#1
|
||||
|
||||
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันจันทร์ที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันจันทร์ที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ เชิญรับฟังได้ที่ https://youtu.be/4jpV4M37iTk ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย..อันดับแรกวิ่งเข้าหาลมหายใจก่อน ตั้งกำลังใจง่าย ๆ ว่า ถ้าลืมหายใจก็ตาย วันนี้เป็นการปฏิบัติธรรมวันสุดท้ายของพวกเรา เราลองนึกดูว่า ในชีวิตของเราที่ทำความชั่วมามากกว่าความดี ถ้าหากว่าต้องตายลงไปในวันนี้ เราไม่น่าจะรอดจากอบายภูมิได้ ก็มีวิธีเดียว คือ ก่อนตายวันนี้เราต้องกอบโกยคุณความดีไว้ให้มากที่สุด |
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
ความดีใหญ่ในพระพุทธศาสนา คือ..ทาน คือ..ศีล คือ..ภาวนา
ทาน ทำ ๑ ได้ 'หมื่น' ศีล ทำ ๑ ได้ 'ล้าน' ภาวนา ทำ ๑ ได้ 'ร้อยล้าน' ติดหนี้เขาไว้มาก ก็ต้องหาเงินมาใช้เขาให้มาก จึงต้องอาศัยการภาวนาเป็นไม้ตายสุดท้าย เพื่อให้เราสงบระงับ ทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งใจ เพราะว่าการให้ทานนั้นให้โดยร่างกายอย่างเดียวก็ได้ การรักษาศีลนั้นรักษาด้วยกายและวาจา แต่การภาวนานั้นเป็นการทำกาย วาจา ใจ ให้สงบระงับลง อานิสงส์จึงต่างกันเป็นร้อยเท่า หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 16-09-2022 เมื่อ 02:43 |
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
กำหนดความรู้สึกทั้งหมดแนบชิดติดกับลมหายใจ ไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ จะยาวจะสั้นแค่ไหนไม่มีปัญหา สำคัญตรงที่ลมหายใจเข้าออก จัดคำภาวนาให้ลงตัวกับลมหายใจเข้าออก โดยปล่อยให้ไหลเข้าไปกับลม ไหลออกมากับลม
ถ้าหากว่ากังวลในเรื่องของฐานกระทบ เราก็จับแค่ฐานเดียว อย่างเช่นว่า ที่ปลายจมูก หรือว่าที่สุดของลมหายใจที่ท้อง แค่นั้นก็พอแล้ว แต่ถ้าใจเราฟุ้งซ่านมาก ก็เพิ่มเป็นจมูก อก ท้อง ท้อง อก จมูก หรือถ้าหากว่าฟุ้งซ่านมากกว่านั้นอีกก็เพิ่มเป็น ๗ ฐาน ผู้หญิงหายใจเข้า..กำหนดช่องจมูกซ้าย ผู้ชายหายใจเข้า..กำหนดช่องจมูกขวาเป็นฐานที่ ๑ กึ่งกลางระหว่างดวงตาเป็นฐานที่ ๒ กึ่งกลางศีรษะเป็นฐานที่ ๓ กึ่งกลางลำคอเป็นฐานที่ ๔ ไล่ยาวลงไปเรื่อย ๆ จนไปถึงฐานที่ ๗ ประมาณอยู่กึ่งกลางลำตัว บริเวณสะดือ ลองนึกถึงกากบาทที่ห้อยอยู่กลางสะดือของเราก็ดี ตรงจุดนั้นคือฐานสุดท้ายของลมหายใจเข้าออก แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 16-09-2022 เมื่อ 02:43 |
#4
|
||||
|
||||
เมื่อรู้สึกว่าเราสามารถกำหนดลมหายใจและคำภาวนาได้มั่นคงแล้ว ก็นึกถึงภาพพระพุทธรูปที่เรารักเราชอบมากที่สุด
หายใจเข้า..ให้ภาพพระไหลตามลมเข้าไปในท้อง หายใจออก..ให้ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้อง หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ สำคัญตรงที่อย่าใช้สายตา เป็นการนึกถึง ส่วนภาพพระจะชัดเจนหรือไม่ชัดเจนไม่ใช่สาระ สาระสำคัญคือนึกถึงภาพพระได้หรือไม่ หายใจเข้า..มีภาพพระไหลตามลมลงไปในท้อง หายใจออก..ภาพพระไหลขึ้นไปบนศีรษะ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 16-09-2022 เมื่อ 02:44 |
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ไม่ต้องไปสนใจว่าหายใจทางไหน ต่อให้รู้สึกเหมือนกับว่าหายใจเข้าทางกระหม่อมก็ช่างมัน กำหนดแค่ลมหายใจเข้าพร้อมภาพพระไหลลงไปในท้อง ลมหายใจออกพร้อมภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ
อย่าเน้นความชัดเจน อย่าเน้นความสว่าง แค่รู้สึกว่ามีภาพพระอยู่ก็ใช้ได้แล้ว สิ่งอื่น ๆ ถ้าสมาธิทรงตัวมากขึ้น จะติดตามมาเอง ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดของพุทธลักษณะ หรือความสว่างไสวขององค์ท่าน ตอนนี้เอาแค่ว่าเรามีเวลาน้อยมาก อาจจะขาดใจตายลงไปเมื่อไรก็ไม่รู้ สิ่งที่เราต้องทำคือ กำหนดภาพพระพร้อมลมหายใจเข้า กำหนดภาพพระพร้อมลมหายใจออก คำภาวนาจะมีหรือไม่มีก็ได้ |
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
เมื่อรู้สึกว่าภาพพระและลมหายใจเริ่มมั่นคง..กำหนดได้ง่ายแล้ว ก็กำหนดให้ภาพพระนั้นนิ่งอยู่บนศีรษะของเรา
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ให้ความสว่างไสวชัดเจนนั้นครอบคลุมตัวเราลงมาด้วย หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น |
#7
|
||||
|
||||
จนรู้สึกว่าตัวเราและภาพพระสว่างไสวกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็กำหนดใจให้ความสว่างจากองค์พระแผ่กว้างออกไปรอบด้าน จะไปในลักษณะทรงกลมที่ขยายใหญ่ขึ้น ๆ ก็ได้ จะลักษณะเป็นวงขยายออกไปรอบข้างแบบคลื่นน้ำก็ได้ หรือจะเป็นภาพพระขยายใหญ่ขึ้นไป ๆ ไปก็ได้
จนกระทั่งรู้สึกว่า..ตัวเราและภาพพระนั้นใหญ่โตเต็มจักรวาล สามารถกำหนดจิตครอบคลุมดวงดาวต่าง ๆ ได้ในพริบตาเดียว ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้นตกล่วงไปแล้วในวันหนึ่งคืนหนึ่ง ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงไปเสวยสุขในสุคติภพโดยถ้วนหน้ากันเถิด แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 27-12-2022 เมื่อ 18:07 |
#8
|
||||
|
||||
มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้นตกอยู่ในความทุกข์ยากเศร้าหมอง เดือดร้อนลำเค็ญ ทุกข์กายทุกข์ใจ เจ็บไข้ได้ป่วย พิกลพิการใด ๆ ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงได้ล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนั้นเถิด
มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีความสุขความเจริญดีอยู่แล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงมีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น พึงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่กันและกัน เสียสละให้ปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากยิ่งกว่าตนให้พ้นทุกข์ เพื่อยังโลกทั้งหลายไปสู่สันติสุขอันสมบูรณ์ด้วยเถิด แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 27-12-2022 เมื่อ 18:06 |
#9
|
||||
|
||||
เมื่อรู้สึกว่าภาพพระเลือนลางจืดจางไป ก็กลับมากำหนดภาพพระใหม่
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น ใครตามไม่ทันไม่เป็นไร เพราะว่านี่เป็นกรรมฐานระดับสูงมาก และเป็นการรวมกองกรรมฐาน ๔๐ ไว้ด้วยกัน ตามได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ยึดหลักที่ได้ไป ซักซ้อมบ่อย ๆ แล้วทุกอย่างจะค่อย ๆ มีความคล่องตัวชัดเจนมากขึ้น เมื่อภาพพระสว่างไสวนิ่งอยู่บนศีรษะของเราแล้ว ก็น้อมจิตน้อมใจกราบลงไปตรงนั้น ว่านั่นคือ..ภาพพุทธนิมิตแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสด็จมาโปรดเรา เราเห็นพระองค์ท่าน คือ..อยู่ใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน คือ..เราอยู่บนพระนิพพาน ให้ตั้งกำลังใจว่า..วันนี้ถ้าเราหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขออยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ตรงนี้แห่งเดียวเท่านั้น |
#10
|
||||
|
||||
แล้วกำหนดดูลมหายใจเข้าออกของเรา..
ถ้ายังมีลมหายใจเข้าออก ตามดูลมพร้อมกับภาพพระ ถ้าลมหายใจเบาลง กำหนดรู้ว่าลมหายใจเบาลง ถ้าลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไป ให้กำหนดรู้ว่าลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไป.. เอาจิตจดจ่ออยู่กับภาพพระนี้เท่านั้น สำหรับท่านที่ต้องการพิจารณาในวิปัสสนาญาณ ก็ยกเอาร่างกายของเราขึ้นมาเป็นตัวพิจารณา ดูว่าร่างกายของเราไม่เที่ยงอย่างไร เป็นทุกข์อย่างไร เป็นเพียงธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม ประกอบขึ้นชั่วคราวให้เราอาศัยอยู่เท่านั้น ถ้ารู้สึกว่าภาพพระหรือการกำหนดพิจารณาไม่ชัดเจน ก็กลับมาหาลมหายใจเข้าออกใหม่ เมื่อภาพพระสว่างไสวชัดเจนแล้วค่อยกำหนดพิจารณาต่อไป หรือใครจะถนัดในการรักษาภาพพระสว่างไสวนิ่งอยู่อย่างเดียวก็ได้ ให้กำหนดใจทำอย่างนี้ต่อไป จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา |
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#11
|
||||
|
||||
(สัญญาณบอกว่าหมดเวลา)
พุทโธ พุทโธ พุทโธ.. ได้ยินหนอ ได้ยินหนอ ได้ยินหนอ.. กำหนดใจให้นิ่งอยู่จุดใดจุดหนึ่งก่อน แล้วค่อยขยับเขยื้อนเคลื่อนกายนะจ๊ะ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันจันทร์ที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย) |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|