|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#41
|
||||
|
||||
มีใครรู้จัก "ซินแสโอ" บ้างไหม ? ถ้ารู้จักไปขอศึกษากับท่านก็ได้ แต่ไปถึงแล้วเห็นว่าหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวก็อย่าไปดูถูกว่าไม่เก่งนะ ซินแสโอแอบย่องมาที่นี่ กลัวว่าคนอื่นจะรู้ เพราะว่าท่านค่อนข้างจะดังอยู่มาก ลูกศิษย์ล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโตในแผ่นดิน อาตมาก็กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าท่านมาที่นี่เหมือนกัน เพราะเดี๋ยวลูกศิษย์ท่านจะตามมา เป็นซินแสโอก็ไม่ค่อยจะดีเพราะเลือกไหว้พระ จะไหว้พระต้องดูโหงวเฮ้งก่อน..!
ซินแสโอออกหนังสือมาหลายเล่ม ถ้าตั้งใจจะศึกษาจริง ๆ หาตำราของท่านมาศึกษาก็ได้ เป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถมาก เพียงแต่ตอนที่ไปศึกษาวิชาการต่าง ๆ ต้องอดทนอดกลั้นทีเดียว คนเราต้องตั้งใจทำจึงจะสำเร็จ ฉะนั้น...อย่าไปดูถูกว่าเป็นคนหนุ่ม พระพุทธเจ้าตรัสว่าอย่าดูถูกพระราชาว่าเด็ก อย่าดูถูกงูพิษว่าเล็ก อย่าดูถูกสะเก็ดไฟว่าน้อย เพราะพระราชาเด็กก็สั่งประหารชีวิตเราได้ งูพิษถึงตัวเล็กถ้ากัดเราก็ตายเหมือนกัน สะเก็ดไฟเล็กน้อยสามารถที่จะเผาผลาญป่าใหญ่ ๆ หมดไปทั้งป่า หรือเมืองใหญ่ ๆ หมดไปทั้งเมือง และท้ายสุดพระองค์ท่านบอกว่า อย่าดูถูกสมณะว่ายังหนุ่มอยู่ อันนี้เท่ากับพระพุทธเจ้าด่าอาตมาตรง ๆ เพราะเมื่อก่อน ถ้าพระไม่แก่อาตมาจะไม่แลเลย ต้องไปเจอหลวงปู่โลกอุดร มาทีก็หน้าเด็กมาเชียว แต่ผมขาวทั้งหัว ท่านตั้งใจจะแกล้งว่าเราจะดูหัวหรือจะดูหน้าของท่าน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2016 เมื่อ 21:07 |
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงระยะนี้เหตุการณ์บ้านเมืองของเราเหมือนกับภูเขาไฟใต้น้ำ ค่อย ๆ ปะทุรอวันระเบิด สำหรับพวกเราแล้วไม่มีอะไรดีไปกว่าการยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ถึงเวลาบารมีพระคุ้มครองรักษาเราก็จะอยู่รอดปลอดภัยเอง ส่วนคนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2016 เมื่อ 21:07 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ขอเตือนคนอยู่กรุงเทพฯ ว่า ให้ รีบหากะโหลกกะลา ถัง กะละมัง หม้อ ไว้เยอะ ๆ หน่อย ตุนน้ำเอาไว้บ้าง ปีหน้าจะแล้งกว่าปีนี้ ปีนี้อาตมาเตือนไปบางคนก็ทำ แต่ยังโชคดีที่ในหลวงยังอยู่ ฝนจึงมาทันการณ์
รู้ไหมว่าเขื่อนวชิราลงกรณที่เลี้ยงคนกรุงเทพฯ ปีนี้น้ำหมดเขื่อนพอดีกับฝนลง ไม่อย่างนั้นปีนี้คนกรุงเทพฯ ได้ซมซานอดน้ำกันบ้าง ไม่แปลกใจหรือว่าทำไมอาตมาตุนน้ำข้างหลังห้องนี้เอาไว้เพียบเลย จำเป็นต้องตุนเผื่อเอาไว้ก่อน ไม่ใช่เดือดร้อนแล้วค่อยไปหาตอนที่มีแต่ของแพง ซื้อถัง ๔๐ - ๕๐ ลิตรไว้สักสองใบก็ได้ ถังสีน้ำเงินนั่นแหละ ใส่น้ำทิ้งเอาไว้ก็ไม่เสียหลาย ถึงเวลาฉุกเฉินขึ้นมาถ้าขาดน้ำ อย่างน้อย ๆ เราก็ยังอยู่ได้อีกหลายวัน ถ้าใช้แบบมหา ๕ ขันก็สบาย แต่ทีละ ๕ ขันก็ยังเปลืองอยู่นะ ต้องเอาอย่างครูบาอาจารย์สมัยก่อน ท่านใช้น้ำแก้วเดียว ถึงเวลาก็หดตัวเหลือนิดหนึ่งลงไปอาบน้ำในแก้ว อาบเสร็จแล้วค่อยขยายตัวใหญ่เท่าเดิม ไม่เปลืองน้ำเลย เสด็จในกรมหลวงชุมพรเคยทำให้คนในวังดูทีหนึ่ง ท่านเอาขวดโหลใส่ลูกกวาดสมัยก่อนมาใส่น้ำไว้ครึ่งโหล แล้วอยู่ ๆ ก็กลายเป็นองค์เล็กลงไปอยู่ข้างใน อาบน้ำสบายใจ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2016 เมื่อ 21:10 |
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาไม่อยากจะบอกเคล็ดลับว่า ที่ลงกระทู้คนมีเงินฯ แล้วของออกหมดเลย เพราะว่ากุมารทองหลวงพ่อกวย อาตมาบอกกุมารทองช่วยขายของให้ด้วย พอลงแม่นางกวักหลวงปู่อิ่ม ก็บอกแม่นางกวักช่วยจัดการให้ก่อนที่จะไป เพราะฉะนั้น...ใครจะเลียนแบบก็ได้นะ ไหน ๆ ก็อยู่ด้วยกันมานาน ก่อนจะไปก็ช่วยกันทำงานก่อน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2016 เมื่อ 21:12 |
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาว่าจะซื้อเม็ดเงินหล่อพระ ราคาก็กระโดดขึ้นกระโดดลง อาตมาเลยผลักภาระไปให้โยมแทน ให้จองเป็นเจ้าภาพเม็ดเงินหล่อพระคนละ ๑ กิโลกรัม ต้องการเจ้าภาพแค่ ๒๕๐ คน ดูท่าจะไม่ถึงแล้ว เพราะมีบางคนจองไปรายเดียว ๕ กิโลกรัม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 13:45 |
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานมาถึงก็มีไปรษณีย์มาส่งจดหมาย เป็นฉบับแรกในรอบ ๖ ปี ปรากฏว่าเขาจ่าหน้าส่งถึงบ้านวิริยบารมี บ้านเลขที่ก็ไม่มี อะไรก็ไม่มี แต่ไปรษณีย์เขาเก่ง เขาส่งมาถึงเหมือนกัน แกะออกมาเป็นเงิน ๑๐๐ บาท ระบุว่าช่วยค่าใช้จ่ายบ้านวิริยบารมี ไอ้พวกสิ้นสติ..! จะทำบุญเสียอย่างก็ทำไปเรื่อย ๆ ส่งมาลักษณะนั้นโอกาสสูญหายมีเกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ประการแรกก็คือเงินสดใส่ซองมา ประการที่สองไม่มีบ้านเลขที่ ไม่มีซอย ไปรษณีย์ก็เก่ง...ส่งมาถึงได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 13:46 |
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "งานทอดกฐินปลดหนี้ที่วัดตะเคียนงาม ได้เงินทั้งหมด ๑,๘๕๐,๐๐๐ บาทถ้วน คืออาตมามีค่านิยมว่าเติมให้เต็มไว้ เหตุที่ได้น้อยเพราะว่าพระเครื่องที่เตรียมไว้ประมูลหนีกลับวัดไปเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หนีกลับไปนอนวัดกันหมด แม้กระทั่งพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน (๒) เนื้อตะกั่ว ก็หนีกลับไปนอนวัด เป็นอะไรที่อาตมารู้สึกเครียดมาก
จัดของใส่กระเป๋าแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านจะไปด้วย ประมูลกันได้พักเดียวของก็หมด อุตส่าห์เอาของหลวงพ่อกวยไปหลายองค์ ของหลวงพ่อคงไปหลายองค์ ยังมีของหลวงปู่หลวงพ่ออื่น ๆ อีก ท่านหนีหมด..! ไปนึกถึงหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมัยก่อนถ้าใครรับวัตถุมงคลของท่านไปแล้วทำผิดศีลผิดธรรม วัตถุมงคลจะหนีกลับ พอไปขอใหม่ท่านก็จะเตือน บอกว่า "ให้รู้จักทำให้ดี ๆ นะจ๊ะ" อาตมาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แค่จะเอาท่านไปขายเท่านั้น หนีกันหมดเลย..! ที่เจ็บใจที่สุดก็คือ หนีไปแอ้งแม้งที่วัดประเภทเย้ยฟ้าท้าดิน ถ้าไม่ใช่อาตมาเป็นคนสมาธิดี ความจำดี คงคิดว่านี่เราสมองเสื่อมเป็นอัลไซเมอร์แล้วกระมัง ? จำได้ว่าเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้วทุกอย่าง ถึงเวลาล้วงหาไม่เจอ ประสบการณ์แบบนี้อาตมาเจอบ่อย เจอจนกระทั่งเลิกแปลกใจแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 13:48 |
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#48
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "โดยปกติแล้วเบี้ยแก้จะมีอานุภาพไปในทางกันคุณไสย แก้อาถรรพ์ กันภูตผีปิศาจ แต่ว่ามีเบี้ยแก้อยู่ ๒-๓ สำนักที่คงกระพันแน่นอน เห็นชัด ๆ ก็คือหลวงปู่ม่วง วัดคฤหบดี ท่านเป็นลูกศิษย์สายหลวงปู่รอด วัดนายโรงนี่แหละ ใครไปรับเบี้ยแก้กับหลวงปู่ม่วง ลูกศิษย์ที่เป็นนักเลงจะดักรออยู่ปากทาง เดินออกมาเมื่อไรเจอทั้งมีดทั้งดาบ..!
อีกสำนักหนึ่งก็หลวงพ่อกา วัดแค นครชัยศรี ส่วนของหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ท่านให้คาถากำกับมา ถ้าต้องการที่จะให้ยิงไม่ออก ต้องการให้ยิงออกไม่ถูก ต้องการให้ปืนแตก ท่านบอกให้ภาวนาคาถาอย่างนี้ ๆ จริง ๆ แล้วก็คือขึ้นอยู่กับจริตนิสัยของคนทำ หลวงปู่เพิ่มท่านเป็นพระที่เมตตาสุด ๆ แต่ทำของแล้วเหนียวได้เหมือนกัน อาตมาเป็นคนนครปฐม รู้จักหลวงปู่เพิ่มดี สมัยที่เรียนประถมมัธยมอยู่ แผ่นพับวัตถุมงคลท่านยังไปถึงโรงเรียนบ่อย ๆ พระองค์ละ ๒๐ บาทสมัยนั้นรู้สึกว่าแพงเหลือเกิน เพราะก๋วยเตี๋ยวชามละบาทเดียวเท่านั้น ถ้าเป็นสมัยนี้ก็องค์ละประมาณ ๘๐๐ บาท คราวนี้เด็ก ๆ มีเงินน้อย รวมกันทั้งห้องทำบุญแล้วได้พระมา ๒ องค์ ก็ต้องมาจับฉลากกันว่าใครจะดวงดีได้ไป ส่วนใหญ่เพื่อน ๆ เขาจะได้กัน ส่วนอาตมาไม่กลัว ถึงเวลาเก็บสตางค์ได้ก็วิ่งหาหลวงปู่ ไปบูชาเอาที่วัด เบี้ยแก้หลวงปู่เพิ่มที่หายากนักยากหนา อาตมามีเป็น ๑๐ ตัว สมัยนี้ของปลอมมีเยอะ หลวงปู่เจือรุ่นแรก ๆ เขาก็จะเล่นเป็นของหลวงปู่เพิ่ม หลวงปู่เพิ่มรุ่นแรก ๆ ก็จะเล่นเป็นหลวงปู่บุญ ไอ้พวกไร้จรรยาบรรณ..! ทั้ง ๆ ที่จุดต่างมีให้เห็นชัด ๆ แต่ว่าแกล้งโง่ จะเอาสตางค์เขา เรื่องของวัตถุมงคลรุ่นเก่า ๆ นอกจากจะต้องดูของเป็นแล้ว แหล่งที่มายังต้องน่าเชื่อถือด้วย ถ้าแหล่งที่มาไม่น่าเชื่อถือ โอกาสโดนฟันเลือดโชกก็มีเยอะ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 13:52 |
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#49
|
||||
|
||||
พระอาจารย์พูดถึงเรื่องเม็ดเงินสร้างพระ "อาตมารับแค่ ๒๕๐ กิโลกรัม ถ้าเหลือจะเอาไปผสมในเนื้อนาก เพราะว่าเนื้อนากจะประกอบไปด้วยทองคำ เงิน ทองแดง ถ้าหากว่าเม็ดเงินบริสุทธิ์จะเหมือนกันหมด แต่ถ้าหากว่าเป็นพวกเงินรูปพรรณต่าง ๆ นี่ขอว่าไม่รับ เพราะว่ามีส่วนผสมของโลหะอื่น ทำให้เนื้อเงินดำง่าย ถึงเวลาแล้วพระจะกระดำกระด่างไม่น่าดู
ไปดูฝีมือช่างแล้วปลื้มใจ ปั้นได้สวยมาก ความจริงท่านอาจารย์สุชาติบอกว่าเกษียณแล้ว ท่านไม่ทำแล้ว สายตาแย่แล้ว ปรากฏว่าของวัดท่าขนุนนี่เท่าไรเท่ากัน ท่านเต็มใจทำให้ แล้วขอด้วยว่าให้ไปหล่อที่วัดท่าขนุน ก็เลยตกลงว่าย้ายไปหล่อที่วัด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 13:53 |
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#50
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "กฐินปีนี้วัดพุทธบริษัทกับสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษีมีแต่คนอิจฉา วัดของเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิทอดได้ ๘ แสนกว่าบาท วัดรองเจ้าคณะอำเภอห้วยกระเจาทอดได้ ๘ แสนกว่าบาท ส่วนสองวัดนี้อยู่เฉย ๆ ซองกฐินสักซองก็ไม่ต้องพิมพ์ ได้ไปเกือบล้านบาท ขาดไปแค่หมื่นนิด ๆ
โยมใส่ตอนตักบาตรเทโวมาเยอะมาก บางรายใส่ทีหนึ่งเป็นปึก ๆ ชนิดมาเป็นแสนเลย อาตมาเทลงกองกฐินหมด ในเมื่อเทลงกองกฐิน ๓ วัด พอถึงเวลายอดเฉลี่ยจึงสูง ช่วงนี้เป็นเจ้าภาพงานศพมีแต่คนเขาแซวกัน ว่าวัดท่าขนุนได้กฐินมาก ต้องเป็นเจ้าภาพหลายวันหน่อย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 13:55 |
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#51
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานแวะไปดูฝีมือปั้นพระของท่านอาจารย์สุชาติแล้ว ประทับใจมาก เหลือแค่ติดเม็ดพระศกอย่างเดียว ท่านบอกว่าอาทิตย์หน้ามาดูได้ครับ สมบูรณ์แบบแน่ ถ่ายรูปแล้วจะได้เข้าปูน แต่ท่านขอให้ไปหล่อที่วัด องค์ทางใต้นี่อ้วนมากหน่อย เป็นศิลปะศรีวิชัยแบบขนมต้ม องค์ทางเหนือนี่เป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนแบบพระพุทธสิหิงค์"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 13:56 |
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#52
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงงานพระบรมศพนี่ก็ดีนะ ทำให้ได้งัดเสื้อผ้าเก่า ๆ มาใช้ ทุกบ้านจะมีสีดำอยู่แล้ว ไม่ดำก็ขาวอย่างไรก็ต้องมี
ต้องบอกว่าบ้านเรานั้นมิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ทุกงาน แม้แต่งานพระบรมศพก็ยังอุตส่าห์ฉวยโอกาส แรก ๆ มีการเปิดรับบริจาคทางเว็บด้วยนะ ใครเป็นเจ้าภาพต้องจ่าย ๒๐,๐๐๐ บาท พวกประเภทศรัทธามากรีบโอนก็เสียสตางค์ฟรี แล้วก็มีพวกไปรับอาหารแจกมาขายต่อ แบบนี้ก็เกินไป อย่างที่วัดท่าขนุนเปิดโรงทาน ก็จะมีพวกตั้งใจมาตุน ขนกลับบ้านกันแบบบันเทิงใจมาก ตอนแรก ๆ แม่ชีก็ด่าเสียหูตูบ อาตมาบอกว่าจะไปด่าเขาทำไมเล่า ? เราตั้งใจแจก เขาเอาไปหมดเราก็สบาย แต่อีกหลายรายก็ขนกันมาทั้งลูกหลานญาติโยม เดินคลำพุงมาเลย มีการส่งกองลาดตระเวนนำมาด้วย มาดูว่าที่วัดมีหรือเปล่า ถ้ามีก็ส่ง LINE บอกกัน แหม...ทันสมัยจริง ๆ ก็เท่ากับเขาประหยัดค่าอาหารไปมื้อสองมื้อ ถ้าหากว่าตุนไปมากก็ประหยัดมื้อเย็นไปอีกมื้อหนึ่ง เพราะฉะนั้น...เปิดโรงทานต้องทำใจกว้าง ๆ ไว้ ใครเขามาก็ให้เขาไปเถอะ เรียกว่าต้องมีอุเบกขาในการให้ทานด้วย คือให้แล้วเขาจะเอาไปทำอะไรต่อก็เป็นเรื่องของเขา ส่วนพวกที่ทำน่าเกลียดมาก ชนิดเอาไปวางขาย เดี๋ยวเขาก็จัดการกันเองแหละ แต่ส่วนหนึ่งที่เห็นแล้วชอบใจก็คือบรรดาดารา โดยเฉพาะดาราสาว ๆ ที่ชอบแต่งตัวไอ้โน่นหกไอ้นี่หล่น มางานพระบรมศพ แหม...แต่งตัวได้เรียบร้อยดีมาก แสดงว่ายังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้าง ไม่ถึงขนาดชำรุดหมด ว่าแต่ว่าก็ทำให้ไม่ได้ดูอะไรไปอีกเป็นปีเลยนะ..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 13:59 |
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#53
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้สถิติลูกหมาที่วัดตก ได้มาแค่ ๔๐ กว่าตัว ปกติแต่ละปีจะได้ประมาณ ๕๐-๖๐ ตัวเป็นอย่างน้อย "เจ้าคนแคระทั้งเจ็ด" นี่ใหญ่กว่าลูกแมวหน่อยหนึ่งแล้วนะ โอ้โฮ...อะไรจะผอมได้ขนาดนั้น ต้องบอกว่าคลอดลูกมาอย่างชนิดที่ไม่ได้ดูเลย ข้าวปลาอาหารก็ไม่มี ดันคลอดมาได้ตั้ง ๗ ตัว..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 20:01 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#54
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าอาตมาไม่เปิดกระทู้ให้บูชาเครื่องรางของขลัง จะรู้กันไหมว่ามีของขนาดนี้ ? สมัยก่อนอาตมาก็บ่นหลวงปู่จง วัดท่าซุงว่า “หลวงพี่...สะสมมาก ๆ ระวังคานกุฏิจะร้าวนะ” ไป ๆ มา ๆ น่ากลัวว่าคานกุฏิของอาตมาก็จะร้าวเหมือนกัน เลยต้องเอามาแบ่งให้น้อยลงบ้าง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 20:02 |
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#55
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ไม่มีครูบาอาจารย์ที่ไหนหรอกที่มานั่งถักตะกรุดให้ลูกศิษย์ เห็นมีแต่หลวงพ่อกวยเท่านั้น ปกติก็ให้คนอื่นทำให้ทั้งนั้น นี่ท่านต้องมานั่งถักเองเสกเอง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 20:03 |
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#56
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวกับพระลูกศิษย์ที่มาเบิกเงินค่าเล่าเรียนว่า "วันนี้ความจริงไม่มีเงินให้พวกคุณหรอกนะ แต่ผมก็แปลก...เป็นคนไม่มีเงินได้ไม่เกิน ๑ วัน เมื่อเช้านั่งรับสังฆทานมีโยมถวายมา ๖ แสนบาท เออ...ค่อยพอใช้หน่อย ก่อนจะมานี่ช่างเขาเบิกไป ๑ ล้านกว่าบาท หมดกระเป๋าเลย ผมก็ยังว่าเดี๋ยวพระท่านมาเบิกค่าเรียนแล้วจะจ่ายอย่างไร เมื่อเช้านั่งอยู่พักหนึ่งโยมถวายมา ๖ แสนบาท...ค่อยยังชั่วหน่อย
โยมเกษียณแล้วเอาเงินออมที่ทางหน่วยงานหักเอาไว้มาทำบุญ หน่วยงานทำลักษณะนั้นก็ดีนะ เท่ากับบังคับให้ฝากเงิน แต่โยมคงจะไม่เดือดร้อน เพราะว่าเป็นเงินออมที่จมอยู่เฉย ๆ เวลาเกษียณได้เงินคืนมา ก็เลยเอามาถวายพระเพื่อทำบุญหมดเลย บางทีศรัทธาของโยมก็น่ากลัว ถ้าคนไม่รู้จักกันจริง ๆ อาตมามักจะไล่ให้กลับบ้านไปคิดดูก่อน ดูว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินส่วนนี้ไหม ? คิดให้รอบคอบ อีกอาทิตย์หนึ่งค่อยมาให้คำตอบ โยมบางท่านก็บ่นเอาว่า ให้แล้วอาตมายังจะเรื่องมากอีก ตอนนี้มีอยู่ ๒ รายที่เวลาจะถวายอะไรก็ต้องรีบบอกว่า “คิดรอบคอบแล้ว...ไม่เดือดร้อนครับ” เมื่อตอนกฐินโยมถวายทองคำมา ๒๔๕ บาท เขายืนยันว่าเป็นทองที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อใหม่ แล้วก็ไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งสะเทือนด้วย อาตมาจึงต้องรับเอาไว้ ถ้าเป็นพวกเราถวายทองคำ ๒๔๕ บาท คลำดูหน้าแข้งน่าจะสะอาดเอี่ยม ไม่มีเหลือสักเส้น..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 20:06 |
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#57
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวกับคณะทำงานของอาจารย์บรรจบว่า "ส่วนหนึ่งที่เคยคุยเป็นการส่วนตัวกับท่านอาจารย์บรรจบก็คือ งานทำแล้วอย่าไปหวังความสำเร็จ ถามว่าถ้าไม่หวังความสำเร็จแล้วจะไปทำทำไม ? งานใหญ่เหมือนกับการสร้างบ้านแปลงเมือง กรุงโรมจะให้สร้างเสร็จภายในวันเดียวย่อมเป็นไปไม่ได้...ใช่ไหม ? ก็เหลืออยู่อย่างเดียวคือเราจะต้องเป็นคนวางแนวทางเพื่อให้คนอื่นเขาก้าวตาม
ถ้าก้าวแรกซึ่งยากที่สุดไม่มี ก้าวต่อไปก็จะไม่มี ฉะนั้น...คนที่เริ่มก้าวแรกจะได้งานที่ยากที่สุด และจะหวังความสำเร็จนั้นยากมาก แต่ถึงยากที่สุดแต่ก็ต้องทำ ยังดีใจว่าพวกเราทั้งหมดเริ่มก้าวกันแล้ว พระของเราขยับเมื่อไร เขาก็บอกว่า "ไม่ใช่กิจของสงฆ์" ในเมื่อเขาเอาตรงนี้มาตีก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงต้องอาศัยโยมออกหน้า พระก็ต้องเป็นกองหนุนให้ ลำบากอยู่เหมือนกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 20:09 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#58
|
||||
|
||||
ถาม : ขอพรในการทำงานเพื่อศาสนาครั้งนี้ด้วยครับ
ตอบ : อาตมภาพในฐานะตัวแทนของพระสงฆ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย ขอตั้งสัตยาธิษฐานอ้างคุณพระศรีรัตนตรัย อันมีพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆะรัตนะเป็นประธาน ดลบันดาลให้พวกท่านทั้งหลายมีกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา ถึงพร้อมในการกระทำงานครั้งนี้เพื่อพระพุทธศาสนา ขอให้สำเร็จสัมฤทธิ์ผลจงทุกประการด้วยเทอญ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 20:10 |
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#59
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนพระที่วัดซึ่งบวชรุ่น ๑๐๐ ปีหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ไปอยู่ปริวาสที่วัดชากสมอ ขากลับเอาลูกอมผงพรายกุมารมาฝาก ๖ ลูก ปรากฏว่าปลอมล้วน ๆ อาตมาบอกว่า "ดูเองไม่เป็น อย่าไปจับสิวะ" บอกให้ไปขอเงินเขาคืน พระท่านบอกว่าราคาไม่แพง ไม่ต้องคืนก็ได้ นั่น...ทำรวยอีก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-11-2016 เมื่อ 20:11 |
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#60
|
||||
|
||||
ถาม : ผงอิทธิเจ คืออะไรคะ ?
ตอบ : ผงวิเศษที่เขาลบกระดาน มีทั้งผงมหาราช ปถมัง อิทธิเจ ตรีนิสิงเห เพียงแต่คุณภาพไปคนละอย่าง คนโบราณมีความละเอียดของใจมาก ตัวหนังสือทุกตัวจะได้รับความเคารพ ของรุ่นเราอาจจะทันที่ว่า พ่อแม่สอนให้กราบหนังสือก่อนอ่าน เนื่องจากความละเอียดของใจมีมาก ท่านก็เลยเห็นว่า อักขระทุกตัวสามารถจารึกพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ โดยเฉพาะบรรดาท่านที่เรียนเกี่ยวกับบาลี ไม่ว่าจะเป็นสูตร เป็นสนธิ ในบาลีมูลกัจจายน์ต่าง ๆ ถึงเวลาเขียนตัวหนังสือแล้วลบก็เก็บผงเอาไว้ด้วย เอาไว้ใช้ทำประโยชน์ เพราะถือว่าทุกอย่างที่รู้กระจ่างแจ้งได้ เกิดจากอักขระทั้งหลายเหล่านี้ บาลีว่า อัตโถ อักขระสัญญะโต ตัวหนังสือมีประโยชน์ในการช่วยจำ เมื่อเป็นอย่างนั้นท่านก็เลยเห็นว่า สิ่งที่ทำมาเป็นตัวแทนในการจารึกพระธรรมได้ มีคุณค่า มีความศักดิ์สิทธิ์ ให้ความเคารพ จึงไม่ทิ้ง ไม่ได้ลบแล้วทิ้งเฉย ๆ แต่เก็บเอาไว้สร้างวัตถุมงคลต่อไปเพื่อให้คนไว้บูชา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-11-2016 เมื่อ 21:57 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|