|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#21
|
||||
|
||||
ถาม : ที่หลวงพ่อเคยเล่าไว้ในเก็บตกตั้งแต่ ปี ๒๕๕๔ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สุดยอดเลยค่ะ ดูละครทำให้เข้าใจมากขึ้นค่ะ อยากทราบว่าสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ท่านเสียรู้ชาวต่างชาติจริง ๆ หรือคะ ? เพราะดูช่วงแรกท่านทรงพระปรีชาสามารถมาก
ตอบ : การหวังที่จะพึ่งพาต่างชาติในการสร้างความเจริญ บางอย่างก็ต้องยอมเขา ถ้าภาษากำลังภายในคือ คนอยู่ในยุทธจักรไม่เป็นตัวของตัวเอง ฉะนั้น...ถ้าพระองค์หวังประโยชน์จากทางด้านใด แม้ว่าเขาตอบสนองได้ บางส่วนของเราจะเสียหายก็ต้องยอม ลักษณะแบบนี้เป็นกำลังใจของนักปกครองที่แท้จริง เราจะเอาแต่ประโยชน์ส่วนเดียวไม่ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:35 |
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
ถาม : ที่พระอาจารย์กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า "หลายคนเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา สภาพจิตตื่นเต็มสภาพ ก็จะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างช้าลงไปหมด ไม่ได้ช้าอย่างเดียว เห็นอย่างชัดเจนมากด้วย เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่สามารถฝึกฝนกันได้ " อยากทราบว่ามีขั้นตอนและวิธีฝึกอย่างไรครับ เพื่อให้สภาพจิตตื่นเต็มสภาพและสามารถคิดสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วจนทุกอย่างช้าและชัดเจนเช่นนั้นครับ ?
ตอบ : อันดับแรก รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้คนอื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นละเมิดศีล อันดับที่สอง ทรงสมาธิให้ได้อย่างน้อยฌาน ๔ อันดับที่สามตัดสังโยชน์ ๑๐ ให้หมด รับประกันได้ว่าจิตจะตื่นเต็มสภาพในทุกเวลา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2018 เมื่อ 03:09 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
ถาม : ในเรื่องของอนิจจัง ดวงวิญญานหรือดวงจิตสามารถถูกทำลายให้หายไปเลยได้หรือเปล่าครับ และด้วยวิธีใดครับ ?
ตอบ : ถ้าสิ้นกรรมก็หายไป ถ้าไม่สิ้นกรรมก็ไม่สามารถหายไปได้ แปลว่ามีแต่ตนเองเท่านั้นที่จะทำลายได้ นอกนั้นทำลายได้แต่เพียงรูปขันธ์ หรือรูปในนามสำหรับกายทิพย์ นอกนั้นทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ถาม : ที่พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อสิ้นกัป สวรรค์ชั้นต่ำกว่าพรหมจะถูกทำลายได้ เพราะเป็นอนิจจัง" เช่นนี้แล้ว สวรรค์ในชั้นพรหมโลกชั้นที่ ๔ ขึ้นไป และแดนนิพพาน จะมีวันถูกทำลายหรือไม่ครับ ? ตอบ : อาตมาเคยบอกอย่างนั้นหรือ ? เมื่อโลกถูกทำลายตอนสิ้นกัป พรหมบางส่วนก็หมดไปด้วยนะ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:36 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
ถาม : ในวันมาฆบูชา การที่พระภิกษุทั้ง ๑,๒๕๐ องค์นั้น ได้มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย เกิดขึ้นได้เพราะเหตุใดหรือครับ ?
ตอบ : เกิดขึ้นได้เพราะมาเจอกัน..! ที่ว่ามิได้นัดหมาย เพราะพวกเราไปตีความเช่นนั้น พระระดับที่ใครคิดอะไรก็รู้หมด ไม่ต้องนัดหมายกันก็ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:37 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
ถาม : การที่ในพระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่มที่ ๙ สุตตันตปิฎกที่ ๐๑ ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค ได้ระบุไว้ว่า
"ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพผิดทางด้วยเดรัจฉานวิชา เช่นที่ สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางพวก ฉันโภชนาหารที่เขาให้ด้วยศรัทธา แล้วยังเลี้ยงชีพผิดทางด้วยเดรัจฉานวิชาอย่างนี้ คือ ทำพิธีบนบาน พิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี ตั้งศาลพระภูมิ ... พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ... ทั้งหมดนี้คือศีลของภิกษุ" ดังนี้คือการห้ามพระภิกษุทำน้ำมนต์หรือไม่ครับ ? ตอบ : ฟังดูเหมือนมาจากสำนักพุทธวจนะอย่างไรก็ไม่รู้ พวกอ่านพระไตรปิฎกไม่แตกแล้วมาแสดงความโง่ พวกนี้ควรตายแล้วไปเกิดใหม่ เผื่อว่าจะฉลาดขึ้น...! อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่า เลี้ยงชีวิตด้วยวิธีการนั้น ๆ สำหรับท่านที่ไม่ได้เลี้ยงชีวิตด้วยวิธีการนั้น ๆ แต่ทำเพื่อสงเคราะห์ญาติโยมก็ทำไปสิครับ..! อ่านตำราไม่แตกก็ลักษณะอย่างนี้ ตีความไม่แตกแล้วยังพาเข้าป่าเข้าดงอีกต่างหาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:39 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
ถาม : การกรวดน้ำคว่ำขัน จะเป็นการตัดขาดความสัมพันธ์ ไม่เกี่ยวข้องกันอีกทั้งในชาตินี้และชาติหน้าได้จริงหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่จริง คว่ำไป ๗-๘ ขันก็ไม่มีประโยชน์ ยกเว้นแต่ว่าโจทก์และจำเลยมาอยู่ต่อหน้า และเอ่ยคำอโหสิกรรมให้ต่อกัน แบบนั้นถึงจะไม่คว่ำขันก็จบ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:39 |
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
ถาม : หากคู่สามีภรรยาได้แต่งงานในวันเสาร์ และมีเรื่องทะเลาะกันบ่อย แต่ทั้งคู่ยังคงรักกัน ต้องการครองคู่อยู่เช่นเดิม จะมีวิธีแก้อย่างไรบ้างครับ ไม่ให้ทะเลาะกันบ่อยเช่นนี้ ?
ตอบ : อมมะนาว...! การครองคู่ต้องลงให้อีกฝ่ายอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ถ้าไปถือทิฐิมานะของตัวเอง ต่อให้แต่งฤกษ์ดีขนาดไหนก็ทะเลาะกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:39 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
ถาม : หากผมเผลอกลืนน้ำยาบ้วนปาก ซึ่งมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จะทำให้ยันต์เกราะเพชรหายไปไหมครับ ?
ตอบ : ไม่หาย เขาเรียกว่าอจิตตกะ หาเจตนามิได้ ต่อให้เป็นพระยังไม่ผิดเลย ถ้าเป็นสจิตตกะ ตั้งใจทำ อย่างนั้นก็เจ๊งตั้งแต่แรกแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:40 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
ถาม : การดื่มกาแฟก่อนที่จะนั่งสมาธิ และสวดมนต์ เพื่อพยายามป้องกันไม่ให้เกิดการง่วงนอน และด้วยหวังว่าจะทำให้จิตใจมีสมาธิจดต่อกับการภาวนาและการสวดมนต์ได้ดีขึ้น จะมีโทษอันใดที่แฝงมาหรือไม่อย่างไรครับ ?
ตอบ : อันดับแรกโรคหัวใจจะถามหา ใครก็ตามที่กินกาแฟไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ท้ายสุดต้องเป็นโรคหัวใจทุกคน เพราะว่าหัวใจแต่ละคนจะมีจังหวะการเต้นของตัวเอง พอเรากินกาแฟเข้าไปก็จะไปเร่งอัตราการเต้นของหัวใจให้มากกว่าเดิม ถ้ากาแฟหมดฤทธิ์ หัวใจกลับไปเต้นจังหวะเดิม เรากินใหม่หัวใจก็เต้นผิดจังหวะอีก นาน ๆ ไป จะเป็นอาการที่หมอบอกว่าหัวใจพิการ อันดับที่สอง ถ้าเราทำโดยอาศัยสารกระตุ้นจนเคยชิน ต่อไปถ้าขาดจะไม่สามารถทำได้ ดังนั้น...เรื่องพวกนี้ต้องระมัดระวังนิดหนึ่ง ถ้าเราสามารถภาวนาจนถึงระดับปีติขึ้นไปจะไม่มีวันง่วงอย่างเด็ดขาด สามวันสามคืนก็ไม่ง่วง จึงต้องตั้งเวลาไว้ว่าเราจะภาวนานานแค่ไหน ไม่อย่างนั้นจะเพลินจนร่างกายทนไม่ไหว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-04-2018 เมื่อ 08:00 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
ถาม : ที่บ้านตั้งศาลผิดทิศ จึงจะตั้งศาลใหม่ในศาลที่ถูกต้อง ซึ่งในหนังสือสมบัติพ่อให้ หลวงพ่อได้บอกวิธีตั้งศาลใหม่ไว้ อยากทราบวิธีถอนศาลเก่าต้องทำอย่างไร และหลังจากถอนศาลเก่าแล้วต้องทำอย่างไรกับศาลเก่าคะ ?
ตอบ : ไปจุดธูปบอกกล่าวท่าน เชิญไปขึ้นศาลใหม่ แล้วทำน้ำมนต์ถอนโบสถ์รดศาลเก่า จากนั้นก็รื้อ ส่วนใหญ่เขาจะเอาศาลเก่าไปไว้โคนไม้ใหญ่ รู้จักคาถาถอนโบสถ์ไหม ? สมุหะเนยยะ สมุหะคะติ สมุหะคะโตฯ คาถายาวหน่อย ไปภาวนาทำน้ำมนต์แล้วก็รด จากนั้นก็ถอนออก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:43 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
ถาม : ความเชื่อทางฮวงจุ้ยที่ว่า แต่ละปีจะมีทิศร้าย ถ้าก่อสร้างในทิศร้ายจะเกิดอันตราย อยากทราบว่า ผ้ายันต์พิชัยสงครามสามารถกันอันตรายจากทิศร้ายได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : สามารถกันได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่าลืมว่าเรื่องร้ายทั้งหลายที่เข้ามาถึงเราได้ ต้องมีกรรมเก่าที่เราเคยทำมาก่อนเป็นตัวต้นเหตุ ถ้าหากเราสร้างกรรมชั่วเอาไว้มาก ถึงวาระก็ไม่มีอะไรกันแรงกรรมได้ ฉะนั้น...จึงกันได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น เพื่อความสบายใจก็ให้หมอดูเสียก่อนว่า ปีนี้ทิศไหนเป็นทิศที่ดีแล้วก็สร้างไป ไม่อย่างนั้นสร้างไปก็เครียดไป อาตมาเจอโยมอยู่คนหนึ่ง สร้างแล้วเปลี่ยนไป ปรับไป จนต้องทุบทิ้งทั้งหลัง เพราะว่าหมอแต่ละคนมาบอกไม่เหมือนกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:44 |
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
ในเรื่องของการอ่านพระไตรปิฎก การอ่านจับใจความเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะว่าบางคำอธิบายยาวมาก พอเราอ่านเลยไปแล้วเราลืมคำแรก ไปจับเอาเนื้อหาตอนท้าย ตายละวา...พระพุทธเจ้าห้ามทั้งหมดเลย ที่ไหนได้..พระองค์ท่านบอกว่า ห้ามเลี้ยงชีพด้วยเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เพราะว่าอาชีพของพระมีอยู่อย่างเดียวคือบิณฑบาตขอชาวบ้าน แต่ถ้าเราทำเพื่อสงเคราะห์ชาวบ้าน ให้ชาวบ้านเขาอยู่สุขอยู่สบาย เขาจะได้มีเรี่ยวแรง มีกำลังใจในการอุดหนุนค้ำจุนพระศาสนา เราไม่ได้อาศัยงานนี้เลี้ยงชีพก็ทำไปเถอะ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:45 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้เรื่องร้อนแรงในวงการศาสนา ก็คือเรื่องของบังโต ชื่อจริงชื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่เห็นเขาเรียกกันในวงการคือ โต ซิลลี่ฟูล ก็ซิลลี่ฟูลจริง ๆ
เขาวิจารณ์ว่าพระพุทธรูปเป็นของต่ำกว่าเขา เขาว่าอย่างนั้น เรื่องนี้อาตมาขอยืนยันว่าเป็นความคิดของคนอิสลามเกือบทั้งหมดเลย เขาจะเห็นว่ารูปเคารพของศาสนาอื่นเป็นของต่ำ ถึงขนาดที่ว่าถ้าเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่นั้นจะต้องลงนรกเลย ดังนั้น...สิ่งที่บังโตแสดงออก คือการแสดงออกแทนความคิดของคนอิสลามเกือบทั้งหมด ว่ามีการเหยียดหยามศาสนาอื่นเป็นปกติ มีแต่อิสลามมิกชนเท่านั้นที่ดีเลิศประเสริฐศรี อย่างอื่นไม่ใช่ แม้แต่จุฬาราชมนตรีออกมาทักท้วง เขาก็บอกว่า ถ้าจุฬาราชมนตรีบอกว่าผิด เขายอมรับว่าผิดก็ได้ นี่ไม่ได้แปลว่าเขายอมรับผิด แต่เขาบอกว่า “เขายอมรับผิดก็ได้” ก็คือจุฬาราชมนตรีซึ่งถือว่าเป็นผู้นำสูงสุดของศาสนาเขาเป็นคนบอก ไม่ใช่เกิดจากการสำนึกผิดด้วยตัวเอง ส่วนประการที่สองก็คือ จุฬาราชมนตรีออกมาพูดลักษณะนั้น ก็ไม่ได้แปลว่าท่านจะเป็นคนดี หากแต่ท่านเห็นว่าสถานการณ์ร้ายแรง แล้วมีผลเสียต่อศาสนาอิสลาม ท่านถึงต้องออกมาพูด อาตมาขอยืนยันว่า พวกอิสลามตีสองหน้ากับเรามาตลอด ด้านหนึ่งก็คือทำตัวว่าเป็นคนดี ตีกินทุกรูปแบบ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็คือแอบพยักหน้าให้ลูกน้องทำอะไรก็ได้ ที่ทำให้ศาสนาพุทธอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้น...เราจะเชื่อได้อย่างไรว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจาก “การโยนหินถามทาง” คืออยู่ในลักษณะที่ว่าให้บังโตออกมาพูด ถ้าไม่มีใครออกมาเอ่ยปกป้องพุทธศาสนาเลย ก็แปลว่าเขาทำการยึดครองได้แล้ว เพราะว่าคนไทยไม่หวงแหนศาสนาพุทธ ไม่ปกป้องศาสนาพุทธ แต่พอมีปฏิกิริยาโต้กลับมาอย่างรุนแรง ก็รีบออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ หงายไพ่ในลักษณะที่ว่า อิสลามสอนให้ทุกคนเป็นคนดี นั่นเป็นบุคคลเพียงคนเดียวที่ทำลักษณะอย่างนั้น ซึ่งเป็นการตีกินทั้งขึ้นทั้งล่อง ก็คือโยนหินถามทาง ถ้าไม่สำเร็จก็ถอย ถ้าสำเร็จก็รุกขึ้นหน้า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-04-2018 เมื่อ 13:47 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
ถ้าเราสังเกตคำพูดของจุฬาราชมนตรีจะเห็นว่า คำพูดทั้งหมดอ้างหลักการศาสนาอย่างเดียว ไม่มีการตำหนิว่าบังโตทำผิด ถ้าเป็นเราต้องระบุชัดเจนเลยว่า นายโต ซิลลี่ฟูล ทำผิดต่อศาสนาพุทธ จะต้องขอขมา จะต้องขอโทษต่อสังคม แต่นี่ไม่มี บอกอย่างเดียวว่าหลักการอิสลามว่าอย่างนี้ ๆ บังโตไปทำอีกอย่างหนึ่ง แต่ไม่ได้ตำหนิบังโตโดยตรงเลย
เราจะไปคิดว่าศาสนาอิสลามมีคนดีอยู่ อาตมายืนยันว่าคนดีในอิสลามตายหมดนานแล้ว ปัจจุบันนี้ที่มีเหลืออยู่คือจะยึดประเทศไทยเป็นที่ตั้งของศาสนาอิสลามให้ได้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ถ้าเรานิ่งนอนใจอยู่ ปล่อยให้เขาตีกินไปเรื่อย เราจะเดือดร้อนกว่าที่คิด เพราะว่าทุกวันนี้อิสลามมีแค่ประมาณ ๑๐ ล้านคน ทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศก็เป็นของเขาไปจะหมดอยู่แล้ว ถ้ามีมากกว่านี้อาตมารับประกันว่า จะต้องมีการกำหนดให้ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติไทยในระยะเวลาอันไม่นาน ตอนนี้ สนช. ๘๔ คน เป็นอิสลามชัด ๆ ๖๓ คน..! กฎหมายทุกอย่างที่ออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ ก็เพื่อเอื้อประโยชน์แก่อิสลาม พยายามลากการอยู่ในอำนาจของ คสช. ออกไปให้ยาวนานที่สุด เพื่อที่ตัวเองจะได้กำหนดในสิ่งที่ได้เปรียบที่สุดในการยึดครองประเทศของเรา เรื่องพวกนี้ถ้าคนไทยไม่ตื่นขึ้นมาปกป้องศาสนาพุทธ ปกป้องประเทศไทย เราจะต้องเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามในไม่ช้า
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:50 |
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
อาตมาก็ได้แต่หวังว่าคนไทยควรที่จะได้สติเสียที โดนเขายุให้ทะเลาะแบ่งแยกสีกันมา แม้กระทั่งอาตมาที่เพิ่งลงไปปักษ์ใต้ ไม่นึกเลยว่าความเกลียดชังที่ฝังอยู่ในใจของคนใต้จะรุนแรงขนาดนั้น ญาติโยมมาบ่นกับอาตมาว่า ตอนนี้ยากจนเหลือเกิน ยางราคาตก แทบจะไม่มีข้าวกินแล้ว อาตมาก็บอกว่า อยากให้ยางราคาดีก็เอานายกฯ ทักษิณกลับมาสิ เขาสวนกลับมาเดี๋ยวนั้นเลยว่า ถ้าเอาทักษิณกลับมา เขายอมอดตายดีกว่า..!
นี่คือสิ่งที่เขาปลูกฝังความเกลียดชังไว้ในใจของคนไทย จนกระทั่งไม่สามารถที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้น...อย่าไปหวังเลย คำพูดสวย ๆ ของ คสช. ที่ว่า มาเพื่อปรองดองสมานฉันท์ ตั้งแต่ต้นที่ยึดอำนาจไปจากคนไทยมาจนถึงบัดนี้ มีอะไรที่ทำแล้วอยู่ในลักษณะปรองดองบ้าง ? เราลองไปศึกษาดู อาตมาเป็นพระไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อยู่รอบนอกแท้ ๆ ยังเห็นมากขนาดนี้ คาดว่าญาติโยมที่อยู่วงในน่าจะเห็นมากกว่านี้ สิ่งนี้คือความจริงที่ปรากฏอยู่ในสังคม และอาตมาจำเป็นที่จะต้องบอกกล่าวให้ญาติโยมได้รู้กันไว้ เมื่อถึงเวลาจะได้รู้ว่า มีคนบางประเภทที่ไม่ใช่คนดี แต่แอบอ้างว่าเป็นคนดี แล้วมายึดอำนาจในมือของเราไป เสร็จแล้วก็ไม่ยอมคายอำนาจคืนมา เพราะว่าต้องการเอื้อประโยชน์ให้กับคนของตัวเองให้มากที่สุด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-04-2018 เมื่อ 07:59 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา เราไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เกิดจากการกระทำด้วยความเขลาของบังโตเป็นการส่วนตัว หรือว่าได้รับสัญญาณจากใครพยักหน้าให้ทำ เพื่อที่จะดูปฏิกิริยาของคนไทย เมื่อคนไทยมีปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรง ก็รีบออกมาเบรกไว้ พูดในลักษณะตีกินว่าอิสลามจริง ๆ แล้วเป็นคนดี
ถ้าหากว่าเป็นคนดีจริง พระพุทธรูปที่บามิยันก็คงไม่โดนถล่มจนแหลกหมด ถ้าหากว่าเป็นคนดีจริง เวลาที่ขึ้นเป็นผู้นำในหน่วยงานก็คงจะไม่ย้ายพระพุทธรูปออกจากหน่วยงานจนหมด แต่นี่เขาไม่เคยเกรงใจเราเลย พอศาสนาอื่นสะกิดอิสลามเข้าหน่อย ก็ถึงขนาดมีการวางระเบิด มีการไล่ยิงไล่ฆ่ากันทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่พอคนของตัวเองออกมาทำในสิ่งที่เหยียดหยามศาสนาอื่นบ้าง แม้กระทั่งตักเตือนด้วยการออกชื่อตรง ๆ ก็ไม่มี ตำหนิตรง ๆ ก็ไม่มี มีแต่บอกว่าหลักการศาสนาเป็นอย่างนี้เท่านั้น ดังนั้น...เรื่องพวกนี้ให้พวกเราไปพิจารณากันเองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมของเราในขณะนี้นั้นเป็นเพราะอะไร ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2018 เมื่อ 02:54 |
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
||||
|
||||
พูดถึงลูกอม "ลูกอมของหลวงปู่เบ้า คนเผลอเล่นเป็นของหลวงปู่ปาน วัดตุ๊กตา มาเยอะแล้ว"
ถาม : ของหลวงปู่เบ้าเนื้อไม่แกร่ง ? ตอบ : ไม่ใช่ไม่แกร่งอย่างเดียว สีแดงหรือสีอมชมพูจะมีน้อยมาก ถ้าเห็นนี่ให้ระวังไว้เลยว่าน่าจะเป็นของท่าน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2018 เมื่อ 02:57 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "พระมหาธิติวัฒน์ วรวฑฺฒโน ท่านอยู่วัดพระบรมธาตุชัยนาท วัดเดียวกับหลวงพ่อเจ้าคุณสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท คราวที่แล้ววัตถุมงคลหลวงพ่อกวยรุ่นนี้ออกเกลี้ยงไม่เหลือ ก็เลยติดใจจะสร้างอีกรุ่นหนึ่ง แต่ขอโทษ...ดันกำหนดวันเอง แล้วพระอาจารย์เล็กไม่ว่าง จะเสกวันที่ ๑๕ เมษายน ก็เลยไปไม่ได้ เพราะว่าวันที่ ๑๕ เมษายนเป็นวันสรงน้ำพระของวัดท่าขนุน เป็นงานที่ ททท. เขาแนะนำ Unseen ด้วย แล้วจะไปได้อย่างไร ? ท่านก็เลยต้องเอาชนวนมาให้อธิษฐานจิต แล้วก็ถวายวัตถุมงคลรุ่นแรงครูของหลวงพ่อกวยมาเป็นค่าแรง รุ่นถัดไปเรียกรุ่นอธิษฐานฤทธิ์
ต้องดูว่าเมื่อไม่มีแรงครูแล้วจะไปได้แค่ไหน ? วันนั้นต้องบอกว่าอาตมาประมาณบารมีหลวงพ่อกวยผิดไปหลายเท่า เพราะว่าเอาวัตถุมงคลไปแจกทางโน้น ๓๐๐ ชิ้น โยมมาเป็น ๑,๐๐๐ คนเลย ท้ายสุดไม่มีอะไรจะแจกจึงต้องไปนั่งเคาะหัวแทน หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดชัยนาทท่านก็มานั่งอยู่ข้าง ๆ นั่งไปเถอะ...พระอาจารย์เล็กเคาะหัวจนจะยกแขนไม่ขึ้นอยู่แล้ว ไม่มีโยมแวะไปหาท่านสักคนเดียว ท้ายสุดท่านเลยไปเดินดูงานแทน อยู่ที่นั่นไม่ดีหรอก ทั้งพระทั้งโยมเขาชอบลอง แต่ถ้าไม่มีพวกเราไป อยากลองอะไรก็ลองไปเถอะ อาตมาจะทำไม่รู้ไม่ชี้ คราวนี้พอพวกเราไป เดี๋ยวจะพาซวยไปด้วย จึงต้องไปเคาะหัวกันไว้ให้ก่อน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2018 เมื่อ 03:01 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
||||
|
||||
"สมเด็จแหวกม่านกับสมเด็จปรกโพธิ์รุ่นแรงครู เขาเอาผงเก่าใส่ลงไปนะ ใครอยากได้รุ่นเก่าที่หาไม่ได้แล้ว ปัจจุบันที่หาได้ก็ปลอมเกือบทั้งนั้น เอารุ่นนี้ไปแทนได้ เพราะว่าอย่างน้อยผงเก่าก็มีอยู่ แต่ว่าเขาใส่แบบประเภทให้ใจมากเลย ผงลอยหน้ามาเห็นชัด ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2018 เมื่อ 03:02 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาลงไปงานหล่อพระวัดชัยชนะสงครามที่หาดใหญ่ กลายเป็นที่รวมญาติของคณะศิษย์ภาคใต้ทั้งหมดเลย บางคนไม่ได้เจอกันเป็น ๒๐ ปีก็มา เพราะว่าระยะหลังอาตมาติดงานมากขึ้น ๆ โอกาสที่จะตระเวนไปทั่วภาคใต้เหมือนสมัยก่อนนั้นมีน้อยลง ส่วนใหญ่ก็จะลงที่หลัก ๆ อย่างเช่นหาดใหญ่ ภูเก็ต เป็นต้น โอกาสที่ญาติโยมซึ่งอยู่ไกล ๆ อย่างพวกยะลา ปัตตานี นราธิวาส สุไหงโกลก อย่างสมัยก่อนที่จะได้พบกันก็มีน้อย
พอรู้ว่าจะลงไปแล้วแจ้งข่าวล่วงหน้าหลายวัน เขาก็แห่กันมาหมด ทำบุญกันมาทั้งเงินทั้งทอง อาตมายกถวายหลวงปู่มหาอำนวยไปทั้งหมด หลวงปู่ท่านก็บอกว่า “ท่านเอากลับไปบ้าง...เอากลับไปบ้าง” อาตมาบอกว่า “ไม่ได้ครับหลวงปู่ เขาตั้งใจหล่อพระ ผมเอากลับไปเมื่อไรก็เจอโทษย้ายเจดีย์เท่านั้นเอง เดี๋ยวพุทธาภิเษกเสร็จเขาตั้งใจทำบุญกับผม ส่วนนั้นผมค่อยเอากลับ” ตกลงว่าถวายทองหลวงปู่ไปหลายบาท ถวายเงินไปน่าจะ ๕๐,๐๐๐-๖๐,๐๐๐ บาทเห็นจะได้ ปรากฏว่าหลังพุทธาภิเษกเสร็จ โยมยังยัดใส่ย่ามกลับมา ๑๐,๐๐๐ กว่าบาท ใบละ ๒๐ บาทมากที่สุด รองลงมาคือใบละ ๑๐๐ บาท ตามด้วยใบละ ๕๐ บาท แล้วก็ใบละ ๕๐๐ บาท ใบละ ๑,๐๐๐ บาท ซึ่งจะบอกว่าใส่กันมาจนยามโป่ง นับแล้วก็ได้มาหลายอยู่ ถึงได้บอกหลวงปู่ว่าไม่ต้องห่วงหรอก ค่าเครื่องบินเจ้าภาพเขาก็จ่ายให้ ท่านเองก็เกรงใจ บอกว่าให้เอากลับไปบ้าง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2018 เมื่อ 03:05 |
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|