กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 17-04-2023, 18:34
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,620
ได้ให้อนุโมทนา: 216,332
ได้รับอนุโมทนา 741,492 ครั้ง ใน 36,115 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 18-04-2023, 00:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ ทางวัดท่าขนุนส่งท้ายการปฏิบัติธรรมช่วงวันสงกรานต์ ด้วยการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ การภาวนาพระคาถาเงินล้านนั้น หลักใหญ่ที่สำคัญก็คือต้องไม่ทำเพราะความโลภ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า มีบรรดาคณะศิษย์ที่ตั้งหน้าตั้งตาภาวนาให้ได้มาก ๆ แล้วก็จะนำอานิสงส์นี้ไปใช้ในลักษณะที่ไม่ถูกต้อง อย่างเช่นว่าไปเล่นหุ้นบ้าง ไปลงทุนในกองทุนการเงินต่าง ๆ บ้าง แล้วก็มีการเสียหายใหญ่โตเกิดขึ้นมา

เนื่องเพราะว่าในการภาวนาพระคาถาเงินล้านนั้น ส่วนที่สำคัญมากก็คืออย่าไปทำเพราะความโลภ ถ้าเราทำเพราะความโลภเมื่อไร กำลังใจที่ไม่มั่นคงก็จะตัดเอาลาภผลส่วนที่พึงจะได้ไปเสียหมด เพราะว่าจิตใจของเราเริ่มต้นด้วยกิเลส ไม่ใช่การเริ่มต้นที่ปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง

เหมือนกับเราโกยขยะเข้ามาเสียจนเต็มแล้ว ไม่สามารถที่จะนำของดีอะไรใส่ลงไปได้ แต่ถ้าหากว่าเราวางกำลังใจอยู่ในลักษณะว่า
เรามีหน้าที่ภาวนา ส่วนผลพิเศษจะเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไรก็ช่าง ถ้าทำกำลังใจลักษณะแบบนี้ ก็เหมือนอย่างกับว่าภาชนะหรือเข่งของเรานั้นว่างเปล่า สิ่งของไม่ว่าจะใส่ลงไปมากน้อยเท่าไรตามบุญตามบารมีของเรา ก็สามารถที่จะใส่ลงไปได้

เมื่อเสร็จสิ้นการภาวนาพระคาถาเงินล้านแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางลงมายังอำเภอไทรโยค แวะที่วัดน้ำตก เพื่อที่จะถวายมุทิตาสักการะพระเดชพระคุณพระครูนิโครธโยคาภิรักษ์ (แอ่ม ชุติวณฺโณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งท่านเจริญอายุวัฒนมงคล ๘๑ ปี

แต่ว่าในช่วงวันเกิดของท่านนั้น กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปยังประเทศอินเดีย ไม่ได้อยู่ร่วมถวายมุทิตาสักการะตรงกับวันเกิดได้ จึงต้องขออนุญาตท่านมาถวายมุทิตาเอาก่อนวันเกิด เพราะว่าหลังจากนี้แล้วก็ต้องเดินทางขึ้นเชียงใหม่ กลับมาก็จะเดินทางต่อไปอินเดียเลย ทำให้ไม่มีเวลาว่างที่จะแวะไปกราบท่านได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2023 เมื่อ 00:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 18-04-2023, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ด้วยความที่หลวงพ่อพระครูนิโครธโยคาภิรักษ์เป็นพระเถระตัวอย่าง ท่านเองรับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอไทรโยคมาประมาณ ๕๐ ปี คาดว่าคงไม่มีเจ้าคณะอำเภอรูปไหนอยู่ในตำแหน่งได้นานกว่านี้อีกแล้ว แต่ว่าท่านเป็นบุคคลที่มักน้อย สันโดษ ไม่เคยเรียกร้องอะไรสำหรับตนเองเลย จึงอยู่ในฐานะเจ้าคณะอำเภอจนเกษียณอายุเมื่อ ๘๐ ปี แล้วได้รับการยกขึ้นเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี

ตัวอย่างที่ดีอีกประการหนึ่งของหลวงพ่อท่านก็คือ ไม่ว่าท่านจะไปงานของใครก็ตาม จะนั่งอยู่ตั้งแต่เริ่มงานจนกระทั่งจบงาน ถึงได้ลาเจ้าของงานแล้วเดินทางกลับ ไม่เหมือนกับกระผม/อาตมภาพที่เป็นคนงานมาก เมื่อถึงเวลาอยู่ให้เจ้าภาพได้เห็นหน้าระยะหนึ่ง ก็มักจะขอตัวเพื่อเดินทางไปยังงานอื่นต่อไป

หลวงพ่อท่านจึงเป็นทั้งเจ้าคณะปกครอง เป็นทั้งครูบาอาจารย์ ที่นำตนท่านเองเป็นตัวอย่างให้พวกเราได้เห็นและปฏิบัติตาม โดยเฉพาะความที่รู้จักคุ้นเคยกันมา ตั้งแต่กระผม/อาตมภาพเดินทางมาอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี จึงทำให้มีความเคารพในปฏิปทาการปฏิบัติของท่าน ตลอดจนความเคารพเป็นการส่วนตัว จึงได้แวะไปถวายมุทิตาสักการะ ก่อนที่จะไปทำภารกิจอื่น ๆ ของตนเองต่อไป

วันนี้เป็นสงกรานต์วันสุดท้าย เพราะว่ามีการหยุดชดเชยในวันจันทร์เพิ่มขึ้นมา ทำให้รถบนท้องถนนมีมากเป็นพิเศษ แต่ว่าด้วยความเข้มงวดของทางราชการอย่างหนึ่ง บุคคลที่เริ่มมีจิตสำนึก รู้ว่าถ้าหากว่าเมาแล้วขับ หรือว่าเกิดความคึกคะนอง ขับรถโดยไม่ระมัดระวัง ย่อมทำให้เกิดอุบัติเหตุ เดือดร้อนทั้งตนเองและผู้อื่น จึงทำให้อุบัติเหตุต่าง ๆ ของปีนี้ลดน้อยลงไปมาก ทั้ง ๆ ที่มีบุคคลเดินทางท่องที่ยวกันมาเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าการจัดงานต่าง ๆ ได้หยุดชะงักมา ๓ ปี เหตุเพราะเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ได้แพร่ระบาด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2023 เมื่อ 00:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 18-04-2023, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น เมื่อได้ยินว่าเป็นประเพณีสงกรานต์ ต่างก็เล็งที่จะมาถึงประเทศไทย แต่ว่าก็มีส่วนหนึ่งของบรรดาบุคคลที่ขาดจิตสำนึก เช่นบริการรถสาธารณะอย่างแท็กซี่ ก็มักจะไม่กดมิเตอร์ หากแต่ว่าอยากจะให้นักท่องเที่ยวเหมา เรียกว่าเป็นการกระทำที่ค่อนข้างจะเห็นแก่ตัว เนื่องจากว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเบื่อหน่ายแล้วไม่มาบ้านเราอีก

อีกส่วนหนึ่งก็คือบรรดาพ่อค้าแม่ขายที่ฉวยโอกาสในการ "ฟัน" นักท่องเที่ยว สิ่งของต่าง ๆ มักจะขายแพงจนเกินเหตุ ก็จะทำให้บรรดานักท่องเที่ยวต่าง ๆ เข็ดหลาบได้เช่นกัน

ช่วงที่กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยุโรปนั้น ทางด้านหน้าร้านบริเวณแหล่งท่องเที่ยว อย่างเช่นว่าแถวบริเวณจตุรัสซานมาร์โคของเมืองเวนิสนั้น น้ำเปล่าขวดหนึ่งราคา ๒ ยูโร แต่ถ้าหากว่าเราเดินเข้าซอยไปทางด้านหลังตึกแค่ซอยเดียวเท่านั้น ปรากฏว่าน้ำเปล่าขวดหนึ่งขายแค่ ๖๐ เซ็นต์เท่านั้นเอง เงิน ๒ ยูโรสามารถซื้อน้ำเปล่าได้ ๓ ขวดกว่าเลยทีเดียว

ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเป็นนักท่องเที่ยวประเภทแบกเป้มา เขาจะมีประสบการณ์ทั้งที่ตนเองพบเห็น หรือว่าท่านที่อาศัย Lonely Planet เป็นไกด์บุ๊กในการท่องเที่ยว ก็จะรู้ว่าควรที่จะทำอย่างไร ควรที่จะซื้อหาสิ่งใดบ้าง เพื่อที่ตนเองจะได้ใช้จ่ายให้น้อยที่สุด แล้วสามารถสัมผัสกับขนบธรรมเนียมในท้องที่นั้น ๆ ให้ได้มากที่สุด

จะว่าไปแล้ว
บรรดานักท่องเที่ยวล้วนแล้วแต่ฉลาด เพียงแต่ว่ามาหลงเสน่ห์น้ำใจและรอยยิ้มชาวสยามส่วนใหญ่ จึงทำให้เขาเหล่านั้นเมื่อมาแล้วก็ยังอยากที่จะมาอีก แต่ว่าท่านทั้งหลายที่เห็นแก่ตัว ก็อาจจะทำให้เขาเหล่านั้นเข็ดหลาบ และไม่คิดที่จะมาอีกเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2023 เมื่อ 01:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 18-04-2023, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะบรรดาบุคคลที่เล่นสงกรานต์แบบอุบาทว์ อย่างเช่นว่าเอาน้ำจิ้มลูกชิ้นใส่ปืนฉีดน้ำแล้วไปยิงใส่คนอื่น ถ้าหากว่าเข้าตา ก็ย่อมทำให้เขาต้องเดือดร้อน อาจจะถึงมือหมอ รักษาเสียเงินเสียทองกันมาก หรือว่าท่านทั้งหลายที่ประแป้งบรรดานักท่องเที่ยวสาว ๆ แล้วถือโอกาสไปจับต้องของสงวนของเขาด้วย

แม้ว่าบรรดาฝรั่งจะไม่ค่อยถือสาในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ แต่ไม่ใช่ว่าคุณไปกระทำโดยเจตนา หากว่ามีการกระทบกระทั่งกันนิดหน่อยโดยไม่เจตนา ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่พออภัยกันได้ แต่ถ้าหากว่าตั้งใจไปล้วงไปควักกันเลย ก็อาจจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง บางทีถ้าเขามีผู้ชายมาด้วย ก็อาจจะถึงขนาดลงไม้ลงมือกันได้

กระผม/อาตมภาพยังชื่นชมควาญช้างของเรา ที่ช่วยเหลือบรรดานักท่องเที่ยวผู้หญิง ซึ่งใส่ชุดบิกินี่นั่งหลังช้างล่องตามแม่น้ำ มีการระมัดระวังตนเองดีมาก ที่จะไม่สัมผัสร่างกายของนักท่องเที่ยวผู้หญิง โดยไม่เจตนาหรือว่าเจตนาก็ตาม ต้องเรียกว่าระวังตัวแล้วสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้แก่ผู้ที่มาท่องเที่ยว หรือว่าบรรดาท่านทั้งหลายที่ไปช่วยเข็นห่วงยาง ในการล่องแพห่วงยางกันที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็มีการระมัดระวังที่จะไม่ไปสัมผัสนักท่องเที่ยวผู้หญิง ไม่ว่าจะสาวแก่แม่ม่ายอะไรก็ตาม

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ควรที่ทุกคนจักมีจิตสำนึกร่วมกัน เพื่อที่ทำให้นักท่องเที่ยวนั้นมาบ้านเราแล้วรู้สึกว่าปลอดภัย อย่าให้ปลาเน่าเพียงตัวเดียวแล้วทำให้เหม็นไปทั้งข้อง ถ้าท่านทั้งหลายมีจิตสำนึกเพื่อสาธารณะ เพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศชาติของเรา แล้วกระทำโดยพร้อมเพรียงกัน ก็จะสามารถดึงให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศของเราได้อีกมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2023 เมื่อ 01:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 18-04-2023, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จากการคำนวณคร่าว ๆ แค่เทศกาลสงกรานต์ ๕ วัน เรามีเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศถึงระดับแสนล้านบาท..! ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ช่วยหาเงินเข้าบ้านของเราได้ง่ายที่สุด แต่ขณะเดียวกัน ถ้านักท่องเที่ยวเกิดการเข็ดหลาบขึ้นมา ก็จะกลายเป็นการขับไล่นักท่องเที่ยวออกจากบ้านเราได้ง่ายที่สุดเช่นกัน

จึงอยากจะขอให้ท่านทั้งหลายนำเอาหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาใช้ในการกระทำของตนเอง ก็คือความมักน้อย สันโดษ รู้จักพอเพียง มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เอาใจเขามาใส่ใจเรา สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเสน่ห์ในลักษณะ Soft Power ที่จะดึงบรรดานักท่องเที่ยวให้ไปบอกกันปากต่อปาก

โดยเฉพาะถ้าหากว่ามีการลงสื่อโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กก็ดี อินสตาแกรม หรือว่ากลุ่มไลน์ ตลอดจนกระทั่งเอกสารต่าง ๆ อย่าง Lonely Planet ก็ตาม ย่อมสามารถที่จะดึงคนเข้ามาได้อีกมาก ดีกว่าเราไปเสียเงินเสียทองเป็นร้อยล้านพันล้านในการโฆษณา เพราะว่าการโฆษณากันปากต่อปากนั้นมีเสน่ห์ตรงที่เขาเชื่อว่า บุคคลที่เขียนลงให้นั้น มีประสบการณ์ที่เกิดจากของจริง ไม่ใช่การโฆษณาที่สามารถปรุงแต่งหลอกลวงกันได้

จึงขอฝากกับทุกท่านเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านหรือว่าชาววัด สิ่งที่เรากระทำทั้งหมดนั้น ทั้งสามารถที่จะดึงให้แขกไปมาหาสู่บ้านเราแบบไม่รู้เบื่อ หรือขับไล่ให้แขกเข็ดหลาบ ไม่คิดที่จะกลับมาอีกได้ทั้งคู่ เราจึงควรที่จะเลือกในสิ่งที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวเราและส่วนรวมเอาไว้ก่อน

ในส่วนอื่น ๆ นั้น พยายามที่จะเก็บเอาไว้ข้างใน อยู่ในลักษณะของ "น้ำขุ่นอยู่ใน น้ำใสอยู่นอก" รู้จักพอเพียง กำไรแต่น้อย แต่ถ้าหากว่าขายได้มาก ก็เท่ากับว่าเรากำไรมากไปเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2023 เมื่อ 01:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:41



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว