กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-09-2023, 20:01
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 421
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 21,847 ครั้ง ใน 902 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-09-2023, 22:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ ต้องบอกว่าพวกเราเหลือกันอยู่แค่นี้ ต้องระมัดระวังตัวกันอีกพักใหญ่ ๑๙ รูป/คนที่ติดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A นั้นไม่เท่าไร แต่ ๑๒ รูป/คนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ถ้าเผลอปล่อยให้เชื้อลงปอด อากาศแบบนี้มีสิทธิ์ที่จะเดี้ยงได้ง่าย ๆ..!

ต้องบอกว่าเผลอไผลหน่อยเดียว ก็ปล่อยให้ป้อมค่ายเมืองท่าขนุนแตกเสียแล้ว..! แต่เราต้องเข้าใจว่า ถ้าเป็นข้าศึกก็คงตีจนท้อแล้วเหมือนกัน ถ้าถือเป็นระลอกที่ ๑๐ ก็แปลว่าเราผ่านมาแล้ว ๙ ระลอกด้วยกัน เพียงแต่ว่าเมื่อถึงเวลา ต่อให้พวกเราไม่ประมาท แต่ท่านทั้งหลายที่ออกไปร่วมงานทางด้านนอกก็จะเห็นว่า ตอนนี้ใครใส่หน้ากากอนามัยก็กลายเป็นแปลกแยกจากสังคม บางคนก็ยังบอกว่าไปกลัวอะไรกันหนักหนา ก็เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา แล้วต้องเสียเวลารักษา สิ้นเปลืองทรัพยากร เพราะฉะนั้น..ถ้าไม่ป่วยได้จะดีที่สุด ถ้าถือว่าป้อมค่ายของเราแตก
แต่ผู้นำก็ยังไม่เป็นอะไรนะ..!

แบบเดียวกับประเทศพม่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชยกทัพไปตีหงสาวดี พม่าพาพระเจ้านันทบุเรงหนีไปตองอู ตามไปตีตองอู พาหนีไปอังวะ ตามไปตีอังวะ พาหนีไปเมืองแปร ในเรื่องของสมัยก่อนต่อให้ยึดบ้านยึดเมืองเขาได้ แต่ถ้าหากว่าผู้นำเขายังอยู่ ก็ถือว่ายังไม่ชนะ..!

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงได้แก้กลศึก ยกทัพไปครั้งหลัง เข้าทางด่านแม่ละเมา จังหวัดตาก กะว่าจะตีไล่จากเหนือลงใต้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ถ้าหากว่าตีจากเหนือลงใต้ ท้ายสุดก็ถอยไปติดทะเล มะริด ทวาย ตะนาวศรีแล้วก็ไม่มีที่ให้ไปต่อ ต้องบอกว่าดวงพม่ายังดีอยู่ เพราะว่าพระองค์ท่านไปสวรรคตที่เมืองหาง ในเขตรัฐฉานของไทยใหญ่

คราวนี้ในส่วนที่กล่าวถึงตรงนี้ก็เพื่อที่จะบอกพวกเราว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่ใช่ประสบความสำเร็จไปทุกเรื่อง ต่อให้เป็นสุดยอดนักปกครอง คนจีนเขายังบอกว่า "มีเรื่องในบ้านที่ยากจะสะสาง" ปกครองคนได้ทั้งประเทศ แต่ครอบครัวตัวเองดื้อรั้นขึ้นมา ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ดังนั้น..ถ้าหากว่าพวกเราโดนเชื้อไวรัสเล่นงานครั้งนี้ถือว่าแพ้ ท่านทั้งหลายก็จะได้เอาไว้เป็นบทเรียนว่า สิ่งที่เราพ่ายแพ้ บางทีไม่ใช่มีแค่เรื่องเดียว อาจจะมีสองครั้ง สามครั้ง หรืออีกต่อเนื่องกัน

ถ้าหากว่าจะดูช่วงที่ผ่านมา ในการแข่งวอลเล่ย์บอลหญิงเพื่อคัดตัวไปโอลิมปิก ทีมไทยเราแพ้สามนัดรวด โดยเฉพาะแพ้ให้กับเยอรมัน ๓ - ๐ ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะว่าทีมเยอรมันฝีมือไม่ได้ดีกว่าเราเท่าไร แล้วยังไปโดนดาบสองจากอเมริกา
ดาบสามจากอิตาลี แต่พอมาปะทะกับโปแลนด์เจ้าภาพ เรากลับทุบเจ้าภาพคาบ้านเลย..! แล้วหลังจากนั้นก็ "ของขึ้น" ชนะติด ๆ กันมาอีก ๓ นัด แม้จะไม่ผ่านการตัดตัวไปโอลิมปิก แต่ก็โกยคะแนนคืนมาได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

แล้วลองคิดดูว่า ถ้าหากว่าถอดใจเสียตั้งแต่แรก ก็จะเกิดอาการแบบเดียวกับทีมวอลเล่ย์บอลหญิงเกาหลีใต้ ที่แพ้รวดทั้ง ๖ นัด ถามว่าไทยเคยเป็นไหม ? เคยเป็น ใน VNL 2023 สนามที่สอง สนามที่สามที่ผ่านมา เราก็แพ้รวด ๗ นัด แต่ก็ไม่ได้ยอมแพ้ ยังกลับมาคว้าแชมป์เอเซีย แล้วก็กลับมาชนะในช่วงปลายของการตัดตัวเพื่อไปโอลิมปิก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2023 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-09-2023, 22:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก็เหมือนอย่างกับการปฏิบัติธรรม ไม่ใช่ว่าเราจะแพ้ตลอด แรก ๆ ของผู้ปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะผู้ใหม่ แพ้ตลอดกาล เหมือนอย่างกับเอามวยวัดไปชิงแชมป์โลก แต่ถ้าหากว่าตั้งใจสู้ ก็จะแพ้แบบประทับใจบ้าง ถือว่า "สู้จนยิบตา"

ความจริงไอ้ตัวนี้เราเรียกว่า "สู้จนเย็บตา" มาจากการที่ไก่ตีกัน หน้าแหกจนกระทั่งต้องใช้ด้ายเย็บ แต่ไป ๆ มา ๆ มันเปลี่ยนเป็น "สู้จนยิบตา" กระผม/อาตมภาพก็ยังสงสัยว่าเปลี่ยนไปตอนไหน ?

หลังจากนั้น ถ้าเพียรพยายามต่อไป เราก็จะมีชนะบ้าง ตอนชนะได้นี่ขอยืนยันว่าภูมิใจมาก ปลื้มมาก แต่อย่าเผลอ เผลอก็โดนน็อกร่วงอีก..! แล้วท้ายสุดก็จะแพ้ชนะก้ำกึ่งกัน ตอนนี้จะเป็นตอนที่สนุกที่สุดของนักปฏิบัติธรรมทุกท่าน เนื่องเพราะต้องมารอลุ้นกันว่าคะแนนนี้ใครจะได้

กระผม/อาตมภาพรับประกัน ใครทำมาถึงตรงนี้ จะเป็นหนังเป็นละคร สนุกแค่ไหน ไม่มีใครอยากดู ภายนอกจะทำอะไรไปก็ตาม ข้างในนี่ ระหว่างกิเลสกับกำลังใจของเรา ห้ำหั่นกันชนิดหัวไม่วางหางไม่เว้น ไม่มีกลางวัน ไม่มีกลางคืน ทุ่มกันอย่างชนิดตายเป็นตาย คะแนนนี้เราต้องได้

หลังจากนั้นก็จะเริ่มชนะมากกว่าแพ้ ถ้าอยู่ในลักษณะอย่างนี้ โปรดระวัง พอเราชนะมากกว่า อย่างเช่นว่าถ้ามา ๑๐ ครั้ง เราชนะไป ๙ ครั้ง โปรดระวังครั้งที่ ๑๐ เดี๋ยวจะออกอาการเหมือนกับนักเทนนิสเอเชี่ยนเกมส์ของเกาหลีใต้ อันดับขี่นักเทนนิสไทยอยู่อย่างชนิดเรียกว่าห่างจนสุดกู่ปลายตะโกน ระหว่างมือ ๑๑๒ ของโลก กับมือ ๖๐๐ กว่า แต่ดันแพ้นักเทนนิสไทย..!

ที่เตือนให้ระวัง เพราะว่าถ้าแพ้แล้ว อาจจะออกอาการแบบนักเทนนิสเกาหลีใต้ ก็คือรับไม่ได้
ชนะมาตลอด อยู่ ๆ มาแพ้ บางคนก็ขวัญเสีย หมดกำลังใจที่จะทำต่อ คิดมากจนซึมเศร้า ถ้าอยู่ใกล้ ๆ กระผม/อาตมภาพจะ "โบก" ให้..! ๑๐ ครั้ง ชนะไปตั้ง ๙ ครั้ง แล้วจะมาเสียใจอะไรกันหนักหนา

กระผม/อาตมภาพเคยเปรียบเทียบให้ฟังหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า ถ้าคนสองคนเดินมาพร้อมกัน หกล้มพร้อมกัน คนหนึ่งลุกได้ก็ไปต่อเลย อีกคนหนึ่งมัวแต่นั่งคร่ำครวญอยู่ตรงนั้น เพราะเสียดายว่าเดินมาตั้งไกล ไม่น่าพลาดล้ม ทั้งสองคนใครจะไปถึงปลายทางก่อนกัน ? ก็ต้องคนที่ล้มแล้วลุกเลย บางทีกระผม/อาตมภาพถึงได้กล่าวว่า การปฏิบัติธรรมเราก็ต้องหน้าด้านหน้าทน ก็คือแพ้แล้วก็สู้ใหม่ แพ้แล้วก็สู้ใหม่ ต้องมีสักวันที่เราชนะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2023 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 28-09-2023, 22:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จึงเป็นเรื่องที่เราเห็นแล้วต้องเป็นบทเรียนได้ว่า ต่อให้เราสามารถที่จะเอาตัวรอดจากเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ มา ๙ ระลอกแล้ว ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๖๒ สี่ปีผ่านไป มาพลาดเอาปลายปี ๒๕๖๖ อาจจะพลาดเพราะว่าคนอื่นไม่ระวัง หรืออาจจะพลาดเพราะเราประมาทเองก็ตาม นั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัว หากแต่เป็นบทเรียนที่เราต้องจดจำเอาไว้ว่า ประมาทเมื่อไร ก็จะเข้ากับบาลีที่ว่า ปมาโท มจฺจุโน ปทํ บุคคลผู้ประมาทย่อมเข้าสู่หนทางแห่งความตาย ตายสถานเดียว..!

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราจึงต้องระวังกันต่อไป เนื่องเพราะว่าตอนนี้ลำบากกว่าเดิมอีก บุคคลที่ติดเชื้อโดนแยกออกไปกักตัวหมดแล้ว คราวนี้เราติดจากใคร ? ถ้าหาไม่เจอก็ติดจากตัวเองก็แล้วกัน เพราะฉะนั้น..ในเรื่องของการตรวจ ATK ถ้าเป็นไปได้ก็ลองซ้ำดูสัก ๒ ครั้ง ๓ ครั้งเป็นอย่างน้อย ไม่ต้องเกรงใจ ตอนนี้ชาลิสาเภสัชของคุณชาลี - คุณอริษา ทองเรือง กำลังจะส่งกำลังสนับสนุนมา คาดว่าคงมาเป็นลัง..ใช้ไปเถอะ..!

เพียงแต่ว่าเวลาที่เราตรวจตัวเอง ถ้าใจไม่ถึงจริงก็มักจะประเภทไม่กล้าแหย่ลึก ต้องคนอื่นเขาจัดการให้ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า อสม.ของเราก็เรียบร้อยไปแล้ว ๒ ราย..! พูดง่าย ๆ ว่าติดยันหมอ จึงต้องเป็นเรื่องที่เราอย่าได้ประมาท รักษาตัวให้รอดไปได้สักอาทิตย์หนึ่ง ถ้าผ่านระลอกนี้ไปได้ ก็เป็นอันว่าจบเกมไปยาว ๆ เลย

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2023 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:06



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว