กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 30-01-2023, 19:23
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,524
ได้ให้อนุโมทนา: 215,913
ได้รับอนุโมทนา 736,895 ครั้ง ใน 35,896 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-01-2023, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๓๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพถวายหนังสือวัดท่าขนุน เป็นที่ระลึกในการเดินทางมาศึกษารูปแบบและแนวทางการปฏิบัติธรรมของวัดท่าขนุนให้แก่หลวงพ่อซูวอน หรือชื่อเต็มก็คือ Professor Suwon Suenim เจ้าอาวาสวัดชอนกยองซา ซึ่งคำนี้ออกเสียงค่อนข้างยาก ภาษาอังกฤษก็คือ Cheon Kyung Sa ท่านมีสาขาอยู่ในยุโรป ๓ สาขาด้วยกัน

หลวงพ่อซูวอนอายุ ๖๕ ปี พรรษา ๔๐ ตำแหน่งวิชาการคือศาสตราจารย์ทางพระพุทธศาสนา กระผม/อาตมภาพเองอายุน้อยกว่าท่าน ๑ ปี พรรษาน้อยกว่าท่าน ๓ พรรษา ตำแหน่งทางวิชาการไม่เคยคิดที่จะขอ แปลว่าเป็นรองท่านในทุกรูปแบบ แต่ว่าหลวงพ่อซูวอนขอกราบในฐานะ "พี่ชายทางธรรม" ซึ่งท่านเองเกรงว่าถ้าใช้ภาษาอังกฤษจะไม่ตรงกับความหมาย จึงพิมพ์เป็นภาษาเกาหลีแล้วใช้กูเกิ้ลทรานสเลตแปลเป็นภาษาไทย บังเอิญกระผม/อาตมภาพเข้าใจความหมายตรงนี้ดี ก็คือลักษณะของสหธรรมิกนั่นเอง เพียงแต่ท่านถือว่าเป็นสหธรรมิกผู้พี่

เนื่องจากว่าการอยู่ร่วมกันมา ๒ คืน ๑ วัน ท่านได้พบได้เห็นอะไรต่อมิอะไรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพไม่ได้รังเกียจที่ท่านเป็นพระภิกษุมหายาน ให้ความเคารพกราบไหว้ตามปกติ แค่นี้ท่านเองก็มั่นใจแล้วว่า เป็นบุคคลที่ควรแก่การเคารพได้ เพราะว่าไม่ถือมานะ แต่ว่าถือธรรมวินัยเป็นใหญ่ คำว่าถือธรรมวินัยในที่นี้ก็คือท่านเป็นพระภิกษุเช่นกัน ในเมื่อท่านมีพรรษามากกว่า กระผม/อาตมภาพก็ต้องกราบไหว้ตามปกติ

ตรงจุดนี้หลายท่านอาจจะบอกว่าท่านเป็นนานาสังวาส ก็คือไม่ใช่เถรวาทแบบเดียวกัน ถือสังฆกรรมต่างกัน ความจริงก็เป็นเช่นนั้น แต่การที่เรามาแยกนิกายกันนั้นเกิดจากความเชื่อ ตลอดจนกระทั่งการปรับเปลี่ยนแนวทางการสอนเพื่อให้เข้ากับบริบทสังคมนั้น ๆ จนกระทั่งกลายเป็นพระพุทธศาสนามหายานขึ้นมา

ส่วนของเราเอง ต่อให้ยึดถือเถรวาทเคร่งครัดเพียงใดก็ตาม ก็อย่าลืมว่ายังมีผู้ที่ปฏิบัติตนไม่สมกับความเป็นพระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงไม่ได้อยู่ที่นิกาย หากแต่ว่าอยู่ที่การปฏิบัติตนต่างหาก ว่าสมควรแก่การเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรสหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 31-01-2023 เมื่อ 22:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-01-2023, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงยังมีชีวิตอยู่ ได้มีสมณะจากสำนักสันติอโศก ๓ รูปเดินทางไปเพื่อศึกษาและปฏิบัติธรรมตามแนวทางของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง

บรรดาพระภิกษุวัดท่าซุงก็แสดงอาการอีหลักอีเหลื่อ ทำอะไรไม่ถูก ถึงขนาดต้องกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า จะปฏิบัติตนต่ออาคันตุกะชุดนี้อย่างไร ? พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูดง่าย ๆ ว่า "แกเห็นเขาเป็นพระเหมือนกันก็หมดเรื่อง..!"

กระผม/อาตมภาพเมื่อสอบถามดูแล้ว บางท่านมีพรรษามากกว่าสูงกว่า ก็ไหว้ก็กราบตามปกติ แต่ว่ารุ่นพี่หลายท่านนั้นบอกว่า "กราบไปทำไม ? ท่านไม่ใช่พระ" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่คิดว่า ความเป็นพระไม่ได้อยู่ที่นิกาย ไม่ได้อยู่ที่เครื่องแต่งกาย หากแต่อยู่ที่กำลังใจของตนว่าเข้าถึงธรรมได้เท่าไร นี่เป็นเรื่องที่หนึ่ง

เรื่องต่อไปก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ได้แนะนำครูบาอาจารย์ให้หลายต่อหลายองค์ว่าเป็นพระสุปฏิปันโน มีดวงจิตผ่องใสอย่างนั้น มีแนวปฏิบัติเพื่อส่วนรวมอย่างนี้ กระผม/อาตมภาพเองตอนนั้นก็แบกกิเลสไว้ท่วมหัว ก็คือว่าถ้าเรียกว่าหลวงปู่ "หลวงปู่ของกูต้องเป็นหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคเท่านั้น" ถ้าเรียกว่าหลวงพ่อ "หลวงพ่อของกูต้องเป็นหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงเท่านั้น" องค์อื่นไม่ใช่ แล้วถ้าหากว่าเป็นอย่างนี้ เราจะขอเรียนกรรมฐาน ขอศึกษาความรู้จากท่านอื่นได้อย่างไร ?

ตอนนั้นพระเดชพระคุณพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ (อำพัน อาภรโณ บุญ-หลง, ป.ธ. ๖) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส หรือที่ลูกศิษย์สายวัดท่าซุงเรียกง่าย ๆ ว่าหลวงปู่มหาอำพัน ท่านเหมือนอย่างกับมองทะลุเข้าไปถึงจิตถึงใจของกระผม/อาตมภาพ ท่านถึงได้กล่าวตักเตือนขึ้นมาว่า "ใครวางก่อนก็สบายก่อน" พอได้ยินตรงจุดนี้ กระผม/อาตมภาพก็ "ฟ้าแจ้งจางปาง" เลย..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าหลวงปู่ท่านเป็นเจ้าคุณ ท่านมีอายุกาลพรรษามากกว่า ทั้งอายุทางโลกและอายุในการบวช แต่ว่าท่านสามารถกราบเท้า ล้างเท้าให้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ในลักษณะเคารพสุดจิตสุดใจ ท่านบอกว่ามีบรรดาพระธรรมยุตตำหนิท่านเป็นจำนวนมาก ว่าไปกราบไหว้ทำไมกับพระมหานิกาย?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 31-01-2023 เมื่อ 22:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 31-01-2023, 00:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงปู่ท่านบอกว่า "ในธรรมบท แม้กระทั่งพระราชายังต้องไหว้คนจัณฑาล เพื่อขอเรียนวิชาความรู้ แล้วพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเก่งเลิศเลอขนาดนั้น เราจะไม่กราบไม่ไหว้ได้อย่างไร ? ถ้าหากว่าตกเป็นขี้ปากคนอื่น ก่อนที่จะไหว้เราก็ว่า "สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ" ก็หมดเรื่องไป ว่าเราไหว้พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ไม่ได้ไหว้ที่นิกาย แต่ไหว้ที่คุณความดีของท่าน"

เมื่อฟ้าแจ้งจางปางจากตรงนี้ กระผม/อาตมภาพก็สามารถกราบหลวงปู่ท่านนั้น กราบหลวงพ่อท่านนี้ เรียกหลวงปู่ก็เหมือนอย่างกับเป็นปู่เป็นตาจริง ๆ เรียกหลวงพ่อก็เหมือนกับเป็นพ่อจริง ๆ ก็คือยอมรับนับถืออย่างเต็มที่เต็มทางในฐานะลูกศิษย์คนหนึ่ง จึงทำให้บรรดาหลวงปู่หลวงพ่อเกิดความรักใคร่เมตตา แล้วมีสรรพวิชาอะไรที่ท่านเห็นสมควร ท่านก็เมตตาถ่ายทอดมาให้

กระผม/อาตมภาพที่มีความอยากในการศึกษาเรียนรู้ตามปกติ จึงได้ซึมซับเอาวิชาการสายธรรมต่าง ๆ เข้ามารวมอยู่ในตนเองมากพอสมควร เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า สามารถที่จะปล่อยได้ วางได้ ในลักษณะที่ว่า วางก่อนสบายก่อน นี่เป็นเรื่องที่สอง

ดังนั้น..ในเมื่อเห็นหลวงพ่อซูวอนที่เป็นพระมหายานของเกาหลีใต้ เราเองจะไปถือว่าท่านเป็นนานาสังวาส เป็นคนละนิกายกัน ไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ ถ้าคิดอย่างนั้นก็ต้องคิดถึงคำกล่าวของพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ที่เคยว่ากล่าวกับพวกกระผม/อาตมภาพ ในสมัยที่ยังเป็นพระราชวิริยาลังการ รองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม แล้วท่านได้นำพวกกระผม/อาตมภาพไปถวายสักการะในวาระเข้าพรรษา ต่อพระเถระทั้งธรรมยุตและมหานิกายในกรุงเทพฯ แล้วมีบุคคลไปตำหนิท่านว่า "พระธรรมยุตเราไปกราบไปสักการะทำไม ?" พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม ที่ทุกคนเรียกด้วยความสนิทปากกล่าวว่า "ถ้าพวกมึงคิดอย่างนั้น กูก็เหนื่อยแหละ..!"

เราจะเห็นว่า พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. ท่านเองไม่ได้แบ่งแยกนิกาย เห็นว่าทุกนิกายก็คือคณะสงฆ์ไทย ดังนั้น..ถ้าหากว่าสามารถที่จะดึงเอามาร่วมงานกันได้ ท่านก็ดึงเอามาร่วมงาน ถ้าหากว่าเป็นบุคคลที่มีอายุกาลพรรษา มีตำแหน่ง มีสมณศักดิ์ใหญ่กว่า ท่านก็ไปกราบไปไหว้ ไปขอความเมตตาให้อนุเคราะห์สงเคราะห์เกี่ยวกับงานในพระพุทธศาสนาต่าง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 31-01-2023 เมื่อ 22:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 31-01-2023, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จึงทำให้พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. เจ้าคณะภาค ๑๔ สามารถที่จะสร้างผลงานอันโดดเด่นขึ้นมาได้ พระทั้งฝ่ายธรรมยุตและมหานิกายให้การสนับสนุนโครงการปรองดองและสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หรือที่เรียกสั้น ๆ กันว่า หมู่บ้านรักษาศีล ๕ นั้น เป็นไปด้วยความเจริญรุ่งเรือง สร้างความสมัครสมานสามัคคีให้กับชนในชาติ สมกับที่ทางรัฐบาลและคณะสงฆ์ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้

ดังนั้น..การที่หลวงพ่อซูวอน แม้ว่าท่านจะอายุมากกว่า ๑ ปี พรรษามากกว่า ๓ พรรษา ท่านเองเป็นศาสตราจารย์ทางพระพุทธศาสนา ก็ไม่ได้ถือยศถือศักดิ์ ท่านเองยอมกราบยอมไหว้ โดยบอกว่ายกให้กระผม/อาตมภาพเป็น "พี่ในทางธรรม" แม้ว่าในลักษณะนี้จะเป็นการยกย่อง แต่ขอให้ทราบว่า ถ้าเป็นบุคคลที่แบกมานะมาเต็มตัว ย่อมไม่สามารถที่จะทำใจอย่างนี้ได้

สิ่งที่ท่านประพฤติปฏิบัติไม่ใช่การประจบเอาใจ เพราะว่าได้พบกับกระผม/อาตมภาพแค่ ๑ วัน กับ ๒ คืนเท่านั้น และไม่ได้เต็มเวลาอีกด้วย แต่ว่าสิ่งที่ได้รับกลับไป ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการปฏิบัติของวัดก็ดี การปฏิบัติโดยส่วนตนของกระผม/อาตมภาพที่สวดมนต์ ทำวัตร เจริญกรรมฐาน บิณฑบาต อย่างสม่ำเสมอให้ท่านเห็นทุกครั้งก็ตาม ทำให้ท่านยอมรับว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พุทธสาวกหรือว่าศากยบุตรพุทธชิโนรสควรที่จะยึดถือและปฏิบัติตาม

หลวงพ่อซูวอนจึงยินดีที่จะคบหาสมาคมกับกระผม/อาตมภาพในฐานะเพื่อนสหธรรมิก โดยไม่ได้มีนิกายมาเป็นเครื่องกีดขวาง ซ้ำยังยกให้อยู่ในฐานะที่สูงกว่าท่านด้วย
กระผม/อาตมภาพก็ต้องกราบขอบพระคุณหลวงพ่อซูวอน ซือนิม หรือในตำแหน่งทางวิชาการคือศาสตราจารย์ซูวอน ซือนิมแห่งวัดชอนกยองซา ไว้ ณ ที่นี้เป็นอย่างยิ่ง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๓๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 31-01-2023 เมื่อ 22:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว