เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๕

[ตัวเล็ก]

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๕

[เถรี]

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ถ้าตามปกติแล้ว ก็ต้องไปพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่วัดไตรมิตรวิทยาราม แต่เนื่องจากว่าโดนเจ้าภาพยกเลิกงาน จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ไปหาหมอซ่อมสุขภาพ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วกระผม/อาตมภาพติดงานจนไม่มีเวลาไปหาหมอ ได้แต่ใช้กำลังใจเยียวยาประทะประทังไปเท่านั้น

ซึ่งการใช้กำลังใจเพียงอย่างเดียว บางทีก็ไม่สามารถที่จะช่วยให้ร่างกายที่ทรุดโทรมมากนั้น มีกำลังดีขึ้นมาได้ จึงต้องอาศัยทั้งหมอยา และขณะเดียวกัน ก็ต้องอาศัยกำลังใจเสริมเข้าไปด้วยกัน จึงพอที่จะช่วยให้ร่างกายนี้มีเรี่ยวแรงที่จะทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาได้ดีขึ้น

ระหว่างที่นั่งรอหมอเรียกตัวอยู่ ก็ได้ยินหมอ พยาบาล และผู้ช่วยพยาบาล พูดถึงการไปกราบขอพรท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า ในระยะนี้วัดวาอารามต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่สร้างท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ เพื่อให้ญาติโยมได้ไปกราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมากต่อมากด้วยกัน

แม้แต่พรรคพวกเพื่อนฝูง อย่างท่านเจ้าคุณดำเนิน (พระปริยัติวโรปการ) เจ้าอาวาสวัดนาคกลางวรวิหาร ก็แทบจะสร้างท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณครบ ๗ สีไปแล้ว หรือว่าพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ป.ธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ก็ให้ช่างปั้นท้าวเวสสุวรรณองค์ใหญ่ ๒ องค์ ขนาบข้างซ้ายขวาพระพุทธรูปปางเปิดโลกของท่าน

ตรงส่วนนี้จะว่าไปแล้ว ระยะนี้ก็เป็นระยะเวลาของท่านปู่ท้าวเวสสุวรรรณก็ว่าได้ เนื่องจากว่าความเชื่อและเคารพนับถือบรรดาพระหรือว่าเทวดาทั้งหลายของเรานั้น มีการเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่ลืม ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ทุกคนจะต้องนึกถึงท้าวจตุคามและท้าวรามเทพ ซึ่งได้รับการสร้างแทบจะทุกวัด ยกเว้นวัดท่าขนุนที่ไม่ยอมสร้าง แต่ว่าหันไปสร้างรูปพระปัจเจกพุทธเจ้าแทน โดยที่การสร้างท้าวจตุคามรามเทพนั้น วัดวาอารามอื่นสร้างแล้วก็ได้นิมนต์ให้กระผม/อาตมภาพไปปลุกเสก รวมแล้วน่าจะถึง ๓๐ รุ่นด้วยกัน..!

[เถรี]

ท้าวจตุคามรามเทพ ตั้งแต่มีการสร้างรุ่นแรกในปี ๒๕๓๐ ก็อยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงปี ๒๕๕๐ กระแสถึงได้เบาลง เมื่อกระแสเบาลง ก็ไม่ใช่ว่าจะหมดไปเลยทีเดียว เนื่องจากว่าอะไรที่เป็นของจริง เป็นของแท้ ก็จะได้รับการเคารพบูชาจากผู้ที่มีศรัทธาอย่างแท้จริงต่อไป ต้องเรียกว่าเป็นการคัดกรองบุคคลที่เคารพนับถือในระดับหนึ่ง เมื่อถึงเวลาท่านที่ไม่ได้ฮือตามกระแสไป ก็แสดงว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีความเคารพอย่างแท้จริง ได้แสดงออกถึงความมั่นคง ถึงศรัทธาอันแน่วแน่ไม่ท้อถอยของตน

ถัดมาไม่นาน เรื่องของท่านปู่พญาศรีสุทโธนาคราชก็โด่งดังขึ้นมา แล้วก็ยังคงโด่งดังเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ แม้ว่าจะเบาลง ซาลงในระยะหนึ่ง โดยมีไอ้ไข่แทรกมาได้ประมาณ ๒ ปีกว่า ถึง ๓ ปี แล้วกระแสของท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณก็โด่งดังขึ้นมาในระยะนี้

อยากจะบอกว่าเรื่องของท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ หรือว่าพญายักษ์ภูติบดี ท้าวจาตุมหาราชหรือภูเตศวร ตามที่คนเรียกกัน บางท่านก็เรียกว่าธนบดี เนื่องจากว่าท่านเป็นใหญ่ในขุมทรัพย์ทั้งปวง ขุมทรัทย์ทั้งหลายในโลกนี้ ล้วนแล้วแต่อยู่ใต้การดูแลของท่าน ซึ่งไม่ว่าจะใหญ่จะเล็กขนาดไหนก็ตาม ท่านก็จะให้บริวารไปดูแลรักษาเอาไว้ตามหน้าที่

โดยเฉพาะดูแลรักษาสถานที่สำคัญในพระพุทธศาสนา ดูแลรักษาพระภิกษุองค์สำคัญ ตลอดจนกระทั่งดูแลรักษาพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ โดยมีองค์พระมหากษัตริย์ เป็นต้นเป็นประธาน

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่าเป็นหน้าที่ของท่านโดยตรง เพราะว่าชื่อหนึ่งที่ท่านทั้งหลายได้รับนั้น ก็คือท้าวจาตุโลกบาล แปลว่า ผู้รักษาโลกทั้ง ๔ ซึ่งประกอบด้วย ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก และท้าววิรูปักษ์ ซึ่งท้าวมหาราชทั้ง ๔ นั้น ปกครองสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาภูมิ ซึ่งเป็นกามาวจรสวรรค์ชั้นแรก โดยที่ทั้งหมดยกให้ท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ เจ้าของอาฏานาฏิยนครเป็นจอมทัพ หรือว่าเป็นจอมกษัตริย์ของบรรดาเทวดาชั้นจาตุมหาราชทั้งปวง

อยากจะบอกด้วยความภูมิใจว่า ถ้าเป็นยุคใหม่นี้ วัดท่าขนุนของเราถือว่าเป็นวัดแรก ๆ ที่สร้างวัตถุมงคลรูปท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณขึ้นมาให้ทุกคนบูชา โดยที่ไม่ได้ตามกระแสใคร

[เถรี]

ท้าวเวสสุวรรณที่สร้างขึ้นมาก็ไม่ใช่รูปของท่านเดี่ยว ๆ แต่ว่าสร้างขึ้นมาโดยมีรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุนอยู่ด้านหน้า มีรูปท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณและอักขระเลขยันต์ที่ศึกษามาตามสายครูบาอาจารย์ ก็คือหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ถ่ายทอดต่อมายังหลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ จังหวัดพิจิตร แล้วกระผม/อาตมภาพก็ไปได้ตำราของหลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อมาอีกต่อหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้จากท่านโดยตรง แต่ได้จากเหล่าศิษย์ที่ต้องบอกว่าไม่ทราบคุณค่า ก็เลยทำให้วิชาการสร้างเหรียญท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณและผ้ายันต์นั้น ตกทอดมาถึงวัดท่าขนุนได้

ที่สร้างความฮือฮาให้กับทุกคนก็คือ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญรอยพระพุทธบาทหลังท้าวเวสสุวรรณ เนื้อทองทิพย์ เนื้อทองแดง หรือว่าเนื้อเงินของท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณที่กระผม/อาตมภาพได้รับอนุญาตให้สร้าง ตลอดจนกระทั่งผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ ล้วนแล้วแต่หมดสิ้น ไม่มีเหลือเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะว่าผู้ที่ได้รับไปนั้น เกิดประสบการณ์ต่าง ๆ อย่างชัดเจน

โดยเฉพาะท่านสมเกียรติ นาคศรีโภชน์ รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลท่าขนุน รองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ช่วงนั้นต้องบอกว่าท่าน "ดวงตก" เนื่องจากว่าขับรถของตนเองไปก็ชน จนกระทั่งรถพังต้องเข้าซ่อม เมื่อยืมรถคนอื่นไปขับก็ชนอีก จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บ

เมื่อท่านมาบอกเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง กระผม/อาตมภาพจึงมอบเหรียญรอยพระพุทธบาทหลังท้าวเวสสุวรรณเนื้อเงินให้แก่ท่านไป ซึ่งเป็นเหรียญเดียวที่มีติดตัวกระผมกระผม/อาตมภาพอยู่ เมื่อท่านได้รับไปและนำไปแขวน ไปอาราธนาตามวิธีการที่บอกให้ ตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้หลายปีมาแล้ว ก็ยังไม่มีอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ อีกเลย

ท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมว่า เหรียญพระพุทธบาทหลังท้าวเวสสุวรรณนั้น กระผม/อาตมภาพสร้างขึ้นในปี ๒๕๖๑ ก็ต้องเรียกว่าวิ่งนำคนอื่นไปหลายช่วงตัว แล้วหลังจากนั้นก็ยังมีผู้มาขออนุญาตสร้างในนามวัดท่าขนุน ก็คือเหรียญสมเด็จองค์ปฐมหลังท้าวเวสสุวรรณ รุ่นปาฏิหาริย์ เหรียญพญาเต่าเรือนแบกสมเด็จองค์ปฐมหลังท้าวเวสสุวรรณ เหรียญท้าวเวสสุวรรณรุ่นเจริญยศ เหรียญท้าวเสสุวรรณรุ่นเจริญทรัพย์ เป็นต้น

ตรงจุดนี้ต้องบอกว่า ทุกรุ่นได้รับความนิยมจากญาติโยมเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเหรียญทั้งหลายเหล่านี้หมดไปจากวัดท่าขนุนนานแล้ว

[เถรี]

ส่วนอีกรุ่นหนึ่ง ที่ได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกโดยที่ท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณเป็นผู้นิมนต์เอง ก็คือเหรียญอาร์ม หลังท้าวเวสสุวรรณของวัดพังตรุ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ของท่านพระมหาธวัชชัย กลฺยาโณ ป.ธ.๙ เจ้าอาวาสวัดพังตรุ เจ้าคณะอำเภอพนมทวน

เมื่อไปถึง ท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณได้ไปยืนรออยู่หน้าโบสถ์แล้ว ต้องบอกว่าท่านมีความสัมพันธ์กับที่นั้นเป็นพิเศษ ถึงได้ตั้งใจไปอนุเคราะห์สงเคราะห์

โดยเฉพาะในส่วนที่รับปากแก่ลูกศิษย์สายวัดท่าซุงก็คือ ถ้าหากว่าผู้หนึ่งผู้ใดตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ท่านจะให้บริวารตามคุ้มครองตลอดชีวิต

ตรงจุดนี้ต้องบอกว่าต่อให้ไม่มีรูป ไม่มีเหรียญ ไม่มีผ้ายันต์ของท่าน แต่ถ้าเราตั้งอกตั้งใจปฏิบัติธรรม ทำความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างมั่นคง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง รักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ล่วงละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล และ ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล

พร้อมทั้งใช้ปัญญาเล็กน้อย คือรู้สึกว่าตัวเราต้องตายแน่นอน ถ้าตายเมื่อไร เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว ถ้าท่านทั้งหลายตั้งใจปฏิบัติอยู่ในกฎเกณฑ์กติกาเหล่านี้อย่างแท้จริง ท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณก็จะมอบหมายให้บริวารของท่านตามคุ้มครองตลอดชีวิต

ส่วนเหรียญอาร์มหลังท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณของวัดพังตรุนั้น น่าจะพอมีอยู่เล็กน้อยในเว็บไซต์วัดท่าขนุน ซึ่งทุกเหรียญกระผม/อาตมภาพได้จารนะโมตาบอดไปให้แล้วด้วย แต่ว่าบางคนอาจจะไม่รู้จักของ ก็เลยไม่ได้ให้ความสนใจ

[เถรี]

อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นเหรียญพญาเต่าเรือนแบกสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งด้านใต้ท้องเป็นรูปท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ กระผม/อาตมภาพไม่ได้สอบถาม จึงไม่ทราบเหมือนกันว่ายังพอมีเหลืออยู่ที่วัดสี่แยกเจริญพรบ้างหรือไม่ ?

ถ้าท่านทั้งหลายต้องการการปกป้องคุ้มครอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตั้งแต่โบร่ำโบราณมา ทุกคนก็อาศัยบารมีท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณอยู่เสมอ เพราะว่าสมัยก่อนนั้นวิทยาการต่าง ๆ ไม่ก้าวหน้า เรื่องของผีเจ้าเข้าสิง หรือว่ามาเบียดเบียน มาหลอกลวง มาก่อความเดือดร้อนนั้นมีมากต่อมากด้วยกัน แต่ถ้าใครมีรูปท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณหรือว่าผ้ายันต์รูปของท่านแล้วอาราธนาได้ถูกต้อง ก็จะทำให้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

วันนี้เมื่อไปหาหมอ แล้วเจอเหตุการณ์ที่ทุกคนกล่าวถึงเป็น "ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์" ก็ทำให้เข้าใจว่า ยุคนี้สมัยนี้น่าจะเป็นยุคที่ท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณโดนพวกเรา "บังคับ" ให้ท่านช่วยดูแล ด้วยการสร้างรูปเคารพของท่านขึ้นมาบูชากัน ต้องบอกว่าเป็นเรื่องขำที่หัวเราะไม่ค่อยจะออก เพราะว่าความต้องการของมนุษย์นั้นมักจะไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้เทวดา นางฟ้า พรหม ตลอดจนกระทั่งพระเจ้าพระสงฆ์เดือดร้อนไปตาม ๆ กัน

สำหรับวันนี้ก็ขอบอกกล่าวแก่พระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)