กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 10-06-2015, 18:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ภาวะสงครามร้อนกรุ่น ๆ วันก่อนลูกศิษย์ทางวัดหนองหญ้าปล้องถามมา คงถามแบบประเภททดสอบ ว่าเรื่องของภัยพิบัติกับภาวะสงครามจ่อคอหอยอยู่แล้ว คิดว่ามีเวลาเตรียมตัวนานเท่าไร ? อาตมาก็บอกว่า “ผมไม่คิด” แล้ววัดท่าขนุนเตรียมตัวอะไรบ้าง ? “ไม่เตรียม” อะไรที่เลยวันนี้วัดท่าขนุนไม่ทำ เอาแค่วันเดียว วันนี้มีอะไรก็ทำ ๆ ไป พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะได้ทำหรือเปล่า ดังนั้น..รีบทำวันนี้เสียให้เสร็จ แล้วเขาถามอย่างสุดท้ายว่า “แล้วท่านมีเวลาทำกี่เดือน?” บอกไปว่าเหลือเฟือเลย

นี่เขากำลังเตรียมการเรื่องระบบไฟฟ้าอยู่ ว่าจะใช้โซลาร์เซลล์ หรือจะใช้ไบโอดีเซล อยู่ในลักษณะว่าถ้าหากเครื่องชำรุดให้มีคนซ่อมได้ อย่างโซลาร์เซลล์ถ้าชำรุดแล้วมีคนซ่อมได้ก็เก่งเกินไป

เรื่องของภัยพิบัติไม่ต้องเสียเวลาเตรียมการหรอก คือถ้าเราสร้างกรรมเอาไว้ เตรียมขนาดไหนก็ตาย ถ้าไม่สร้างกรรมเอาไว้ คุณปู่อายุ ๑๐๐ ปีไม่เป็นไร ไอ้หนุ่ม ๆ สาว ๆ ตายกันเป็นแถวเลย หรือไม่ก็เด็กทารก ๔ เดือน โดนฝังอยู่ ๒๐ กว่าชั่วโมง ขุดขึ้นมาไม่เห็นจะเป็นอะไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2015 เมื่อ 20:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 10-06-2015, 18:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default




พระอาจารย์กล่าวว่า "แผ่นดินไหวครั้งนี้คนไทยได้ใจคนเนปาลไปเยอะเลย เพราะว่าไปทุ่มเทช่วยเหลือทั้งพระทั้งโยม แม้แต่ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชก็ยังไป ท่านไปเช้าเย็นกลับด้วยนะ ออกเดินทาง ๗ โมงครึ่ง ไปถึงโน่น ๑๐ โมงครึ่ง ฉันเพลเสร็จก็ตระเวนออกเยี่ยมเขา เปิดงานที่นั่นที่นี่ เสร็จสรรพเรียบร้อยบินกลับถึงเมืองไทยทุ่มครึ่ง เอาคนอายุ ๙๐ ปีไปตะลอนแบบนั้น

ต้องบอกว่าเจ้าคุณพรหมสิทธิท่านเก่ง คือยังไม่มีใครทำเรื่องอย่างนี้ได้ เอาพระสังฆราชไปเกี่ยวกับงานการต่างประเทศของคณะสงฆ์ เห็นมีแต่ท่านนี่แหละ คราวนี้พระไทยเราที่ได้ใจคนเนปาลเยอะเพราะว่า นักบวชฮินดูเขาอาศัยชาวบ้านอย่างเดียว ของเรานี่ไปให้ชาวบ้านได้อาศัย เราแจกทั้งข้าวปลาอาหาร ทั้งเต็นท์นอน ทั้งน้ำดื่ม ทั้งยารักษาโรค"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2015 เมื่อ 20:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 10-06-2015, 18:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้ทองผาภูมิมีพระจบด็อกเตอร์รูปแรก ปีหน้าจะมีแม่ชีจบด็อกเตอร์รูปแรก วัดท่าขนุนทั้งนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2015 เมื่อ 20:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 11-06-2015, 13:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนอาตมาเป็นฆราวาส เจอผีกี่ตัวอัดกระจายหมด สมัยเป็นฆราวาสอยู่วัดท่าซุง อาตมามีอาชีพไล่ผี เพราะเขาส่งผีไปเยอะ เพื่อที่จะไปเล่นงานหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่นหลวงพ่อไม่ได้ก็เล่นพวกที่อยู่วัดแล้วเผลอ คนไหนโดนผีเข้า อาตมาย่องไปถึงนี่ออกทุกราย นับเป็นเรื่องที่แปลกมาก กะว่าจะฝากรักให้ชัด ๆ เลย แต่ว่าไม่มีร่องรอยอะไรเลย อัดตูม..ร่วงสลบคามือ เข้าไปดูปรากฏว่าไม่มีร่องรอยอะไรเลย ไม่เขียวไม่ช้ำ ไปช้ำอยู่ที่ผี แล้วพวกนั้นก็แปลก หลังจากที่โดนไปแล้ว ผีไม่เคยเข้าคนนั้นอีกเลย

ผีแท้ ๆ เลย เขาส่งมาเพื่อเล่นงานโดยเฉพาะ เพราะช่วงนั้นหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเป็นเป้าใหญ่ อันที่จริงคนเขาอยากเห็นเราดี แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้ เขาคิดว่าถ้าไม่มีหลวงพ่อแล้ว คนจะได้ไปวัดเขา อาตมาเลยมีอาชีพเล่นงานพวกผี เพราะจะให้พระไปลงไม้ลงมือก็ไม่ได้ คนอื่น ๆ ก็กลัว

เขาเห็นว่าวัดเขาไม่มีลาภผลอะไรเลย เพราะคนแห่ไปวัดท่าซุงหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดด้วยอวัยวะส่วนไหน ปัจจุบันนี้อาตมาก็โดนเหมือนกัน วันดีคืนดีก็มา มีอยู่ ๒ พวก พวกหนึ่งคืออยากรู้ว่าเก่งแค่ไหน ส่วนอีกพวกหนึ่งก็คิดแบบเดียวกันว่า ถ้าไม่มีอาจารย์เล็กเสีย คนจะได้ไปวัดเขาบ้าง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2015 เมื่อ 16:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 11-06-2015, 13:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยมคนหนึ่งซึ่งเพิ่งได้วัตถุมงคลที่อยากได้ไปว่า "ลองไปจับความรู้สึกตัวเองดู ว่าตอนที่อยากได้กับตอนนี้ต่างกันแค่ไหน ถ้าเราแยกแยะไม่ออก เราจะแก้ไขตัวเราเองไม่ได้ ต่อไปถ้าอารมณ์ใจของเรารับสิ่งดีหรือไม่ดีเข้ามา จะต้องแยกให้ออก

แล้วส่วนที่พึงจำไว้เลยก็คือว่า การแก้ไขต้องแก้ที่ตนเอง ไม่สามารถแก้คนอื่นได้ เราจะไปมองว่า คนอื่นทำอย่างนั้นกับเรา คนนี้ทำอย่างนี้กับเรา เราทำดีแล้ว ทำไมเขาทำกับเราอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้บรรลัยแน่ ต้องกล่าวโทษโจทย์ตัวเองไว้ก่อน อะไรเกิดขึ้นเราแก้ได้เฉพาะตัวเรา เราแก้คนอื่นไม่ได้หรอก ไม่ใช่ไปถึงก็..เธอต้องทำอย่างนั้นกับฉัน เธอต้องทำอย่างนี้กับฉัน ใครจะทำให้ ? ก็มีอย่างเดียวคือเราต้องแก้ไขที่ตัวเราเอง

การที่จะแก้ไขตัวเราเองได้ ความรู้สึกต้องไวพอ ตามอารมณ์ใจตัวเองได้ทัน เมื่อเราตามทัน สิ่งไหนดีก็รักษาไว้ สิ่งไหนไม่ดีก็ขับไล่ออกไป ระวังไว้อย่าให้เข้ามาอีก โอกาสก้าวหน้าในการปฏิบัติก็จะมี ไม่ใช่ถึงเวลาอยากได้ก็อยากสุดชีวิต พอได้มาก็พองแทบจะลอยลม ระวังจะลอยไปจนกู่ไม่กลับ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2015 เมื่อ 16:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 11-06-2015, 13:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เป็นโรคกระเพาะอักเสบครับ ?
ตอบ : กระเพาะอักเสบไปหาขมิ้นชัน ขมิ้นผงก็ได้ เดี๋ยวนี้เขามีแคปซูลเป็นผง ๆ กินก่อนอาหาร มื้อหนึ่ง ๒-๓ แคปซูล แล้วก็ไปหาพวกยาขับลมมาด้วย หัดใช้สมุนไพรไทยเสียบ้าง ไม่ใช่ใช้แต่ยาต่างประเทศ ลองดู ถ้าไม่ดีขึ้นเดี๋ยวมาเตะอาตมาได้..!

สมุนไพรขับลมนี่บ้านเรามีเยอะมากเลย แต่อย่าลืมขมิ้นชันนะ ของจำเป็นเลย กินก่อนอาหารสักครึ่งชั่วโมง จะลงไปเคลือบกระเพาะให้ ไม่อย่างนั้นถ้าคุณเป็นไปนาน ๆ มะเร็งจะรับประทาน ขมิ้นชันต่อให้คุณไม่เป็นแผลในกระเพาะ กินลงไปก็มีประโยชน์ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระมีมาก เพียงแต่พวกเราไม่ใช่พม่า ไม่ใช่คนใต้ ก็จะไม่ชิน เจอขมิ้นเข้าก็ตีหน้าประหลาด ๆ พวกพม่าพวกแขกนี่เขาคลุกข้าวกินกันเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2015 เมื่อ 16:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 11-06-2015, 13:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงการออกใบอนุโมทนาบัตรว่า "เรื่องเงิน..พระเราจำเป็นต้องรอบคอบ โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้เขาจะตรวจสอบบัญชีทุกวัด จะเอากระทั่งพระเสียภาษี ถ้าอยู่ ๆ มีตัวเลขแล้วเงินไม่มี แล้วเอาที่ไหนไปให้เขาตรวจ ?

บรรดา สปช.ชุดนี้ ต้องบอกว่าสร้างเวรสร้างกรรมกับคณะสงฆ์ใหญ่หลวงมาก เนื่องจากเหมารวมว่าพระเณรทั้งหมดไม่ดี แล้วก็ด่ากันมันปากตอนที่ตัวเองอภิปราย สรุปก็คือจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เขาด่าพระไปเรียบร้อยแล้ว ยังไม่รู้ว่ากรรมส่วนนี้จะทันตาเห็นหรือเปล่า ? แต่ต้องบอกว่าวจีกรรม มโนกรรมสำเร็จไปแล้ว เหลืออยู่อย่างเดียวก็คือกายกรรม จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ไหม ? ถ้าสามารถเปลี่ยนกฎหมายได้อย่างที่ตัวเองต้องการจริง ๆ กรรม
ก็สำเร็จทั้ง ๓ สถาน อาตมาหนักใจว่าแผ่นดินจะรับไหวไหม แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม เขาก็ด่าพระฟรีไปแล้ว"

ถาม : แต่เขาก็อยู่ในหน้าที่การปกครอง ?
ตอบ : นั่นเป็นการแสดงความคิดของเขาออกมาเองเลย ในเมื่อเป็นความคิดของตัวเองก็เป็นมโนกรรมของตัวเองเต็ม ๆ เลย ก็ในเมื่อพูดออกมาก็เป็นวจีกรรม จะบอกว่ามาโดยคำสั่งก็ไม่ใช่ เพราะคำสั่งคือให้ปฏิรูป ซึ่งแปลว่าเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ดีขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2015 เมื่อ 16:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 11-06-2015, 13:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไม่อยากออกไปหาความทุกข์ค่ะ
ตอบ : ไม่ต้องออก อยู่กับทุกข์นั่นแหละ เพียงแต่อย่าแบกทุกข์เอาไว้

ถาม : วางไม่เป็นค่ะ ?
ตอบ : วางไม่เป็นก็อย่าแบกสิ จะได้ไม่ต้องวาง ใช้คำว่า "ธรรมดา" ธรรมดาการเกิดมาต้องมีทุกข์เช่นนั้น เพราะฉะนั้น..ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีทุกข์เช่นนี้จะไม่มีกับเราอีก ถ้าเราสามารถออกจากกองทุกข์ได้ในชาตินี้ ไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดเพื่อมาทุกข์อีกนับชาติไม่ถ้วน การที่เราทุกข์ชาตินี้ก็แค่พักเดียวเท่านั้น ทำไมเราจะอยู่กับทุกข์นี้ไมได้ ก็แค่อย่าไปแบกเอาไว้เท่านั้น

ธรรมดา..ทำไม่ถูกใจเขาก็ต้องด่าเรา ธรรมดา..มีครอบครัวก็ต้องปวดหัว ธรรมดา..มีงานก็ต้องเครียด ให้เห็นธรรมดาให้ได้ พอเห็นธรรมดาก็แบกน้อยแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2015 เมื่อ 16:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 11-06-2015, 13:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การปฏิบัติควรเพ่งอะไร ?
ตอบ : การปฏิบัติธรรมหลัก ๆ ก็คือลมหายใจเข้าออก ตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออก สติจะอยู่กับปัจจุบัน เมื่อไม่ไปโหยหาอาลัยในอดีต ไม่ฟุ้งซ่านไปในอนาคต ความทุกข์ก็จะเหลือน้อยแล้ว ดังนั้น..ถ้าจะเพ่งก็คือเพ่งลมหายใจเข้าออกตัวเอง แต่อย่าไปเพ่งอย่างอื่น บางทีคุณใช้ศัพท์ที่เข้าใจคนเดียว พอพูดมาคนอื่นฟังแล้วก็งง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2015 เมื่อ 16:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 11-06-2015, 14:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ท่องกลอนของหลวงพ่อกัสสปมุนี วัดปิปผลิวนาราม ที่ระยอง ให้ฟัง พร้อมกับอธิบาย

"เราเนาว์สราญสุข................นิรทุกข์เกษมศานต์
เฉกเช่นลดาวัลย์.................สะพรั่งติด ณ แผ่นผา
ความครุ่นและกำหนัด............ก็สลัดไม่นำพา
วิเวกและเอกา....................ดุจะทิพย์ที่ลอยลม
ผิว์แม้นจักลอยล่อง...............ก็มิต้องอาลัยสม
บ่คิด บ่ปรารมภ์....................บ่มิห่วงอาลัยมี


สบายจะตาย

สถิตย์เหนือ ณ อาสน์เอี่ยม.....กระจ่างเยี่ยมจรัสศรี
ครั้นรัตติกาลมี....................ศศิส่อง ณ แนวไพร


อยู่กับธรรมชาติ ทำตัวสบาย ๆ

แม้พาหิรชน.......................จราจลและบรรลัย
เรามั่นสถิตย์ใน...................สุขธรรม บ่มิคลอน


ภายนอกจะทำอะไรก็เรื่องของเขา เรามีความสุขอยู่กับศีล สมาธิ ปัญญา ของเราก็แล้วกัน

แม้นใครมาพบเรา...............ก็จุ่งเนาว์จะสั่งสอน


ถ้าใครมาอยู่ด้วยก็จะสอนให้

ชี้ทางอันบวร.....................เสถียรสุขนิรันดร์เทอญ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2015 เมื่อ 16:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 11-06-2015, 14:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ใช้ความพยายามให้มากกว่านี้ อย่าทำตัวเป็นคนท้อแท้ง่าย เผชิญอุปสรรคเล็กน้อยก็ไม่ไหวแล้ว การจะก้าวข้ามกองทุกข์ต้องทุ่มเท ทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งใจ อย่างชนิดเกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่อย่างนั้นเราไม่สามารถที่จะสู้กระแสแรงกิเลสได้ ไม่สามารถจะต้านกำลังของวัฏสงสารได้ เพราะฉะนั้น..ไม่ใช่ทำแบบคนทั่ว ๆ ไป คนที่ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นต้องบ้าเลย..!

คนบ้ามักจะทำอะไรแบบไม่อาลัยไยดีกับชีวิต การไม่อาลัยไยดีกับชีวิตก็คือการตัดร่างกาย ซึ่งเป็นสังโยชน์ตัวใหญ่ คือสักกายทิฐิ ซึ่งเป็นที่อาศัยของกิเลสทุกประเภท ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ อาศัยร่างกายนี้ทั้งนั้นถึงสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ ในเมื่อเราเห็นแล้วแค่อย่าไปยุ่งด้วย กิเลสก็ไปไหนไม่รอดแล้ว นั่งดูเฉย ๆ ดูว่าจะทำอย่างไร ? โลภอยากได้ เราไม่ไปเอาเสียอย่าง กิเลสจะทำอะไรได้ ? รัก..ต้องการ เราไม่ตะเกียกตะกายไปหา กิเลสจะทำอะไรเราได้ ? โกรธก็นั่งมอง อยากโกรธก็โกรธไป ยิ่งเส้นเลือดในสมองแตกตายไปได้ยิ่งดี จะได้จบกันแค่นี้

เพราะฉะนั้น รัก โลภ โกรธ หลง เป็นคุณสมบัติของร่างกาย ในเมื่อเป็นคุณสมบัติของร่างกาย เราปฏิเสธเขาไม่ได้หรอก แต่อย่าไปปรุงแต่งให้เขา การปรุงแต่งคือไปคิดเพิ่ม คนนี้สวย ไม่สวย หล่อ ไม่หล่อ เป็นแฟนเราดีไหม ? ควงไปดูหนังฟังเพลงต้องมีความสุขอย่างนั้นอย่างนี้แน่เลย ปรุงเท่าไรก็ยิ่งยึดติดมากขึ้นเรื่อย ๆ

แต่ถ้าเราหยุดปรุง สักแต่ว่าเห็นเท่านั้น ก็แค่คนเหมือนกัน ดีไม่ดีไม่ได้นึกเสียด้วยซ้ำว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย สักแต่ว่าเป็นรูป สักแต่ว่าเป็นธาตุ ถ้าเจอหน้ากันก็แสดงว่ากระแสกรรมยังไม่พ้นกัน ก็สงเคราะห์กันไปตามหน้าที่ แต่พยายามระมัดระวังกาย วาจา ใจของเราไว้ แล้วอย่าไปสร้างกรรมอะไรที่ไปผูกพันกันขึ้นมา ถ้าเราทำอย่างนี้ ของใหม่ไม่มี กรรมเก่าก็ค่อย ๆ เช็ด ค่อย ๆ ล้างไป เดี๋ยวก็หมด เหมือนกับเก็บบ้าน สมมติหลังนี้เป็นบ้าน ใหญ่เบ้อเร่อเลย เก็บทีเดียวไม่เสร็จหรอก ต้องเก็บกวาดไปทีละมุม ถูไปทีละแผ่น เดี๋ยวก็ทั่วทั้งหลัง

เหมือนกับเราจะพิมพ์หนังสือ ก่อนที่จะเป็นหน้า ต้องพิมพ์ทีละตัว ประสมสระ ใส่วรรณยุกต์ มีตัวสะกด ออกมาถึงจะเป็นคำ จากคำก็เป็นประโยค จากประโยคก็เป็นบรรทัด จากบรรทัดก็เป็นย่อหน้า จากย่อหน้าก็เป็นครึ่งหน้า เป็นหนึ่งหน้า ไปจากอักษรตัวเดียวทั้งนั้น

อย่ารีบ..ค่อย ๆ ไป ใจเย็น ๆ แต่อย่าหยุด เลียนแบบเต่า เต่าเดินไปเรื่อย ก๊อกแก๊ก ๆ ไปเรื่อย เคยเห็นเต่าถอยหลังไหม ? ไม่มีหรอก ต่อให้ไปชนอุปสรรคก็เดินอ้อม เต่าไม่มีเกียร์ถอย ถึงเวลาเจอศัตรูปุ๊บหดปั๊บ ใครจะไปทำอะไรได้ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เก็บเกลี้ยงเลย ในเมื่อเก็บเกลี้ยง ไม่ยอมรับอารมณ์ภายนอกเข้ามา ใจตัวเองก็ผ่องใส พอพ้นภาวะนั้นขึ้นมา ยืดหัวยืดขาออกมาได้ก็เดินต่อ เพราะฉะนั้น..ให้เอาอย่างเต่า ไปช้า ๆ ไปเรื่อย ๆ แต่ไม่หยุด ขึ้นหน้าอย่างเดียว ไม่มีถอยหลัง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-06-2015 เมื่อ 13:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 13-06-2015, 17:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตกลงว่าเห็นทางหรือยัง ? ต้องเจาะไปเรื่อย พวกเราติดคุกด้วยกันทุกคนนั่นแหละ เป็นคุกที่กำแพงหนามากเลย ค่อย ๆ เจาะ ค่อย ๆ เคาะ ค่อย ๆ แคะไปเรื่อย เดี๋ยวก็ออกไปได้เอง แต่อย่าหยุดเสียก่อนแล้วกัน มัวไปท้อแท้วางมือ โอ๊ย..ไม่ไหวแล้ว ที่ไหนได้..กำแพงหนาหลายวา เราเจาะมาเหลือแค่คืบเดียว บอกว่าไม่ไหวแล้ว แล้วเราก็ไปวางมือ เป็นที่น่าเสียดายมาก

เห็นทุกข์ชัดขึ้น ก็ต้องทำอะไรได้ดีขึ้น ไขว่คว้าหามาแทบตาย เอาเข้าจริง ๆ แล้วเหมือนกับไม่ได้อะไรเลย แถมยังเพิ่มภาระขึ้นไปอีก

แค่มองดู แค่ชื่นชม อย่าคิดไปไขว่คว้าเป็นเจ้าของ ภาระจะไม่มี เบากว่ากันเยอะเลย ใครทำดีก็ยินดีด้วย ใครทำไม่ดีก็ เออหนอ..หนทางเขายังอีกยาวไกล ถ้ามีโอกาสเราจะแนะนำทางที่สั้น ๆ ให้เขาเสียหน่อย

การไขว่คว้าหามาคือการยึดติด คนที่ยึดที่เกาะไปไหนไม่ได้หรอก ก็ติดอยู่ตรงนั้น ถามว่าปล่อยวางแล้ว
การดำรงชีวิตเราจะอยู่อย่างไร ? ต้องปล่อยวางอย่างคนมีปัญญา วางออกจากใจก่อน ตราบใดที่เรายังมีร่างกายอยู่ ก็ต้องกินต้องใช้เป็นปกติ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เป็นลูกก็ทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด เป็นสามีภรรยา ทำหน้าที่สามีภรรยาให้ดีที่สุด เป็นพ่อเป็นแม่ ทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีที่สุด เป็นลูกน้อง ทำหน้าที่ลูกน้องให้ดีที่สุด เป็นเจ้านาย ทำหน้าที่เจ้านายให้ดีที่สุด

แต่เราทำแค่วันนี้เท่านั้น หลังจากวันนี้ไม่มีสำหรับเรา ในเมื่อเป็นเช่นนั้น วันนี้เท่ากับเป็นวันสุดท้ายในชีวิต เราก็ทำให้ดีที่สุด เมื่อถึงเวลาได้จากไปอย่างสง่างามที่สุด ตอบตัวเองได้ทุกกรณี เพราะเราทำเต็มที่ในทุกหน้าที่แล้ว เราไม่มีอะไรต้องห่วงต้องใยแล้ว ถ้าถึงเวลาเขาไม่สามารถเอาตัวรอดได้ ก็แสดงว่าเขามีเวรมีกรรมเฉพาะของตัวเอง เราก็..บ๊าย..บาย..ไปแล้ว มีโอกาสจะช่วย รักนะจุ๊บ ๆ รีบเผ่นไปเลย

ส่วนใหญ่แล้วเราไปแบกเขา เหมือนกับว่าถ้าไม่มีเราแล้วเขาอยู่ไม่ได้ คนเรามีบุญรักษา มีกรรมรักษา ต่อให้ไม่มีใครเลยเขาก็ต้องอยู่ได้ เอ้า..พอแล้ว กินเยอะไปเดี๋ยวย่อยไม่ไหว ถ้าให้พูดก็พูดไปได้เรื่อยแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2015 เมื่อ 20:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 13-06-2015, 17:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ศีลที่บอกว่าพระรับเงินแล้วเป็นอาบัติ ทำไมหรือคะ ?
ตอบ : เกิดจากทางด้านพระท่านรับแล้วไปติด ดูในวินีตวัตถุของวินัยปิฎกก็ได้ พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้แล้วว่าเหมือนกับอสรพิษ เพราะว่าส่วนใหญ่รับไปแล้วถ้าไม่รู้จักประมาณตัวเอง ก็จะกลายเป็นไปยึดติดในวัตถุแทน คราวนี้ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนก็คือว่า ให้เอาลงเป็นกองกลาง ไปทำบุญทำกุศลให้กับเจ้าของเดิม

ถาม : คือรับก็ได้ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วรับเมื่อไรก็ผิดเมื่อนั้น เพียงแต่ว่าต้องทำให้ถูก คือรับมาแล้วก็อย่าคิดว่าเป็นของตัวเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2015 เมื่อ 20:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 13-06-2015, 18:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คุณเต้ยเห็นหลวงพี่เอจึงรีบเข้าไปร่วมทำบุญปิดทองประดับเพชรสมเด็จองค์ปฐมวัดท่าขนุน

พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "ไปปิดเองเลย เขาเรียกพวกฉวยโอกาส เป็นการกระทำที่น่าสรรเสริญ ไม่ได้ตำหนิ แต่บอกว่าน่าสรรเสริญ เห็นบุญให้ทำไว้ก่อน ถ้าตามมติของหลวงพ่อสมเด็จพระสังฆราช ญาโณทยมหาเถระ วัดสระเกศ ท่านบอกว่า ตราบใดที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ บุญเป็นสิ่งจำเป็น ต้องเร่งขวนขวายให้มากไว้ เพราะบุญส่งผลในด้านดีเพียงส่วนเดียว แต่คราวนี้เราไม่ได้ทำบุญตลอด เราทำบาปด้วย ถึงเวลาเจอบาปสนองก็ร้องโอดโอยกัน แต่ตอนทำบาปไม่คิด พระพุทธเจ้าถึงตรัสว่า ตราบใดที่ความชั่วยังไม่ส่งผล คนพาลก็คิดว่าเป็นสิ่งหอมหวานที่ควรแก่การกระทำ ส่งผลเมื่อไรเป็นร้องจ๊าก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2015 เมื่อ 20:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 13-06-2015, 18:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตลอดสังสารวัฏอันยาวไกลที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่ เราก็เคยเป็นเหมือนเขามาก่อน ถ้าเห็นข้อบกพร่องของเขา โปรดทราบว่านั่นคือทายาทที่เราทิ้งเอาไว้ เพราะฉะนั้น..ถ้าเป็นไปได้ก็จงอนุเคราะห์สงเคราะห์เขาเถิด ไปไข่ทิ้งไว้เองแล้วไปโทษใครได้ เขาเป็นคนรับช่วงกรรมของเรา ก็เท่ากับคือทายาทของเรา กัมมะทายาโท ทายาทของการกระทำ

ทายาท แปลว่า ผู้ควรแก่การรับมรดก เพราะฉะนั้น..กรรมทายาท เป็นผู้รับมรดกของกรรม เราเคยทำอะไรไม่ดีไว้ ถึงเวลาเขามาทำตาม ก็เท่ากับเขารับช่วงไปจากเรา จะไปโกรธไปเกลียดลูกหลานทำไม ? สงเคราะห์ได้ก็สงเคราะห์ไป ถ้าสงเคราะห์ไม่ได้ จะตีลูกตีหลานบ้างก็คงไม่มีใครว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2015 เมื่อ 20:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 13-06-2015, 18:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์สนทนากับผู้สูงอายุ "เราดีตรงที่ว่า เมาวัยไม่มีแล้ว เมาว่าร่างกายไม่เจ็บป่วยก็ไม่มีแล้ว พระพุทธเจ้าท่านถึงตรัสว่า ถ้ายังมีการเมาแบบนี้อยู่ โอกาสที่จะไปพระนิพพานก็ไม่มี

เมาวัย เห็นว่าร่างกายเป็นหนุ่มเป็นสาว แข็งแรงยินดีและพอใจ เมาว่าร่างกายไม่มีโรค ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย แข็งแรง อันนี้ของเรานั้นเห็นชัด วัยก็ล่วงเลยมาขนาดนี้แล้ว เจ็บไข้ได้ป่วยก็ป่วยมาพอแรงแล้ว ถ้ายังเห็นว่าดีอีก ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรแล้ว

ในเมื่อไม่มีความเมาพวกนี้ มัทนิมมัทนัสสะ ตัดเสียซึ่งความเมา ในเมื่อตัดเสียซึ่งความเมาได้ โอกาสจะไปนิพพานก็มี มัทนิมมัทนัสสะ นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ ในเมื่อละเสียซึ่งความเมา ก็ย่อมทำพระนิพพานให้แจ้งได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2015 เมื่อ 20:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 13-06-2015, 18:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเป็นที จำอะไรไม่ได้เลย ?
ตอบ : อย่าไปกังวลกับเรื่องพวกนั้น เพราะยังมาไม่ถึง หน้าที่ของเราก็คือรักษาสภาพจิตปัจจุบันของเราให้ผ่องใสที่สุด เกาะพระไว้เป็นปกติ หลังจากนั้นแล้วจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ทำตอนนี้ให้ดีที่สุด

ถาม : เวลามา ก็มาสนั่นเลย ?
ตอบ : เรื่องปกติ เวลาเราทำเขา เราก็ทำแบบนั้นแหละ ตอนนี้รับกลับมา ก็ต้องมาอย่างนี้แหละ จะได้รู้ว่ากรรมเป็นของน่ากลัว เกิดเมื่อไรก็เจอแบบนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดแบบนี้จะเอาอีกไหม? ถามตัวเองได้ตลอดเวลาเลย

ถาม : ฉันนี่ไม่เอาเด็ดขาด ชีช้ำกะหล่ำปลี เดี๋ยวคนนี้ตาย คนนี้ตาย ?
ตอบ : เขาเรียกว่าวัยวิกฤต ลูกหลานก็วัยรุ่น คุมไม่อยู่ กำลังแหกคอกระเบิดเถิดเทิง ส่วนคนรุ่นเดียวกันหรือคนแก่ก็ตายเอา ๆ เด็กเขามีวิกฤตวัยรุ่น ผู้ใหญ่ก็วิกฤตวัยทอง เห็นเขาตายเดี๋ยวเราก็เป็นแบบนั้นแหละ แต่ เราตายแล้วเราจะไม่เกิดแล้วนะ ให้ตั้งใจไว้

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ก็รักษาไปตามแผน ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ทำเต็มที่แล้ว ถ้าหากว่าเอาไม่อยู่ ท่านก็ไปของท่านเถอะ เราก็ไปของเรา ไม่รู้ว่าใครจะไปก่อนด้วยซ้ำไป ไปนึกถึงหลวงปู่ทองเทศ อายุ ๘๐ ปีแล้วมาขอบวช ปี ๒๕๒๑ มาขอบวชกับหลวงพ่อวัดท่าซุง เอาเงินถวายหลวงพ่อไว้ ๓,๐๐๐ บาท ยุคนั้นถือว่าเยอะนะ เพราะทองบาทหนึ่ง ๒,๐๐๐ กว่าบาทเอง กราบเรียนหลวงพ่อว่า “ถ้าผมตายช่วยเผาผมด้วยนะครับ” เพราะท่าน ๘๐ แล้ว หลวงพ่อท่านก็หัวเราะ “ไม่รู้ใครจะเผาใคร” แล้วก็จริง ๆ หลวงพ่อมรณภาพตั้งหลายปี หลวงปู่ทองเทศถึงจะไป ท่านอยู่เสีย ๑๐๓ ปี

ถาม : เมื่อเช้าฝันว่าหลวงปู่บุดดามาที่นี่ ?
ตอบ : มีอยู่วันหนึ่งอาตมากำลังธุดงค์อยู่ หลวงปู่ท่านมาสว่างเชียว แล้วท่านก็บอกว่า "ภาระที่ฝากไว้ช่วยรับด้วยนะ หลวงปู่ไปแล้ว" อาตมาก็อ้าว..แล้วตูจะไปงานอย่างไรวะ ? ยังอยู่กลางป่าอยู่เลย แล้วก็เหมือนกับท่านขอขี่หลัง อาตมาก็แบกท่านเดิน เท่ากับว่าภาระส่วนหนึ่งของท่านอาตมาก็รับไปแล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2015 เมื่อ 20:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 13-06-2015, 18:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าจะนึกถึงพญานาค จะเป็นเทวตานุสติหรือเปล่า ?
ตอบ : ถ้านาคที่เป็นลูกน้องของท้าวมหาราชก็เป็นเทวดา แต่ถ้านาคทั่วไปก็เป็นเดรัจฉานกึ่งทิพย์ ไปนึกถึงท่านเดี๋ยวก็ได้ไปเกิดเป็นนาคเท่านั้น

ถาม : ถ้าใจนึกถึงภาพพระ แต่ภาพไม่ใช่องค์เดิมที่นึก ?
ตอบ : ไม่เป็นไร เพราะนึกถึงพระ ต่อให้ไม่ใช่องค์เดิมก็เป็นอนุสติเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2015 เมื่อ 20:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 13-06-2015, 18:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำอย่างไรอวัยวะภายในจึงจะแข็งแรง ?
ตอบ : ต้องสวดมนต์อย่างเดียว เวลาสวดมนต์เป็นการบริหารอวัยวะภายในไปด้วย คนที่อวัยวะภายในแข็งแรงมักจะอายุยืน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2015 เมื่อ 20:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 13-06-2015, 18:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เงินที่เราเสียภาษีแต่ละปี ถือว่าเป็นกุศลไหมครับ ?
ตอบ : เป็นการสร้างกุศลทางอ้อม ส่วนใหญ่เราจะไม่ได้นึกถึงตรงจุดนี้ ในเมื่อไม่ได้นึกถึงตรงจุดนี้ เจตนาในการที่เราจะทำประโยชน์นั้นไม่มี ก็เลยไม่มีอานิสงส์ไปด้วย

ถาม : ถ้าผมคิดว่าผมได้บุญ ?
ตอบ : ได้..เพราะอย่างน้อยก็เอามาพัฒนาประเทศเราเอง เราก็ได้อานิสงส์ไปด้วย

ถาม : ส่วนใหญ่เขาจะคิดว่าเสียประโยชน์ ผมเลยมาคิดใหม่ ?
ตอบ : คิดใหม่ เราเต็มใจจะเสียเพื่อช่วยพัฒนาประเทศ ถ้าอย่างนั้นได้บุญแน่ ไหน ๆ จะเสียแล้วก็ต้องเอาคืนบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2015 เมื่อ 20:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:47



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว