กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-05-2024, 19:52
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,639
ได้ให้อนุโมทนา: 216,864
ได้รับอนุโมทนา 747,357 ครั้ง ใน 36,404 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-05-2024, 22:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,684 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ความจริงงานสำคัญก็คือ ทำหน้าที่คณะกรรมการอำนวยการ ในการฝึกอบรมเจ้าอาวาสผู้ได้รับแต่งตั้งใหม่ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ รุ่นที่ ๓/๒๕๖๗ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่สนุกและได้ความรู้มาก แต่ว่าหลายท่านก็เบื่อ เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่แล้ววิทยากรก็ซ้ำหน้ากัน เนื้อหาที่พูดก็มักจะซ้ำกัน คำว่าซ้ำในที่นี้ก็คือซ้ำกับปีก่อน ๆ โน้น แต่ท่านทั้งหลายต้องยึดหลักในการฟังเทศน์ที่ว่าได้ทบทวนของเก่า ได้ฟังเรื่องเล่าใหม่ ได้บรรเทาความสงสัย ได้ปรับความคิดให้ตรง ได้ทรงจิตให้ผ่องใสเยือกเย็น เป็นต้น

โดยเฉพาะวันนี้หลวงปู่ป่วน - พระครูธรรมสารรักษา (ป่วน ณฏฺฐโสภโณ) เจ้าอาวาสวัดบรรหารแจ่มใส รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระวิทยากร อีกไม่นานคาดว่าท่านจะได้เป็นพระราชาคณะ..!

หลวงปู่ป่วนเป็นศิษย์หลวงปู่มุ่ย วัดดอนไร่ ดังนั้น..ในมุมหนึ่งของท่านก็คือพระเกจิอาจารย์มีชื่อของจังหวัดสุพรรณบุรี จึงทำให้การปลุกเสกวัตถุมงคล มักจะได้เจอหน้าเจอตากันบ่อย แล้วท่านก็เป็นคนที่จำคนแม่นมาก เจอหน้าครั้งแรก กระผม/อาตมภาพไม่ได้ใส่หน้ากาก พอเจอครั้งที่สอง ใส่หน้ากากมา ท่านยังจำได้และทักถูกอีกด้วย

หลวงปู่ป่วนท่านเปิดการบรรยายด้วยการขอบคุณเจ้าอาวาสใหม่ทุกรูป ที่ยอมเสียสละมาตกนรกด้วยกัน..! ท่านว่าโบราณมีคำพูดว่า "อยากเป็นเปรตให้เป็นทายก อยากตกนรกให้เป็นสมภาร" แต่ว่าความจริงแล้ว ถ้าเราท่านเป็นนักปฏิบัติธรรมที่แท้จริง การมีหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะสิ่งหนึ่งประการใดก็ตาม เท่ากับเป็นการขัดเกลา ฝึกฝนตนเอง ต่ออารมณ์กระทบที่เป็นของจริง

เราจะไปนั่งกรรมฐานเงียบ ๆ อยู่ในกุฏิ หรือว่าอยู่ในป่า แล้วก็เห็นว่าตัวเองจิตใจสงบเรียบร้อย รัก โลภ โกรธ หลง ไม่เกิด โปรดอย่าเชื่อเป็นอันขาด เนื่องเพราะว่าพอกระทบเข้าแล้ว เราจะรู้ทันที โดยปกติแล้วกิเลสเรา
ถ้าโดนกำลังสมาธิกดเอาไว้จะนอนนิ่งอยู่ เหมือนกับน้ำที่ตกตะกอน ดูแล้วใสสะอาด แต่ถ้าโดนกวนเมื่อไร ตะกอนก็จะขุ่นขึ้นมาทันที..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-05-2024 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-05-2024, 23:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,684 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะบรรดาเจ้าอาวาสใหม่ ส่วนใหญ่พอเป็นเจ้าอาวาสแล้ว พฤติกรรมมักจะเปลี่ยนไป คำว่า "เปลี่ยนไป" ในที่นี้ก็คือสำคัญตนว่าใหญ่ กระผม/อาตมภาพเองเจอโยมบางท่านที่รู้จักสนิทสนมกัน มาทักทายตอนบิณฑบาตว่า "หลวงพ่อ..เป็นใหญ่เป็นโตขนาดนี้แล้ว ยังบิณฑบาตเองอีกหรือ ? วัดโน้นเพิ่งจะเป็นเจ้าอาวาส ก็ให้เณรบิณฑบาตให้ฉันแล้ว..!" กระผม/อาตมภาพบอกว่า "องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบิณฑบาตจนวันสุดท้ายของชีวิต ในเมื่อพ่อใหญ่มีปฏิปทาอย่างไร เราที่เป็นลูก หลาน เหลน ก็ควรที่จะมีปฏิปทาอย่างนั้น"

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า ถ้าไม่ใช่งานด่วนจนต้องรีบออกจากวัด ถ้าอยู่วัด กระผม/อาตมภาพจะบิณฑบาตทุกครั้ง
จะไม่ยอมขี้เกียจให้กิเลสมีอำนาจเหนือตนอย่างเด็ดขาด เนื่องเพราะว่าเข็ด แล้วก็เจ็บปวดกับการที่โดนกิเลสหลอก จนกำลังใจตก กว่าจะเอาคืนได้ บางทีก็หลายเดือน อย่างที่เคยปรารภว่า ภาวนาแล้วกำลังใจทรงตัว รู้สึกเหมือนจะเหาะจะบินได้ กำลังใจเหมือนนางฟ้า เหมือนเทวดา เผลอหน่อยเดียว ตกลงมาเป็นหมาเสียแล้ว..!

ดังนั้น..ในเรื่องที่โบราณาจารย์ท่านวางรูปแบบเอาไว้ คือวางแบบให้เราขัดเกลาตัวเอง บางท่านก็ใช้คำว่า "มีบาตรไม่โปรด มีโบสถ์ไม่ลง มีอาบัติไม่ปลง แล้วจะเป็นสงฆ์ได้อย่างไร ?"

โดยเฉพาะญาติโยมทั้งหลายอยากใส่บาตรพระที่หน้าบ้านตัวเอง ไม่ได้อยากใส่บาตรพระที่วัด..! กระผม/อาตมภาพยังคิดว่า การที่เราทำบุญทุกวันพระในช่วงเข้าพรรษา น่าจะขยายเป็นทำบุญทุกวันพระทั้งปี ต่อให้ไม่มีใคร เราก็ทำกันเอง ถือว่าหยุดกินฟรีสักวันหนึ่ง..! น่าจะเป็นการผ่อนคลายวัตรปฏิบัติได้ด้วย ถ้าญาติโยมเห็นไม่พระไปในวันพระบ่อย ๆ เดี๋ยวเขาก็มาใส่บาตรที่วัดเอง

คำว่ามีโบสถ์ไม่ลง ก็คือไม่ลงสวดมนต์ทำวัตรอย่างหนึ่ง ไม่ลงพระปาฏิโมกข์อีกอย่างหนึ่ง การสวดมนต์ไหว้พระ ความจริงแล้วเป็นการสร้างสมาธิที่ดีมาก หลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม - พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านบอกว่า "จะให้ข้าไปนั่งกรรมฐานเป็นวันเป็นคืนอย่างเอ็ง ข้าทำไม่ได้หรอก แต่ถ้าเรื่องสวดมนต์นี่ ท้าแข่งกันได้เลย..!"

ท่านเองไม่ถนัดในการไปนั่งนิ่ง ๆ แต่ท่านสามารถนั่งสวดมนต์ได้เป็นชั่วโมง ๆ แล้วตลอด ๔ วันที่ผ่านมา ท่านก็นำทำวัตรเช้าทุกวัน บรรดาเจ้าอาวาสใหม่เสียอีก ที่มาช้าบ้าง ขาดบ้าง พอโดนเช็คชื่อ ทำท่าว่าจะไม่ให้ผ่านการอบรม ก็เริ่มมีการงอแง อ้างว่าป่วยบ้าง อ้างว่าไม่มีเสียงระฆังปลุกเหมือนที่วัดบ้าง แล้วแต่คนมันจะอ้าง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2024 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-05-2024, 23:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,684 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่าลืมว่าตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ใช่เจ้าของวัด วัดเป็นวัดในพระพุทธศาสนา เป็นศาสนสมบัติ เจ้าอาวาสเป็นเพียงตัวแทนวัด มีหน้าที่ในการสอดส่อง ดูแล ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ภายในวัด ให้ปฏิบัติตามศีลธรรม กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ระเบียบ มติ คำสั่ง หรือประกาศของมหาเถรสมาคม มีหน้าที่ช่วยดูแลเสนาสนะ ให้สะอาด สว่าง สงบ มีหน้าที่อำนวยความสะดวกในการบำเพ็ญกุศลให้แก่ญาติโยมตามอัตภาพ หลายท่านไปหลงเข้าใจผิดว่าเป็นเจ้าอาวาสคือเป็นเจ้าของวัด..!

แล้วที่แน่ ๆ ก็คือกระผม/อาตมภาพเชื่อว่า วันแรกที่ทุกคนตั้งใจบวช ไม่มีใครตั้งใจบวชมาเพื่อเป็นเจ้าอาวาส..! ต้องบอกว่าถึงเวลา "จับพลัดจับผลู" ในบริเวณนั้นเขาขาดพระที่อาวุโสพออย่างหนึ่ง ปฏิปทาของเราเป็นที่พอใจของญาติโยมส่วนใหญ่อย่างหนึ่ง ก็ทำให้โดนจับยัดกลายเป็นเจ้าอาวาสไป
โดยเฉพาะพระนักปฏิบัติ ถ้าหากว่าชอบความเงียบ ชอบความสงบ พอมาเป็นเจ้าอาวาส ถ้าปรับตัวใช้งานเป็นกรรมฐานไม่ได้ จะทุกข์แล้วก็เครียดมาก เนื่องเพราะว่าภาระทุกอย่างตกอยู่บนบ่าเจ้าอาวาส

อย่างของวัดท่าขนุนของเรา กระผม/อาตมภาพมอบเงินเดือน ๕,๐๐๐ บาทให้แม่ชีชื่น (อุบาสิกาชื่น ศรีสองแคว) ไว้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ปรากฏว่าปัจจุบันนี้ค่าไฟอยู่ที่เดือนละ ๕๐,๐๐๐ บาทโดยประมาณ..! แล้วคิดว่า ๕,๐๐๐ บาท พอยาขี้ฟันไหม ? ถ้าไม่มีตู้จำหน่ายวัตถุมงคล ไม่มีตู้สังฆทาน รับประกันว่าไปไม่รอด อย่างวันนี้แม่ชีก็มาเบิก ๔๐,๐๐๐ บาท เพราะว่าส่วนอื่น พอที่จะเปิดตู้แล้วสมทบเข้าไปได้ พวกท่านลองคิดดูว่า แค่ค่าไฟอย่างเดียว ถ้าท่านเป็นเจ้าอาวาสแบกไหวไหม ? ไม่ใช่ถึงเวลาก็เปิดพัดลมกันทั้งวันทั้งคืน..!

คำว่า เจ้าอาวาส สมัยก่อนเขาเรียกว่าสมภาร เสมอด้วยภาระ ก็คืองานทุกอย่าง ตกลงบนบ่าสมภารทั้งหมด ไม่ว่าจะเทศน์ จะสั่งจะสอนอะไร ก็ลงตรงนั้นหมด แล้วถ้าสมภารอาวุโสน้อย บรรดาทายก หรือกรรมการวัด แม้กระทั่งชาวบ้านก็ไม่เกรงใจ ใครไม่ได้เป็นสมภาร ไม่รู้หรอกว่าภาระหนักแค่ไหน
การบริหารวัดให้ดี ถ้า "อยู่อาศัยวัด" ไปวัน ๆ ก็แล้วไป แต่ถ้า "อยู่แล้ววัดได้อาศัย" นี่ลำบาก ประมาณว่าต้องตื่นก่อน นอนทีหลัง เป็นผู้นำในทุกเรื่อง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2024 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-05-2024, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,684 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะว่าพระเณรสมัยนี้ข้อเรียกร้องสูงมาก ให้สวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน กูก็งอแงไม่อยากจะทำ อ้างว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาสยังไม่ลงเลย แต่วัดที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสลงมานั่งหัวโด่ตั้งแต่ตี ๓ กว่า ๆ ก็ไม่ลงเหมือนกัน สรุปว่าเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ถ้ากระทั่งความดีที่จะทำใส่ตัวยังขี้เกียจ โอกาสที่จะเอาดีได้ก็น้อยมาก

ดังนั้น..กระผม/อาตมภาพจึงเป็นห่วงบรรดาเจ้าอาวาสใหม่ ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า เฉพาะแค่ ๔ จังหวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ก็คือกาญจนบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี ปีนี้อบรมเจ้าอาวาส ๓ รุ่น รุ่นที่ ๓ นี้ ๘๑ รูป แล้วเจ้าอาวาสเก่าไปไหน ? ตาย สึก ลาออก มีกันอยู่แค่นี้ หรือถ้าประเภทต้องคดี หนีเตลิดเปิดเปิงอะไรนั่นก็ว่ากันไปอีกอย่างหนึ่ง

ดังนั้น..เราจะเห็นว่าเจ้าอาวาสนั้นหายากขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะว่าตามระเบียบกำหนดไว้ว่า ต้องพรรษาพ้น ๕ ก็คือต้องย่างเข้าปีที่ ๖ กระผม/อาตมภาพเคยตั้งรักษาการเจ้าอาวาสตั้งแต่พรรษา ๒ จนกระทั่งพ้น ๕ ถึงจะตั้งเป็นเจ้าอาวาสได้ เพราะว่าติดด้วยระเบียบตรงนี้

คราวนี้ถ้าหากว่าบ้านเราเมืองเรายังนิยมการบวชแค่ ๓ วัน ๗ วัน ต่อไปคงจะหาเจ้าอาวาสไม่ได้ เพราะคุณสมบัติไม่ครบ ดีไม่ดี ก่อนที่กระผม/อาตมภาพจะมรณภาพ อาจจะได้เห็นว่า
ประเทศไทยมีวัด แต่หาเจ้าอาวาสไม่ได้ นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคต เพียงแต่ปรารภให้เราท่านทั้งหลายได้ฟังเอาไว้ว่าเรื่องบางอย่าง เราไม่ได้ตั้งความหวังไว้ ภาระก็หล่นใส่บ่าลงมา

ดังนั้น..ถ้ามีโอกาส ต้องรีบขัดเกลาตนเอง ทั้งทางโลกและทางธรรม ให้มีความรู้ความสามารถให้มากที่สุด ถึงเวลาแบกรับภาระ จะได้ไม่รู้สึกว่าหนักมากนัก แต่ถ้าหากว่าไม่ขัดเกลาตัวเอง อยู่ ๆ ภาระตกลงมา โอกาสที่จะโดนภาระทับตายก็มีสูงมาก..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2024 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว