|
เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#101
|
||||
|
||||
ถาม : คำว่ามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ: กรรมเหล่านั้นจะชักนำเราไป หาบุคคลที่มีกรรมเหมือน ๆ กัน หรือมีกรรมเนื่องกันมา ถาม: ถ้าเราไปอยู่สภาพแวดล้อมที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนแนวสุกขวิปัสสโก เราก็..? ตอบ : ปฏิบัติไป ถ้าปฏิบัติถึงจริง ๆ และตัวเองมีพื้นฐานเดิมมาจากอภิญญาหรือปฏิสัมภิทาญาณ ถึงเวลาก็จะปรากฏ ไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยน จะสุกขวิปัสสโกเราก็วิปัสสโกตามเขาไป พอกำลังถึง ของเดิมก็จะมา ถาม : ท่านให้ทิ้งนิมิต ทิ้งทุกอย่างด้วยซ้ำ ตอบ : ถ้ามั่นใจเราก็ว่าของเราไป ถึงเวลาท่านว่าอย่างไรก็เรื่องของท่าน ถาม : แล้วอย่างนั้นไม่เป็นการปรามาสท่านหรือครับ ? ตอบ : ทำในสิ่งที่ถูก จะเป็นการปรามาสได้อย่างไร ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2010 เมื่อ 16:26 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#102
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าเรื่องอาจารย์ยกทรง ให้ฟังว่า "มีเรื่องตลกก็คือ ประมาณปี ๒๕๒๓ อาจารย์ยกทรงมากราบหลวงพ่อครั้งแรกที่บ้านสายลม
หลวงพ่อก็ถามว่า "โยมชื่ออะไรจ๊ะ ?" "วีระครับ" พวกก็ฮากันตรึม เพราะชื่อตรงกับหลวงพ่อ หลวงพ่อถามต่ออีกว่า "แล้วแม่บ้านล่ะ ?" "แม่บ้านชื่อประภาศรีครับ" ยิ่งฮาเข้าไปใหญ่ ท่านบอกว่า "ไอ้นี่ขโมยทั้งผัวทั้งเมีย ชื่อแม่มันก็เอา ชื่อพ่อมันก็เอา มันเอาหมดเลย" ก่อนหน้านี้ตรงสยามพารากอน ยังไม่โดนเวนคืน อาจารย์ยกทรงเปิดร้านอยู่ตรงนั้น จริง ๆ อาจารย์ยกทรงชื่อ วีระ งามขำ แต่เขาเปิดร้านตัดยกทรง ชื่อร้านเงิน เงิน เงิน พูดง่าย ๆ ว่าขนาดจะไม่ได้มาตรฐานหรือเกินมาตรฐานอย่างไร ถ้าไปที่นั่นแล้วจะได้ขนาดที่พอเหมาะกับตนเอง อาจารย์ยกทรงก็มาปรารภว่า "ผมบวชมากว่ายี่สิบพรรษา ดันทะลึ่งสึกมาตัดยกทรงขาย" เพราะว่าแม่บ้านเขาเรียนเรื่องนี้มา สมัยก่อนคนที่มีอาชีพตัดเสื้อผ้า ถ้าหากยังไม่สามารถตัดยกทรงผู้หญิงได้ ก็เท่ากับว่าฝีมือยังไม่ถึง เพราะการตัดยกทรงนั้นยากที่สุด พอโดนเวนคืนเพื่อเอาที่ไปสร้างสยามพารากอน ท่านยกทรงของเราก็เลยไปอยู่วัดแทน แล้วก็ตายในวัด สมกับเป็นนักปฏิบัติ ด้วยความที่บวชมามาก เคยเป็นนักเทศน์มา ท่านสามารถที่จะถามหลวงพ่อแล้วใส่ลูกเล่นให้โยมเขาชอบฟังกันได้ แต่ท่านบอกว่า เลิกถามทีไรก็เหงื่อหยดทุกที ต้องเข้าไปกราบขอขมาหลวงพ่อทุกครั้ง เพราะเกรงว่าจะเป็นโทษแก่ตัวเอง แต่คนทั่ว ๆ ไปที่เขาไม่รู้ ว่าอาจารย์ยกทรงต้องไปกราบขอขมาหลวงพ่อทุกครั้ง ก็ไปตำหนิเข้าว่าท่านลามปาม คนรุ่นเก่า ๆ ก็ล่วงลับไปเรื่อย รุ่นลายครามนาน ๆ ก็โผล่มาที่นี่ที ไม่ใช่เขาไม่รู้จักมานะ แต่มาไม่ไหวแล้วต่างหาก..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-08-2015 เมื่อ 18:07 |
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#103
|
||||
|
||||
พระอาจารย์บอกว่า "ก่อนจะหยิบเงินใช้ก็ว่าคาถาเงินล้านจบหนึ่งก่อน จะทำบุญก็ว่าอีกจบหนึ่ง เจตนาที่ให้ทำแบบนั้น ก็เพื่อต้องการให้ทรงฌานในอารมณ์ของคาถาเงินล้าน ถ้าทำจนชิน ถึงเวลาต้องว่าคาถา...ถึงเวลาต้องว่าคาถา จิตจะเป็นฌานไปเอง ถ้าหากว่าทรงฌานได้ผลก็จะเกิดมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#104
|
||||
|
||||
ถาม : พระที่เข้าปริวาสอยู่ จะบรรลุมรรคผลได้หรือไม่ ?
ตอบ : ถ้ากำลังเข้าปริวาสอยู่ บรรลุไม่ได้ เพราะศีลไม่บริสุทธิ์ เขาถือว่ายังไม่ใช่พระด้วยซ้ำไป..! ต้องอยู่ปริวาสจนครบถ้วนตามเวลา แล้วคณะสงฆ์ ๒๐ รูป สวดคืนความเป็นพระให้ จึงถือว่ากลับมาเป็นพระอีกครั้งหนึ่ง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 11:45 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#105
|
||||
|
||||
พระอาจารย์สอนพี่คนหนึ่งว่า "ถ้าเราภาวนาและทรงฌานให้คล่อง จะไม่รู้สึกอยากกิน ถ้าอารมณ์ใจอยู่กับการภาวนา อยู่กับฌานสมาบัติ พวกอาการต่าง ๆ ทางร่างกาย เราแทบไม่รับรู้เลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:12 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#106
|
||||
|
||||
พระอาจารย์บอกว่า "เรื่องการจองวัตถุมงคล ถ้าเราส่งถึงมือเขาเร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่คนจ่ายเงินไปแล้ว ก็ร้อนใจ อยากได้เร็ว ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:13 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#107
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าเรื่อง ธรรมบาลกุมารให้ฟังว่า "ธรรมบาลกุมารไปเรียนวิชาแล้วเก่งกว่าใครเพื่อน สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง ท้าวกบิลพรหมก็เลยอยากประกาศความดี โดยไปท้าพนันว่า ถ้าหากธรรมบาลกุมารตอบคำถาม ๓ ข้อได้ ก็จะยอมตัดเศียรถวายบูชาความดี แต่ถ้าธรรมบาลกุมารตอบไม่ได้ ก็จะเอาศีรษะธรรมบาล
สรุปว่า ธรรมบาลกุมารตอบไม่ได้ ก็เลยหนี ตั้งใจว่าไปตายในป่าดีกว่า ขณะที่ธรรมบาลกุมารนอนอยู่ใต้ต้นตาล นกอินทรีสองผัวเมียก็คุยกัน และธรรมบาลกุมารก็รู้ภาษานก นกตัวเมียถามนกตัวผู้ว่า "พรุ่งนี้พี่จะไปหากินทางทิศใด ?" นกตัวผู้ก็ตอบว่า "ไปไม่ไกลหรอก พรุ่งนี้เขาจะประหารธรรมบาลกุมาร เราก็จะได้กินกัน" นกตัวเมียเลยสงสัยว่ามีเรื่องอะไร นกตัวผู้จึงบอกว่า "ท้าวกบิลพรหมท้าพนันธรรมบาลกุมารให้ตอบคำถามว่า ตอนเช้าสิริอยู่ที่ไหน กลางวันสิริอยู่ที่ไหน ตอนค่ำสิริอยู่ที่ไหน ถ้าหากภายใน ๗ วัน ธรรมบาลกุมารตอบไม่ได้ ก็จะต้องตาย" นกตัวเมียเลยถามว่า "แล้วพี่รู้ไหม ?" นกตัวผู้ก็บอกว่ารู้ พร้อมกับเฉลยว่า "ตอนเช้าสิริอยู่ที่ใบหน้า คนเราตื่นมาก็เลยต้องล้างหน้า ตอนกลางวันสิริอยู่ที่หน้าอก ก็เลยต้องอาบน้ำและใช้ของหอมประพรมอก ตอนค่ำสิริอยู่ที่เท้า ก่อนนอนก็ต้องล้างเท้า" เรื่องนี้แหละที่เป็นศัพท์ของคำว่า "นกรู้" เพราะคนไม่รู้แต่นกรู้ ก็เลยสรุปว่า นกอดกินเพราะนกดันรู้ แต่นกไม่รู้ว่าธรรมบาลกุมารนอนอยู่ใต้ต้นไม้ วันต่อมา ธรรมบาลกุมารก็เลยตอบคำถามของท้าวกบิลพรหมได้ ท้าวกบิลพรหมจึงตัดเศียรให้ แต่ท่านไม่ตายเพราะเป็นพรหม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:14 |
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#108
|
||||
|
||||
"พอระยะหลังคติพราหมณ์เข้ามาปนเยอะ ก็เลยกลายเป็นว่าท้าวกบิลพรหมมีธิดาอยู่ ๗ องค์ ซึ่งจริง ๆ แล้วพรหมท่านอยู่คนเดียว จะมีลูกได้อย่างไร ?
นอกจากนั้น ยังมีตำนานว่าเศียรของท้าวกบิลพรหม ถ้าตกลงสู่พื้นดินจะเกิดไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก ถ้าตกลงสู่มหาสมุทรน้ำก็จะเหือดแห้งหมด ถ้าโยนขึ้นไปในอากาศฝนฟ้าก็จะแล้ง ก็เลยต้องให้ธิดาเอาพานมารองรับ และไปแห่รอบเขาพระสุเมรุ ๑ รอบจักรราศี ก็คือ ๑ รอบที่ดวงอาทิตย์โคจรครบ ซึ่งวันที่ครบก็เป็นวันที่พระอาทิตย์เข้าสู่ราศีเมษพอดี คนไทยสมัยโบราณจึงกำหนดให้เป็นวันสงกรานต์"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:15 |
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#109
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "จะว่าไปแล้วศาสนาพราหมณ์ฮินดูเข้ามาในประเทศไทยก่อนศาสนาพุทธเสียอีก ในสมัยแรก ๆ คนไทยเรานับถือผีเป็นปกติ พอพราหมณ์เข้ามาก็ถือพราหมณ์ พอพุทธเข้ามาก็ถือพุทธ ศาสนาพราหมณ์ก็คิดว่าคนไทยน่าจะเหมือนคนอินเดีย ก็คือ ถ้าเข้าถึงกษัตริย์หรือผู้ปกครองได้ ก็แปลว่าทั้งหมดจะต้องถือศาสนาพราหมณ์ด้วย..แต่ไม่ใช่
ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ ศาสนาพราหมณ์เข้าหาราชสำนักมาตลอด แต่มีศาสนิกอยู่แค่หยิบมือเดียว เพราะว่าศาสนาพราหมณ์ก็รักสงบเหมือนพุทธของเรา ไม่ได้ใช้อำนาจบีบบังคับให้คนมานับถือ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:15 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#110
|
||||
|
||||
ถาม : เราจะพิจารณาได้อย่างไร ว่าสิ่งที่เราคิดเป็นการคิดที่ละเอียดขึ้น หรือว่าเป็นการคิดมากในทำนองที่ว่า เรื่องที่ไม่น่าลงนรกก็หาเรื่องลงนรกเอง
ตอบ : ดูว่าอะไรที่ทำให้ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ สงบลง ก็เป็นการใช้ปัญญาคิด อะไรที่ทำให้ราคะ โลภะ โทสะ โมหะเจริญขึ้น ก็หาเรื่องลงนรก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:16 |
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#111
|
||||
|
||||
ถาม : การใช้ทรายเสกหว่านรอบบ้าน ในกรณีที่บ้านเป็นบ้านแฝด คือมีผนังด้านหนึ่งติดกับบ้านข้าง ๆ เราจะหว่านทรายเสกอย่างไรครับ ?
ตอบ : วงในบ้านเลย ถาม : ทั้งสองชั้นเลยหรือเปล่า ? ตอบ : จริง ๆ ใช้ชั้นเดียวก็ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#112
|
||||
|
||||
ถาม : การที่เรากระตุ้นให้เด็กอายุประมาณ ๘ - ๙ ขวบ ค่อย ๆ ลำดับชีวิตประจำวันของตัวเอง ตั้งแต่เช้าว่าเขาทำอะไร จะช่วยเขาฝึกในเรื่องทิพพจักขุญาณหรือเปล่า ?
ตอบ : อันนี้เป็นการฝึกอตีตังสญาณ ถ้าหากคล่อง ๆ แล้ว ก็ย้อนไปเมื่อวาน..เมื่อวานซืน..สามวันที่แล้ว..ห้าวันที่แล้ว..อาทิตย์ที่แล้ว...เดือนที่แล้ว...ปีที่แล้ว..ท้ายสุดจะเป็นชาติที่แล้ว จะต้องซ้อมบ่อย ๆ ถึงจะคล่องตัว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:39 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#113
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าคนแต่งหนังสือเขาเขียนเรื่องที่เกี่ยวกับฤทธิ์อภิญญาได้ แสดงว่าเขาสามารถทำอภิญญาได้หรือเปล่า ?
ตอบ : ถ้าหากพื้นฐานเดิมเขาไม่มี ก็อธิบายรายละเอียดไม่ได้ จะได้แต่เปลือกเท่านั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-08-2015 เมื่อ 18:09 |
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#114
|
||||
|
||||
ถาม : การนึกถึงพ่อแม่จัดเป็นเทวตานุสติหรือไม่ ?
ตอบ : ไม่เป็น ยกเว้นว่าพ่อแม่ของคุณตายไป แล้วเป็นพรหมเทวดาอยู่ข้างบน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 19:54 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#115
|
||||
|
||||
ถาม : ทำบุญแล้วกลัวอดน้ำ ก็เลยต้องถวายน้ำมาด้วย
ตอบ : ถามว่าดีไหม..ก็ดี ถ้าคิดจะไปกิน ปกติแล้วพรหม เทวดา นางฟ้า เขาอยู่ด้วยความเป็นทิพย์ ไม่ต้องกินอาหาร แต่คราวนี้มีอยู่เขตหนึ่ง ชายขอบของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช เป็นเขตที่จะลงไปตำหนักพระยายมราช ในบริเวณนั้นบรรดาท่านทั้งหลายที่ยังละอุปาทานความเป็นมนุษย์ไม่ได้ ก็จะไปอยู่แถวนั้น จะต้องมีบ้านอยู่ มีน้ำกิน มีอาหาร ระยะหลังมีเจเจพลาซ่าอยู่ด้วย ไปช็อปปิ้งกันระเบิดเถิดเทิง ไปซื้อข้าวของเหมือนกับโลกมนุษย์ แต่พออยู่ไปประมาณ ๗ - ๘ วัน ท่านที่สร้างบุญเอาไว้ดี ก็จะรู้ตัวว่าเราไม่ใช่มนุษย์แล้ว มีความเป็นทิพย์ เป็นพรหมเทวดา ไม่ต้องไปกินไปใช้อย่างนั้นแล้ว ก็จะตรงไปยังวิมานของตนเองและไปเสวยความเป็นทิพย์ จึงได้บอกว่า ถ้าคิดว่าจะกินน้ำก็ถวายมา ถ้าไม่คิดว่าจะกิน ตรงไปเลย ไม่ต้องถวายก็ได้ แต่ว่าป้องกันไว้ก่อนดีกว่า เผื่ออยู่ตรงนั้นนานไปหน่อยจะได้มีกิน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 19:55 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#116
|
||||
|
||||
เก็บตกเดือนนี้จบแล้วค่ะ ขอทิ้งท้ายเดือนนี้ด้วยเรื่องฮา ๆ
ถาม : เอารูปท่านแม่มาให้หลวงพี่อธิษฐานจิตให้ ตอบ : เดี๋ยวจะยันให้หงายท้องลงไปตรงนั้นแหละ..! เข้าเสาร์ห้ามาแล้วจะยังเอามาให้อธิษฐานอีก ----------------------------------- ถาม : ช่วยอวยพรวันเกิดหน่อยสิครับ ตอบ : Happy Birthday to you..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-10-2016 เมื่อ 16:26 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) | |
|
|