|
ซัวสะเดย..เนียงลออ ซัวสะเดย..เนียงลออ โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#81
|
||||
|
||||
เล่าถวายเรื่องการศึกษาของพระภิกษุสามเณรในเมืองไทย พระองค์ตรัสว่ากัมพูชามีพระภิกษุสามเณรประมาณ ๕๐,๐๐๐ รูป (ข้อมูลตรงนี้มากเกินไปจนน่าสงสัย) เพราะเป็นประเทศเล็ก มีประชากรประมาณสิบล้านคน จึงไม่ได้มีพระภิกษุสามเณรมากเหมือนเมืองไทย พระสงฆ์แบ่งเป็นสองนิกายเหมือนไทย การศึกษาของพระสงฆ์มีมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาพระสีหนุราชที่สอนถึงระดับปริญญาโท แต่พระภิกษุสามเณรที่มีกำลังส่วนหนึ่ง เข้าไปศึกษาในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยของไทย... อาตมากราบทูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการศึกษาของพระภิกษุสามเณรของไทย แบ่งออกเป็นการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ซึ่งเรียนถึงเปรียญธรรม ๙ ประโยค แผนกธรรม เรียนถึงนักธรรมชั้นเอก และแผนกสามัญเรียนถึงระดับปริญญาเอกแล้ว ทางคณะสงฆ์กำลังหาทางสนับสนุนให้เปิดกองวิปัสสนาธุระ เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสามเณรและญาติโยมทั่วประเทศ... |
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#82
|
||||
|
||||
สิ่งที่ตอบมาทำเอา "ล่าม" ถึงกับตะลึง..! คุณอารีแปลแบบติด ๆ ขัด ๆ เนื่องจากเป็นศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย ที่ตลกก็คือเรียกพระองค์ท่านว่า "โลกตา" เป็นเพราะแปลความผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? เมื่อพระองค์ตอบกลับมาคุณอารีถึงกับตะลึง มองหน้าอาตมาเหมือนกับถามว่าจะแปลดีหรือไม่ ? อาตมาที่พอฟังทันบ้างจึงพยักหน้าให้แปลไปเลย คนอื่น ๆ จะได้รู้ว่าตรัสอะไร คุณอารีจึงแปลสิ่งที่พาทุกคนตะลึงไปด้วย..! "อย่าเพิ่งไปตั้งอะไรใหม่เลย แค่ของเก่าที่มีอยู่ก็เรียนให้ดีแล้วสอนชาวบ้านให้ดีเถอะ จะได้ไม่มาระรานเพื่อนบ้านอย่างที่ผ่านมา ถ้ายังเป็นรัฐบาลอภิสิทธิ์อยู่ผมจะไม่ต้อนรับคณะของท่านเลย ยังดีที่ตอนนี้เป็นรัฐบาลของนายกฯ ยิ่งลักษณ์แล้ว..!" |
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#83
|
||||
|
||||
"แล้วพระองค์ทราบได้อย่างไรว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ?" ฮ่า..ปีที่แล้วตอนไปร่วมงานวิสาขบูชาโลก พระองค์ท่านก็ "ปรี๊ดแตก" ใส่นักข่าวไทยที่ไปถามว่า "ทางคณะสงฆ์กัมพูชามีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาเขาพระวิหารอย่างไรบ้าง ?" คุณอารีทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ บอกว่า "กลับเถอะ" เฮ่ย..เรื่องแค่นี้ทำเป็นจะตาย ถ้ากลัวก็นั่งเฉย ๆ ที่เหลือตูลุยเองก็ได้..! คุณอารีจึงกัดฟันแปลต่อไปดังนี้... "เกล้าฯ ก็ไม่ทราบว่าทรงรับข้อมูลมาจากทางไหน รัฐบาลทุกประเทศต่างก็ต้องพูดถึงตนเองในด้านที่ดี มักจะเอาความไม่ดีไปโยนให้ประเทศอื่น เพื่อรักษาฐานเสียงและกระแสสนับสนุนจากประชาชนของตน บางประเทศโกหกประชาชนแบบหน้าด้าน ๆ ก็มี..!" "ทำไมผมจะไม่รู้ ? ผมดูข่าวโทรทัศน์อยู่ทุกวัน..!" "แล้วพระองค์ทราบได้อย่างไรว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ? ต่อให้ได้ข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายใครจะรับรองได้ว่าเป็นความจริง ? ปัจจุบันนี้การเข้าถึงข้อมูลทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรือ อินเตอร์เน็ต แต่การเข้าถึงความจริงกลับเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะต่างฝ่ายก็พูดเฉพาะเรื่องที่ทำให้คนอื่นมองว่าตัวเองเป็นคนดีเท่านั้น" |
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#84
|
||||
|
||||
"เกล้าฯ ขอประทานโอกาสยุติเพียงนี้" "ผมมั่นใจว่าประชาชนเขมรรักความสงบ ไม่ไปรังแกใครก่อนอย่างแน่นอน" "ถูกต้องขอรับ แต่ทหารเขมรรักสงบเหมือนประชาชนหรือเปล่า ? เพื่อรักษาฐานเสียงของตนที่ตกต่ำ วิธีที่ดีที่สุดก็คือกระตุ้นความชาตินิยมของประชาชนขึ้นมา แล้วอะไรจะเรียกเลือดรักชาติได้ดีกว่าการสร้างสถานการณ์ว่าอีกฝ่ายรุกล้ำชายแดนละขอรับ..?" "พระอาจารย์..กลับเถอะ" "ผมก็ต้องเชื่อเรื่องที่คนของผมพูด จะให้ไปเชื่อเรื่องที่คนอื่นพูดได้อย่างไร ?" "ถูกต้องอีกแล้วขอรับ เกล้าฯ ดีใจที่ได้มาเฝ้าพระองค์ซึ่งมีความรักชาติรักแผ่นดิน สมกับเป็นพระเถระที่เป็นหลักชัยของบ้านเมือง ถ้ามีโอกาสเกล้าฯ จะนำเรื่องนี้ไปแจ้งต่อผู้มีอำนาจในเมืองไทย ว่าพระองค์มีดำริเช่นนี้ พระพุทธเจ้าไม่ทรงสนับสนุนให้พูดคุยกันในเรื่องการเมือง เกล้าฯ จึงขอประทานโอกาสยุติเพียงนี้ กราบขอบพระเดชพระคุณที่อนุญาตให้เข้าเฝ้าในครั้งนี้ขอรับ" |
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#85
|
||||
|
||||
"ถอดรูป" เสร็จ ออกมาก็นินทากันใหญ่..! อาตมาขออนุญาต "ถอดรูป" ร่วมกับพระองค์ท่าน ซึ่งรู้สึกว่าจะได้คิดและเริ่มเย็นลงแล้ว พวกเราทุกคนจึงได้รับอนุญาตให้ถ่ายรูปด้วยดี พอกราบลาออกมาขึ้นรถได้ คราวนี้เสียงนินทาก็กระหึ่มไปทั้งรถ มีทั้งประเภท "หัวรุนแรง" "เล่นการเมือง" ฯลฯ ซึ่งจะไปว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะในยุคเขมรแดงพระองค์เคยโดนการเมืองเล่นเอาปางตายมาแล้ว..! "กลับกันหรือยัง ? โกเฮงมารออยู่นานแล้ว" พี่ปราณีโทรมาตาม คุณณรงค์จึงต้องรีบพาพวกเรากลับบ้าน ยี่สิบกว่านาทีก็มาถึง พี่ปราณีก็รีบนำอาตมาขึ้นไปชั้นบน บอกว่า "โกเฮงมารอนานแล้ว ตั้งท่าจะกลับหลายที พี่ต้องดึงตัวเอาไว้ มีอะไรหลวงพี่ถามให้หมดเลยนะ" นับเป็นความเมตตาและหวังดีของพี่เขา ถึงอาตมาจะพอรู้อะไร ๆ บ้าง แต่บางเรื่องก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างโกเฮงจัดการให้จะดีกว่า... |
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#86
|
||||
|
||||
เขียนวันเดือนปีเกิดเป็นภาษาอังกฤษให้โกเฮง หนุ่มใหญ่นักดูฮวงจุ้ยระดับนานาชาติ นั่งรออยู่ที่ชั้นสองตรงโต๊ะทำงานของพี่ปราณี วันนี้มาในชุดเสื้อยืดคอปกสีเปลือกมังคุดและกางเกงขายาวสีดำ ยกมือไหว้แล้วยังจับมือจับไม้ด้วยด้วยความยินดีที่ได้พบกันอีก โกเฮงเชื่อว่าดวงของอาตมาสัมพันธ์กับดวงของตัวเอง ถ้าอาตมาเจริญก็จะพาโกเฮงเจริญไปด้วย จึงเต็มใจเสมอเมื่ออาตมาซักถามเรื่องอะไรที่จะสร้างความเจริญให้แก่ตนเอง ดังนั้น..พอนั่งลงแล้วอาตมาถึงถามเรื่องฤกษ์ในการวางศิลาฤกษ์ศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย ที่ตั้งใจสร้างถวายในวาระครบ ๑๐๐ ปีเกิดของหลวงปู่ ว่าควรที่จะทำในวันเดือนปีอะไร ? โกเฮงถามวันเดือนปีเกิด อาตมาเขียนให้เป็นภาษาอังกฤษ ทำเอาบรรดากองเชียร์ที่นั่งกันหน้าสลอนสงสัย จึงต้องบอกว่าโกเฮงพอจะพูดภาษาไทยได้ก็จริง แต่เขียนภาษาไทยไม่ได้เลย ได้แต่ภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ท่านซินแสดันลืมเอาแว่นตามาด้วย อาตมาจึงถอดของตัวเองส่งไปให้ คาดว่าน่าจะใช้ได้เพราะอายุห่างกันไม่กี่ปี ซึ่งก็ใช้ได้จริง ๆ... ดูแล้วดูอีก ทวนแล้วทวนอีก ในที่สุดโกเฮงก็แจ้งให้ทราบว่า ฤกษ์ดีที่สุดของอาตมาในการวางศิลาฤกษ์ ก็คือช่วงระหว่าง ๐๕.๓๐ น. ถึง ๗.๓๐ น. ของวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๖ ปีหน้าโน่น ส่วนข้าวของต่าง ๆ นอกจากไม้มงคล ๙ อย่างแล้ว ต้องมี "โหงวจี้" หรือธัญพืช ๕ ชนิดเพื่อความงอกงามไพบูลย์ ทองคำและเงินเพื่อความร่ำรวย ใบส้มโอเพื่อความร่มเย็นและมีชื่อเสียงฟุ้งกระจาย น้องเล็กทำหน้าที่เลขานุการส่วนตัว จดรายละเอียดยิก ๆ เพราะอาตมาไม่ค่อยใส่ใจ เดี๋ยวก็มีการลืมอีก เสร็จแล้วอาตมามอบพระนาคปรก (นาคขอม) ฉลอง ๒,๖๐๐ ปีพุทธชยันตี องค์เล็กเนื้อเงินให้โกเฮงเป็นที่ระลึก พี่ปราณีกับพี่วิไลเห็นเข้าก็แบมือขอบ้าง... |
สมาชิก 100 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#87
|
||||
|
||||
แก่พอกันเลยใส่แว่นแทนกันได้ จากนั้นบรรดากองเชียร์ก็ล้อมพรึ่บเข้าไปจนโกเฮงกระดิกไม่ได้ แม้ทางบ้านจะโทรมาตามก็ไม่มีสิทธิ์กลับ ต้องยอมทำนายทายทักให้ทุกคนแต่โดยดี ของพี่ปราณีกับพี่วิไลยกไว้ เพราะว่าถามบ่อยมาก ของน้องเล็กกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจะไปร่ำรวยมากในอีกไม่นาน ของแม่ป๋อมเหมือนทองคำตกน้ำ ทองคำต้องโดนไฟหลอมถึงจะมีการเปลี่ยนแปลง ไปตกน้ำแบบนี้ไม่จำเป็นอย่าไปทำอะไรเลย แค่ที่มีอยู่ก็พอกินพอใช้ไปตลอดชีวิตแล้ว... ส่วนของพี่มุกดา ป้ามอยและลูกปุ๊ก ดวงชะตาค่อนข้างธรรมดาแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ไม่มีอะไรหวือหวา อาตมาแกล้งถามว่าเมื่อไรจะอ้วนบ้าง ? โกเฮงกลับตอบแบบจริงจังว่า อาตมาเกิดธาตุไม้ แต่เวลาตกฟากเป็นธาตุไฟสูงสุด จึงต้องแห้งกรอบแบบนี้ไปจนกว่าอายุ ๖๐ ปี ถึงตอนนั้นธาตุน้ำหมุนมาช่วยหนุน ไม้เจอน้ำถึงจะเจริญงอกงาม นอนเฉย ๆ ก็อ้วนได้เอง..! ตกลงว่างานนี้โกเฮงต้องดูดวงการกุศล ปกติแล้วการดูดวงแต่ละคนโกเฮงคิดครั้งละ ๕,๐๐๐ บาท งานนี้ดูไป ๖ คนได้พระไปองค์เดียว แต่ก็เต็มอกเต็มใจบริการให้ หลังจากเมียโทรตามประมาณครั้งที่ ๑๐ โกเฮงก็ขอตัวกลับบ้าน อาตมาสั่งว่าถ้าไปเมืองไทยก็ให้ส่งข่าวด้วย สร้างศาลาเสร็จเมื่อไรจะให้ไปดูสถานที่ตั้งพระประธานอีกที... อำลากันแล้วอาตมาก็กลับขึ้นที่พัก เพิ่งสรงน้ำเสร็จพี่วิไลก็มาหา ขอร้องให้ช่วย "ฟื้น" กรรมฐานให้หน่อย เพราะทิ้งมานานจนสนิมขึ้นหมดแล้ว อาตมาทั้งที่เหนื่อยจนแทบหลับตาเดิน ก็ต้องช่วยนำกรรมฐานจนกำลังใจของพี่เขาทรงตัว แล้วปล่อยให้ภาวนาเองอยู่ในห้องพระ ตัวเองหลบกลับมานอน ส่งใจไปกราบพระ แผ่เมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย แล้วตัดหลับไปอย่างรวดเร็ว... |
สมาชิก 91 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|