กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 21-08-2013, 19:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้ดวงอาตมาราหูทับลัคน์ อะไร ๆ ก็แห่กันมาทีเดียว งานก็เยอะ เงินก็เยอะ โรคก็เยอะ เยอะไปหมด ถ้าเราพิจารณาว่า การมีชีวิตอยู่แม้จะต้องทนลำบากขนาดไหนก็ตาม ไม่เกิน ๑๐๐ ปีก็ตายแล้ว ถ้าสามารถตัดชาติตัดภพได้อย่างไรก็คุ้ม ไม่อย่างนั้นก็ต้องเวียนตายเวียนเกิดอีกนับชาติไม่ถ้วน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2013 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 21-08-2013, 19:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ส่วนใหญ่พุทธภูมิที่ผมรู้จัก เขาจะคิดหรือทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านครับผม เป็นเพราะเรายังไม่เข้มหรือครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่...ถ้าทำเหมือนชาวบ้านก็เป็นสาวกภูมิคือตาม ๆ เขาไป ฉะนั้น..พุทธภูมิไม่เหมือนเขาหรอก ทางมีไม่เดิน ชอบหักร้างถางพงเอง เลยค่อนข้างจะเพี้ยน ๆ ในสายตาคนปกติเขาหน่อย

ถาม : อะไรที่คนเขาว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เขาทำได้ ?
ตอบ : ที่ว่าเป็นไปไม่ได้นั้นเป็นกำลังใจของคนอื่น แต่กำลังใจของท่านเรื่องแบบนี้ง่ายนิดเดียว ต่อให้ชาตินี้ไม่เสร็จ ชาติหน้าก็ทำต่อได้ เรามีอารมณ์อย่างนั้นหรือเปล่า ?

ถาม : กระผมก่อนจะสนิทกับใคร ผมจะต้องไม่ถูกชะตาเขาก่อน หรือเกลียดขี้หน้าเขาก่อน ท้าดวลก่อน จึงจะให้ความเคารพเขา หรือสนิทกับเขา เป็นสันดานเก่าหรือครับ ?
ตอบ : สันดานทรพี..! เจออะไรก็ชนดะไปก่อน ไม่มีอะไรจะชน ชนกับจอมปลวกก็เอา ไปดูตามภาคอีสาน ตามท้องนา ไม่มีอะไรก็ขวิดกันเอง หาคู่ขวิดไม่ได้ก็ขวิดจอมปลวก

ถาม : อย่างเพื่อนรักก็อย่างเดียวกันใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ต่อยตีไม่รู้จักกัน ภาษิตจีนเขาบอกไว้ชัดแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2013 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 23-08-2013, 15:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า "ถวายดอกไม้บาน ๆ แบบนี้ ก็จะได้ประมาณท่านอาจารย์มิตซูโอะ คู่นี้ผู้ชายอายุ ๖๓ ปี ผู้หญิงอายุ ๕๒ ปี ยังไม่ถือว่าไกลนะ เมื่อหลายปีก่อนมีผู้ชายอายุ ๗๓ ปี ผู้หญิงอายุ ๘๒ ปี แต่งงานกัน บรรดาลูกหลานก็คิดว่าจะแต่งไปทำไม ? อายุจนป่านนี้แล้ว

แต่เขายืนยันว่าพอเห็นหน้าก็รักเลย ไปเจอกันที่วัดหลวงพ่อพระพุทธชินราช ต่างคนต่างไปทำบุญ พอเห็นหน้าก็รักเลย ทำไมบุพเพสันนิวาสมาช้าแท้ โบราณบอกว่า ตื่นแต่ดึก สึกแต่หนุ่ม ถ้าสึกตอนแก่จะไปทำมาหากินทันใคร ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 23-08-2013 เมื่อ 20:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 23-08-2013, 15:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สังขารัง โรคนิทธัง สังขารเป็นรังของโรค ปะภังคุณัง ย่อมเน่าเปื่อยเป็นธรรมดา ชะราธัมโมมหิ ชะรัง อะนะตีโต เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่อาจล่วงพ้นความแก่ไปได้ สัพเพ สัตตา มะรันติ จะ สัตว์ทั้งหลายจะต้องถึงแก่ความตาย มะริงสุจะ มะริสสะเร ไม่อาจล่วงพ้นความตายไปได้ ตะเถวาหัง มะริสสามิ ตัวเราก็ต้องตายเช่นกัน นัตถิ เม เอตถะ สังสะโย ไม่มีใครล่วงพ้นไปได้ ทั้งเอ็งและข้าก็ตายเหมือนกัน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2013 เมื่อ 16:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 23-08-2013, 16:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมนั่งสมาธิแล้วแน่นหน้าอก ?
ตอบ : มีสองอย่าง อย่างแรก..เป็นเรื่องปกติ ถ้าสมาธิทรงตัว เราจะรู้สึกว่าแน่นเข้า ๆ อย่างที่สอง...ขันธมาร มาทดสอบดูว่าเรายังกลัวตายหรือเปล่า ?

ถาม : แสดงว่านั่งกรรมฐานต่อได้เรื่อย ๆ ?
ตอบ : ทำไปเรื่อย ๆ เรามีหน้าที่ทำ ผลจะเกิดอย่างไรช่างมัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2013 เมื่อ 16:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 23-08-2013, 16:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "เมื่อวานซืนนี้สามเณรของวัดท่าขนุนสูญพันธุ์ไปเรียบร้อยแล้ว ที่เหลืออยู่ ๑ รูปสึกไปแล้ว พอสามเณรเริ่มโตเป็นวัยรุ่น ก็เริ่มมีดวงตาเห็นธรรมว่า..สึกดีกว่า ความจริงเขาจะสึกนานแล้ว อาตมาบอกเขาว่า เอ็งช่วยอยู่ล้างอาถรรพ์ให้หน่อยได้ไหม ? เขาถามว่าล้างอาถรรพ์อะไร ? "สามเณรวัดท่าขนุนไม่เคยอยู่จนได้บวชพระ ส่วนใหญ่สึกไปก่อนแล้วค่อยย้อนมาบวชพระทีหลัง"

เขาก็ทนอยู่มาอีก ๓ - ๔ เดือน ในที่สุดก็สึกดีกว่า ไม่อย่างนั้นเข้าพรรษาแล้วกว่าจะได้สึกก็ต้องรับกฐิน แต่พวกนี้ยังดี กำลังใจยังอยู่กับวัดกับวา ยังเทียวไปเทียวมา หลายรายสึกแล้วก็เวียนไปเวียนมาอยู่กับวัด ถามว่าแต่งงานหรือยัง ? "ยังครับ" "หาไม่ได้เลยหรือ ? " "ไม่ได้หาครับ" "แล้วจะสึกไปทำไมวะ ? สึกไปไม่แต่งเมียถือว่าสึกไปขาดทุน..!"

ถามไปถามมาได้ความว่าใจไม่ถึง ตอนเป็นพระกลัวว่าถ้าทำไม่ดี
แล้วจะเกิดโทษ ถึงได้ตัดสินใจสึกเป็นฆราวาส แต่ชีวิตฆราวาสถ้ามีครอบครัวแล้วการปฏิบัติไม่ต้องพูดถึงเลย โอกาสมีน้อย เลยตัดสินไม่ถูก ทำตัวครึ่ง ๆ กลาง ๆ ถ้าเป็นนิทานกำลังภายในเรียกว่า "พวกครึ่งหลวงจีน" คือปฏิบัติตัวเหมือนพระ แต่ตัวเองเป็นฆราวาส

อย่างอาตมา เพื่อนเรียกว่า "มหา" มาตั้งแต่เล็ก ๆ เพราะใจรักชอบทางนี้เอง ของเก่าทำเอาไว้เยอะ ถึงเวลาทิ้งไม่ได้ สมัยก่อนเขานิยมเฟรนด์ชิป เวลาเขียนเสร็จ เพื่อนจะเอารูปไปแปะ ประเภทอดีต ปัจจุบัน อนาคต ความรักชอบส่วนตัว คติธรรม ของอาตมา อนาคต... "..เดินตามรอยบาทพระศาสดา.." บอกไว้ชัดเลย ไม่เคยโกหกเพื่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2013 เมื่อ 17:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 23-08-2013, 16:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : อยู่ที่การตัดสินใจ การเข้าถึงมรรคผลทุกระดับต้องมีการตัดสินใจที่เด็ดขาดและแน่นอน สัจจะต้องมั่นคงจริง ๆ เอาก็คือเอา ไม่เอาก็คือไม่เอา ประเภทครึ่ง ๆ กลาง ๆ เดี๋ยวบวชเดี๋ยวสึกยังไม่ได้เรื่อง ให้ตายเป็นตายไปข้างหนึ่งเลย ถ้าไปพระนิพพานไม่ได้ก็ลงอเวจีเลย ถ้าตัดสินใจแบบนั้นได้ถึงจะได้เรื่อง พวกที่ยังกั๊กอยู่ ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ถือว่าไม่ได้เรื่อง ถ้าเป็นเศรษฐีไม่ได้ก็เป็นมหาโจรไปเลยถึงจะใช้ได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2013 เมื่อ 17:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 23-08-2013, 17:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การปั้น การวาด ถ้าเผลอเมื่อไรหน้าตาจะเหมือนเจ้าตัว ไปนึกถึงช่างประเสริฐ สามีป้าจำเนียรที่วัดท่าซุง ช่วงแรก ๆ ที่ทำงานออกมาหน้าตาเหมือนตัวเองเปี๊ยบเลย จนกระทั่งมาช่วงหลัง ๆ ใช้วิธีขอบารมี แล้วแต่พระท่านจะสงเคราะห์ นั่นแหละถึงจะฉีกแนวตัวเองออกไปได้ ไม่อย่างนั้นปั้นพระกี่องค์หน้าตาเหมือนตัวเองหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2013 เมื่อ 17:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 23-08-2013, 17:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้ามีตลอดเวลาไหมครับ ?
ตอบ : ต้องการให้ปรากฏถึงปรากฏ จะมีอยู่บางพระองค์ในอดีตที่ปรากฏอยู่ตลอดเวลา นั่นท่านสงเคราะห์บริวารของท่านโดยเฉพาะ แล้วก็มีบางองค์รัศมีไม่ได้มีเฉพาะโลกของเรา พระพุทธเจ้ามีนามว่า มังคละสัมมาสัมพุทธเจ้า รัศมีท่านแผ่ไปหมื่นโลกธาตุ พอ ๆ กับพระอาทิตย์นั่นแหละ

ถาม : เห็นด้วยตาเปล่าหรือครับ ?
ตอบ : ถ้าพระองค์ท่านแสดงก็เห็นด้วยตาเปล่า แต่ว่าพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันของเราต้องบอกว่าพระรัศมีแคบที่สุด ไม่กี่วา หลายองค์มีรัศมีปกติก็ ๑ โยชน์ แต่ว่าในรัศมี ๑๖ กิโลเมตรนี่เห็นท่านหมด

พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันของเราต้องไปดูในพุทธวงศ์ รู้สึกว่าทุกอย่างของพระองค์ท่านนี่จะน้อยกว่าคนอื่น และยากกว่าคนอื่นทั้งหมด มีอยู่พระองค์เดียวที่เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ลำบากกว่าเจ้าชายสิทธัตถะ คือพระพุทธนารทสัมมาสัมพุทธเจ้าออกเดินไป ส่วนเจ้าชายสิทธัตถะของเราทรงม้าไป บางท่านทรงช้างไป บางท่านนั่งคานหามไป มีบางองค์ลอยไปทั้งปราสาทเลย ไม่ต้องลงจากปราสาท ท่านเจตนาจะออกมหาภิเนษกรมณ์แล้วปราสาทถอนเสาลอยไปทั้งหลังเลย บารมีท่านขนาดนั้น

พระพุทธเจ้าของเราบำเพ็ญเพียรนานที่สุด ๖ ปี มีหลายท่านที่บรรลุใน ๗ วัน อย่างลำบากเลยก็ ๖ เดือนบ้าง ๑ ปีบ้าง ต้องบอกว่าพระพุทธเจ้าของเราท่านทรงผจญทุกอย่างมาโชกโชนที่สุด ถ้าเปรียบกับพระพุทธเจ้าองค์อื่นแล้วก็ต้องบอกว่าต้นทุนน้อย ในเมื่อต้นทุนน้อยแล้วสามารถทำกำไรจนกระทั่งอยู่ในระดับมหาเศรษฐีเท่ากัน ก็ต้องคิดเหมือนกันนะว่าฝีมือขนาดไหน ถึงได้บอกว่าท่านเป็นปัญญาธิกะจริง ๆ ก็คือเป็นพระพุทธเจ้าที่บำเพ็ญบารมีมาในด้านปัญญา ต้นทุนน้อย เรียนระยะสั้น แต่จบเท่ากัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2013 เมื่อ 19:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 23-08-2013, 20:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านั่งขัดสมาธิทั่วไปกับนั่งขัดสมาธิเพชร อย่างไหนดีกว่ากันครับ ?
ตอบ : ก็อยู่ที่เราชอบ ขัดสมาธิเพชรดีอยู่อย่างหนึ่งคือนั่งมั่นคงดี ไม่หลุดง่าย ๆ แต่ถ้าคนไม่เคยชินก็ปวดขาดีแท้ กว่าจะนั่งให้ชินได้ก็ต้องหัดกันเป็นเดือน ๆ

ถาม : น้องสาวผมนั่งขัดสมาธิเพชรอยู่ ผมบอกว่าทรมาน
ตอบ : เป็นความเคยชินของเขา สมาธิท่านั้นเขาเรียกว่าปัทมบัลลังก์ รูปดอกบัวบาน เป็นของทางด้านโยคะ นั่งแบบนั้นยืดเส้นยืดสายได้ด้วย ถ้านั่งจนเคยแล้วจะไม่อยากนั่งท่าอื่น

ถาม : นั่งแบบนั้นทรมานครับ
ตอบ : แสดงว่ากำลังใจเราสู้เขาไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้ว เรื่องของการปฏิบัติไม่ได้เน้นที่ร่างกาย การปฏิบัติเขาเน้นที่ความสงบของใจ ถ้ากายทรมานมากเกินไปบางทีใจก็ไม่สงบ แต่ว่าบางคนโดยจริตนิสัย โดยเฉพาะคนอีสาน ด้วยความที่ต้องดิ้นรนทำมาหากินมาก การต่อสู้กับภัยธรรมชาติสูงมาก กำลังใจจะเข้มแข็งมาก ถ้าไม่ได้ทรมานกันสุด ๆ นี่ไม่ยอมลงให้ง่าย ๆ หรอก ถ้าเป็นจริตนิสัยลักษณะนั้นก็ต้องยอมเขา ต้องออกไปทางนั้น

ยกเว้นว่าเราจะปฏิบัติลักษณะการดูเวทนา อยากรู้ว่าเวทนานี้เป็นเรา เป็นของเราหรือเปล่า ? เป็นจริงไหม ? หรือสักแต่ว่าเป็นความรู้สึกที่เราปรุงแต่งขึ้นมา แล้วก็ไปยินดียินร้าย ก็ลองนั่งดู แต่ว่าไม่ต้องถึงขนาดนั่งขัดสมาธิเพชรหรอก นั่งธรรมดา ๓ ชั่วโมง ๕ ชั่วโมง ก็ทรมานพอกันนั่นแหละ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2013 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 23-08-2013, 20:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : เราไม่ได้มีเจตนาโกหกเขานี่ ถ้าเจตนาชักนำเขาไปในทางที่ดี แล้วสิ่งที่ตอบไปนั้นถูกต้องตามศีลตามธรรมก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะว่าบางอย่างบอกหมดเขาก็รับไม่ได้ ในเมื่อรับไม่ได้ก็ให้แค่เขารับได้ ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็ตีความว่าพระพุทธเจ้าโกหกด้วย เพราะท่านรู้เท่าใบไม้ทั้งป่า แต่ท่านเอามาสอนแค่กำมือเดียว ครูบาอาจารย์ก็พลอยโกหกคุณไปด้วย เพราะสอนเท่าไรเราก็ไปไม่ถึงจุดสุดท้ายเหมือนท่านสักที

ความพอเหมาะ ความพอดีต่อกาละและเทศะคือเวลาและสถานที่ จึงเป็นศิลปะชั้นสูงสุด พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า สิปปัญจะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง การมีศิลปะถือว่าเป็นอุดมมงคลอย่างยิ่ง สำคัญที่สุดก็คือศิลปะในการดำรงชีวิต ความจริงไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดหรอก ศิลปะในการเอาตัวรอดจากวัฏสงสารจึงสำคัญที่สุด แต่การที่เราจะอยู่ในวัฏสงสารโดยที่ตัวเองไม่ลำบากมากนั้น ศิลปะการดำรงชีวิตสำคัญที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2013 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 23-08-2013, 20:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวหลังจากที่ฉันยาไปว่า “รู้ว่าลำบากแล้วกินไปทำไม ? ไหน ๆ โยมก็หามาแล้ว กินให้เขารู้ว่ากินไปก็เท่านั้นแหละ ไม่อย่างนั้นเอามากันจัง นั่นก็ดี นี่ก็ดี โบราณเขาบอกว่าลางเนื้อชอบลางยา ขอให้เชื่อเถอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ตกผลึกแล้ว สังเคราะห์ออกมาใช้งานแล้ว

คนป่วยด้วยโรคเดียวกันแท้ ๆ ยังต้องรักษาด้วยยาคนละขนานเลย เพราะว่าสภาพร่างกายไม่เท่ากัน โบราณเขาว่าธาตุไม่เหมือนกัน หลวงพ่อวัดท่าซุงฉันยาถ่ายทีละ ๑๒๐ เม็ด เป็นพวกเราฉันไหวไหมเล่า ? เจอไป ๒ เม็ดก็ตายแล้ว ของท่าน ๑๒๐ เม็ดแต่ถ่ายออกมานิดเดียว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2013 เมื่อ 19:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 24-08-2013, 08:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระเจ้าจักรพรรดิมหาสุทัสนะ ?
ตอบ : โน่น..คือพระพุทธเจ้าตั้งแต่ช่วงสร้างบารมีแรก ๆ การจะสร้างบารมีนั้น การเกิดเป็นพระมหากษัตริย์หรือเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิยังเป็นแค่บารมีขั้นต้น ๆ เท่านั้น ไม่เกินอุปบารมี การปฏิบัติในเนกขัมมะบารมียังอ่อนอยู่ เรื่องของศีล สมาธิ ปัญญาก็ยังอยู่ในระดับต้น ๆ แต่ก็ต้องเป็นผู้นำคนหมู่มากอยู่ดี สมัยนั้นท่านครองกรุงกุสินารา แต่กุสินาราในสมัยนั้นชื่อมหาสุทัสนนคร

ถาม : มีมานานมาก ?
ตอบ : นานจนลืม แผ่นดินจะสลายตัวลงแล้วก็พอกพูนขึ้นมาใหม่ สลายตัวลงแล้วพอกพูนขึ้นมาใหม่ ท่านบอกว่าถ้าแผ่นดินหนากลับมาได้ ๑ โยชน์ก็จะเริ่มมีคนมาอยู่อาศัย แสดงพวกต้นไม้ใบหญ้าต้องมาก่อน ตายทับตายถมกันไปเรื่อย เวลาไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลกก็เหมือนกับไฟไหม้ขอน ไหม้จนเหลือข้างในหน่อยหนึ่ง เวลาฝนตกลงมา เกิดสิ่งมีชีวิตก็ค่อย ๆ หนากลับคืนมา หนาได้ ๑ โยชน์คนก็เริ่มมาอยู่ได้ ฉะนั้น..ในเรื่องของการเจริญและเสื่อมเป็นเรื่องปกติ

จะมีสังวัฏฏอสงไขยกัปและวิวัฏฏอสงไขยกัป สังวัฏฏอสงไขยกัปเป็นกัปในขั้นเสื่อม สลายลงไปเรื่อย ๆ แบบของเราในปัจจุบันนี้ ถ้าเป็นเส้นกราฟวิวัฒนาการก็โค้งลง ถ้าสังวัฎฏัฏฐายีอสงไขยกัปเป็นกัปที่เสื่อมสนิทแล้ว เส้นกราฟโค้งติดดินแล้ว แล้วถ้าเป็นวิวัฏฏอสงไขยกัปก็เริ่มโค้งขึ้น เพราะเป็นกัปในข้างเจริญ เป็นวิวัฏฏัฏฐายีอสงไขยกัปก็เจริญเต็มที่แล้ว สมัยพระศรีอาริยเมตไตรยนั่นแหละ เจริญเต็มที่แล้ว เส้นกราฟโค้งขึ้นสุด มนุษย์เราก็สูง ๘๘ ศอก ถ้าเปรียบกับสมัยนี้ก็เป็นยักษ์เลย

รุ่นของเราเหลืออยู่หน่อยเดียว ๒ เมตร เต็มที่ ๘๘ ศอก ตีว่าเป็นศอกสมัยนี้ยังตั้ง ๔๔ เมตร สูง ๒๐ กว่าวาก็ตึกทั้งหลังดี ๆ นี่เอง สงสัยว่าถ้ามนุษย์ตัวขนาดนั้น พวกไดโนเสาร์ก็ประมาณกะปอมสมัยนี้ ไล่คล้องมาปิ้งได้เลย


ถาม : สูงเท่าเทวดาไหมคะ ?
ตอบ : บังเอิญว่าอยู่คนละช่วงกัน เทวดาเขาอัตภาพอย่างน้อย ๓ คาวุต ก็ ๑๒ กิโลเมตร อันนี้ของเราแค่ ๔๐ กว่าเมตร ๑๐๐ เมตร ยังไม่ได้เลย ไม่ต้องไปคิดถึงครึ่งกิโลเมตร ถึงได้บอกว่าตอนไปยุโรปเทวดาท่านเดินเอามือช้อนประคองเครื่องบินให้ รู้สึกว่าท่านเพลินมาก ไม่มีปัญหาอะไรเลย กลัวเครื่องบินตกก็แค่เอามือรองไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2013 เมื่อ 10:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 24-08-2013, 09:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระพุทธศาสนาอายุยาวห้าพันปีหรือครับ ?
ตอบ : ๕,๐๐๐ ปีสั้นสุด ๆ

ถาม : แปดหมื่นปีถือว่ายาวนานที่สุด ?
ตอบ : ใครบอก ? พระปทุมมุตระอายุพระศาสนา ๓ อันตรกัป อายุพระศาสนานานขนาดนั้น ๕,๐๐๐ ปีนี่น้อยแล้ว น้อยมาก ๆ เลย แต่องค์อื่น ๆ ที่อายุศาสนาท่านไม่ยาว เพราะบางทีท่านเทศน์จบเดียวไปหมดแล้ว ก็เลยไม่รู้จะเอาอายุศาสนาไปทำอะไร แสดงว่าบริวารของท่านนี่สั่งสมมาเต็มที่เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2013 เมื่อ 10:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 25-08-2013, 08:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่ใช้มโนมยิทธิแล้วค่อย ๆ ดูแบบละเอียด เป็นสายพุทธภูมิบารมีต้นหรือครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่หรอก บารมีไหนก็เหมือนกัน เพราะว่าเขาต้องการรู้ทุกอย่าง ในเมื่อต้องการละเอียด อาตมาจะไปเข็นอย่างไรไหว เราไปไกลจนไม่เห็นฝุ่นแล้ว เขายังไปค่อย ๆ ไปเล็งพื้นอยู่เลย เขาจะเอารายละเอียดทั้งหมด ทำไมถึงต้องเอารายละเอียดทั้งหมด ? ก็วิสัยการจะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้า ต้องไปเป็นครูสอนเขา ถ้ารู้ไม่ครบเวลาลูกศิษย์มาถามก็บอกเขาไม่ได้

ฉะนั้น..ท่านก็ต้องค่อย ๆ ไป คุณจะไปรถสปอร์ตพรืดเดียว ๓๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ไปเถอะ ของท่านขอไปทีละก้าว


ถาม : ทำอะไรไม่เหมือนคนอื่น ?
ตอบ : เดินตามรอยคนอื่นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ แหกคอกไปเองจะสบายใจที่สุด

ถาม : คุ้มค่าหรือครับ ?
ตอบ : ก็ดูว่าคุ้มค่ากับการลงทุนไหม ? ถ้าคุ้มค่ากับการลงทุน ท่านเห็นว่าเป็นการสร้างบารมีของท่านก็เอา ประเภทกระโดดไปเป็นเหยื่อให้เสือกิน เพื่อที่เสือจะได้ไม่ล่ากวางก็ทำ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2013 เมื่อ 17:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 25-08-2013, 09:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เพราะเหตุใดสัตว์เดรัจฉานถึงไม่สามารถบรรลุธรรมได้ ?
ตอบ : ต้องบอกว่าเขาอยู่ในภูมิที่มืดบอด ดวงปัญญาไม่เพียงพอที่จะเข้าถึงธรรม การสั่งสมยังไม่เพียงพอ และภพภูมิที่ตนเองไปอยู่ตามกรรมที่สร้างมาเป็นภูมิที่ต่ำ ทำให้สติปัญญาน้อย ไม่สามารถจะตัดสินใจให้เด็ดขาดได้ อาลัยอาวรณ์อยู่ เหมือนอย่างที่ท่านเปรียบว่า เป็นหมู่หนอนในกองขี้ เพื่อนเป็นเทวดาชวนให้รักษาศีลจะได้ไปอยู่เป็นเทวดาด้วยกัน เขากลับบอกอยู่ในกองขี้สบายแล้ว มีกินทุกวัน ไม่เห็นต้องไปทำอะไรให้ลำบากเลย ตื่นขึ้นมาก็มีกินแล้ว

ถาม : พวกที่ไปเสวยกรรมไม่มีโอกาสเข้าใกล้พระหรือครับ ?
ตอบ : โอกาสไม่มี ถ้าโอกาสมีไปเจอพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านให้รับไตรสรณาคมณ์ ส่วนใหญ่จะหลุดจากภูมิเดิมไปเลย ที่โอกาสไม่มีบางทีกรรมยังบังอยู่ โอกาสจะเข้าใกล้ก็ไม่มี พอมีโอกาสจะเข้าใกล้พระ ก็เห็นพระเป็นศัตรูอีก เพราะ หวงที่ของตัวเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2013 เมื่อ 17:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 25-08-2013, 09:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บ้านเรามีหลายคนที่หนักใจในเรื่องการรักษาศีล เพราะว่าต้องไปละเมิดศีลตอนทำงาน หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านแนะนำให้รักษาศีลเป็นเวลา อย่างเช่น ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนถึงที่ทำงานเราจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ พอถึงที่ทำงานแล้วค่อยยอมให้ขาดหน่อย ตั้งแต่เลิกงานแล้วจนกระทั่งนอนก็รักษาศีลให้บริสุทธิ์

คราวนี้การรักษาศีลเป็นเวลา อย่างน้อย ๆ ความดีก็มีอยู่ เพราะว่าเวลาที่เราทำความดียังมี ไปยุโรปงวดนี้เห็นว่า ถ้าแนะนำให้เขารักษาศีลเป็นเวลาก็ได้ เพราะคนยุโรปเขาล่าสัตว์กันเป็นฤดู ถ้าไม่ใช่เวลาล่าสัตว์นี่เขาก็ยืนมองกันอยู่ข้างทาง รถวิ่งไปมามีป้ายระวังกวางข้ามถนน ระวังหมูป่าข้ามถนน บ้านเรามีแต่ระวังคนข้ามถนน ถ้าไม่ถึงฤดูการให้ล่าสัตว์ ไม่มีบัตรอนุญาต ต่อให้สัตว์ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็ได้แต่มองเฉย ๆ ก็น่าจะแนะนำให้เขารักษาศีลเป็นเวลาได้

หงส์ว่ายอยู่เต็มน้ำเลย เป็นบ้านเราก็อาหารอย่างดี ตัวใหญ่กว่าห่านอีก เขาก็ปล่อยให้ว่ายอยู่นั่นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2013 เมื่อ 17:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 25-08-2013, 10:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกหมาเขาฉลาดสุด ๆ เลยนะ ตอนนี้อาตมาไม่ได้เลี้ยงหมาเลย แต่มีหมาที่หน้ากุฏิ ๗ - ๘ ตัวเข้าไปแล้ว แต่ละตัวเสนอตัวมาเป็นหมาของอาตมาเอง ยัดเยียดตัวเองมาให้เราเป็นเจ้าของ มีไอ้เก็บตกนี่แสบที่สุด ไม่ได้เสนอตัวมาเป็นหมาของอาตมา แต่ไปฝากตัวเป็นลูกของนังแสบที่อาตมาอุ้มมาจากเกาะพระฤๅษี แล้วก็อยู่กันอย่างกับแม่ลูกจริง ๆ เลย

สรุปก็คือถ้าเลี้ยงนังแสบก็ต้องเลี้ยงไอ้เก็บตกด้วย ร้ายจริง ๆ ถ้าอยากรู้จักหมาให้ลึกซึ้งก็ต้องดูที่อนุสาวรีย์ย่าเหล ดูว่าในหลวงรัชกาลที่ ๖ ท่านมีพระราชดำริเกี่ยวกับหมาอย่างไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2013 เมื่อ 17:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 25-08-2013, 20:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การละโทสะ ?
ตอบ : ถ้าเกิดนี่ละไม่ทันแล้ว ฉะนั้น..เรื่องของสติ สมาธิ ปัญญายังไม่พอ ทำให้โทสะเกิดขึ้น ถ้ากระทบ รู้ว่าสู้ไม่ได้ให้ถอยไปก่อน ถ้าอยู่ในเหตุการณ์ก็ปลีกตัวออกจากเหตุการณ์ไปเลย ถ้าอยู่แล้วไปชนกันเดี๋ยวเสียหายเยอะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 25-08-2013, 20:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,593 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีความจำเป็นต้องตัดต้นไม้ใหญ่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นต้นไม้ที่บ้านให้ตั้งศาลเพียงตาหลังหนึ่ง ศาลพระภูมิก็ได้ ตั้งไว้ในที่ ๆ เหมาะสมแล้วก็ตัดกิ่งของต้นนั้นมากิ่งหนึ่ง เอาที่ค่อนข้างใหญ่หน่อย ประมาณให้ตั้งได้ สูงสักคืบสองคืบ ตัดแล้วเลื่อยให้เรียบเพื่อจะได้หันปลายตั้งขึ้นได้ เอาปลายกิ่งขึ้นนะ อย่าหันผิดด้าน แล้วก็จุดธูปเชิญท่านมาอยู่ที่นั่นแทน ที่เหลือก็โค่นไปได้เลย


ไม่ต้องกังวลหรอก..รุกขเทวดากี่ร้อยกี่พันองค์ก็อยู่ได้ เพราะว่าถ้าเกิดความจำเป็นขึ้นมานี่ พื้นที่ ๑ หัวเข็มหมุดเทวดาอยู่ได้ ๘ องค์..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:55



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว