|
ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
|||
|
|||
การเพ่งหน้าจอกับการเพ่งกสิน
กราบนมัสการพระอาจารย์ที่เคารพอย่างสูง
ขอกราบเรียนคำถามต่อไปนี้ ๑. การเพ่งหน้าจอมือถือหรือคอมฯ ในการดูสื่ออินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลกับการเพ่งกสิณต่าง ๆ หรือจดจ่อดูลมหายใจนี่ ใช้กำลังใจคล้ายกันหรือเปล่า เพียงแต่เปลี่ยนจากด้านกิเลสมาปฏิบัติภาวนา ๒. การดูทีวี, สื่ออินเทอร์เน็ตต่าง ๆ ทางคอมฯ มือถือ จำพวก ละคร ข่าว เรื่องทางโลก ๆ โลกีย์ นอกเหนือจากธรรมะแล้ว จะเป็นการทำให้เราชินกับการส่งจิตออกข้างนอก พร้อมซึบซับกับสร้างเสริมอารมณ์กิเลสในจิตหรือไม่ ถ้าเราจำเป็นต้องเห็นหรือดู จะมีวิธีสังเกตสภาพจิตและป้องกันไม่ให้จิตใจไหลหลงไปตามสื่อเหล่านี้ ๓. หากเราเห็นกิเลสของตนและยอมรับผิดได้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงเพราะทำตามคำสอนครูบาอาจารย์เท่านั้น เป็นเพราะสภาพจิตเราละเอียดขึ้นใช่หรือไม่ ความรู้ลักษณะนี้จะส่งผลเสริมด้านดีถึงความสามารถของจิตทางด้านอื่น ๆ เช่น ทิพจักขุญาณหรือเปล่า กราบขอขมาและขอบพระคุณพระอาจารย์ค่ะ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทองหยด : 30-08-2018 เมื่อ 20:49 |
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทองหยด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
|||
|
|||
หมายเหตุ : คำถามนี้มาจาก การดูละคร ทั้งที่เป็นการแสดงไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ใช่พ่อแม่ญาติพี่น้อง แต่คนดูกลับมีความรู้สึกเกิดอารมณ์ไปตามการแสดงของตัวละคร เช่นหมั่นไส้ อยากตบตัวโกง เสียน้ำตาร้องไห้ไปกับฉากแสดงรันทดลำบาก เชียร์ให้นางเอกไปรักกับพระรองเป็นต้น
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทองหยด : 08-08-2018 เมื่อ 09:43 |
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทองหยด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ถาม : การเพ่งหน้าจอมือถือหรือคอมฯ ในการดูสื่ออินเทอร์เน็ตหรือโซเชียล กับการเพ่งกสิณต่าง ๆ หรือจดจ่อดูลมหายใจนั้น ใช้กำลังใจคล้ายกันหรือเปล่า ? เพียงแต่เปลี่ยนจากด้านกิเลสมาปฏิบัติภาวนาใช่หรือไม่คะ ?
ตอบ : ไม่ใช่ การที่คุณดูจอ คุณไม่ได้ตั้งใจจำ แต่การเพ่งภาพกสิณต้องตั้งใจจำ ไม่ใช่ตั้งใจจำเฉย ๆ ต้องควบกับลมหายใจและคำภาวนาด้วย ต่างกันลิบโลกเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ถาม : การดูทีวี, สื่ออินเทอร์เน็ตต่าง ๆ ทางคอมพิวเตอร์ มือถือ จำพวก ละคร ข่าว เรื่องทางโลก ๆ โลกีย์ นอกเหนือจากธรรมะแล้ว จะเป็นการทำให้เราชินกับการส่งจิตออกข้างนอก พร้อมซึมซับกับสร้างเสริมอารมณ์กิเลสในจิตหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าแค่นี้ไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ ก็จงทำต่อไป ถาม : ถ้าเราจำเป็นต้องเห็นหรือดู จะมีวิธีสังเกตสภาพจิตและป้องกันไม่ให้จิตใจหลงไปตามสื่อเหล่านี้ ? ตอบ : ตั้งสมาธิให้ทรงเป็นฌานไปเลย แล้วค่อยไปดู
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ถาม : หากเราเห็นกิเลสของตนและยอมรับผิดได้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงเพราะทำตามคำสอนครูบาอาจารย์เท่านั้น เป็นเพราะสภาพจิตเราละเอียดขึ้นใช่หรือไม่ ?
ตอบ : แปลว่าสติ สมาธิ ปัญญาสั่งสมไปถึงระดับแล้ว คราวนี้ก็เหลืออยู่อย่างเดียวว่า ทำอย่างไรที่จะตัดละให้ได้ ถาม : ความรู้ลักษณะนี้จะส่งผลเสริมด้านดีถึงความสามารถของจิตทางด้านอื่น ๆ เช่น ทิพจักขุญาณหรือเปล่า ? ตอบ : ถ้าสภาพจิตปราศจากกิเลส ทิพจักขุญาณจะผ่องใสเองโดยอัตโนมัติ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|