กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 02-06-2021, 20:13
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,275
ได้รับอนุโมทนา 739,968 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 02-06-2021, 23:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,247 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้เป็นวันพุธที่ ๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ สำหรับผม/อาตมภาพ วันนี้ก็มีแต่งานเอกสารแล้วก็จ่ายเงิน ที่เป็นงานเอกสารเพราะว่าบัญชีต่าง ๆ เมื่อสิ้นเดือนก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย แล้วเมื่อสิ้นเดือนก็ต้องจ่ายค่าแรง จ่ายเงินเดือน ค่อนข้างจะยุ่งและวุ่นวายหน่อย

โดยเฉพาะในส่วนของบัญชีทำบุญออนไลน์ ซึ่งทุกท่านต้องเข้าใจว่า บัญชีทำบุญออนไลน์นั้นผูกกับผู้เสียภาษีของกรมสรรพากรโดยตรง ก็แปลว่าทุกบาททุกสตางค์จะต้องลงบัญชีโดยไม่มีข้อแม้ แต่คราวนี้มีปัญหาที่ว่า ญาติโยมหลายท่านทำบุญเพื่อเอาบุญจริง ๆ ก็คือทำบุญ ๑ สตางค์บ้าง ๙ สตางค์บ้าง ๑ บาทบ้าง แล้วก็สนุกสนานกับการทำบุญแบบนี้ทุกวัน คาดว่าน่าจะเป็นการตั้งระบบไว้เพื่อโอนอัตโนมัติทุกวัน ก็มาสาหัสที่อาตมาจะต้องเป็นผู้ลงบัญชีทุกบาททุกสตางค์อย่างเลี่ยงไม่ได้

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายตั้งระบบอัตโนมัติเพื่อทำบุญ ผลบุญน่าจะน้อยกว่า เพราะว่ากำลังใจไม่ได้จดจ่ออยู่กับทาน ปล่อยให้เครื่องทำหน้าที่อัตโนมัติเอง จะเป็นไปได้ไหมว่า ท่านอาจจะใช้วิธีภาวนาพระคาถาเงินล้านทุกวัน แล้วหยอดกระปุกไว้วันละบาท เมื่อสิ้นเดือนก็โอนทีเดียว ๓๐ บาท ถ้าอย่างนี้นอกจากท่านจะได้ทานบารมีทุกวัน โดยเฉพาะได้ทำด้วยตนเอง แล้วยังได้การภาวนาเพิ่มเติมขึ้นมา และที่แน่ ๆ ถ้าหากว่าภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัว พระคาถาเงินล้านก็จะส่งผลให้ท่านทั้งหลายมีความคล่องตัวในการเป็นอยู่ด้วย

ถ้าใครไม่ต้องมานั่งลงบัญชีทุกบาททุกสตางค์แบบพระ ก็คงไม่รู้ถึงความยากลำบาก โดยเฉพาะในเรื่องของการทำบุญออนไลน์นั้น กรมสรรพกรเป็นผู้ควบคุม มีแนวโน้มว่าจะเก็บภาษี โดยเฉพาะถ้าหากว่าบัญชีใดมีการโอนเดือนหนึ่งถึง ๓๐๐ ครั้ง หรือว่าเดือนหนึ่งมีเงินเข้า ๒ ล้านบาทขึ้นไป ธนาคารต้องรายงานกรมสรรพากรและสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเพื่อตรวจสอบทันที

คราวนี้ถ้าญาติโยมตั้งใจทำบุญทุกวัน แต่ใช้วิธีตั้งโอนอัตโนมัติทีละสตางค์ทีละบาท อันดับแรกก็คือจะทำให้จำนวนการโอนถึง ๓๐๐ ครั้ง ต่อให้เงิน
รวมกันแค่ไม่กี่บาท ถ้าถึง ๓๐๐ ครั้งก็โดนตรวจสอบเหมือนกัน

ดังนั้น...ให้ญาติโยมที่ตั้งใจทำบุญกับทางวัดพิจารณาดูว่า จะเปลี่ยนวิธีการทำบุญอย่างที่อาตมาขอร้องดีหรือไม่ ? ก็คือเราภาวนาแล้วหยอดกระปุกด้วยทุกวัน สิ้นเดือนก็โอนทีเดียว ๓๐ บาท แล้วเหรียญที่อยู่ในกระปุก เราก็แคะออกมา ภาวนาแล้วก็หยอดใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2021 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 02-06-2021, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,247 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งก็คือ ท่านที่ชอบโอนเงินแล้วมีเศษสตางค์ นี่ก็เป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน เพราะว่าทุกบาททุกสตางค์ต้องลงบัญชี หลายท่านก็โอนมา ลงท้ายด้วยสลึง ๕๐ สตางค์ก็ยังพอทน แต่บางท่านก็ลงท้ายด้วย ๑ สตางค์ ๘๘ สตางค์ ที่พูดมานี่เจ้าของจะต้องรู้ว่าเป็นของตัวเอง ก็จะทำให้เกิดความยากลำบากในการลงบัญชีเช่นกัน ถ้าเป็นไปได้ลงยอดเต็มไปเลยดีหรือไม่ ?

บางท่านก็ทำบุญ ๙ บาท แล้วทำไมไม่ทำให้เต็ม ๑๐ บาทไปเลย ? หรืออาจจะขาดเงินอยู่ ๑ บาท ก็เป็นเรื่องที่แจ้งให้ญาติโยมทั้งหลายได้พิจารณาดูว่า จะช่วยแบ่งเบาภาระของอาตมาได้บ้างหรือไม่ ? ถ้าหากว่ายังทำเหมือนเดิม อาตมาก็รับกรรมทำหน้าที่ต่อไปด้วยการลงทุกบาททุกสตางค์เหมือนเดิม แต่ถ้าช่วยแบ่งเบาได้ ก็จะเป็นเรื่องที่วิเศษมาก ทำให้เหนื่อยน้อยลง

อีกส่วนหนึ่งก็คือ ญาติโยมที่ตั้งใจโอนเงินทำบุญส่วนตัว ถ้าหากว่าโอนเงินทำบุญส่วนตัว ให้โอนเข้าบัญชีพระครูวิลาศกาญจนธรรม ไม่เช่นนั้นแล้วท่านที่โอนเข้าบัญชีวัดท่าขนุน อาตมาก็เอาลงกองกลางหมด แล้วโดยนิสัยอาตมาก็ไม่อยากได้เงินส่วนตัวอยู่แล้ว เมื่อโอนเข้าบัญชีวัด ก็ถือเป็นข้ออ้างในการกวาด
ไปลงส่วนกลางหมด

ถ้าหากว่าท่านที่ไม่ทราบในเรื่องของบัญชีส่วนตัวหรือบัญชีวัด ให้เข้าเว็บวัดท่าขนุน ไปดูในห้องบอกเล่าเก้าสิบ จะมีบัญชีทั้งบัญชีวัดและบัญชีชื่อพระครูวิลาศกาญจนธรรมอยู่ ก็แล้วแต่ญาติโยมจะทำบุญตามรายการเหล่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2021 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 02-06-2021, 23:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,247 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งที่จะต้องทำต่อไปในวันพรุ่งนี้ก็คือ บัญชีกองทุนรักษาพยาบาลพระภิกษุสามเณร ซึ่งล่าสุดนี้พระที่วัดก็ไปผ่าตัดมา เสียค่าใช้จ่ายไป ๕๐,๐๐๐ กว่าบาท ยังดีที่ว่าทางญาติโยมของพระช่วยออกส่วนหนึ่ง อาตมาก็เลยจ่ายแค่ ๓๐,๐๐๐ บาท

ในเรื่องของการรักษาพยาบาลพระภิกษุสามเณรนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า ผู้ใดตั้งใจจะอุปัฏฐากตถาคต ขอจงอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด การอุปัฏฐากภิกษุไข้ มีอานิสงส์เช่นเดียวกับการอุปัฏฐากตถาคต ก็แปลว่า การที่ท่านทั้งหลายดูแลรักษาพระหรือสามเณรที่เจ็บไข้ได้ป่วย อานิสงส์เหมือนกับท่านได้ดูแลพระพุทธเจ้าเอง

โดยเฉพาะพระองค์ท่านตรัสกับพระอานนท์และหมู่ภิกษุว่า พวกเธอทั้งหลายเป็นผู้ปราศจากเรือนแล้ว ถ้าหากว่าไม่ช่วยกันดูแล แล้วจะให้ผู้ใดมาช่วย ? ก็คือพระเรามาบวช ก็ตัดขาดจากครอบครัวแล้ว จึงต้องช่วยกันดูแล ซึ่งตรงส่วนนี้วัดท่าขนุนของเราถือว่าดีมาก เพราะว่าเราช่วยกันดูแลพระแก่ ช่วยกันดูแลพระป่วย แม้ว่าบางท่านจะทำตัวน่ารำคาญบ้าง ก็ยังอดทนช่วยกันดูแลอยู่ ซึ่งตรงนี้ก็ขอชมเชย
สำหรับท่านทั้งหลายที่ได้ทำหน้าที่ไปเอาไว้ ณ ที่นี้

ในส่วนของกองทุนรักษาพยาบาลนั้น ก็มีผู้ตั้งทุนมา ๑๒๐ กว่าราย แต่ว่าน่าจะถึง ๒ ใน ๓ ที่ตั้งทุนแล้วก็ลืมทิ้งไปเลยว่าตัวเองมีทุนอยู่ตรงนี้ ไม่ได้มีการเพิ่มทุนมาเป็น ๑๐ ปีแล้วก็มี บางกองทุนอาตมาเองเห็นแล้วรำคาญตา ก็แอบควักเงินส่วนตัวไปเพิ่มให้

ดังนั้น...ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายจะทำบุญในส่วนของการรักษาพยาบาลพระภิกษุสามเณร ก็ให้เข้าไปในห้องข่าวประชาสัมพันธ์จากวัดท่าขนุน กระทู้ "ขอเชิญตั้งกองทุนรักษาพยาบาลพระภิกษุสามเณร" จะร่วมเป็นกองทุนเดียวกับอาตมาก็ได้ หรือถ้าจะตั้งทุนของตนเอง ก็ให้ระบุมาว่าจะใช้ชื่อกองทุนว่าอะไร แล้วจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีช่วยดูแลจัดการให้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2021 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 02-06-2021, 23:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,247 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของการทำบุญนั้น ทุกท่านต้องเข้าใจว่า กำลังใจของเรา ถ้าปักมั่นอยู่กับบุญ อานิสงส์ก็จะมีมาก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ก่อนที่จะทำบุญนึกได้ว่าเราจะได้ทำบุญ ก็เกิดความปีติยินดี ระหว่างที่กำลังทำบุญอยู่ก็เกิดความปีติยินดี เมื่อทำบุญแล้วระลึกขึ้นมาเมื่อไร ก็เกิดความปีติยินดี ถ้าลักษณะอย่างนี้ผลบุญของท่านจะได้มาก เพราะว่าทั้ง ๓ วาระที่เราทำบุญนั้น กำลังใจเกาะอยู่กับบุญ เกาะอยู่กับทานเป็นพิเศษ

ในเรื่องของบุญของทานที่เราทำนั้น อย่าได้ติดอยู่แค่บุญทาน เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอานิสงส์จะส่งผลแค่กามาวจรเท่านั้น ก็คือเกิดเป็นเทวดานางฟ้า ถ้าท่านทำจนเคยชิน วันไหนไม่ได้ทำรู้สึกผิดปกติ ถ้าอย่างนั้นมีโอกาสเกิดเป็นพรหม แต่ถ้าท่านเข้าใจว่าการทำทานนี้เป็นการตัดละความโลภ ในขณะเดียวกันขึ้นชื่อว่าการเกิดมาในโลกนี้ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยาก ทำให้เราต้องเร่าร้อนด้วยอำนาจของ รัก โลภ โกรธ หลง ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาในสภาพเช่นนี้ เราไม่ต้องการอีกแล้ว ขอผลบุญหรือผลทานที่เราได้ทำนี้ ส่งผลให้เราเข้าสู่พระนิพพาน

ถ้ากำลังใจของเราตั้งใจเช่นนี้ สามารถที่จะตัดละ รัก โลภ โกรธ หลง จากใจได้จริง ๆ
แม้ว่าทำทานเพียงอย่างเดียว ท่านก็จะมีโอกาสเข้าสู่พระนิพพานได้ เพราะว่าการทำทานเพียงอย่างเดียวนั้น ความจริงท่านมีศีลอยู่แล้ว เพราะว่าในระหว่างที่ทำ เราไม่ได้ล่วงศีลแม้แต่สิกขาบทเดียว แล้วขณะเดียวกันเราก็ประกอบด้วยสมาธิ เพราะว่ากำลังใจจดจ่อปักมั่นอยู่กับการทำทาน โดยที่มีปัญญาเข้าใจชัดเจนว่า ทานนี้มีคุณประโยชน์อย่างไร อาศัยทานเป็นบันไดให้เราก้าวล่วงจากกองทุกข์เข้าไปสู่พระนิพพาน ก็แปลว่าอาศัยทานอย่างเดียว ท่านก็เป็นผู้ที่บำเพ็ญครบ ทั้งทาน ทั้งศีลและภาวนาได้

ขอฝากเอาไว้สำหรับพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งญาติโยมที่รับฟังอยู่ ได้พิจารณาตามที่ได้กล่าวมาแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2021 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:06



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว