ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 11-06-2023, 01:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,434 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเสร็จจากการประชุมแล้ว ยังได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อพระครูโสภิตปัญญากร ท่านถวายไทยธรรมมารูปละ ๒ ห่อใหญ่ แล้วยังไม่พอ มีการถวายค่ารถกลับมาด้วย ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ได้บอกกล่าวแก่เจ้าภาพในการประชุมครั้งต่อไปว่า ถ้าหากว่าจะรับรองเพื่อนพระอุปัชฌาย์ ก็แค่ถวายอาหารเพลมื้อเดียว แล้วในระหว่างนั้น จะเป็นน้ำชากาแฟอะไรก็ไม่ว่า แต่ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องหาปัจจัยไทยธรรมมาถวายกันในลักษณะอย่างนี้ เพราะว่าทุกท่านล้วนแล้วแต่มีภาระ มีกิจการงานที่ต้องรับผิดชอบ ถ้ามาถวายไทยธรรมเพื่อนพระอุปัชฌาย์ในลักษณะอย่างนี้ก็จะสิ้นเปลืองมาก

โดยเฉพาะวันนี้ที่มีปัจจัยไทยธรรมด้วย ก็เพราะว่าเป็นงานบูรพาจารย์ของวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) ซึ่งหลวงพ่อพระครูโสภิตปัญญากร เจ้าภาพการประชุมครั้งที่ ๑ ของทุกปี นิมนต์พวกเราซึ่งเป็นเพื่อนฝูงมาเป็นเนื้อนาบุญให้ท่านได้ถวายปัจจัยไทยธรรม เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบูรพาจารย์ของวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) จึงมีไทยธรรมถวายให้มากมาย แต่ว่าท่านอื่น ๆ ที่เป็นเจ้าภาพนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องจัดถวายแบบนี้

แบบเดียวกับที่ไปยังวัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพก็ถวายภัตตาหารเพล โดยสั่งให้ไปฉันเพลกันที่ครัวแปดริ้ว ซึ่งมีเพื่อนฝูงบางท่านเรียกหากุ้งเผา กระผม/อาตมภาพก็เลยโบกไปทีหนึ่ง บอกว่า "มาป่าดันร้องหากุ้งเผา ไม่ใช่ทะเลครับ" ว่าแล้วก็สั่งกบภูเขาทอดกระเทียมพริกไทยให้ ปรากฏว่าฉันกันอย่างภาษาโบราณเรียกว่า "กินแบบแหกหม้อแหกไห" ก็คือสั่งเพิ่มแล้วเพิ่มอีก เพราะไม่นึกว่ากบทอดกระเทียมพริกไทยจะอร่อยได้ขนาดนี้ เป็นต้น เราก็รับรองเพื่อนฝูงกันในลักษณะแค่นี้เท่านั้น ไม่ได้มีอะไรมากมายไปกว่านี้ แล้วก็เข้าสู่วาระการประชุม

ดังนั้น..เพื่อนพระอุปัชฌาย์ท่านใดก็ตามที่ฟังบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ถ้าหากว่าหนักใจ คิดว่าเมื่อถึงคิวจะรับเป็นเจ้าภาพแล้ว ต้องมีค่าใช้จ่ายมาก ขอให้ทราบว่า แค่เลี้ยงเพื่อนด้วยข้าวกล่องคนละกล่องก็พอแล้ว ถ้าหากว่ามีน้ำใจ จะเลี้ยงน้ำ เลี้ยงกาแฟอะไรมากไปกว่านั้น ก็แล้วแต่ท่านว่าจะสามารถบริหารจัดการอย่างไรได้

เราเอาเงินในส่วนที่เหลือไปช่วยเหลือสาธารณประโยชน์ ตามที่กลุ่มองค์กรของเราได้กำหนดเอาไว้เป็นสัญญัติของทางด้านองค์กรของเราดีกว่า เพราะว่าถ้าหากว่าเอามาถวายเพื่อนกันจนหมดแล้ว ส่วนที่จะเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมกันจริง ๆ เพื่อที่จะให้เป็นงานขององค์กรพระอุปัชฌาย์ของเรา ก็จะลดน้อยถอยลงไปอย่างน่าเสียดาย

เมื่อเสร็จจากการประชุมแล้ว มีการถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก หลังจากนั้นก็กราบลา นัดกันอย่างดิบดีว่า ครั้งหน้า การประชุมสามัญครั้งที่ ๒ ช่วงปลายปี เราจะหาเพื่อนพระอุปัชฌาย์ในกรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพกันบ้าง ลองไปล้มทับเพื่อนในกรุงเทพฯ ดูว่า จะสามารถจัดการประชุมได้ดีเหมือนเพื่อนต่างจังหวัดที่ผ่าน ๆ มาหลายปีหรือไม่ ?

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2023 เมื่อ 01:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา