กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-07-2022, 19:33
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,523
ได้ให้อนุโมทนา: 215,909
ได้รับอนุโมทนา 736,850 ครั้ง ใน 35,895 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-07-2022, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ช่วงนี้นอกจากพระใหม่ที่ต้องไปอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดปรังกาสีแล้ว พระวัดเราที่เป็นกองงานเลขานุการและพระวิปัสสนาจารย์ ก็ยังต้องไปประจำอยู่ที่นั่นด้วย แล้วถ้าหากว่ากระผม/อาตมภาพว่างเว้นจากภารกิจ ก็จะพยายามไปให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ของพระใหม่

อย่างที่ได้กล่าวไปตอนบรรยายให้พระใหม่ฟังว่า สิ่งที่กระผม/อาตมภาพพูดไปนั้น ไม่หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจ แต่ให้ทุกท่านได้รับฟังเอาไว้ ถ้าหากว่าท่านทำถึงเมื่อไร จะได้รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร

ความจริงแล้วในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้นเป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าเป็นข้อกลางของไตรสิกขา ก็คือ ศีล สมาธิและปัญญา ถ้าหากว่าสมาธิทรงตัว สติแหลมคมว่องไว ก็จะควบคุมศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ได้ ถ้าหากว่าสมาธิทรงตัว สภาพจิตสงบสงัด ก็จะมีปัญญาพินิจพิจารณาข้อธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนรู้แจ้งแทงตลอดได้

เพียงแต่ว่าการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าหากว่าไม่มีกัลยาณมิตรที่เป็นครูบาอาจารย์คอยบอก คอยกล่าว บางอย่างกว่าที่เราจะเข้าถึงหรือว่าก้าวผ่านได้ ก็อาจจะต้องใช้เวลานานหลายปี

วันนี้จากการที่ดูพระใหม่ทั้งหลายกราบท่านอาจารย์พระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ก็รู้สึกว่า ๓ วันที่ผ่านมา หรือจะว่าจริง ๆ ก็แค่ ๒ วันครึ่ง ถือว่าการปฏิบัตินั้นได้ผล เพราะว่าการปฏิบัติธรรมได้ผล หรือไม่ได้ผลนั้น การแสดงออกทาง กาย วาจา และใจ จะปรากฏอย่างชัดเจน

อย่างที่กระผม/อาตมภาพบอกเอาไว้ว่า พระวัดท่าขนุนนั่งอยู่ที่ไหน มองไปก็เห็นหมด เพราะว่าลักษณะท่าทางจะไม่เหมือนกับพระภิกษุสามเณรทั่วไป เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วผ่านการปฏิบัติธรรมมาก่อน บุคคลที่มีประสบการณ์มองดูก็รู้ว่า คนนี้เคยปฏิบัติธรรมมา แล้วถ้าหากว่ายิ่งได้เสวนาด้วยก็จะยิ่งชัดเจน

เพราะว่าบุคคลที่ปฏิบัติธรรมมา สิ่งที่คิด คำที่พูด กายที่ทำ จะอยู่ในกรอบที่พอเหมาะพอดี ยิ่งถ้าหากว่าอยู่ในระดับที่ปฏิบัติแล้วเข้าถึงอารมณ์ใจใหม่ ๆ บางคนเหมือนกับเป็นใบ้ ไม่อยากสุงสิงเสวนากับใครทั้งนั้น เพราะว่าเสียเวลาในการรักษาอารมณ์ใจของตนเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-07-2022 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-07-2022, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตัวกระผม/อาตมภาพเอง เริ่มทุ่มเทให้กับการปฏิบัติธรรมตอนอายุ ๑๖ ปี เก้าปีผ่านไป ถึงอายุ ๒๕ แทบจะไม่พูดไม่จากับใครเลย เพราะว่าต้องคอยรักษาอารมณ์ในการปฏิบัติธรรมเอาไว้ให้ต่อเนื่อง

ยิ่งในช่วงที่ฝึกกสิณต่าง ๆ ยิ่งจำเป็น เพราะว่าการรักษาภาพกสิณเอาไว้นั้น จะหลับ จะตื่น จะยืน จะนั่ง ภาพกสิณต้องปรากฏชัดอยู่ในห้วงนึก เผลอเมื่อไรก็หลุดหายไป สภาพจิตที่ระมัดระวังตอนนั้นเหมือนกับเลี้ยงลูกแก้วบนปลายเข็ม เผลอเมื่อไร ลูกแก้วก็ตกแตก เราต้องมาเริ่มต้นใหม่

แต่พอมาฝึกมโนมยิทธิได้ ตอนอายุ ๑๙ ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ พยายามฝึกฝนทบทวน จนกระทั่งโดนครูบาอาจารย์ไล่ออกมาจากวงฝึก เพราะว่าไปทำเขาเสียหมด เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าครูฝึกเอ่ยปากคำแรก กระผม/อาตมภาพจะรู้แล้วว่าทั้งประโยคนั้นคืออะไร แล้วก็ชิงตอบก่อน ขณะที่คนอื่นก็ "เอ๋อรับประทาน" กันหมด ทำให้การฝึกของผู้ร่วมวงเสียหายหมด เพราะคนอื่นยังไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร กระผม/อาตมภาพจึงโดนครูฝึกไล่ออกมา พร้อมกับข้อหาว่า "มาลองดี" เดินหน้าเหี่ยวออกจากห้องฝึกมา

ความจริงกระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้ต้องการอะไร ต้องการแค่ความคล่องตัวและชัดเจน ยิ่งต้องการความคล่องตัวและชัดเจนมากเท่าไร ก็ต้องยิ่งฝึกซ้อมให้มากเท่านั้น แล้วการซักซ้อมนั้น เราจะรู้ว่าถูกหรือผิด ก็ต้องมีครูคอยบอก เดินออกมาข้างนอก หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านรับสังฆทานช่วงบ่ายอยู่ ท่านก็หัวเราะแล้วบอกว่า "คล่องตัวขนาดนั้น ไปเป็นครูฝึกเขาได้แล้วลูก"

กระผม/อาตมภาพก็ยังไม่มีความมั่นใจอยู่ดี คือรู้สึกว่ายังไม่ดีพอ แต่ในเมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่าไปเป็นครูฝึกได้ เดือนต่อไปก็เข้าไปสอน ปรากฏว่าการสอนนั้นก็ไปเจอลูกศิษย์มหัศจรรย์ เพราะว่าครูฝึกมักจะเลี่ยงวงที่มีผู้สูงอายุอยู่ เนื่องจากว่าส่วนใหญ่แล้วไปไม่รอด แต่กระผม/อาตมภาพกลับโชคดี ไปเจอผู้สูงอายุแบบมหัศจรรย์ คือมีความคล่องตัวมาก ไม่ว่าจะหลอกล่อแบบไหนก็ ไม่สามารถที่จะหลอกได้ ถามอะไรไปก็ตอบถูกหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-07-2022 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 27-07-2022, 00:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อนำทุกคนไปพระนิพพานได้แล้ว ก็ให้รักษาใจเอาไว้ตรงจุดนั้น มีอะไรอยากรู้ก็กราบเรียนถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาเอง ตัวเองก็ไปสอนกลุ่มอื่นต่อ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มที่โดนทอดทิ้งเหมือนเดิม ปรากฏว่าทุกกลุ่มที่เข้าไป สามารถที่จะยกใจของตนเองขึ้นสู่พระนิพพานได้ อาจจะเป็นเพราะว่ากระผม/อาตมภาพรู้ว่า ตอนนี้กำลังใจของเขาอยู่ในระดับไหน จึงสามารถที่จะบอกได้ถูกต้อง

โดยเฉพาะมีอยู่ท่านหนึ่ง ฝึกกรรมฐานสายอื่นมา คือฝึกมาในสายธรรมกาย ไม่ได้มาเริ่มด้วยมโนมยิทธิ ขณะที่คนอื่นตอบคำถามตามที่กระผม/อาตมภาพตะล่อมกำลังใจเพื่อจะให้ยกจิตขึ้นไปสู่พระนิพพาน เขามีความสุขอยู่กับการกำหนดภาพพระในลูกแก้วของตนเอง ไม่ยอมพูดไม่ยอมจากับใคร จนกระทั่งอีก ๔ คนไปรออยู่ที่พระนิพพานหมดแล้ว ถึงมีโอกาสหันมาถามเขาว่า "ภาพพระในลูกแก้วยังชัดเจนแจ่มใสดีใช่ไหม ?" เขาถึงได้หลุดปากออกมาคำแรกว่า "ใช่"

กระผม/อาตมภาพถึงได้บอกว่า "พระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ไหน นอกจากอยู่บนพระนิพพาน เมื่อเห็นพระองค์ท่านคือคุณอยู่กับพระองค์ท่าน เมื่อคุณอยู่กับพระองค์ท่าน คือคุณอยู่บนพระนิพพาน ให้ตั้งใจน้อมจิตกราบลงไปตรงนั้น" เขาร้องไห้โฮอยู่ตรงนั้นเอง ก็ไม่นึกว่าการไปพระนิพพานจะง่ายแบบนี้

แต่เมื่อไปรายงานยอดว่าวันนี้สอนไปพระนิพพานได้ ๑๙ คน โดนบรรดารุ่นพี่ดุเอาว่า "จะเก่งเกินไปไหม ?" เพราะแต่ละคนสอนได้ ๒ คน ๓ คนก็เก่งมากแล้ว พอการสอนครั้งต่อไปก็เลยมีรุ่นพี่รุ่นป้ามาแอบฟัง แล้วก็ไปสรุปกันเองว่า "ไอ้ตี๋เล็กมันสอนโดยที่ไม่ตัดขันธ์ ๕ เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาคนไปพระนิพพานได้" กระผม/อาตมภาพก็มานั่งคิดว่า การที่เราบอกเขาว่า "ต่อให้ตายลงไปตอนนี้เราก็ยอม เพื่อแลกกับพระนิพพาน" ถ้าไม่ใช่การตัดขันธ์ ๕ กูก็ไม่รู้ว่าจะตัดอย่างไร !?

พอเวลาลูกศิษย์มีปัญหาสงสัย ก็มักจะไปสอบถามบรรดาครูฝึกผู้ใหญ่ กระผม/อาตมภาพนั่งฟังอยู่ บางทีได้ยินคำตอบที่ผิด มีความรู้สึกว่า "เราจะไม่พูดกับคนไม่ได้แล้ว เพราะว่าถ้าหากว่าเราไม่พูด คนไม่กล้าเข้าใกล้ เขาจะเสียประโยชน์เอง โดยเฉพาะท่านที่ได้รับคำตอบผิด ๆ ไป อาจจะกลายเป็นมิจฉาทิฏฐิไปเลย"

ดังนั้น...จึงเริ่มตอบปัญหาธรรมตั้งแต่ตอนช่วงอายุ ๒๕ ปี คือปี พ.ศ. ๒๕๒๗ แล้วก็ลากยาวมาจนทุกวันนี้ นี่คือสาเหตุที่ว่าจากคนที่ไม่พูดเลย ทำไมมาพูด แล้วไม่ค่อยอยากจะหยุด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-07-2022 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 27-07-2022, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนของการฝึกกรรมฐานต่าง ๆ หลวงพ่อวัดท่าซุงถึงได้บอกหนักหนาว่า "ถ้าครูฝึกไม่มีความคล่องตัวในเจโตปริยญาณ อาจจะพาลูกศิษย์ให้เสียได้"

เมื่อกระผม/อาตมภาพมาเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ในการนำนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะเป็นที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี (วัดไร่ขิง) หรือว่าวิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ถึงได้มีแต่คนเรียกร้องว่า "ถ้าพระวิปัสสนาจารย์ในช่วงปฏิบัติธรรมประจำปี ต้องเป็นหลวงพ่อเล็กเท่านั้น"

เหตุที่เรียกร้องก็ไม่ใช่อะไร เพราะว่ากระผม/อาตมภาพให้กรรมฐานที่พอเหมาะพอดีกับกำลังใจของพวกเขา ขณะที่คนอื่นส่วนใหญ่แล้วเครียดเกินไป มากเกินไป ไม่รู้ความต้องการของลูกศิษย์ จึงเป็นเหตุให้โดนต่อต้านอยู่เสมอ

ดังนั้น...ถ้าหากว่าพระใหม่ของเราที่ฝึกปฏิบัติธรรมอยู่กลับมา ถ้าทุกคนเห็นท่านเงียบ ๆ อยู่ ขอให้รู้ว่าท่านกำลังรักษากำลังใจที่ทำได้ อย่าพยายามไปก่อกวนหรือชวนคุย อย่างน้อย ๆ ให้เขารักษากำลังใจได้สัก ๓ วัน ๕ วันก็ยังดี

บุคคลที่เคยได้รับความสงบทางใจแล้ว เหมือนกับคนที่เคยกินอาหารอร่อยระดับเชลล์ชวนชิม ในเมื่อไม่สามารถจะหากินได้อีก ก็ต้องตะเกียกตะกายทำกินเอง ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็จะปฏิบัติธรรมแบบหัวไม่วางหางไม่เว้น ไม่ต้องบังคับก็ทำเอง จึงเป็นเรื่องที่พวกเราต้องระมัดระวังว่า บางทีเห็นท่านเงียบ ๆ อยู่แล้วไปชวนคุย บางทีอาจจะพาท่านเสียเลยก็ได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-07-2022 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว