กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-05-2023, 19:17
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,620
ได้ให้อนุโมทนา: 216,338
ได้รับอนุโมทนา 741,504 ครั้ง ใน 36,115 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-05-2023, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,621 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ยังคงเป็นควันหลงจากการ "ไปหาที่ตายในชมพูทวีป" ตอนที่ ๒

ในที่นี้อันดับแรกเลย กระผม/อาตมภาพขอกล่าวถึงตนเอง เนื่องจากว่ามีโรคมาลาเรียเรื้อรังติดตัวมา ๔๐ กว่าปีแล้ว เป็นสิ่งที่แสลงความเย็นเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอากาศหนาวระดับติดลบ มีโอกาสที่มาลาเรียจะกำเริบสูงมาก แต่ปรากฏว่ามีอาการเหมือนกับมาลาเรียจะกำเริบแค่เล็กน้อยเพียง ๒ รอบเท่านั้น หลังจากที่ฉันยาแล้วก็ปกติทุกอย่าง

แต่พอกลับมาถึงเมืองไทยแล้ว คืนนั้นกลับรู้สึกว่าเดินไม่ถนัด เพราะว่าแผลผ่าตัดที่ฝ่าเท้าอักเสบขึ้นมา ด้วยความรำคาญ บวกกับเป็นคนผู้ไม่เกรงกลัวความเจ็บปวด จึงแกะเอาปากแผลที่แข็งกระด้างออกมา ผลปรากฏว่าดีกว่าที่คิด ก็คือทันทีที่เปิดแผลออกมา หนองก็ทะลักออกมาก้อนใหญ่ แสดงว่าแผลอักเสบเป็นหนองอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ว่าปากแผลปิดอยู่จึงไม่รู้ ยังดีที่ตัดสินใจแกะออกมา จึงทำให้อาการอักเสบลดลง วันนี้เมื่อฉันยาแก้อักเสบลงไปแล้ว อาการทุกอย่างก็ดีขึ้น

ท่านทั้งหลายจะเห็นได้ว่า ในเรื่องของกรรมนั้น ไม่ว่าจะเล็กน้อยขนาดไหนก็ตาม ท้ายที่สุดเขาก็จะตามทวงจนได้ ไม่ช้าก็เร็ว กรรมที่เราทำไว้ย่อมต้องแสดงผล จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วว่า ลุงเซอร์ริง โจลเดนทำแต่กรรมที่ดี ๆ อยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงเวลากรรมดีแสดงผลขึ้นมา ย่อมทำให้ลุงได้รับสิ่งตอบแทนแต่ในส่วนที่ดีเท่านั้น

ลำดับต่อไปของกล่าวถึง "พี่นวล" ของทุกคน และคุณเอ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ
"พี่นวล" "พี่นวล" คือคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม ผู้ก่อตั้งบริษัทเอ็นซีทัวร์ ส่วนคุณเอคือคุณฉัตตริน เพียรธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นซีทัวร์ คนปัจจุบัน

"พี่นวล" นั้นเป็นผู้หญิงแกร่ง ที่ต้องบอกว่าแข็งแรงสุด ๆ เนื่องจากว่าอายุถึง ๘๑ ปีแล้ว ยังทำงานทำการทุกอย่างคล่องแคล่วมาก โดยเฉพาะรักการทำบุญและรักการท่องเที่ยวเป็นที่สุด โดยที่ "พี่นวล" สรุปว่า "ที่พี่มีฐานะอย่างทุกวันนี้ได้ก็เพราะการท่องเที่ยว ดังนั้น..ขอให้พี่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักไปจนกว่าจะวาระสุดท้ายของชีวิต"

แม้ว่าจะขึ้นไปเป็นที่ปรึกษาของบริษัทไปแล้วก็ตาม ถ้าหากว่ามีคณะทัวร์ที่ถูกใจตนเอง
"พี่นวล" ก็จะลงมาคลุกคลีตีโมงด้วย โดยเฉพาะงานนี้ นอกจากไปเป็นลูกทัวร์ด้วยตนเองแล้ว "พี่นวล" ยังเป็นเจ้ามือควักกระเป๋า จ่ายให้กระผม/อาตมภาพทุกบาททุกสตางค์..!

"พี่นวล" นอกจากอายุมากแล้ว ยังประกอบด้วยความสามารถหลากหลาย ชนิดที่เป็นที่ยอมรับของทุกคน โดยเฉพาะการติดต่อประสานงานต่าง ๆ พวกเราจึงยินดีมากถ้าหากว่า "พี่นวล" ร่วมขบวนไปด้วย เนื่องเพราะว่าข้าวปลาอาหารทุกอย่างจะอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะถ้าใครใช้บริการของเอ็นซีทัวร์ จะสรุปได้เลยว่า "กินหรู อยู่สบาย" แต่ท่านทั้งหลายต้องทำใจสักนิดหนึ่งว่า "ของดีย่อมราคาสูงกว่าที่อื่นอยู่สักหน่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2023 เมื่อ 03:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-05-2023, 00:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,621 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับคุณเอ (ฉัตตริน เพียรธรรม) นั้น ตอนแรกปฏิเสธไม่ไปกับทริปนี้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าคุณเอเป็นคนแพ้พื้นที่สูง ระดับสูงสุดที่เคยไปก็คือประมาณ ๓,๐๐๐ เมตร แล้วก็ต้องกอดถังออกซิเจนกลับลงมา ครั้งนี้โดนแรงยุจากพวกกระผม/อาตมภาพทุกคน ว่าถ้าหากคุณเอซึ่งจบโบราณคดีมาโดยตรง ไม่ไปเป็นผู้คอยอธิบายชี้แจงแสดงเหตุต่าง ๆ ให้ พวกเราก็คงจะขาดรสชาติในการท่องเที่ยวไปเป็นอย่างมาก

ท้ายที่สุด ปรากฏว่าแรงเชียร์สู้แรงกตัญญูไม่ได้ เนื่องเพราะว่า
"พี่นวล" ไปงานอื่นมา แล้วสภาพร่างกายค่อนข้างจะโทรม ลูกชายสุดที่รักจึงจำเป็นจะต้องมาด้วย เพื่อทำหน้าที่แทนคุณแม่ของตนเอง แล้วก็เป็นเรื่องอัศจรรย์มาก เพราะว่าพวกเราขยับขึ้นมาในที่สูง ๓,๐๐๐ กว่าเมตร ๔,๐๐๐ กว่าเมตร ๕,๐๐๐ กว่าเมตร คุณเอที่เคยแพ้ที่สูงถึงขนาดกอดถังออกซิเจนอยู่ตลอดเวลา ปรากฏว่าไปถึงระดับนั้นแล้วยังสามารถทำการทำงานได้

เพียงแต่ว่าต้องใช้หน้ากากดมออกซิเจนเป็นระยะไปเท่านั้น ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต้องถือว่าคุณเอสามารถ "ทะลุขีดจำกัดร่างกายของตนเอง" ได้ ต่อไปถ้าที่สูงไม่เกิน ๕,๖๐๐ เมตร ต้องบอกว่าสบายมาก เพราะว่าไปติดอยู่กับพวกเราที่ช่องเขา Gardung La Pass มาแล้ว ๒ ชั่วโมงกว่า..!

คุณเอนั้นบอกว่า น่าจะเป็นเพราะสิ่งที่ได้รับการแนะนำจากท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) มากกว่า ที่ให้เคี้ยวใบฝรั่ง แล้วคุณเอก็สรุปเลยว่า ใบฝรั่งนั้นสามารถช่วยได้ฉุกเฉินในขณะที่อาการแย่มาก ๆ เมื่อเพิ่มออกซิเจนภายในแล้ว ก็ต้องเพิ่มภายนอกด้วยการหายใจจากออกซิเจนกระป๋องบ้าง ออกซิเจนท่อใหญ่ประจำรถบ้าง จึงทำให้รอดมาได้ แต่พวกเราก็ถือว่าคุณเอสามารถฝ่าขีดจำกัดของตนเองไปได้ กลายเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับครอบครัวต่อไปที่อยากจะพูดถึงก็คือคุณยายมหัศจรรย์ของเรา คือคุณยายภัทริณ จันทรนิภาพงศ์ ซึ่งมากับลูกสาว ๒ คน ก็คือคุณกอล์ฟ (ศริณยา จันทรนิภาพงศ์) และคุณแบงค์ (ศรินธร) ที่เปลี่ยนนามสกุลตามสามีเป็น เซ็นภักดี และลูกเขยคือคุณหนึ่ง (บัญชา เซ็นภักดี) ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวอบอุ่น ไปไหนไปกัน ไม่เคยเห็นทอดทิ้งหรือแตกแยกกันเลย เป็นเรื่องที่น่าดีใจมากสำหรับสภาพสังคมในปัจจุบันที่คนในครอบครัวรักใคร่กันแน่นแฟ้นแบบนี้

โดยเฉพาะคุณยายนั้นเป็นคนแก่มหัศจรรย์อีกคนหนึ่ง เพราะว่าอายุมากกว่าพี่นวลเสียอีก ก็คืออายุ ๘๒ ปีแล้ว แต่ว่าทุกทริปที่เราไป ไม่ว่าจะที่สูงที่อันตรายขนาดไหนก็ตาม คุณยายนอกจากจะไปด้วยกำลังใจกำลังกายเฉพาะตัวแล้ว ยังไปด้วยกำลังบุญอีกต่างหาก จึงทำให้อยู่รอดปลอดภัยเสมอมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2023 เมื่อ 03:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-05-2023, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,621 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพียงแต่ว่างานนี้นั้นทุกคนอยู่รอดปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นคุณยาย คุณกอล์ฟ หรือว่าคุณแบงค์ก็ตาม แต่ที่ไม่ปลอดภัยกลายเป็นคุณหนึ่ง เพราะว่าเมื่อกลับมาแล้ว รู้สึกว่าตนเองไอผิดปกติ จึงไปทำการตรวจ ATK ผลออกมาว่าติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙..! ทำเอากระผม/อาตมภาพและทุกคนตกใจตาเหลือกไปตาม ๆ กัน เนื่องจากว่าเราใช้ออกซิเจนท่อใหญ่ท่อเดียวกัน ใช้หน้ากากใบเดียวกัน..!

แต่สรุปท้ายทุกคนเมื่อตรวจแล้ว ไม่มีผลบวก โดยเฉพาะ
"พี่นวล" เอง ตรวจแล้วไม่มีผลบวก พวกเราก็รู้สึกโล่งอกโล่งใจ เพราะว่าถ้าขืนเป็นเช่นนั้น เราเองก็คงจะต้องมาเดือดร้อนกักตัวเองเมื่อกลับถึงเมืองไทยแล้ว แสดงว่าทุกคนสร้างบุญมาดี

แม้ว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ นั้นจะไม่รุนแรงเหมือนสมัยก่อน ติดเชื้อขึ้นมาก็ไม่น่ากลัว รักษาตามอาการเหมือนกับไข้หวัดก็เอาอยู่แล้ว แต่ว่าในส่วนที่เชื้อนี้มักจะทำลายปอด ก็อาจจะทำให้เกิดอาการ Long Covid เป็นคนที่เหนื่อยง่าย เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย เป็นต้น จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่พวกเราจะเป็นกัน ดังนั้น..ในกลุ่มไลน์จึงมีแต่คนส่งกำลังใจให้คุณหนึ่งกันอย่างล้นหลามทีเดียว

รายต่อไปที่จะกล่าวถึงคือป้ามุกดา (นางสาวมุกดา เพชรชื่นสกุล) พี่สาวของกระผม/อาตมภาพเอง ป้ามุกดาเป็นคนแรกเลยที่ร่วงทั้งยืน..! ทั้ง ๆ ที่พื้นที่ช่วงนั้นอยู่ที่ประมาณ ๓,๗๐๐ เมตรเท่านั้น เพราะว่าไม่เคยชิน และไม่เคยไปในสถานที่แบบนั้นมาก่อน

พวกเราคนอื่น ๆ ยังเคยไปถึงด่านคุนจีรับ ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างปากีสถานและเมืองจีน ในความสูงประมาณ ๓,๕๐๐ เมตรมาแล้ว และขณะเดียวกัน ก็เคยไปค้างที่อุทยานย่าติง มณฑลเสฉวนตะวันตก ซึ่งอยู่ในความสูงประมาณ ๔,๐๐๐ เมตร ที่สำคัญกว่านั้นก็คือไปทิเบตกันมาแล้ว ความสูงในระดับ ๕,๐๐๐ เมตร สำหรับพวกเรานั้น เขตจำกัดสูงสุดที่เคยพบมาก็คือทะเลสาบยัมดร๊อกโซ ซึ่งเป็นทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบต ที่นั่นความสูง ๕,๕๐๐ เมตร ในเมื่อผ่านศึกเหนือเสือใต้มาอย่างโชกโชนแล้ว มีเพียงป้ามุกดาเท่านั้นที่มาเจอเป็นครั้งแรก แล้วก็ไม่เข้าใจว่าอาการแพ้ที่สูงนั้นเป็นอย่างไร จึงมีอาการร่วงทั้งยืนแบบที่เห็น

ตรงนี้จะว่าไปแล้ว เกิดจากว่าอายุกาลผ่านวัยมากอย่างหนึ่ง ไม่เคยเจอกับสภาพอากาศที่โหดร้ายรุนแรงขนาดนั้นอย่างหนึ่ง และไม่เข้าใจอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายตนเอง ว่าเป็นอาการแพ้ที่สูงอย่างหนึ่ง จึงทำให้ต้องกลายเป็นคนป่วยไปชั่วคราว แต่เมื่อได้รับออกซิเจนแล้ว ทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาพปกติ จึงเป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า ไม่ว่าอย่างไร ถ้าเคราะห์กรรมมาถึง ไม่คนใดก็คนหนึ่งจะต้องรับไปจนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2023 เมื่อ 03:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-05-2023, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,621 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คนต่อไปที่ต้องกล่าวถึงก็คือป้ามอย (นางสาวมณีวรรณ สัมฤทธิ์) ป้ามอยนั้นอายุเท่ากับกระผม/อาตมภาพพอดี ก็คือเกิดปีเดียวกัน อายุ ๖๔ ปี ย่าง ๖๕ แล้ว ป้ามอยดูรู้สึกว่าสบายที่สุด เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าตอนอยู่วัดนั้น ป้าต้องทำความสะอาดวัด โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อระหว่างสำนักงานเจ้าอาวาสกับแดนสงบทางด้านล่าง ซึ่งเป็นหน้าผาค่อนข้างจะชัน ความสูงประมาณ ๓ เมตรเศษ ป้ามอยจะต้องกวาดบริเวณนั้นจนหมดทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น จึงทำให้ร่างกายแข็งแรงเป็นพิเศษ

แต่คนเราเมื่อถึงเวลาก็ต้องโดนจนได้ เวรกรรมไม่ยอมปล่อยให้ผ่านง่าย ๆ เจ้ากรรมนายเวรในประเทศอินเดียจะมากจะน้อยก็ขอเล่นเสียหน่อย ดังนั้น..ในวินาทีสุดท้าย ป้ามอยก็โดน ตม.อินเดียสุ่มตัวไปตรวจ กลายเป็นที่ห่วงใยของพวกเราว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เนื่องเพราะว่าพาหายเข้าไปเลยโดยที่ไม่สามารถจะติดต่ออะไรกันได้ จนกระทั่งเห็นป้าเดินยิ้มแบบ "ชิลด์ ๆ" ออกมา พวกเราถึงได้ถอนหายใจโล่งอก

ดังนั้น
..ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นก็ตาม เรื่องเล็กเรื่องน้อยเหล่านี้จะมากวนใจเราอยู่เสมอ สร้างบุญสร้างกุศลมาดีขนาดไหน ท้ายที่สุดก็ต้องมีจังหวะที่วาระกรรม ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กเข้ามาแทรกได้อยู่ดี จึงเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งหมดไม่ควรที่จะประมาท อย่างไรเสียก็ต้องระมัดระวังเอาไว้ เพียรพยายามสร้างกุศลใน ทาน ศีล ภาวนา ให้ต่อเนื่อง เมื่อถึงเวลาบุญกุศลส่งผลให้ ความดีก็จะได้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยที่ความชั่วไม่สามารถที่จะแทรกได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2023 เมื่อ 03:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:44



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว