กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-04-2022, 07:57
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,530
ได้ให้อนุโมทนา: 215,928
ได้รับอนุโมทนา 736,964 ครั้ง ใน 35,905 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-04-2022, 18:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ต้องมาพบกับท่านทั้งหลายและญาติโยมทั้งหลายผิดเวลา เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปพุทธาภิเษกวัตถุมงคลให้กับทางกองบิน ๕ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งใช้ระยะเวลาเดินทางไปกลับราว ๆ ๘-๙ ชั่วโมง ตามแต่รถจะติดมากหรือว่าน้อย จึงทำให้ไม่มีเวลาที่จะเหลือไว้สำหรับบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนตามเวลาปกติ

แล้วในเดือนเมษายนนี้ กระผม/อาตมภาพก็ตั้งใจว่าจะบันทึกเสียงธรรมให้ครบถ้วนทั้ง ๓๐ วันเป็นเดือนแรก จึงต้องมาบันทึกเสียงก่อนเวลานานมาก แต่คาดว่าญาติโยมหลายท่านก็คงจะยินดีและพอใจ เนื่องจากว่าได้ฟังก่อนเวลานานมากเช่นกัน

วันนี้กระผม/อาตมภาพได้ทำบัญชีทุนการศึกษา ตั้งแต่ประมาณช่วงตี ๓ เป็นต้นมา โดยเฉพาะทุนการศึกษาของสามเณรภาคฤดูร้อน ทำไปจนสว่าง ญาติโยมนำภัตตาหารเช้ามาถวายแล้วก็ยังไม่แล้วเสร็จ

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าในเรื่องของบัญชีสัทธิวิหาริก คือ พระภิกษุสามเณรที่กระผม/อาตมภาพบวชให้นั้น เพื่อความสะดวกและเป็นระเบียบเรียบร้อย ตรวจสอบได้ง่าย ก็ต้องส่งบัญชีรายชื่อตามวันเวลาที่บวช ไล่ตามอายุของผู้บวช

แต่เมื่อมาเป็นบัญชีทุนการศึกษานั้น เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและตรวจสอบได้ง่าย ก็ต้องไล่ตามชั้นเรียนและตามโรงเรียน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงทำให้การทำงานเป็นคนละแบบ จนมีการขาดตกหล่นหายเป็นปกติ ต้องค่อย ๆ มาไล่ทีละรายชื่อจนกว่าจะครบ ใช้เวลาไปเกิน ๔ ชั่วโมง นี่แค่ทุนการศึกษาสามเณรภาคฤดูร้อนอย่างเดียวเท่านั้น..!

สามเณรภาคฤดูร้อนของวัดท่าขนุนนั้นมาจากทั่วทุกสารทิศ บางโรงเรียนนั้น กระผม/อาตมภาพยังไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย เมื่อทางด้านเลขานุการวัดท่าขนุนส่งรายชื่อ อายุ โรงเรียนมาให้ กระผม/อาตมภาพก็ต้องใช้วิธีที่ง่ายที่สุด ก็คือถามจาก "พี่กู" ซึ่งกูเกิลก็รู้ได้ทุกอย่างจริง ๆ เพียงแต่ว่าบางโรงเรียนนั้นมีหลายสาขา
กระผม/อาตมภาพก็ต้องมานึกว่า พ่อแม่ของสามเณรภาคฤดูร้อนนั้นอยู่จังหวัดไหน ? จะได้เลือกถูกว่าสามเณรภาคฤดูร้อนนั้น ควรที่จะเรียนอยู่ที่โรงเรียนสาขาไหนกันแน่ ?

การมอบทุนการศึกษาให้แก่สามเณรภาคฤดูร้อนของวัดท่าขนุนนั้น ไม่ใช่ว่ามาบวชเข้าโครงการแล้วก็จะได้รับทุนเลย สามเณรภาคฤดูร้อนที่จะได้รับทุนการศึกษานั้น จะต้องท่องคำอาราธนาศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปริตร และคำปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะได้อย่างคล่องแคล่ว ถ้าหากว่าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ก็จะโดนตัดเงินไปตามจำนวน ก็คือรายการละ ๕๐๐ บาท แต่ถ้าหากว่าผู้ใดท่องได้ครบถ้วนสมบูรณ์ก็จะได้ทุนการศึกษา ๒,๐๐๐ บาทต่อรูป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 29-04-2022 เมื่อ 23:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-04-2022, 18:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปีนี้สามเณรภาคฤดูร้อนของวัดท่าขนุน รับบรรพชาแค่ ๖๗ รูป ตามพระชนมายุของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงเจริญพระชนมายุ ๖๗ พรรษา เหตุที่ต้องบังคับให้สามเณรภาคฤดูร้อนท่องคำอาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตรให้ได้ ก็เผื่อว่าถ้าต้องไปเป็นศาสนพิธีกรในที่ใดที่หนึ่ง จะได้ทำหน้าที่ได้โดยสมบูรณ์ไม่ขาดตกบกพร่อง

ในขณะเดียวกัน ก็ให้สามเณรมีกิจกรรมได้ทำในระหว่างที่บวชอยู่ ไม่ใช่บวชมาเฉย ๆ เท่านั้น เพราะว่าต้องมีการฝึกฝน นั่งสมาธิ เดินจงกรม ภาวนา ศึกษาสถานที่ต่าง ๆ รอบบริเวณวัด อยู่ในลักษณะของการทัศนศึกษา โดยเรียนรู้ซึ่งประวัติของสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นของตน เพื่อความรู้จริง รู้แท้ และภาคภูมิใจในรากเหง้าของตนไปด้วย

นอกจากนั้นแล้ว ยังต้องมีการบิณฑบาต ทำความสะอาดวัดวาอารามร่วมกัน แล้วก็มีการศึกษาเล่าเรียนในพุทธประวัติและศาสนพิธีต่าง ๆ อีกด้วย

ตรงจุดนี้ ถ้าหากว่าทุกวัดที่มีการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน แล้วสามารถทำได้ ก็จะทำให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น เมื่อสึกหาลาเพศไปแล้ว กลายเป็นเยาวชนที่มีความรู้ความสามารถ ถึงเวลาก็เข้าสังคมได้โดยไม่เคอะเขิน เพราะมีความมั่นใจในความรู้ของตนเอง

อีกส่วนหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพได้ตั้งใจเอาไว้ก็คือ การให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งกระผม/อาตมภาพใช้ปฏิปทาของครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง ก็คือหลวงปู่มหาอำพัน ท่านเจ้าคุณพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ วิ. (อำพัน อาภรโณ ป.ธ.๕) วัดเทพศิรินทราวาส ที่ท่านมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนทุกวันวิสาขบูชา

โดยหลวงปู่ท่านให้เหตุผลว่า ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนานั้น อย่างน้อยเด็ก ๆ ก็จะได้เข้าวัด เพื่อระลึกถึงความสำคัญของวันประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้น ได้มีความตั้งใจว่าจะมอบทุนการศึกษาให้กับทุกโรงเรียนในเขตอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งได้พยายามทำมาหลายปีแล้ว โดยการขยายไปปีละ ๒ - ๓ โรงเรียนบ้าง ปีละ ๕ โรงเรียนบ้าง ปัจจุบันมาถึงปีนี้ก็ให้ถึง ๓๐ โรงเรียนแล้ว ขาดอีกแค่ ๓ - ๔ โรงเรียนก็จะครบถ้วนทั้งอำเภอ ถ้าหากว่าไม่ถึงแก่ชีวิตลงไปเสียก่อน ในวันวิสาขบูชาปี ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพก็จะให้ทุนการศึกษาได้ครบถ้วนตามที่ได้ตั้งเจตนาเอาไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2022 เมื่อ 03:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 28-04-2022, 18:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การให้ทุนการศึกษานั้น เป็นการให้โดยไม่มีเงื่อนไขอื่นใด นอกจากเป็นเด็กที่มีความประพฤติดี มีการเรียนดี และมีฐานะทางบ้านยากจน โดยมอบสิทธิ์ขาดให้กับทางโรงเรียนคัดเลือกมา

โรงเรียนชั้นประถมนั้น จะให้ทุนการศึกษาโรงเรียนละ ๒๐ ทุน จำนวนทุนละ ๒,๐๐๐ บาทถ้วน ก็แปลว่าจะได้โรงเรียนละ ๔๐,๐๐๐ บาท

ถ้าเป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ซึ่งมีถึงชั้นมัธยมปีที่ ๓ ก็จะให้ทุนชั้นประถม ทุนละ ๒,๐๐๐ บาท ๑๕ ทุน ทุนชั้นมัธยมศึกษา ทุนละ ๓,๐๐๐ บาท ๕ ทุน รวมแล้วจะได้โรงเรียนละ ๔๕,๐๐๐ บาท

ถ้าหากว่าเป็นโรงเรียนมัธยมเต็มสภาพ ซึ่งมีอยู่แค่ ๒ โรงเรียนเท่านั้น คือโรงเรียนทองผาภูมิวิทยาและโรงเรียนร่มเกล้ากาญจนบุรี ก็จะมอบทุนการศึกษาระดับมัธยมศึกษาทุนละ ๓,๐๐๐ บาท ให้โรงเรียนละ ๒๐ ทุน
รวมแล้วจะได้โรงเรียนละ ๖๐,๐๐๐ บาท


แต่เนื่องจากว่าด้วยความใกล้ชิดและให้ทุนต่อเนื่องกันมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ทางด้านโรงเรียนทองผาภูมิวิทยาจึงขอทุนพิเศษให้กับเด็กนักเรียนมัธยม ชั้นเรียนละ ๑ ทุนการศึกษา ซึ่งโรงเรียนทองผาภูมิวิทยามีตั้งแต่ชั้นมัธยมปีที่ ๑ ถึงชั้นมัธยมปีที่ ๖ จำนวน ๒๔ ห้องเรียนด้วยกัน แล้วมาภายหลัง มีการขยายโอกาสให้เด็กได้เรียนในประกาศนียบัตรวิชาชีพ ที่มีวุฒิการศึกษาเทียบเท่าชั้นมัธยมปีที่ ๖ ขึ้นมาอีก

กระผม/อาตมภาพจึงขยายทุนการศึกษาให้เฉพาะโรงเรียนทองผาภูมิวิทยานั้น ๓๐ ทุน แปลว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนเดียวที่จะได้ทุนการศึกษาปีละ ๙๐,๐๐๐ บาท ในเฉพาะชั้นมัธยมศึกษาและประกาศนียบัตรวิชาชีพ ส่วนโรงเรียนร่มเกล้ากาญจนบุรีนั้นก็จะได้ปีละ ๖๐,๐๐๐ บาท

แต่ว่าโรงเรียนทองผาภูมิวิทยานั้น มีสิทธิที่จะส่งเด็กที่สอบชิงทุนการศึกษาของวัดท่าขนุน ในระดับอุดมศึกษาต่อเนื่องจนกว่าจะจบหลักสูตร เป็นจำนวนปีละ ๒ ทุนด้วยกัน ก็คือสายวิทย์ ๑ ทุน สายศิลป์ ๑ ทุน ทุนละ ๓๐,๐๐๐ บาทให้จนจบหลักสูตรที่เข้าเรียน ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร ๔ ปี หรือ ๕ ปี บุคคลที่สอบชิงทุนได้แล้ว ก็จะได้ทุนการศึกษาทุนละ ๓๐,๐๐๐ บาท อย่างปีนี้ก็จะเป็น ๙ ทุนการศึกษา เป็นจำนวนเงิน ๒๗๐,๐๐๐ บาท เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2022 เมื่อ 03:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 28-04-2022, 18:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของชั้นประถมและชั้นมัธยมนั้น กระผม/อาตมภาพให้ทุนเด็กดี ก็คือบังคับข้อแรกเลย ว่าต้องมีความประพฤติดี ตรงจุดนี้ครูบาอาจารย์ที่เป็นผู้คัดเลือก ก็จะต้องพยายามหาเด็กที่มีความเหมาะสมกับทุนมาให้ได้

ส่วนทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษานั้น กระผม/อาตมภาพให้ทุนเด็กเก่ง จึงต้องให้สอบชิงทุนเข้ามา เพราะว่าเด็กเก่งนั้น โอกาสที่จะเรียนจบการศึกษามีมากกว่า

แต่ว่าปีนี้ก็มีทุนการศึกษาพิเศษอยู่ ๒ ทุน ทุนหนึ่งก็คือนางสาวกมลชนก แก้วกอง ซึ่งได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องพักรักษาตัว ทำให้ขาดการศึกษาไป ๑ เทอม จนเรียนไม่ทันเพื่อน จึงต้องเรียนช้ากว่าคนอื่น แต่กระผม/อาตมภาพถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย จึงมอบทุนการศึกษาให้ไปตามปกติ

อีกทุนหนึ่งนั้นเป็นทุนของเด็กต่างด้าวที่ไม่มีนามสกุล คือ นางสาวกล้วย สามารถได้ทุนเข้าเรียนตรงที่สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ แต่ว่าในเมื่อไม่มีนามสกุล ไม่มีบัตรประชาชน ไม่สามารถที่จะกู้ยืมกองทุนการศึกษาได้ เมื่อท่านผู้อำนวยการโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา นายยงยุทธ สงพะโยม มาเรียนปรึกษา กระผม/อาตมภาพจึงให้นางสาวกล้วยรับทุนการศึกษาเป็นกรณีพิเศษ ทุนละ ๓๐,๐๐๐ บาท จนกว่าจะจบหลักสูตร ๔ ปีเช่นกัน

ตรงจุดนี้ เมื่อเรียนจบมาแล้วก็ไม่มีพันธะผูกพันใด ๆ ทั้งสิ้น เด็กนักเรียนของเราจะไปทำงานที่อื่นก็ดี หรือว่าจะกลับมารับใช้ชุมชนของตนเองก็ตาม แล้วแต่จิตสำนึกของเหล่าท่านทั้งหลายเอง

เพียงแต่ว่าสิ่งหนึ่งที่จะติดกายติดใจของเขาทั้งหลายเหล่านั้นไปก็คือว่า จิตสำนึกที่รู้สึกอยู่เสมอว่า ตนเองเรียนจบมาได้ก็เพราะวัด เมื่อถึงเวลาก็ย่อมเข้าวัดเข้าวามาทำบุญใส่บาตร สร้างกุศลใส่ตัว หรือว่าบอกกล่าวแก่ลูกหลานของตนเองว่า วัดวาอารามนี้ หลวงพ่อท่านนี้ มีบุญคุณในการส่งพ่อส่งแม่เรียนจนจบการศึกษา ทำให้มีอาชีพทำมาหากิน สามารถเลี้ยงดูพวกลูก ๆ ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น ความรู้สึกที่ดีของบรรดาเด็ก ๆ ก็จะมีต่อวัดวาอาราม จนเกิดความผูกพันจากรุ่นสู่รุ่นไปโดยปริยาย

ตรงจุดนี้นั้น กระผม/อาตมภาพได้รับการสนับสนุนจากญาติโยมทั้งหลายที่ทำบุญมาแล้ว ก็ตอบแทนคืนไปในลักษณะของการตอบแทนสังคม เมื่อเราได้ทำการตอบแทนสังคมไป ก็จะก่อให้เกิดความผูกพันรักใคร่สามัคคีขึ้นในชุมชน

เมื่อเป็นเช่นนั้น บ้าน วัด โรงเรียน และส่วนราชการ ก็จะมีความสามัคคีกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สร้างความเหนียวแน่นให้เกิดขึ้นในชุมชน ถ้าทุกชุมชนสามารถทำอย่างนี้ได้ บ้านเราเมืองเราก็จะมีความสุขความเจริญ สามารถพึ่งพาตนเอง พึ่งพากันเองในชุมชน โดยไม่ต้องไปพึ่งพาสิ่งอื่นประการใดจากภายนอก

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2022 เมื่อ 04:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:11



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว