กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 11-10-2020, 21:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“แต่อย่างสายของหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้น ส่วนใหญ่กราบขอบารมีพระสงเคราะห์ ลงมาตูมเดียวสายอื่นหายเกลี้ยง..! เพราะว่าไม่มีกำลังอะไรจะสูงกว่าพระพุทธเจ้าอีกแล้ว แต่ด้วยความที่อาตมาศึกษามามาก ก็เลยไปตกอยู่ในลักษณะภาษิตโบราณที่ว่า ‘รู้มากก็ยากนาน’ รู้มากแล้วเสียดาย ของแต่ละอย่างกระแสต้องเป็นอย่างนี้..กำลังต้องใช้แบบนี้..จึงต้องช่วยจัดให้เขาไป อีกอย่างเป็นแบบนี้..ใช้แบบนี้..ทำแบบนี้..จัดให้เขาไป เสร็จพิธีตัวเองแทบจะสลบไสล..!

ต่อไปถ้ารำคาญขึ้นมาก็จะใช้วิธีของสายหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็คืออาราธนาบารมีพระลงอย่างเดียวเลย ที่เหลือจะได้ไม่เหนื่อย ส่วนลงไปแล้วจะเหลืออะไรไม่เหลืออะไรก็เป็นเรื่องของเขา จึงขึ้นกับอยู่กับว่าตอนนั้นอารมณ์ดีพอที่จะไปค่อย ๆ จัดให้หรือเปล่า..?!

โยมลองนึกถึงด้ายที่พันกันอีรุงตุงนัง แล้วเราต้องค่อย ๆ ไปแกะจัดเรียงใหม่ ต้องใจเย็นมาก ค่อย ๆ จัด ค่อย ๆ เรียง ค่อย ๆ คลี่คลาย ให้ได้ประโยชน์สูงสุดตามสายวิชาของครูบาอาจารย์ของเขา ถ้าหากว่าโยมไปดูในเว็บวัดท่าขนุน ที่อาตมาทำตารางครูบาอาจารย์ในสายธรรมเอาไว้ จะเห็นว่าครูมาก อาจารย์มาก ศึกษาวิชาการมากสาย..ก็เลยลำบาก

จึงขึ้นอยู่กับความขยันหรือขี้เกียจของแต่ละงาน ถ้าขยันมากก็จะทำให้ ถ้าหากว่าขี้เกียจมาก ครูบาอาจารย์ไม่มาสงเคราะห์ให้ ก็เหลือแต่พระอย่างเดียว ถือว่าเรายึดจุดสูงสุดเอาไว้ อย่างอื่นไม่ต้องใส่ใจ ถ้าอย่างนั้นก็จบเลย เอาอะไรมาก็กลายเป็นอานุภาพอย่างเดียวเหมือนกันหมด ความจริงก็ดีนะ..ง่ายดี แต่คนเอาไปใช้คงจะประสาทกินไปเลย..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2020 เมื่อ 01:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 12-10-2020, 23:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวเตือนว่า “ช่วงนี้เป็นฤดูกฐิน แต่ขณะเดียวกันฝนฟ้าก็ไม่ค่อยเป็นใจ การเดินทางไปทอดกฐินจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะว่าต่อให้เราไม่พลาด คนอื่นก็อาจจะพลาด แล้วทำให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเราได้


ช่วงนี้โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ จะมีการเดินทางมากเพื่อที่จะไปทำบุญกัน ก็ต้องระมัดระวังกันเต็มที่ จนกระทั่งผ่านพ้นฤดูกาลไปแล้ว คือพ้นจากลอยกระทงไป การเดินทางถึงจะเบาบางลง แต่ก็จะไปหนักขึ้นอีก เพราะว่าเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยว

สรุปว่าการเดินทางบนท้องถนนไม่ว่าจะฤดูกาลไหนก็ต้องระมัดระวังอย่างเต็มที่ เพราะว่าสมัยนี้คนขับรถได้มีมาก แต่คนขับรถเป็นมีน้อย ที่อาตมาเจอมากับตัวเองก็คือพวกที่ได้รับการสอนสั่งมาจากครูบาอาจารย์บ้า ๆ บอ ๆ ประเภทว่าต้องขับรถเอาล้อเหยียบเส้นขาวไว้หนึ่งข้างเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง บางคนก็สอนว่าให้ขับให้เส้นขาวอยู่ตรงกลางหน้ารถของตัวเอง เท่ากับว่ากินคนเดียวไปสองเลน..!

อีกประเภทหนึ่งก็สอนว่าให้ขับชิดขวาเอาไว้ คนขับรถเก่งก็จะแซงซ้ายไปเอง พวกนี้ต้องถือว่าเป็นคำสอนที่อุบาทว์มาก เพราะว่าเท่ากับทำผิดกฎจราจรโดยเจตนา”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2020 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 12-10-2020, 23:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“แล้วอีกประเภทหนึ่งที่อาตมาเจอมามาก คือทำถูกกฎจราจรไปเลย ด้วยการขับห่างจากคันหน้า ๕๐ เมตร โดยที่ไม่ได้ดูว่าข้างหลังตัวเองติดยาวกี่กิโลเมตรแล้ว..! ค่อย ๆ คลานไปด้วยความเร็ว ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจอถนนสามเลน สามคันช่วยกันคลานไปทั้งสามเลน ข้างหลังก็ติดกันไปหมด โดยปกติแล้วต่อให้ขับรถไม่เป็น ก็ควรที่จะมีสามัญสำนึกว่า เลนขวาต้องเว้นว่างเอาไว้เพื่อให้รถที่เร็วกว่าเขาไปกัน

บ้านเราก็ยังมีการกระทำที่ลักลั่นกันอยู่ก็คือ ความเร็วตามกฎหมายเป็นอย่างหนึ่ง ความเร็วโดยอนุโลมเป็นอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือนกับต่างประเทศ ต่างประเทศเขาจะมีตัวเลขบอกความเร็วที่คุณขับได้อยู่บนถนนเป็นระยะ ๆ ไป และต้องไปตามนั้นเท่านั้น เขามีกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง จากช่วงนี้ถึงช่วงนี้ถ้าคุณมาเร็วเกินที่กำหนดไว้ ใบสั่งจะส่งถึงบ้าน ถ้าไม่จ่ายภายในสองวันจะโดนบวกเพิ่มอีกสิบห้าเปอร์เซ็นต์ ถ้าครบหนึ่งอาทิตย์แล้วยังไม่จ่าย จะโดนตัดแต้ม ยึดใบขับขี่ ตามแต่โทษหนักหรือเบา”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2020 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 12-10-2020, 23:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ส่วนบ้านเรากฎหมายมีเอาไว้ให้เจ้าหน้าที่หากิน โดยรวมแล้วโดยปกติบ้านเราไม่ค่อยจะเคร่งครัดเข้มงวดกัน จนกลายเป็นคนสันดานเสียขับรถบนถนนกันมาก ก็คือถ้ากูจะไปคนอื่นต้องหลีก พอไปเจอคนไม่หลีกหรือหลีกไม่ทันเข้า ก็เกิดอุบัติเหตุ คือ ถ้าคุณจะปาดจะแซงก็ต้องดูจังหวะด้วย ว่ารถอื่นเขาสามารถหยุดให้คุณหรือชะลอให้คุณได้ทันไหม ? ไม่ใช่ว่าเขาวิ่งมาเป็นร้อย แต่คุณคลานหกสิบเข้าเลนเขาไป.. อย่างนี้ต้องเรียกว่าหาที่ตาย !

ได้ยินว่าผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติท่านใหม่ให้ยกเลิกด่านตรวจทั้งหมด เพื่อรอแนวทางการปฏิบัติที่เป็นระเบียบเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง ก็ขออนุโมทนา เพราะว่าปัจจุบันนี้ที่รถติดบริเวณปริมณฑลของกรุงเทพ ฯ ส่วนหนึ่งก็เพราะเกิดจากด่านตรวจ เวลาเจอรถติด จะถามตัวเองกันเลยว่าเป็นด่านตรวจหรือว่าเป็นอุบัติเหตุ ? มีแค่สองเรื่องไม่มีเรื่องอื่น ดังนั้น..การยกเลิกด่านตรวจอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยบรรเทาปัญหารถติดได้ในส่วนหนึ่ง”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2020 เมื่อ 02:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 12-10-2020, 23:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ทางที่ดีที่สุดก็คือ ทางด้านกองตำรวจจราจร ควรที่จะลงทุนติดกล้องวงจรปิดทุกเส้นทาง เพื่อใช้กล้องในการตรวจจับความเร็ว แล้วก็ส่งใบสั่งถึงบ้าน ซึ่งปัจจุบันนี้แม้ว่าทางด้านกองทะเบียนกับทางด้านกรมตำรวจจะมีการเชื่อมข้อมูลเพื่อประสานงานกัน แต่ก็ยังทำกันแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ

กองทะเบียนถือว่าการต่อทะเบียนเป็นรายได้ของเขา เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือไปว่า บุคคลที่ทำผิดกฎจราจรไม่ควรที่จะให้ต่อทะเบียน ทางกองทะเบียนเขาไม่ฟัง เพราะว่าไปทำให้รายได้ของเขาหายไป งานก็เลยลักลั่นกันอยู่ จนกระทั่งแก้ไขไปแก้ไขมาเป็นว่า ต่อทะเบียนได้แต่ให้ทะเบียนมีอายุไม่เกินสองเดือน ถ้าภายในสองเดือนไม่ไปจ่ายค่าปรับ ก็ถือว่าทะเบียนหมดอายุ ฟังดูแล้วจะบ้า..! เพราะว่าใครเห็นป้ายวงกลมก็ต้องคิดว่าต่อทะเบียนแล้ว แล้วปัจจุบันนี้ป้ายวงกลมก็แทบจะไม่มี มีแต่ป้ายสี่เหลี่ยม แต่ก็ยังเรียกกันว่าป้ายวงกลมอยู่ดี..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2020 เมื่อ 02:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 12-10-2020, 23:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงการจัดระเบียบคนมาบ้านเติมบุญว่า ความผิดพลาดไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยอะไรก็ตาม ต้องได้รับการลงโทษและแก้ไข ไม่ใช่พลาดแล้วปล่อยให้เลยตามเลย

พวกที่ว่าไม่ได้ บอกไม่ฟัง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม กำหนดโทษห้ามมาบ้านนี้ไปเลย จะเอาหนึ่งเดือน สองเดือน สามเดือนก็ตัดสินใจไปเลย ถ้าหากว่ายังรั้นอีกก็ห้ามตลอดชีวิตไปเลย

การทำหน้าที่การงานโดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานของพระพุทธศาสนา อย่ารักตัวเองมากจนเกินไป อุตส่าห์ปฏิญาณตนแล้วว่า ขอมอบกายถวายชีวิตต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ไม่กล้ากระทบกระทั่งกับใครเลย แล้วจะทำไปทำไม..? รักจะทำหน้าที่ก็ต้องมีการกระทบกระทั่งอยู่แล้ว ในเมื่อพูดไม่รู้เรื่อง ก็จัดการไปเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2020 เมื่อ 02:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 12-10-2020, 23:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ถ้ายังเห็นแก่หน้าคนโน้น เกรงใจคนนี้ ก็อย่ามาทำหน้าที่ จำไว้ว่าพรรคพวกตัวเองต้องเอาให้หนักที่สุด ถ้าเอาพวกเดียวกันอยู่ คนอื่นก็เอาอยู่หมด มัวแต่ไปเลือกที่รักมักที่ชัง มัวแต่ไปรักตัวเองมากเกินไป มีผลให้ทำหน้าที่ขาดตกบกพร่อง ก็จะทำให้ส่วนรวมเสียหาย

ทำหน้าที่ไป ก็ฝึกฝนขัดเกลา กาย วาจา ใจ ของตัวเองไป ไม่ใช่ว่าถอดเขี้ยวถอดเล็บหมด ถ้าใครพูดไม่รู้เรื่องก็แยกเขี้ยวกางเล็บลุยไปเลย พระยังมีการผิดศีลแล้วมาปลงอาบัติ มึงจะบริสุทธิ์ไปถึงขนาดไหนวะ ? ถึงไม่กล้ากระทบใครเลย..!

ภาษิตจีนบอกว่า
เจอผู้คนเอ่ยวาจาผู้คน เจอภูตผีกล่าววาจาภูตผี’ ในเมื่อพูดดี ๆ แล้วเขาไม่ฟัง แล้วยังจะไปดีกับเขาทำไม..?”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2020 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 12-10-2020, 23:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “งานตักบาตรเทโวกับทอดกฐินสามัคคีปีนี้ มีปรากฏการณ์ที่แปลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือ เศรษฐกิจย่ำแย่มาก แต่ญาติโยมทำบุญด้วยเหรียญน้อยกันมาก ปกติแล้วต้องนับเหรียญกันเป็นวัน นับจนมือดำ แต่งานนี้ส่วนใหญ่เป็นธนบัตร ยอดกฐินไม่ได้น้อยกว่าปีที่แล้ว แต่ยอดตักบาตรเทโวได้มากกว่าปีที่แล้วเป็นแสนเลย..!

อาตมาเห็นแล้วใจหาย ใจหายตรงที่ว่านี่เป็นทางเสื่อมของพระพุทธศาสนาที่ชัดเจนที่สุด เพราะว่าญาติโยมเน้นการทำบุญกัน ในขณะที่สภาวะเศรษฐกิจไปได้อย่างยากลำบาก การทำบุญทุกคนก็ต้องหวังสิ่งตอบแทน น้อยคนที่จะทำโดยการวางอุเบกขาได้ ในเมื่อหวังสิ่งตอบแทนตอบก็แปลว่ามักง่าย เพราะว่าพระพุทธเจ้าสอนเราทั้งทาน ทั้งศีล ทั้งภาวนา เราไปเน้นทานที่ทำง่ายที่สุด โดยไม่ได้ไปเน้นศีลและภาวนาที่ทำยากกว่าและยากที่สุด ก็จะทำให้นานไปไตรสิกขาของพระพุทธเจ้า จะเหลืออยู่แค่ทานเท่านั้น ไม่ต้องไปพูดถึง อธิสีลสิกขา อธิจิตสิกขา อธิปัญญาสิกขา

ในเมื่อเราก้าวไม่ถึงไตรสิกขา โอกาสที่จะพ้นทุกข์ก็น้อยลงไปมาก หนทางแห่งความเสื่อมของพระพุทธศาสนาก็ปรากฏอย่างชัดเจน เพราะว่าโยมเอาแต่ทำทานอย่างเดียว”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2020 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 12-10-2020, 23:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ในส่วนของอาตมานั้นจะมองในภาพรวมเป็นใหญ่ ไม่ได้มองภาพเฉพาะตน ไม่ได้มองว่างานตักบาตรเทโวและกฐินของวัดท่าขนุนมีคนไปมาก คนช่วยกันทำบุญมาก แต่กลับมองเลยไปว่า ที่ญาติโยมทำบุญ ก็เพราะหวังหลุดพ้นจากสภาพที่ยากลำบากของเศรษฐกิจและการดำรงชีวิต ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยกำลังบุญในการช่วยเหลือ แต่โยมกลับไปเอาบุญที่ได้ผลน้อยที่สุด ก็คือทำทานเป็นหลัก บุญที่ได้ผลมากกว่าคือการรักษาศีล และบุญที่ได้ผลมากที่สุดคือการเจริญสมาธิภาวนา โยมกลับไม่เน้นเลย อาตมาจึงมองเห็นว่า นี่เป็นทางเสื่อมของพระพุทธศาสนาและเป็นทางเสื่อมที่คนส่วนมากคิดกันไม่ถึง

จะไปคิดว่าการไปไหว้ไอ้ไข่คือทางเสื่อมของพระพุทธศาสนา..นั่นไม่ใช่ เพราะว่านั่นก็คือความมักง่ายอย่างหนึ่งเช่นกัน ทำเองแล้วลำบาก เพราะฉะนั้น..ไปขอจากไอ้ไข่ดีกว่า ลักษณะของญาติโยมในงานก็คือ ทำทานดีกว่า..ง่ายดี รักษาศีลกับภาวนานั้นยาก..เราไม่ทำ

ดังนั้น...ในเมื่อได้ยินแล้วก็โปรดรับไว้เป็นข้อคิดด้วย ถ้าทานมีผลเป็นร้อย ศีลก็มีผลเป็นหมื่น ภาวนามีผลเป็นล้าน เราต้องการเปลี่ยนแปลงสภาพชีวิตของเราให้ดีขึ้น ก็ต้องทำสิ่งที่มีคุณค่ามากเพียงพอ ไม่ใช่ไปทำสิ่งที่มีคุณค่าน้อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2020 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 14-10-2020, 15:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เตือนว่า “สองอาทิตย์นี้ก็เตรียมร่มไว้นะ ได้ฝนเยอะแน่ ๆ หลังจากนั้นก็เตรียมเสื้อกันหนาวเอาไว้ อย่ารอซื้อควายหน้านา ซื้อผ้าหน้าหนาว โบราณเขาบอกเอาไว้ชัด หน้าทำนาใคร ๆ ก็ใช้วัวใช้ควาย ไปซื้อหน้านั้นจะเจอของแพง ซื้อผ้าหน้าหนาวก็เหมือนกัน ใคร ๆ ก็ต่างหาผ้าเพิ่มขึ้นเพราะว่าอากาศหนาว แล้วดันไปซื้อตอนนั้นก็เจอแต่ของแพง

อย่างไรก็ระมัดระวังด้วย ดินฟ้าอากาศซ้ำเติม ถ้าประมาทติดไวรัสโควิด ๑๙ แล้วจะลำบากมาก”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 15:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 14-10-2020, 15:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ระยะนี้เรื่องที่โด่งดังในวงการพระภิกษุสงฆ์ก็คือ เรื่องที่สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งมหาเถรสมาคมเพื่อทราบว่า การที่อดีตพระพรหมดิลกซึ่งศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าไม่มีความผิดใด ๆ เลยกลับมาห่มจีวรใหม่ มีความผิดโทษฐานแต่งกายเลียนแบบพระ..งานนี้ต้องบอกว่าสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติโดน "ทัวร์ลง" กระจาย..!

ส่วนที่น่าผิดหวังที่สุดก็คือ ตั้งแต่มีพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับนี้ มาตราที่ว่าภิกษุต้องนิคหกรรมถึงจำคุกต้องสละสมณเพศก่อน ไม่มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่คัดค้านแม้แต่ท่านเดียว ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้จริง ๆ แล้วต้องว่ากันทีละขั้นตอน

ประการที่หนึ่ง ในเรื่องของกฎหมายนั้น จะต้องออกกฎหมายมาโดยที่ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญถึงจะใช้งานได้

ประการที่สอง ในเรื่องของพระภิกษุสงฆ์สามเณรนั้น ต้องตัดสินกันด้วยพระธรรมวินัยก่อน แล้วค่อยตัดสินด้วยกฎหมายบ้านเมือง”

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 14-10-2020, 15:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ในเมื่อกฎหมายบ้านเมืองออกมาขัดกับพระธรรมวินัย ก็คือตามพระธรรมวินัย ถ้าพระสงฆ์ไม่ได้เอ่ยวาจาลาสิกขาก็ไม่ถือว่าท่านสึก แต่กฎหมายไปตัดสินว่าท่านต้องขาดจากสมณเพศแล้ว ก็แปลว่าเป็นการขัดกันระหว่างกฎหมายกับพระธรรมวินัย แต่พระเถระไม่มีใครออกมากล่าวถึงประเด็นนี้เลยแม้แต่ท่านเดียว ว่ากฎหมายตรงนี้ออกมาได้อย่างไร ?

เรื่องของพระภิกษุสามเณรนั้น แทบจะเป็นอีกวงการหนึ่งที่ต่างจากชาวบ้านทั่วไป ปกติแล้วก็ปกครองกันโดยพระธรรมวินัยเป็นหลัก หลังจากนั้นแล้วจึงค่อยพิจารณาถึงกฎหมายบ้านเมือง แล้วต่อไปถึงพิจารณากันตามจารีตประเพณี

ฉะนั้น..ในเรื่องของอดีตหลวงพ่อพระพรหมดิลก ท่านไม่ได้เอ่ยวาจาลาสิกขา และการโดนจับเข้าคุกก็เป็นการเข้าโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะว่าไม่มีการฝากขัง ไม่มีการฟ้องศาล ไม่มีการอุทธรณ์ ฎีกาอะไรทั้งสิ้น จำคุกไปเลย..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 15:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 14-10-2020, 15:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“หลังจากนั้นถึงมาตัดสินกันตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งก็ปรากฏว่ามาถึงชั้นอุทธรณ์ ศาลท่านตัดสินว่าไม่มีความผิดใด ๆ เลย ในเมื่อไม่มีความผิดใด ๆ เลย ย่อมไม่กระทบกับสถานภาพใด ๆ ของท่าน ท่านกลับมาห่มเหลืองใหม่ ก็เป็นเรื่องที่คณะสงฆ์ของเราควรที่จะช่วยกันปกป้องและเชิดชูท่านในฐานะผู้บริสุทธิ์

แต่กลายเป็นว่าสำนักพุทธฯ สามารถจูงจมูกมหาเถรสมาคมได้..! ก็คือเสนอเพื่อทราบเท่านั้น มหาเถรสมาคมรับทราบก็จบ ส่วนอดีตหลวงพ่อพระพรหมดิลก ก็ได้ความผิดเพิ่มเติมคือ แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์..!

อาตมาจึงได้เห็นว่าในปัจจุบันนี้มีปัญหาในสองเรื่อง คือ ในเรื่องของการเอาฆราวาสมาปกครองพระอย่างหนึ่ง ในเรื่องของพระเถระที่เอาแต่ตัวเองรอด ไม่ได้สนใจที่จะปกป้องพระภิกษุสามเณรอีกอย่างหนึ่ง การเอาฆราวาสที่ศีลไม่ครบ ๕ ข้อมาปกครองพระที่มีศีล ๒๒๗ ข้อนั้น ไม่ถูกต้องทั้งทางโลกและทางธรรมอยู่แล้ว”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 16:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 14-10-2020, 16:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ส่วนเรื่องของพระมหาเถระที่ไม่รัก ไม่ปกป้องพวกพ้องเดียวกันที่ปราศจากความผิด อยากจะฝากกราบเรียนถามว่า ต่อไปท่านทั้งหลายจะอยู่คนเดียวได้ไหม ? ในเมื่อท่านไม่ปกป้องใคร แล้วถึงเวลาใครจะมาปกป้องท่าน ?

เรื่องของพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของความรัก ความสามัคคีของบุคคลที่มีสีลสามัญตา คือความเสมอกันด้วยศีล จะต้องปราศจากอคติ ถ้าหากว่ามีอคติก็ดี หรือว่ารักตัว เอาตัวรอดอย่างเดียวก็ดี ต่อไปถึงเวลาถ้าไม่มีใครปกป้องท่าน ท่านก็ไม่ต้องไปเรียกร้องจากใครเลย อาตมาขอฝากเป็นข้อคิดเอาไว้

ในเรื่องของพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ประเด็นที่สมควรแก้ไขมากที่สุด คือประเด็นนิคหกรรมตรงนี้ เพราะว่าความผิดไม่ชัดเจน ก็ไปเอาท่านขังคุก แล้วก็บังคับท่านสละสมณเพศ เรียกคืนสมณศักดิ์ เรียกคืนยศ คืนตำแหน่งทั้งหมด เป็นการไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้พระดีท่านจะไม่ได้ยึดติดก็ตาม

ในเมื่อสามารถแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์สองครั้งสามครั้ง เพื่อให้ได้สมเด็จพระสังฆราชตามที่ต้องการ แล้วทำไมประเด็นที่เป็นอันตรายต่อพระภิกษุสามเณรทั้งพุทธอาณาจักร ไม่มีใครคิดจะแก้ไข ? พูดง่าย ๆ ว่า แก้เพื่อประโยชน์ของตนเองก็ทำ แต่แก้ไขเพื่อประโยชน์ส่วนรวมกลับไม่ทำ..! ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเป็นพระสังฆาธิการ อาตมาจะแถมข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ให้ด้วย ขอเรียนถวายทุกท่านเอาไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 16:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 14-10-2020, 16:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า “ช่วงเข้ากรรมฐานสามวัน ก่อนที่จะออกมารับบาตรเทโวและรับกฐิน นอกจากครูบาอาจารย์ที่ท่านมาสงเคราะห์แล้ว วันสุดท้ายขณะที่ส่งกำลังใจตามการทำวัตรเย็นของพระวัดท่าขนุน พระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ท่านก็เสด็จมาสงเคราะห์

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พบท่านพร้อมกัน ๒๘ พระองค์ ตอนแรกที่พระองค์ท่านเสด็จมา ก็ยังคิดว่าใจตัวเราเอง "เฝือ" หรือเปล่า ? เพราะว่าพระองค์ท่านเสด็จมาถึง ก็ประทับนั่งบนเตียงที่วางวัตถุมงคลเอาไว้เสกตลอดสามวัน แถวแรก ๑, ๒, ๓, ๔ พระองค์ แถวสองก็ ๑, ๒, ๓, ๔ พระองค์ คราวนี้ด้วยความที่อดข้าวมาสามวันแล้ว ร่างกายเพลียมาก สมองคิดไม่ทัน ได้แต่รอดูว่าแถวสุดท้ายมีเศษเหลือกี่องค์ ? ปรากฏว่าเต็มพอดี ก็เลยมานึกได้ว่าพระองค์ท่านประทับนั่งทีละ ๔ พระองค์ ทั้งหมด ๗ แถว ๔ X ๗ = ๒๘ ครบ ๒๘ พระองค์พอดี ต้องบอกว่าพอร่างกายแย่มาก ๆ สมองก็ไม่อยากทำงาน”

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 16:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 14-10-2020, 16:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“คราวนี้พระองค์ท่านเสด็จมาสงเคราะห์ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่พิเศษมาก โดยเฉพาะวัตถุมงคลที่เอาเข้าพิธี ต้องบอกว่ายังไม่เคยเจอในสภาพนี้มาก่อนเลย ตั้งแต่ก่อนบวชและบวชมาแล้ว

คราวนี้ด้วยความที่อาตมาสั่งสร้างเหรียญพญาเต่ามังกรเงินล้านเปิดโลกพลิกชีวิตให้กับทางวัดสี่แยกเจริญพร ก็เลยกราบขอบารมีทุก ๆ พระองค์ช่วยสงเคราะห์ตอนพุทธาภิเษกด้วย พระองค์ท่านตรัสว่า ถ้าจะเอาอย่างนั้นก็เข้ากรรมฐานอีกสามวัน..! เจอไปสามวันแรกน้ำหนักหายไป ๔ กิโลกรัมแล้ว เจออีกสามวันไม่รู้เหมือนกันว่าน้ำหนักจะหายไปอีกกี่กิโลกรัม ? แต่ด้วยความที่ดีใจมากที่พระองค์ท่านรับปากว่าจะมาสงเคราะห์ ก็เลยพร้อมที่จะอดข้าวอีกสามวัน

ตอนแรกก็หาวันเวลาไม่ได้ เพราะว่ามีงานปลุกเสกวัตถุมงคลของวัดบางปลาหมอที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาคั่นอยู่ ท้ายสุดก็เลยตัดสินใจเลื่อนงานบวชพระวันลอยกระทงออกไป เพื่อที่จะให้มีเวลาเข้ากรรมฐานครบสามวันตามที่พระองค์ต้องการ

ดังนั้น...ถ้าระยะนี้ญาติโยมเห็นวัตถุมงคลลงในเว็บวัดท่าขนุนว่าเข้ากรรมฐานสามวัน ก็ให้รีบคว้าเอาไว้ก่อน เพราะว่าที่เอาเข้าพิธีจริง ๆ มีอยู่หน่อยเดียว ก็คือเหรียญเต่ามังกรหยก ทั้งแบบหน้ากากเงิน หน้ากากทองฝาบาตร และแบบไม่มีหน้ากาก เหรียญ ๑๐๐ ปีหลวงปู่สายส่วนที่เหลือ กับแผ่นเลเซอร์ยันต์เกราะเพชรที่แจกในงานกฐิน แล้วพวกเราไม่อยากได้กัน ให้แผ่นเล็กไม่เอากัน จะเอาแต่แผ่นใหญ่ อาตมาเลยแจกแผ่นใหญ่ด้วยความสบายใจ แผ่นเล็กกูไม่ให้ กูหวง..!”

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 16:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 14-10-2020, 16:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“เพราะฉะนั้น..ปลายเดือนนี้ วันที่ ๒๙ - ๓๐ - ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ อาตมาก็จะเข้ากรรมฐานอีกสามวัน ออกมาวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ช่วงเช้าก็จะทำการบวชสามเณรฉลองพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำและพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเนื้อเงินที่จะหล่อในวันนั้น เมื่อบวชเณรเสร็จก็มาทำบวงสรวง แล้วเข้าโบสถ์บวชพระต่อ ส่วนบวชพระแล้วจะเสร็จหรือไม่เสร็จก็ตาม ๑๑ โมงต้องมาเททองหล่อพระ ถ้าช่วงเช้าบวชพระไม่เสร็จ ตอนช่วงบ่ายก็จะมาบวชต่อ แต่ถ้าหากว่าบวชพระเสร็จทันและยังมีแรงอยู่ ช่วงบ่ายก็จะอยู่ให้ญาติโยมได้ทำบุญที่ได้ออกกรรมฐานมา แต่ถ้าหมดสภาพก่อนก็ตัวใครตัวมัน กลับบ้านกันเอง เพราะว่าพออายุมากแล้วสภาพร่างกายก็อ่อนเพลียง่าย

วันที่สามของการเข้ากรรมฐานที่ผ่านมา ตอนเข้าห้องน้ำต้องคอยระวังแล้วว่าจะล้มหรือไม่ พอไปรับบาตรเทโว โยมจะเห็นว่าอาตมาเดินค่อนข้างจะช้า เพราะไม่ไว้ใจสภาพสังขารว่าจะไหวหรือเปล่า เพราะว่าขึ้นบันไดไปสามร้อยกว่าขั้น แต่ก็ยังอุตส่าห์ไปจนถึง บันไดเปียกเพราะว่ากลางคืนมีฝนตก ตอนลงก็ต้องเดินด้วยความระมัดระวังอีก”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 16:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 14-10-2020, 16:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราไม่ค่อยได้นั่งสมาธิเท่าไร เราใช้การพิจารณาแทนได้ไหมคะ ?
ตอบ : ได้..เพียงแต่ว่าถ้าไม่มีกำลังสมาธิ การพิจารณาก็จะทำได้น้อย ถ้าใช้กำลังของสมาธิช่วยในการพิจารณา จะตัดอะไรก็ตัดได้ง่ายขึ้น พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้ากำลังไม่พอ จะแบกหามไม่ไหว ดังนั้น..ต้องพยายามสร้างกำลังสมาธิให้สูงเข้าไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 16:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 14-10-2020, 16:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การนั่งสมาธิดูลมหายใจ ติดมาตั้งแต่เด็กที่ถูกสอนว่า หายใจเข้า...พุท หายใจออก...โธ อยากทราบว่าต้องพุทโธอย่างเดียว หรือดูลมหายใจอย่างเดียว หรือใช้สองอย่างร่วมกัน ?
ตอบ : จะดูลมอย่างเดียวก็ได้ แต่บางคนตามดูลมอย่างเดียวรู้สึกว่างานมีไม่พอ ใจยังฟุ้งซ่านได้ ก็เพิ่มคำภาวนาเข้าไปด้วย พอเพิ่มคำภาวนาเข้าไปด้วย ยังรู้สึกว่าใจฟุ้งซ่าน ก็ตามดูฐานกระทบของลมไปด้วย ขึ้นอยู่กับว่าเราฟุ้งซ่านมากน้อยแค่ไหน ถ้าฟุ้งซ่านมากก็หางานให้ใจทำมาก ๆ ถ้าใจมีงานทำก็จะได้ไม่ฟุ้งซ่านไปในอารมณ์อื่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 16:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 14-10-2020, 16:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้ามีคนทำไม่ดีใส่คนที่พกตะกรุดมหาสะท้อน มีความเป็นไปได้ไหมครับ ที่ผลจะเกิดขึ้นภายหลังที่ระยะเวลาผ่านไปแล้ว หรือผลจะเกิดขึ้นทันทีเลยครับ ?
ตอบ : แล้วแต่ว่าตัวของเขามีกุศลคุ้มครองหรือเปล่า ? ถ้ามีก็โดนช้าหน่อย ถ้าไม่มีก็โดนเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 16:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:33



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว