูงจนเกินเอื้อม เรื่องทั้งหลายเหล่านี้อาจจะต้องมีการนำเข้าที่ประชุม ซึ่งคณะกรรมการดำเนินงานหน (กลาง) นั้น นัดประชุมในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะออกตรวจประเมินในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าปรารภแล้วก็ต้องตามแต่ท่านประธานฯ จะเห็นสมควรว่า ในการตรวจประเมิน ซึ่งผู้บังคับบัญชาใหญ่ก็คือพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ท่านได้มีมติให้นำเอางานหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เข้าไปในสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดทุกแห่ง กระผม/อาตมภาพได้ประท้วงไปตั้งแต่แรกแล้วว่า สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนั้นเขาเริ่มกันที่ศีล ๘ ถ้าหากว่าให้ลดลงไปเหลือแค่ศีล ๕ ก็จะอย่างไรอยู่ ? จึงทำให้พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จหนกลางนั้น เปลี่ยนแนวคิดว่า ให้หากลุ่มบุคคลรักษาศีล ๕ ในหมู่บ้านนั้น ๆ เข้ามาปฏิบัติธรรมเป็นประจำ อยู่ในลักษณะของการทำจนเป็นชีวิตประจำวัน เมื่อถึงเวลาก็นำกลุ่มบุคคลนี้มาเป็นตัวอย่างในการรักษาศีล ๕ ของหมู่บ้าน ก็คือเวลาเข้าปฏิบัติธรรมในวัดก็รักษาศีล ๘ เมื่อกลับเข้าสู่บ้านเรือน ก็รักษาศีล ๕ จะทำให้โครงการนี้สามารถดำเนินต่อไปได้ แต่ในเมื่อสิ่งที่กระผม/อาตมภาพประเมินนั้นอยู่ในคนละระดับกัน ถ้าจะวัดกันตามเกณฑ์จริง ๆ ก็ไม่น่าจะผ่าน จึงต้องเอาแค่ในเกณฑ์ว่า ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับเบญจศีลและเบญจธรรม ก็จะประเมินให้ในฐานะที่ว่า ได้กระทำในส่วนของการปฏิบัติธรรมแล้ว สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2023 เมื่อ 19:19 |
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|