#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๖
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ หลังจากที่ภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ไปสรงน้ำ แต่งตัว ลงไปรับอาหารเช้าจากบรรดาแม่ครัวของวัดหนองโพ ซึ่งถวายมาเป็นข้าวต้มหมู และที่อัศจรรย์ก็คือรสชาติพอดีมาก ไม่ต้องเติมเครื่องปรุงอะไรเลย โดยเฉพาะ "ไข่ออนเซ็น" ที่ต้มมานั้น ก็เป็นไข่ลวกที่สุกพอดี เมื่อฉันเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็กลับขึ้นที่พัก ไปภาวนาพระคาถาเงินล้านอีก ๑๐๘ จบ ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องใช้เงินในการสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนอีกเป็นจำนวนมาก
ส่วนที่มีบางท่านถามว่า กระผม/อาตมภาพยุ่งมาก มีเวลาน้อย แล้วภาวนาพระคาถาเงินล้านถึง ๑๐๘ จบในรวดเดียว มีการเร่งภาวนาให้เร็วขึ้นหรือเปล่า ? ขอบอกว่าเป็นการภาวนาตามปกติ ด้วยความเร็วแบบเดียวกับที่ภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ แล้วบันทึกเสียงลงในยูทูบนั่นเอง เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเรารู้ว่าเวลาประมาณ ๒ ชั่วโมงนั้นจะพอดีแค่ไหน อย่างเช่นว่าเริ่มภาวนาเวลาตี ๓ ครึ่ง ก็จะไปเสร็จเอาใกล้ ๆ เวลาตี ๕ ครึ่ง หลังจากที่ฉันเช้าเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว เวลาประมาณ ๖ โมงครึ่ง เราภาวนาจบก็ใกล้จะ ๘ โมงครึ่ง เหล่านี้เป็นต้น จากนั้นก็เก็บข้าวของขึ้นรถ แล้วลงมาบอกลาท่านอาจารย์พระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ป.ธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม เพื่อขอตัวเดินทางไปยังวัดนาหนอง บ้านหนองขาม หมู่ที่ ๒ ตำบลดอนแร่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เพื่อที่จะไปร่วมเป็นกรรมการประเมินยกหมู่บ้านหนองขามขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ เมื่อไปถึง แค่เดินเข้าไปในบริเวณของสถานที่จัดงาน เสียงพิธีกรก็ประกาศถวายการต้อนรับพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน แถมยังมีการสรรเสริญใหญ่โตว่า กระผม/อาตมภาพทำงานอะไรไปบ้าง แต่เมื่อออกมาดูงานก็จำได้ว่าวัดนาหนองแห่งนี้แหละ คือคู่แข่งตัวฉกาจในการชิงรางวัล ๑๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรมครั้งก่อน ซึ่งทั้งวัดนาหนองและวัดท่าขนุนก็ "รับประทานแห้วทั้งคู่" เนื่องเพราะว่าเรายังไม่ดีพอนั่นเอง แต่ปรากฏว่าปีนี้ทางวัดนาหนองนั้นถอดใจไม่ส่งประกวดใหม่ ยกให้ทางวัดป่าท่ามะขาม ของอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งมี "ตลาดโอ๊ะป่อย" เข้าประกวดแทน ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้น "หน้าด้านหน้าทน" เนื่องเพราะว่าปีนี้เรามี "ตลาดริมแควเมืองท่าขนุน" เพิ่มขึ้นมาอีกแห่งหนึ่ง เชื่อมั่นว่า ถ้าเกี่ยวกับ ๑๐ สุดยอดชุมชนในการ "เที่ยวชุมชน ยลวิถี" เราน่าจะพอสู้เขาได้ ปรากฏว่าวันนี้ได้รับการประกาศผลว่า ชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนได้รับเลือกเป็น ๑๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรมในโครงการ "เที่ยวชุมชน ยลวิถี" จริง ๆ โดยเฉพาะทางด้านตลาดโอ๊ะป่อยก็ได้รับด้วย ไม่เสียทีที่เราไปดูงานจากที่นั่นมา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2023 เมื่อ 02:28 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
หลังจากนั้นก็เข้าไปในศาลา เพื่อที่จะฉันเพลร่วมกับบรรดาคณะกรรมการทั้งหลาย แต่กระผม/อาตมภาพกลับไปนั่งซุกอยู่กับพรรคพวก เนื่องเพราะว่าที่จังหวัดราชบุรีนี้มีเพื่อนฝูงหลายคน ทั้งที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ ทั้งที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนปริญญาเอก ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์ และเพื่อนสหธรรมิกด้วย
แล้วสิ่งที่ชอบใจก็คือ ที่นี่มีน้ำพริกมะขามผักต้ม มีต้มผักปลัง และมีต้มเปรอะหน่อไม้ใบย่านาง ต้องบอกว่าฉันเกินโควต้าไปเล็กน้อย เนื่องเพราะว่าเป็นอาหารที่ถูกปากมาก แล้วคณะกรรมการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ก็นัดกันเข้าไปยังอุโบสถของวัดนาหนอง เพื่อกราบพระประธานและเจริญพระพุทธมนต์ถวาย เมื่อถ่ายรูปหมู่เรียบร้อยแล้ว ทางด้านชุมชนบ้านหนองขามก็จัดให้บรรดาบุคคลในชุมชน ซึ่งแต่งชุดไท-ยวน หรือถ้าหากว่าออกเสียงให้ถูกต้องก็คือไตโยน ซึ่งหมายถึงไทยโยนก เรียงรายเป็นแถวยาวเพื่อต้อนรับ แล้วยังมีสุภาพบุรุษถือร่มขาวขนาดใหญ่ให้กรรมการแต่ละรูปแต่ละท่าน ส่งจนกระทั่งเข้าไปในศาลาประเมิน แถมยังมีการแสดงของบรรดาสาวไตโยนอีกต่างหาก ที่มาที่ไปของชุมชนบ้านหนองขามนี้นั้น ต้องย้อนหลังไปในปีพุทธศักราช ๒๓๔๗ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โปรดเกล้าให้กองทัพจากกรุงเทพฯ น่าน ลำปาง เชียงใหม่ และเวียงจันทน์ ช่วยกันยกไปขับไล่กองทหารพม่าออกจากเชียงใหม่และเชียงแสน หลังจากนั้นแล้วก็ให้ทำลายเมืองเชียงแสนทิ้ง พร้อมกับเคลื่อนย้ายชาวเชียงแสนทั้งหมด ให้กองทัพทั้ง ๕ แห่งนำไปอยู่ในแต่ละเมืองเมืองดังกล่าวข้างต้น ส่วนที่ติดตามกองทัพกรุงเทพมหานครมา ขณะที่ผ่านลุ่มแม่น้ำป่าสัก ซึ่งปัจจุบันอยู่บริเวณอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี มีชาวไตโยนกลุ่มหนึ่งขออนุญาตตั้งบ้านเรือนทำมาหากินอยู่ที่นั่น ส่วนที่เหลือก็เดินทางมาพำนักชั่วคราว อยู่ที่บริเวณบางขุนพรหม แล้วหลังจากนั้น ก็ได้รับโปรดเกล้าให้เคลื่อนย้ายมาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่ราชบุรี บริเวณริมฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง ห่างจากตัวเมืองราชบุรีไปทางตะวันออก เรียกว่าบ้านไร่นที หลังจากนั้นเมื่อมีครัวเรือนมากขึ้น จึงขยับขยายออกไปหลายแห่ง ทั้งในจังหวัดราชบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น โดยเฉพาะที่ตำบลดอนแร่แห่งนี้ มีหมู่บ้านหนองขามนี้เป็นหนึ่งในจำนวนหมู่บ้านไตโยน และมีวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เข้มแข็งมาก ก็คือนอกจากสามารถอนุรักษ์งานวัฒนธรรมต่าง ๆ ของตนเอง ตลอดจนภาษาพูด ภาษาเขียนได้แล้ว ยังมีงานด้านชุมชนคุณธรรม งานด้านหมู่บ้านช่อสะอาด งานด้านหมู่บ้านสีขาว งานด้านชุมชนยั่งยืน เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2023 เมื่อ 02:31 |
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
เมื่อเริ่มทำการประเมิน ปรากฏว่างานนี้กรรมการทั้ง ๕ ฝ่าย ต้องใช้ภาษาพี่น้องไทยอีสาน หรือภาษาลาวว่า "เมิ้ดคำสิเว่า" เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าอันดับแรกเลย เมื่อเริ่มจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย บรรดาเด็ก ๆ วงปี่พาทย์ก็ตีเพลงสาธุการรับ เด็กทั้งหลายเหล่านี้เรียนอยู่แค่ชั้นประถมปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านนาหนองเท่านั้น..!
เมื่อเริ่มเข้าพิธี ก็มีอุบาสกมานำอุบาสกอุบาสิกาทั้งหมดกราบขอขมาพระรัตนตรัย แล้วถึงอาราธนาศีล ๕ ส่วนการอาราธนาศีล ๕ นั้น นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นผู้อาราธนาศีลด้วยตนเอง หลังจากนั้นเมื่อพิธีกรรมพิธีการต่าง ๆ ผ่านพ้นไป นายสาโรจน์ มูลพวก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนแร่ ก็กล่าวรายงานปากเปล่า ก็คือไม่ต้องดูโพยใด ๆ ทั้งสิ้น สร้างความประทับใจให้แก่เหล่าคณะกรรมการเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพเอง เมื่อถึงคิวก็บอกว่าไม่มีคำถาม นอกจากว่าเรื่องทั้งหลายที่ได้กล่าวมาแล้ว เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี คือท่านเจ้าคุณอาจารย์ปราโมทย์ - พระปิฎกโกศล, ผศ.ดร. นั้น ก็เป็นอาจารย์สอนกระผม/อาตมภาพมาตั้งแต่ยังเป็นพระมหาปราโมทย์ ปโมทิโต ป.ธ.๙ หลวงพ่อเจ้าคุณทองย้อย - พระภาวนาวิหารกิจ วิ. ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ แล้วก็ยังมีพรรคพวกเพื่อนฝูงอีกมากต่อมากด้วยกัน อย่างเช่น พระครูวิสุทธานันทคุณ, ผศ.ดร. เจ้าคณะอำเภอโพธาราม นั่นก็เพื่อนร่วมรุ่นปริญญาเอก มองไปทางไหนก็พรรคพวกเพื่อนฝูงทั้งสิ้น แต่คะแนนที่ให้ไปนั้น ให้ไปด้วยความประทับใจในงานต่าง ๆ ของทางด้านชุมชนบ้านหนองขามแห่งนี้ เรียกง่าย ๆ ว่าได้ด้วยฝีมือจริง ๆ ไม่ใช่ได้ด้วยเส้นสาย โดยเฉพาะท่านพระครูวินัยธรอำนาจ อนุภทฺโท เจ้าอาวาสวัดนาหนอง ซึ่งกระผม/อาตมภาพเห็นเป็นคู่แข่งตัวฉกาจมาตั้งแต่ยังไม่ได้เห็นหน้า เมื่อมาเห็นหน้า เห็นงานของท่านแล้ว ถึงได้รู้ว่าท่านทำจริงจังขนาดไหน โดยเฉพาะต๋าหลาดไตโยน หรือว่าตลาดไท-ยวนของท่านนั้น ทำอยู่รอบสระน้ำ เป็นสิ่งก่อสร้างถาวร ให้บรรดาร้านค้าต่าง ๆ นำเอาสินค้าชุมชนมาจำหน่ายทุกวันหยุดเช่นกัน เป็นที่ประทับใจจนกระผม/อาตมภาพถึงขนาดออกปากว่า ต้องนำคณะกรรมการชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน มาดูงานที่นี่บ้าง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2023 เมื่อ 02:33 |
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
เมื่อไปยังศูนย์ทอผ้าพื้นเมืองไตโยนที่อยู่ภายในวัด เห็นการทอผ้าของเขาแล้ว ประทับใจมากตรงที่ว่า ผ้าซิ่นตีนจกของที่นี่มีการจกกลับหลังด้วย ทันทีที่กระผม/อาตมภาพเห็นว่าแม้จะเป็นการทอผ้าเพียงสองตะกอ แต่จกกลับหลังแบบนี้ ถือว่าสุดยอดฝีมือจนอุทานขึ้นมาด้วยความทึ่ง
ท่านเจ้าคุณอาจารย์ประสิทธิ์ - พระเทพปวรเมธี, รศ.ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี) ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง หันมาถามว่า "เป็นเพราะอะไร ?" ถึงได้บอกว่า "วิธีการแบบนี้ทำยากมากเลยครับ..ท่านเจ้าคุณอาจารย์" ทางด้านนายก อบต.สาโรจน์ก็เข้ามาอธิบายว่า "การจกที่นี่เป็นการจกกลับหลัง ถ้าอยากจะดูว่าลายหน้าตาเป็นอย่างไร ต้องใช้กระจกส่องถึงจะมองเห็น ขณะเดียวกันทำเสร็จแล้วถึงจะเห็นว่างดงามขนาดไหน" ดังนั้น..จึงไม่น่าแปลกใจว่าผ้าทอที่นี่ราคาต่ำสุด ๑,๐๐๐ บาท ก็คือเป็นผ้าทอที่ไม่มีลายจก ส่วนผ้าทอที่มีลายจก ผืนที่แพงที่สุดราคา ๔๕,๐๐๐ บาท..! กระผม/อาตมภาพควักกระเป๋าอุดหนุนไป ๓ ผืน ในส่วนที่ราคาค่อนข้างต่ำ ได้รับการลดราคาเป็นพิเศษ ยังบอกว่า ต่อไปจะขออนุญาตนำคณะฯ มาดูงานที่นี่ ทางด้านประธานโครงการทอผ้าพื้นเมืองของบ้านหนองขามรับปากว่า "ถ้ามาแล้วจะให้การต้อนรับเป็นพิเศษ" หลังจากนั้นแล้ว กระผม/อาตมภาพที่บอกว่าหมดตัวแล้ว กระเป๋าแห้ง ก็เลยขออนุญาตคณะกรรมการเดินทางกลับยังที่พักก่อน สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2023 เมื่อ 02:37 |
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|