กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 29-09-2021, 20:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,020 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (พระมหาสุเทพ สุปณฺฑิโต, ผศ.) น้อมถวายด้วยความเคารพครับ ที่พระเดชพระคุณได้ให้ข้อเสนอเป็นความรู้ ผมเองก็ได้ทบทวน เมื่อวานพลังงานสมาธิได้ใช้ไปเต็มที่ เกือบจะต้องนอนหมอบเหมือนกันครับ..ได้สติครับ อันนี้เป็นหลักเลย ทางเราไม่เหมือนโยม ต้องมีครูบาอาจารย์คอยให้สติเหมือนกันครับ ?
ตอบ : เจ้าคุณอาจารย์อธิการบดีของเราเป็นนักปฏิบัติชั้นยอดเลยครับ แต่ท่านไม่บอกใครครับ

ถาม : ผมได้ตามท่านเจ้าคุณอธิการบดีไปมหาจุฬาอาศรมบ้าง ได้เห็นปฏิปทาอยู่..สวดมนต์ทั้งคืน ท่านสวดถึงเกือบเที่ยงคืน
ตอบ : ผมก็ได้เห็นงานของท่านอาจารย์มหาเช่นกัน โอ้โห...หนักเหลือเกินครับ อย่างไรก็อย่าทิ้งนะครับ..เรื่องกรรมฐาน ต้องมีเอาไว้ จะได้มีแรงสู้งานครับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-09-2021 เมื่อ 05:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 29-09-2021, 20:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,020 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระเรามีบทบาทช่วยเหลือสังคมในลักษณะอย่างนี้หลาย ๆ งานด้วยกัน งาน ๖ - ๗ งานที่คณะสงฆ์ทำอยู่ ในท่ามกลางของการทำงานกันอยู่ ก็มีแนวคิดของเจ้าสำนักโน้น เจ้าสำนักนี้บอกว่า การที่พระออกไปเต้นแรงเต้นกาแบบนี้ ไม่ใช่กิจของพระ ไม่ใช่หน้าที่ของพระ อยากให้ทำหน้าที่แบบพระ เคร่งครัดเต็มที่ เราจะวางตัวอย่างไร ?

ตอบ : ขออภัยท่านอาจารย์นะครับ บางทีท่านอาจารย์มีคำตอบอยู่แล้ว แต่ว่ามาถามผม คือว่าในเรื่องอย่างนี้ ถ้าจะเถียงเอาชนะกัน ให้บอกไปเลยครับว่าเป็นกิจของสงฆ์..!

อย่าลืมนะครับพระพุทธเจ้าสั่งเรา ไปเพื่ออะไรครับ ? พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย เพื่อประโยชน์ของคนหมู่มาก เพื่อความสุขของคนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์แก่โลก ในขณะที่โลก หรือว่าคนหมู่มากต้องการการอนุเคราะห์จากเรา ถ้าเราไม่ไปทำ นี่แหละครับ เราไม่ปฏิบัติกิจของสงฆ์

แต่ถ้าหากว่าเราไม่คิดจะเถียงเอาชนะใคร ก็ต้องพยายามฟังเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเสียงนกเสียงกา ถือว่ามารไม่มี บารมีไม่เกิดครับ เรายิ่งปล่อยวางได้มากเท่าไร เรายิ่งมีกำลังในการทำงานตรงหน้าได้มากเท่านั้น ถามว่าทำไมเป็นอย่างนั้นครับ ? บอกเขาว่า ผมยุ่งเกินกว่าที่จะไปทะเลาะกับคุณ ผมขอทำงานของผมเถอะครับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-09-2021 เมื่อ 05:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 30-09-2021, 18:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,020 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากทราบว่าพระอาจารย์มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม ฉบับใหม่ ปี ๒๕๖๒ ครับ มีคุณประโยชน์ต่อสังคมอย่างไรบ้างครับ ?

ตอบ : มีผลตรงที่ว่าเราจะมีกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นตัวครูบาอาจารย์หรือสำนักศึกษา ถ้าหากว่าเราอยู่ตัวแล้ว ก็จะมีงบประมาณสนับสนุน ทำให้งานทุกอย่างดำเนินไปง่ายขึ้น แต่ว่าสิ่งที่เราจะลืมไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของการเรียนการศึกษา
คือปริยัติธรรม เป็นแค่ปีกเดียวของพระพุทธศาสนาเท่านั้น เราต้องมีปฏิบัติธรรมไปด้วย ไม่อย่างนั้นนกปีกเดียวบินไม่ได้ครับ

แล้วการศึกษาในปัจจุบัน อย่าให้เป็นภัณฑาคาริกปริยัติ ก็คืออย่าศึกษาเรียนรู้แบบคลังเก็บความรู้ครับ แต่ให้ศึกษาแบบนิสสรณัตถปริยัติ ก็คือศึกษาเพื่อปฏิบัติให้ตนเองหลุดพ้นด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือว่า ถ้าเราทำตัวเราเองได้แล้ว เราจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด อย่างที่มีบางคนเขาคิดคำคมว่า "เมื่อคุณพูด คนอื่นก็แค่ฟัง แต่ถ้าคุณทำ คนอื่นถึงจะเชื่อ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2021 เมื่อ 16:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 30-09-2021, 18:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,020 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าอยากจะทำการวิจัยเกี่ยวกับบทบาทของพระพุทธศาสนากับการมีส่วนรวมในการพัฒนาสังคมในยุคโควิด ?

ตอบ : เข้ากูเกิ้ล แล้วไปหาคำว่า "บทบาทของพระสงฆ์ ต้นแบบนักพัฒนาการสาธารณสงเคราะห์" จะได้ข้อมูลเยอะมากเลย แล้วมีอาตมาอยู่ในนั้นด้วย อย่างวัดท่าขนุนก็เป็นหนึ่งในหลายวัด ที่ได้รับการยกให้เป็นต้นแบบการสาธารณสงเคราะห์

พิมพ์คำว่า "บทบาทของพระสงฆ์ ต้นแบบนักพัฒนาการสาธารณสงเคราะห์" แล้วจะได้ข้อมูลไหลมาเทมา จะทำวิทยานิพนธ์กี่ร้อยหน้าก็ได้

มจร.ของเรามีวิชาพระพุทธศาสนากับการสาธารณสุขด้วย สอนแม้กระทั่งวิชานี้ ถ้าหากว่าท่านอาจารย์สนใจ ก็ค้นหาในตำราของ มจร.ได้เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2021 เมื่อ 16:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 30-09-2021, 18:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,020 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : "ภิกขเว จาริกัง" ผมอยากจะใช้คำว่า "โควิด จาริกัง" เราจะทำอย่างไรที่เราจะออกไปเป็นนักจิตวิทยา เยี่ยมเยียนญาติโยมได้ง่าย ๆ ?

ตอบ : ขอบคุณท่าน
รศ.ดร.บุณย์ นิลเกษ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ท่านให้ทัศนคติเอาไว้น่าฟังมาก คาดว่าพระเจ้าพระสงฆ์ทุกท่านที่ได้ยินน่าจะมีกำลังใจ เราจะได้รู้ว่าชาวบ้านในระดับครูบาอาจารย์ เห็นด้วยกับการที่พระออกไปทำหน้าที่แบบนี้

แต่ว่าในขณะเดียวกัน การที่ท่านทั้งหลายจะออกไปทำหน้าที่ จะต้องประกอบไปด้วยสติและปัญญา สติก็คือเราต้องเข้าใจว่าโควิด ๑๙ ไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงจนป้องกันไม่ได้ ถ้าหากว่าเรามีการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ โอกาสที่จะติดโรคแทบจะไม่มีเลย

ดังนั้น...เราต้องใช้ปัญญาให้เข้าใจสภาพที่แท้จริงตรงนี้ แล้วไปด้วยดวงใจที่หวังสงเคราะห์ผู้อื่น เพราะว่าญาติโยมช่วยเหลือเรามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นโยมที่ไหนก็ตาม เมื่อถึงเวลาโยมเขาเดือดร้อน พระเราต้องออกไปช่วยเหลือโยม แต่ว่าให้ช่วยเหลืออยู่ในกรอบของพระธรรมวินัยที่สามารถอธิบายให้เขาฟังได้ว่า สิ่งที่เราทำนี้เป็นไปตามพระธรรมวินัย ไม่ใช่เป็นไปตามที่เขาบอกว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์

เราต้องเอามหาปเทส คือข้ออ้างใหญ่ที่พระพุทธเจ้าให้ไว้ตัดสินพระธรรมวินัย ๔ ข้อที่ว่า สิ่งที่ไม่สมควร แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่าสมควร สิ่งนั้นย่อมสมควร ในเมื่อเขาเห็นว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ ไม่ใช่สิ่งสมควร แต่เราทำไปแล้วเป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มาก สิ่งนั้นคนหมู่มากเห็นด้วย ถือว่าเป็นสิ่งที่ย่อมสมควร

ขอเจริญพรท่านรศ.ดร.บุณย์ เป็นอย่างยิ่ง ที่ให้กำลังใจ อาตมายังรู้สึกดีขึ้นมากเลยจ้ะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2021 เมื่อ 16:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 30-09-2021, 18:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,020 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมได้มีโอกาสพานิสิตไปศึกษาดูงานที่กาญจนบุรี แล้วไปดูงานที่วัดท่าขนุนของหลวงพ่อด้วย สิ่งที่ตัวกระผมและบรรดานิสิตได้เห็นนั้น ต้องบอกว่า เราพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าปาฏิหาริย์มีจริง เพราะว่าสิ่งที่เห็นไม่คิดว่า วัดอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีติดพม่าจะสามารถทำได้อย่างนี้ ผมอยากทราบว่า หลวงพ่อมีการบริหารการจัดการภายในวัดท่าขนุนอย่างไรบ้างครับ ? มีแนวทางอะไรบ้างที่ให้ลูกศิษย์ได้ไปประพฤติปฏิบัติตามได้ครับ ?

ตอบ : อันดับแรกเลย เมื่อสักครู่ที่บอกไปแล้วว่า "ถ้าท่านพูด เขาแค่ฟัง ถ้าท่านทำ เขาจะเชื่อ" เพราะฉะนั้น...ทุกอย่างที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน อาตมาจะลงไปนำเขาเองทุกครั้ง

เราจะไปคิดว่าตัวเราเองเป็นเจ้าอาวาส เป็นเจ้าคณะตำบล เป็นเจ้าคณะอำเภอ เรายิ่งใหญ่แล้ว ปล่อยให้พระใหม่เขาทำกัน ถ้าอย่างนั้นวัดนั้นไปไม่รอด เพราะว่าต้องมีภาวะผู้นำ ผู้ตามถึงจะยอมเดินตาม ถ้าหากว่าภาวะผู้นำของเราไม่ดี ใครเขาจะอยากตาม ?

แล้วอีกอย่างหนึ่ง หลักการบริหารก็ง่าย ๆ ครับ 4M ที่อาจารย์สอนพวกผมนั่นแหละ ก็คือถ้าหากว่ามีเรื่องของการบริหาร ก็จะต้องประกอบไปด้วยเรื่องของเงิน เรื่องของคน เรื่องของวัสดุอุปกรณ์ ในเรื่องของวิธีการจัดการ ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม ถ้าหากว่าตัวเราเป็นที่น่าเชื่อถือ ปีแล้วปีเล่าเราก็ทำเพื่อส่วนรวม ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เราพูด สิ่งที่เราทำ จะเกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ คนเขาจะเห็นด้วยและยินดีทำตาม

ท่านอาจารย์จะต้องเห็นว่า ปัจจุบันนี้จริง ๆ แล้วคนเขาอยากทำบุญกันมาก แต่เขาต้องการพระภิกษุสามเณรที่เขาไว้ใจได้ ดังนั้น...เราจะเห็นว่าบางวัดทำไมคนแห่กันไปทำบุญจนบางคนก็มา "ดราม่า" ว่าทำไมไม่ไปทำกับวัดจน ๆ บ้าง ก็เพราะว่าวัดทั้งหลายเหล่านั้น ไม่ได้ทำตนให้เป็นที่ไว้วางใจของญาติโยมเขา

ถ้าหากว่าท่านใช้เวลาหลายปี หรือหลายสิบปี ในการสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยที่ไม่ได้คิดจะเบียดบังเพื่อตัวเองเลย สิ่งที่ท่านเห็นก็คือความเจริญที่เกิดขึ้นกับสถานที่และสังคมรอบข้าง แต่ถ้าหากว่าเราไม่ได้ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ผลงานจะฟ้องเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าเราทำเพื่อสังคมอย่างเต็มที่ ศรัทธาจะมา และมาเรื่อย ๆ ในเมื่อมีศรัทธา มีแรงหนุนแล้ว ก็เหมือนอย่างกับน้ำขึ้น เราจะพาเรือไปไกลขนาดไหนก็ได้ ขอเจริญพร

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2021 เมื่อ 16:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 30-09-2021, 18:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,020 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตัวเองเป็นคนปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง วันพระก็จะสวดมนต์ตอนเช้า เดินจงกรมครึ่งชั่วโมง นั่งสมาธิครึ่งชั่วโมง แต่สังคมสมัยนี้ก็ทำให้ท้อเหมือนที่พระอาจารย์ได้พูดไปเมื่อสักครู่ วันนี้เหมือนกับปลุกผีในตัวขึ้นมา คือท้อมากค่ะ

ในฐานะที่ตัวเองเคยเป็นศึกษานิเทศก์วิถีพุทธและดูแลด้านการศึกษา เห็นพระอาจารย์เป็นตัวอย่างทางด้านการปฏิบัติธรรม เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อยากให้มีการกระจายแบบนี้ ถ้าสถานการณ์โควิด ๑๙ ดีขึ้นแล้ว อยากให้มีพระที่ปฏิบัติแบบนี้ ทุกตำบล ทุกอำเภอ แล้วก็เป็นตัวอย่างกับเด็ก เพราะเด็กคือเยาวชน

ตอนนี้เราจะเห็นว่าเด็กมีความคิดที่แตกแยกและก้าวร้าว คุณครูระดับประถมก็บ่นว่าเด็กไม่ส่งงาน คุณครูระดับมัธยมก็บ่นว่าเด็กไม่มีความรับผิดชอบ แม้แต่คุณครูระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาโท ก็บอกว่าจะสอบวิทยานิพนธ์แล้วนะ ปกติต้องส่งหัวข้อวิทยานิพนธ์ให้ดูก่อน แต่ตอนนี้ไม่มีเลย ความรับผิดชอบไม่มีตั้งแต่เด็ก ไม่มีตั้งแต่วัยรุ่น มาถึงระดับผู้ใหญ่ ถ้าเราไม่ฟื้นฟูตรงนี้ก็จะแย่ โยมในฐานะจิตอาสา รักชาติประเทศ รักบ้านเมือง รักพระพุทธศาสนามาก ๆ ?

ตอบ : เอาอย่างนี้ ให้โยมไปดูตัวอย่างที่โรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิ อาตมภาพทำโครงการใส่ชุดขาวไปโรงเรียนวันพระ แล้วทางด้านผู้อำนวยการก็รับลูก ต่อด้วยว่า "ใส่ชุดขาวไปโรงเรียนวันพระ รักษาศีล ๕ กินมังสวิรัติ"

อาตมาได้ยินตอนแรกก็ตกใจ บอกว่าเด็ก ๆ กำลังโต ให้ไปกินมังสวิรัติจะไหวหรือ ? ผู้อำนวยการท่านบอกว่ามังสวิรัติของท่านไม่ทิ้งไข่กับนม ถ้าอย่างนั้นก็สามารถที่จะทำได้ แล้วตอนนี้ผ่านผู้อำนวยการไปแล้ว ๒ ราย ก็ยังคงรักษารูปแบบนี้อยู่ ก็คือใส่ชุดขาวไปโรงเรียนวันพระ รักษาศีล ๕ แล้วก็กินมังสวิรัติ โดยที่อาตมภาพจะส่งพระ นำเอาหนังสือสวดมนต์ไปมอบให้กับทางโรงเรียนเป็นร้อย ๆ เล่มเลย เมื่อถึงเวลาก็ไปนำสวดมนต์ไหว้พระกัน

ถ้าเราสามารถทำลักษณะอย่างนี้ เราจะทำให้เด็กที่สมาธิสั้นมีสมาธิดีขึ้น มีความรับผิดชอบต่อตัวเองดีขึ้น แล้วก็ต้องให้ในระดับสูง ๆ หน่อยอย่างโยม ช่วยกันทำโครงการพวกนี้ให้มีมากขึ้น ค่อย ๆ กระจายออกไป จาก ๑ โรงเรียน ก็อาจจะเป็น ๓ โรงเรียน ๕ โรงเรียน ถ้าหากว่ากระจายกว้างออกไปได้ แล้วคนอื่นเขาเห็นชอบด้วย ต่อไปเขาจะทำตามเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2021 เมื่อ 16:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 30-09-2021, 18:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,020 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนี้ก็มีโครงการวิถีพุทธ แต่เวลากลับบ้าน โยมไม่สานต่อ พระอาจารย์มีวิธีอย่างไรที่จะทำให้เด็กปฏิบัติโรงเรียนแล้วกลับไปทำต่อที่บ้านด้วย ?

ตอบ : โยมต้องทำใจจ้ะ อาตมภาพเองบวชสามเณรภาคฤดูร้อนทุกปี เณรมาอยู่ที่วัด ๓ วันเท่านั้น เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้เลย เพราะว่าโดนไม้เรียวทุกคน..! แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า พอจบโครงการแล้ว ทางโรงเรียนและทางบ้านไม่ได้สานต่อ

เราก็ใช้วิธีตักน้ำรดหัวตออย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เด็กที่มา ๒๐๐ - ๓๐๐ คน อย่างน้อย ๆ จะต้องมีสัก ๔ คน ๕ คน ที่มีความรู้สึกว่า สิ่งดี ๆ ที่ได้รับจากทางวัดไปนั้นมีประโยชน์ แล้วเขาก็เอาไปทำตาม หลายคนชวนพ่อชวนแม่มาใส่บาตรเป็นประจำทุกวัน

เราอย่าไปหวังมากว่า ทำ ๑๐๐ แล้วจะได้ ๑๐๐ คน ทำ ๑๐๐ ได้สัก ๑ คน ถือว่าดีมากแล้ว ต่อให้ไม่ได้เลย เราก็ได้ลงมือทำแล้ว เราจะรู้ว่าปัญหาอุปสรรคอยู่ตรงไหน และจะได้แก้ไขได้ ดังนั้น...ตรงจุดนี้ขอแนะนำ ถ้าท่านอาจารย์ว่าทำอะไรทั้งหมดแล้ว ก็ต้องเตรียมทำใจเอาไว้ด้วยจ้ะ


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
บรรยายพิเศษ เรื่องบทบาทของพระพุทธศาสนากับการพัฒนาสังคม
วันเสาร์ที่ ๑๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2021 เมื่อ 16:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:34



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว