กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-01-2023, 19:17
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,530
ได้ให้อนุโมทนา: 215,928
ได้รับอนุโมทนา 737,065 ครั้ง ใน 35,905 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-01-2023, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ วันนี้กระผม/อาตมภาพมีภารกิจสำคัญก็คือ ต้องไปร่วมพิธีปิดโครงการอบรมพระสงฆ์ผู้นำหมู่บ้านรักษาศีล ๕ และพิธีเปิดการอบรมพระอุปัชฌาย์ ซึ่งเป็นรุ่นที่ตกค้างตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๖๓, ๒๕๖๔ และรุ่นปัจจุบันคือ ๒๕๖๕ จึงต้องเดินทางมายังวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง)

คราวนี้การที่มาร่วมในพิธีเปิดนั้น นอกจากมาในฐานะคณะกรรมการสอบอบรมพระอุปัชฌาย์รุ่นนี้แล้ว
กระผม/อาตมภาพยังมาในฐานะพระสังฆาธิการเจ้าคณะปกครอง ซึ่งต้องมีหน้าที่ในการสนับสนุนการอบรม โดยเฉพาะทางคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมินั้น รับเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพลแก่ผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมด ในวันที่ ๓๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖

ในการอบรมพระอุปัชฌาย์นั้น แม้ว่าทางด้านมหาคณิสสรจะเข้มงวดประการใดก็ตาม ก็เป็นการเข้มงวดได้เฉพาะในการสอบอบรมเท่านั้น แต่ว่าหลังจากที่สอบผ่านไปแล้ว ก็ต้องขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและการประพฤติปฏิบัติของผู้ที่ทำหน้าที่พระอุปัชฌาย์ทุกรูป เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้น แม้ว่าจะผ่านการอบรมซึ่งจะเข้มงวดกวดขันขนาดไหนก็ตาม เมื่อถึงเวลาแล้ว ถ้าพ่ายแพ้ต่อ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ก็อาจจะอยู่ในลักษณะรับจ้างบวช ก็คือสักแต่ว่านั่งพระอุปัชฌาย์ให้ครบกฎเกณฑ์กติกาตามพระธรรมวินัย แต่ไม่ได้ทำหน้าที่ในการอบรมกุลบุตร ซึ่งตนเองต้องทำตามหน้าที่ของพระอุปัชฌาย์เลย..!

พูดง่าย ๆ ว่า ถ้าเป็นเป็ดเป็นไก่ ก็เป็นพวกไข่แล้วทิ้ง ไม่ได้ทำหน้าที่ฟูมฟักจนกระทั่งลูกเต้าของตนเองโตมา ซึ่งแม้ว่าการฟูมฟักจนโตมา ลูกเต้าก็อาจจะมีที่นอกลู่นอกทางอยู่แล้ว แต่ในเมื่อปราศจากการฟูมฟักให้เติบโตมาในหนทางที่ถูกต้อง ก็อาจจะมีการนอกลู่นอกทางเกือบจะ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น..พระอุปัชฌาย์ ถึงแม้ว่าจะผ่านความเข้มงวดกวดขันประการใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือกำลังใจของพระอุปัชฌาย์เอง

ในสมัยพุทธกาลนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานพระบรมพุทธานุญาตเอาไว้ว่า พระเถระที่พรรษาพ้น ๑๐ รู้พระธรรมวินัยครบถ้วน อาจอบรมกุลบุตรซึ่งตนอุปสมบทให้เป็นพระภิกษุที่รู้พระธรรมวินัยและปฏิบัติตามได้ถูกต้อง ก็สามารถเป็นพระอุปัชฌาย์ให้การอุปสมบทได้ โดยพระอุปัชฌาย์รูปแรกในพระพุทธศาสนา ซึ่งให้การอุปสมบทตามวิธีที่เรียกว่า ติสรณคมนูปสัมปทานั้น ก็คือพระสารีบุตรมหาเถระ องค์อัครสาวกเบื้องขวานั่นเอง ได้ทำการบรรพชาให้แก่สามเณรราหุล ต่อมาก็ได้ให้การอุปสมบทแก่ราธพราหมณ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2023 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-01-2023, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ต่อมาพระอุปัชฌาย์ต่าง ๆ ซึ่งได้ทำหน้าที่นั้น เมื่อสืบเนื่องมาถึงในยุคสมัยปัจจุบัน มีความย่อหย่อนลงไปมาก จึงทำให้ทางมหาเถรสมาคม ต้องกำหนดกฎเกณฑ์ว่า บุคคลที่จะเป็นพระอุปัชฌาย์ได้ ต้องผ่านการอบรมจากคณะกรรมการซึ่งกำหนดโดยมหาเถรสมาคมเท่านั้น แล้วก็ยังมีข้อกำหนดที่มีความเข้มงวดกวดขันมากขึ้น

อย่างรุ่นของกระผม/อาตมภาพนั้น อันดับแรกเลย ต้องผ่านการอบรมในระดับอำเภอ แล้วก็มาผ่านการอบรมในสนามจังหวัด ผ่านการอบรมในสนามภาค ผ่านการอบรมในสนามหน แล้วถึงผ่านการอบรมรอบสุดท้ายระดับประเทศที่วัดสามพระยาวรวิหาร ถ้าหากว่าผ่านได้ครบถ้วนทุกระดับ จึงจะได้รับตราตั้งพระอุปัชฌาย์จากเจ้าคณะใหญ่ของตน

ท่านทั้งหลายจะเห็นได้ว่า แม้ผ่านการอบรมที่เข้มงวดกวดขันขนาดนี้ก็ตาม ก็ยังมีพระอุปัชฌาย์ที่ละเมิดจริยาของตน ให้การอุปสมบทเพราะเห็นแก่ปัจจัยไทยธรรมอยู่ดี เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะกำหนดตายตัวลงไปได้ ต่อให้เข้มงวดกวดขันขนาดไหน ท้ายสุดก็จะมีพวกนอกลู่นอกทางจนได้

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายพิจารณาไปในสมัยพุทธกาล แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนมชีพอยู่ ทำหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ โดยบัญญัติพระวินัยต่าง ๆ ออกมาให้ยึดถือและปฏิบัติ ก็ยังมีบรรดาท่านทั้งหลายที่แหกกฎแหกเกณฑ์ ไม่สนใจในเรื่องของพระธรรมวินัย โดยเป็นการที่ละเมิดทั้ง ๆ ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเป็นผู้ปกครองคณะสงฆ์อยู่..!

ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลืออย่างเช่นว่า พระโลลุทายี หรือว่าพระฉัพพัคคีย์ ซึ่งประกอบไปด้วยบรรดาพระเถระต่าง ๆ ที่มีความรู้ความสามารถ แต่ว่าใช้ความรู้ความสามารถในการแหกคอกออกไป หรือว่าบรรดาพระเถระเช่นพระอุปนันทศากยบุตร ท่านทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแต่เป็นต้นบัญญัติพระวินัยจำนวนมากต่อมากข้อด้วยกัน จนกลายเป็นที่เอือมระอาใจแก่พระเถระผู้ปกครองเป็นอย่างยิ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2023 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-01-2023, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..แม้ในยุคสมัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระชนมชีพอยู่ ก็ยังมีบรรดาท่านทั้งหลายแหกคอกออกไปได้จนขนาดนี้ ในยุคสมัยของเรา ซึ่งบรรดาเรื่องของศีลของธรรมในจิตในใจของบุคคลตกต่ำลงไปมาก จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีการแหกคอกออกไปหรือไม่ ?

เพียงแต่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้นได้รับการขัดเกลามาจากครูบาอาจารย์ ซึ่งก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ที่ท่านเข้มงวดกวดขันกับลูกศิษย์ โดยที่ตั้งความหวังเอาไว้ว่า ในเมื่อบวชเข้ามาแล้ว อย่างน้อยก็ต้องเป็นพระสุปฏิปันโน ให้ญาติโยมไหว้ได้เต็มไม้เต็มมือ ไม่เป็นผู้ที่ทำให้พระพุทธศาสนาเสียหายด้วยตนเอง

กระผม/อาตมภาพพยายามเลียนแบบปฏิปทาของครูบาอาจารย์ ในการเข้มงวดกวดขันต่อสัทธิวิหาริกที่มาบวช โดยเฉพาะผู้ที่มาบวชที่วัดท่าขนุนนั้น ถ้าหากว่ายังไม่ถึง ๕ พรรษา จะไม่ปล่อยให้ไปอยู่ที่อื่น ท่านใดก็ตามที่ทนระเบียบวัดท่าขนุนไม่ได้ แหกคอกหนีไปก่อนได้รับอนุญาตก็จะโดนขึ้นบัญชีดำ ไม่รับกลับเข้าสังกัด ถ้าหากว่าสึกหาลาเพศไปก็ไม่รับบวชให้ใหม่ด้วย..!

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้น พระอุปัชฌาย์อาจารย์อื่นบางทีก็บอกว่า "จะเข้มงวดกันไปถึงไหน ? สมัยนี้เรื่องพวกนี้เขาไม่ว่ากันแล้ว" แต่กระผม/อาตมภาพน้้น พยายามที่จะยึดถือตามแนวที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้วางไว้ ก็คือพระที่บวชแล้วยังไม่พ้น ๕ พรรษา พระอุปัชฌาย์อาจารย์เห็นว่ายังรู้ธรรมวินัยไม่ครบ รู้กิจวัตร วิธีวัตร อาคันตุกะวัตรไม่ครบถ้วน ก็จะไม่ปล่อยให้ได้นิสัยมุตตกะ ปล่อยให้ออกไปเผชิญโลกภายนอก

เพราะว่าถ้าออกไปก็อาจจะสร้างความเสียหาย ทำให้พระอุปัชฌาย์อาจารย์เสียชื่อ ทำให้วัดต้องสังกัดเสียชื่อ ทำให้คณะสงฆ์เสียชื่อ และทำให้พระพุทธศาสนา ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานพระธรรมวินัยไว้ให้นั้นเสียหายลงไปได้

ในส่วนนี้ต้องบอกว่าเป็นแค่การยื้อเวลาเท่านั้น ที่จะให้คณะสงฆ์ของเราเสื่อมเสียลงไปช้าที่สุดเท่าที่จะช้าได้ ซึ่งแม้แต่วันนี้ในการสัมโมทนียกถา พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ก็ยังให้คำชมเชยต่อผู้เข้าอบรมว่า "อย่างวัดท่าขนุนมีความแม่นยำในพระธรรมวินัย จึงได้ให้มาเป็นกรรมการในการสอบอบรมพวกท่าน" เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2023 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 26-01-2023, 00:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก็แปลว่าเรื่องที่กระผม/อาตมภาพประพฤติปฏิบัติอยู่นั้น ได้อยู่ในสายตาของเจ้าคณะปกครอง จากที่เคยเป็นแค่กรรมการสอบอบรมพระอุปัชฌาย์ในรอบอำเภอ รอบจังหวัด ตอนนี้ก็ขยับขึ้นมาเป็นกรรมการสอบพระอุปัชฌาย์ในรอบภาค ซึ่งยังไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปจะมีสูงไปกว่านี้หรือไม่ ? แต่ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

ดังนั้น..บรรดาผู้เข้ารับการอบรมทั้ง ๓ รุ่น ก็คือผู้เข้าอบรมในรุ่นปี ๒๕๖๓, ๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕ เมื่อได้รับในส่วนที่กระผม/อาตมภาพเคี่ยวเข็ญไปแล้ว ท่านทั้งหลายเหล่านี้จะสามารถนำไปใช้งานได้มากน้อยเท่าไรก็ยังไม่อาจจะรู้ได้ แต่ก็จะพยายามให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นได้ไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ การอบรมพระอุปัชฌาย์ ๓ รุ่นรวมกันแล้วเกือบ ๘๐ รูป ถ้าหากว่ามีท่านใดท่านหนึ่งนำเอาปฏิปทาแบบพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงไปใช้ได้สัก ๑ รูป กระผม/อาตมภาพก็ถือว่าคุ้มค่าต่อการทำหน้าที่แล้ว

โดยเฉพาะทั้ง ๓ รุ่นนี้ มองไปแล้วส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ที่กระผม/อาตมภาพสอนหนังสือให้ ไม่ว่าจะเป็นที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ตลอดจนกระทั่งวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ที่ตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี

บางท่านก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่เรียนกันมาตั้งแต่สมัยประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรี ปริญญาโท ซึ่งท่านทั้งหลายเหล่านี้ทราบดีอยู่แล้วว่า กระผม/อาตมภาพเป็นคนอย่างไร ทุกคนให้ความเกรงใจเป็นปกติ เมื่อมาซักซ้อมในการสอบอบรมให้แก่ท่านทั้งหลาย ก็หวังว่าอย่างน้อย ๆ ท่านทั้งหลายก็จะยอมรับฟังกันอยู่บ้าง

โดยเฉพาะหลายต่อหลายท่าน ถึงขนาดมากราบฝากเนื้อฝากตัว ไม่ได้ฝากเนื้อฝากตัวในฐานะที่
กระผม/อาตมภาพเป็นกรรมการซึ่งชี้เป็นชี้ตายได้ แต่มาฝากเนื้อฝากตัวในฐานะลูกศิษย์ที่กระผม/อาตมภาพเคยอบรมสั่งสอนมา ตอนนี้ก็ขอมาเป็นลูกศิษย์ในการอบรมพระอุปัชฌาย์อีกรอบหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่รู้สึกว่าไม่น่าจะต้องให้หนักใจในการทำหน้าที่ครั้งนี้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2023 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว