กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-07-2021, 20:24
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,529
ได้ให้อนุโมทนา: 215,924
ได้รับอนุโมทนา 736,952 ครั้ง ใน 35,904 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-07-2021, 22:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ก่อนอื่นก็ต้องแสดงความยินดีกับหลวงตาวัชรชัย ที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าเลื่อนเป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่พระราชภาวนาพัชรญาณ วิปัสสนาวิธานธุราทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี ต้องบอกว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง ที่เกิดจากโบสถ์วัดท่าซุงรูปแรกที่ได้เป็นพระราชาคณะ เพราะว่าหลวงพ่อเจ้าคุณอนันต์ (พระราชภาวนาโกศล วิ.) ท่านบวชจากที่อื่น แล้วหลวงพ่อพระครูสุรินทร์ส่งมาจำพรรษาและช่วยงานหลวงพ่อวัดท่าซุง

ส่วนวันนี้ กระผม/อาตมภาพไปประชุม ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ก็คือเป็นการประชุมสัมมนาในโครงการขยายช่องทางการจราจรถนนสาย ๓๒๓ ช่วงอำเภอทองผาภูมิ-สังขละบุรี เป็น ๔ ช่องทางการจราจร ต้นทางก็คือบ้านท่าขนุน ปลายทางก็คือสะพานรันตี ซึ่งตรงจุดนี้เมื่อฟังทางผู้รับผิดชอบได้แจ้งเหตุผลและเนื้อหาต่าง ๆ คร่าว ๆ แล้ว ก็ได้ทำหน้าที่ของผู้เข้าร่วมประชุม ด้วยการให้คำแนะนำไปหลายอย่างด้วยกัน

ประการแรกเลยก็คือ ทางผู้รับผิดชอบโครงการมาเก็บข้อมูลการจราจรช่วงระหว่างเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งอาตมภาพยืนยันว่าเป็นการเก็บข้อมูลที่ผิดพลาด ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์..! เพราะว่าเป็นช่วงที่ไวรัสโควิด ๑๙ แพร่ระบาด การจราจรลดน้อยถอยลงไปมหาศาล แล้วทางโครงการยังต้องทำเผื่ออีก ๒๐ ปีข้างหน้า ซึ่งถ้าหากว่าตัวเลขผิดขนาดนี้ ก็ลำบากแน่ จึงแจ้งเขาไปว่าอย่างน้อยต้องคูณด้วย ๑๐ ถึงจะเป็นจำนวนจราจรที่เคยใช้งานจริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-07-2021 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-07-2021, 22:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประการที่สอง การทำโครงการไม่ครอบคลุมพอ ก็คือทำแค่สามแยกทองผาภูมิไปถึงแค่จุดพักรถสะพานรันตี ระยะทาง ๖๔ กิโลเมตรเท่านั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือเนินช้างร้อง ซึ่งเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก

และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเนินช้างร้องก็คือ เวลาวันหยุดหรือวันนักขัตฤกษ์ รถจำนวนมหาศาลจะต้องวิ่งไปวัดหลวงพ่ออุตตะมะ ถ้าหากว่าด้านหน้าเป็น ๒๒ ล้อสักคันหนึ่ง รถข้างหลังก็ติดยาวหลายกิโลเมตร เพราะว่าเป็นการจราจรที่ขึ้น ๑ ช่องทาง ลง ๑ ช่องทางเท่านั้น และถ้าทำเพื่อการขนส่งหรือว่าการท่องเที่ยว ทางด้านสายตรงควรจะทำให้ถึงวัดหลวงพ่ออุตตะมะ ทางด้านข้างก็คือทำไปถึงด่านพระเจดีย์สามองค์ ไม่อย่างนั้นแล้วก็ต้องเสียเวลามาศึกษาอีกกัน ๑ รอบ ซึ่งจะเป็นการผลาญงบประมาณเสียเปล่า ๆ หรือว่าเขาตั้งใจเช่นนั้นก็ไม่รู้ ? เพราะว่าส่วนที่สำคัญที่สุดที่ชาวบ้านเดือดร้อนกันอยู่ กลับทำโครงการไปไม่ถึง

ข้อต่อไปที่ได้ให้คำแนะนำไปก็คือ เส้นทางช่วงตั้งแต่น้ำตกเกริงกระเวียไปจนถึงเนินช้างร้อง มีดินสไลด์เป็นประจำทุกปี ซึ่งบางทีก็ลงมาปิดกั้นการจราจรไปทั้งเส้นทางเลย ต้องเสียเวลา
หลาย ๆ วันเพื่อมานำออกกัน

ประการต่อไปก็คือ ช่วงหน้าฝนลำห้วยอู่ล่องรองรับน้ำไม่ไหว จะมีน้ำล้นผ่านถนนช่วงบ้านวังเกียงอยู่เสมอ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เขาไม่สามารถที่จะมีได้ ถ้าไม่เข้ามาประชุมชาวบ้านในพื้นที่

อีกส่วนหนึ่งก็คือ อาตมาได้ขอทางเขาว่า โครงการของคุณเป็นโครงการขยายช่องทางการจราจรเป็น ๔ ช่องทาง แต่จากการที่คุณบรรยายมา บอกว่าขยายแค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งตรงนี้อาตมาก็เข้าใจ เพราะว่าบางช่วงนั้นเป็นถนนเลียบขอบเหว ถ้าต้องขยายเป็น ๔ ช่องทางนี่ลำบากหนักหนาสาหัส และต้องใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว

แต่จากสามแยกทองผาภูมิผ่านหน้าวัดท่าขนุน ไปจนถึงหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลท่าขนุน เป็นส่วนที่เป็นหน้าเป็นตาของถนนสายนี้ ขอให้ทำช่วงนี้ให้เป็น ๔ ช่องทาง ถ้าหากว่าติดขัดด้วยอะไร ทางด้านหน้าวัด อาตมภาพพร้อมที่จะทุบ จะรื้อ จะทำใหม่ให้..!


ทางด้านผู้จัดการโครงการยืนยันว่า ตรงจุดนี้เขามีโครงการที่จะขยายเป็น ๔ ช่องทางอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นโชคดีของวัดท่าขนุน เพราะว่าไม่อย่างนั้นก็ต้องมาระแวงว่าเมื่อไรเขาจะขยายถนน แล้วมากระทบกับทางวัดอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-07-2021 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-07-2021, 22:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ส่วนหนึ่งที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเกิดผลกระทบแน่นอน อย่างที่อาทิตย์ก่อนที่เขามาขอติดตั้งเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนที่พระเจดีย์ ๘๔ พรรษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ของวัดท่าขนุน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตรงนี้ไม่ใช่แค่มลพิษทางเสียง และฝุ่นควันจากการก่อสร้างเท่านั้น ยังมีผลกระทบต่อแหล่งน้ำ ป่าไม้ สัตว์ป่า และประชาชนตลอดเส้นทาง

ยังโชคดีที่ฝ่ายวิศวกรออกแบบบอกว่า ได้คำนึงเผื่อถึงรอยเลื่อนแผ่นดินไหวที่ยังมีพลังอยู่ ถ้าเขาไม่ได้พูดถึงตรงนี้ ก็จะบอกกับเขาเหมือนกันว่า ไม่ว่ารอยเลื่อนเหมืองสองท่อ หรือว่ารอยเลื่อนด่านพระเจดีย์สามองค์ ต้องมีผลกระทบต่อการออกแบบแน่นอน จะต้องออกแบบเผื่อเอาไว้ด้วย

ตรงจุดนี้ พวกเราทั้งหลาย ถ้าหากว่าได้เข้าไปร่วมอยู่ในลักษณะของประชาพิจารณ์ หรือว่าในส่วนของการประชุมสัมมนาก็ตาม จำไว้เลยว่า ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือสติสัมปชัญญะ ถ้าขาดสติเมื่อไร เราจะโดนเขาลากไปตามเกมทันที

อย่างเช่นอาตมภาพ เคยไปฟังเขื่อนแห่งหนึ่งบอกว่า ตนเองกู้เงินจากประเทศญี่ปุ่นมา ๔,๐๐๐ ล้านบาทเพื่อสร้างเขื่อน เพราะว่าต้องการที่จะให้เกิดประโยชน์ต่อพื้นที่การเกษตร ๒ ล้าน ๕ แสนไร่ทางด้านล่าง กระผม/อาตมภาพยกมือขัดคอเดี๋ยวนั้นเลย บอกว่า

"คุณไม่จริงใจแล้วแบบนี้ การกู้เงิน ๔,๐๐๐ ล้านบาท ดอกเบี้ยปีละเท่าไร ? เงินต้นต้องคืนปีละเท่าไร ? สิ่งเดียวที่คุณจะคืนเขาได้คือต้องขายไฟ..! เพราะฉะนั้น..การที่คุณยกเอาประโยชน์ต่อการเกษตร ๒ ล้าน ๕ แสนไร่มา นั่นเป็นการบังหน้า แต่เจตนาคือคุณจะขายไฟ อาตมาไม่ได้กินหญ้า เพราะฉะนั้น..ช่วยเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ด้วย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-07-2021 เมื่อ 19:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-07-2021, 23:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าในเรื่องพวกนี้ บางทีถ้าหากว่าเรารู้มากไป ก็ไม่เป็นที่ชอบใจของคนอื่น แต่ขอยืนยันกับท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณรหรือฆราวาสก็ตาม ถ้าหากว่าเราฟังด้วยสติสัมปชัญญะที่มั่นคง การแยกแยะเนื้อเรื่องและเหตุผลจะเร็วมาก ท่านที่ทำไม่ถึงตรงนี้ก็ยังไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ แต่ถ้าถึงเมื่อไร จะเห็นว่านอกจากประโยชน์ทางธรรม ซึ่งเราต้องการความรู้เท่าทัน รัก โลภ โกรธ หลง แล้ว ประโยชน์ทางโลกคือ ช่วยให้เรารู้เท่าทันเรื่องราวต่าง ๆ และมีการตัดสินใจที่เร็วขึ้นมาก ซึ่งเป็นของแถมที่ควรจะมีด้วย เพราะถ้าหากว่าการฝึกปฏิบัติธรรมของเราไม่สามารถใช้งานในทางโลกได้ ก็ถือว่าไม่สมบูรณ์

ดังนั้น...ถ้าหากว่าพวกเราเป็นผู้ที่มี สติ สมาธิและปัญญา ที่มั่นคง แหลมคม ว่องไว เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือว่าทางธรรม เราสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะประโยชน์ที่เราพึงหวัง ก็คือการที่สามารถตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานเพื่อเข้าสู่พระนิพพาน

เรื่องราววันนี้ แม้ว่าจะเกี่ยวข้องกับในพื้นที่ ก็คือทางวัดท่าขนุนก็ตาม แต่ว่าหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เราจะใช้ในการพินิจพิจารณาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันก็ดี ในการที่จะใช้ สติ สมาธิ ปัญญา ในการระงับยับยั้ง รัก โลภ โกรธ หลง ตลอดจนกระทั่ง ลด ละ เลิก จากสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำไปใช้งานจริงได้ในชีวิตประจำวัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่ถือว่าเราทั้งหลายปฏิบัติธรรมแล้วก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งเจริญพรบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลาย ทั้งที่นี่และที่บ้านไว้แต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-07-2021 เมื่อ 19:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:34



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว