|
ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน รวมประวัติ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพจากทั่วเมืองไทย |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#781
|
||||
|
||||
คลังหลวง หัวใจของชาติ
"คลังหลวง" เป็นถ้อยคำที่องค์หลวงตาใช้เรียก มีชื่อเป็นทางการว่า "ทุนสำรองเงินตรา" ประกอบด้วยบัญชีทั้ง ๓ บัญชี ได้แก่ ๑. บัญชีทุนสำรองเงินตรา ๒. บัญชีผลประโยชน์ประจำปี ๓. บัญชีสำรองพิเศษ องค์หลวงตาท่านพยายามเน้นย้ำบอกเดือนชาวไทยให้รู้ซึ้งถึงคุณค่าและรู้จักรักหวงแหน "คลังหลวง" ยิ่งชีวิต เมื่อได้ศึกษาย้อนหลังเกี่ยวกับความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ ก็ยิ่งเข้าใจในคำสอนขององค์ท่านมากขึ้น และดูเหมือนองค์ท่านจะเล็งเห็นสายทางความเกี่ยวโยงอันลึกซึ้งกับสถาบันกษัตริย์ ในฐานะทรงเป็นเจ้าของพระราชทรัพย์ในคลังหลวง ทรงริเริ่มก่อตั้ง วางรากฐานและเก็บรักษาสืบต่อกันมายาวนาน รุ่นแล้วรุ่นเล่า จึงไม่มีถ้อยคำใช้เรียก "ทุนสำรองแผ่นดิน" คำใดจะเหมาะสมแม่นยำ บ่งบอกถึงความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ตรงกับคุณค่าและความหมายที่รอบด้านเหมือนกับคำว่า "คลังหลวง" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่องค์หลวงตาใช้เรียกตั้งแต่วันแรกที่ประกาศเป็นผู้นำกอบกู้ชาติ นับเป็นความอัศจรรย์อย่างหนึ่งเลยทีเดียว ช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะศิษย์ได้กราบเรียนถามองค์หลวงตาที่กุฏิ ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ ว่า การที่ท่านก่อตั้งโครงการช่วยชาติ รวบรวม "เงินบริจาคในโครงการช่วยชาติ" เข้าสู่ "คลังหลวง" นั้น มีเจตนารมณ์เพื่อเพิ่มพูนสินทรัพย์ในคลังหลวง และต้องการปกป้องหวงแหนเฉพาะ "เงินบริจาคในโครงการฯ" เท่านั้น หรือต้องการปกปักรักษา "สินทรัพย์ทั้งหมดในคลังหลวง" ด้วย องค์ท่านตอบทันทีว่า "รักษาสมบัติในคลังหลวงทั้งหมด" คณะศิษย์ถามต่อว่า"หากเปรียบคลังหลวงเป็นน้ำในโอ่ง เงินบริจาคของหลวงตาก็คือน้ำมนต์ในขัน ซึ่งหลวงตาต้องการเอาน้ำมนต์ในขัน เทรวมเข้ากับน้ำในโอ่ง เพื่อทำให้น้ำในโอ่งคลังหลวงทั้งหมดเป็นน้ำมนต์ มีความศักดิ์สิทธิ์ตามไปด้วย จะได้ไม่มีใครกล้าแตะต้อง เท่ากับหลวงตาต้องการรักษาโอ่งน้ำคลังหลวงให้อยู่คู่บ้านคู่เมืองตลอดไปใช่หรือไม่ ?" องค์หลวงตาตอบว่า "เข้าใจถูกแล้ว หลวงตาต้องการรักษาคลังหลวง ไม่อยากให้ใครมาแตะต้องเพราะคลังหลวงคือหัวใจของชาติ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2024 เมื่อ 20:04 |
สมาชิก 8 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
กมลโกศลจิต (16-12-2024), ชุณหพงศ์ (17-12-2024), ต้นบุญ (17-12-2024), ปราโมทย์ (16-12-2024), พุทธภูมิ (16-12-2024), มารวย๙ (16-12-2024), ศุภชัยรู้แผน (17-12-2024), สุธรรม (16-12-2024)
|
#782
|
||||
|
||||
ด้วยความเป็นมาที่ผูกโยงไว้กับราชประเพณี ด้วยมูลค่าที่เป็นสมบัติค้ำประกันชาติ และด้วยความมีส่วนรวมที่ชาวไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าของและร่วมบริจาคเข้าโครงการช่วยชาติ คำว่า "คลังหลวง" จึงเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความผูกพันระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชนทั้งแผ่นดิน
และเมื่อมีเงินทองบริจาคใน "โครงการช่วยชาติ" ขององค์หลวงตาเข้าสมทบเพิ่มพูนใน "ทุนสำรองเงินตรา" จากความสำคัญปกติธรรมดา ก็ขยับขยายกลายเป็นความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาในทันที เพราะเงินทองบริจาคขององค์หลวงตามีการกล่าวถวายยกเป็นสมบัติของสงฆ์ และสงฆ์ก็พร้อมใจกันยกเป็นสมบัติของชาติ มีเจตนารมณ์เพื่อการเก็บรักษาไว้ใน ""คลังหลวง" เพื่อหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับสมบัติของบรรพบุรุษปู่ย่าตายาย สมบัติในคลังหลวงขณะนี้จึงกลายเป็นสมบัติที่ถูกหลอมรวมกัน ระหว่างพระราชทรัพย์ของบูรพมหากษัตริย์จากอดีตถึงปัจจุบัน พระสงฆ์ทั่วพุทธอาณาจักร ตลอดจนชาวไทยทั่วทั้งประเทศ โดยทั้ง ๓ สถาบันมีเจตนารมณ์เป็นอันเดียวกันกับเจตนาเดิมของบูรพมหากษัตริย์และบรรพบุรุษที่ท่านวางรากฐานไว้ และพาดำเนินสืบต่อกันมาอย่างเคร่งครัด "คลังหลวง" ในปัจจุบันจึงเป็นสถานที่หลอมรวมทั้งความศักดิ์สิทธิ์ ความสำคัญ และคุณค่าที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะเห็นเป็นเพียงวัตถุ เป็นธนบัตร เป็นทองคำ เป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือเห็นเป็นเพียงการเงินการคลังตามหลักวิชาเศรษฐศาสตร์แบบตะวันตกเท่านั้น ความคิดของคนทางโลกมักจะมอง "คลังหลวง" เพียงแง่เดียวเป็นมูลค่าทางการเงินเท่านั้น ซึ่งย่อมจะยินดีหากมีการเปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนย้ายถ่ายเทคลังหลวง ไปในจุดที่ทำให้กลุ่มของตนหรือหน่วยงานของตนพลอยได้รับประโยชน์ไปด้วย ก็จะพากันจัดสัมมนาหรือเขียนบทความสนับสนุน โดยไม่ทันคาดคิดว่า ความคิด การพูด และการกระทำดังกล่าว เป็นการก้าวล่วงเข้ามาแตะต้องสมบัติของสงฆ์ ที่ใครเข้ามาถือเอาจะด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ย่อมเป็นกรรมหนักที่ได้ก่อไว้ เปรียบเหมือนกับก้าวย่างเข้ามาในวัดวาอาราม แล้วหยิบฉวยเอาสมบัติของสงฆ์ ก็ต้องเป็นหนี้สงฆ์ เป็นกรรมอีกนานแสนนาน รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเรื่องคลังหลวง จึงควรตระหนักถึงบทบาทของคลังหลวงในอีกแง่หนึ่ง นอกเหนือจากความหมายในเชิงวัตถุว่า คลังหลวงนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์เพียงใด ในเรื่องนี้องค์หลวงเมตตากล่าวแสดงธรรมตักเตือนไว้อย่างน่าสะพรึงกลัว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2024 เมื่อ 20:07 |
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
กมลโกศลจิต (16-12-2024), ชุณหพงศ์ (17-12-2024), ต้นบุญ (17-12-2024), ปราโมทย์ (16-12-2024), พรรวินท์ (09-01-2025), พุทธภูมิ (16-12-2024), มารวย๙ (16-12-2024), ศุภชัยรู้แผน (17-12-2024), สัญญะจิตโต (17-12-2024), สุธรรม (16-12-2024)
|
#783
|
||||
|
||||
คลังหลวงคือเงินสงฆ์ ใครแตะ..ตกนรกไม่มีวันขึ้น..!
"บาปกรรมอะไรไม่เกินการทำลายต่อชาติซึ่งเป็นส่วนรวมนะ สมบัติมากน้อยนี้ อย่างพี่น้องทั้งหลายนำมาบริจาคเพื่อชาติไทยนี้ เป็นมหากุศล ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ เราให้ทานธรรมดาเป็นอย่างหนึ่ง เราให้ทานเพื่อชาติไทยของเราซึ่งเป็นเรื่องใหญ่หลวงนี้ บุญกุศลนั้นเป็นมหากุศลของเรา ทีนี้เวลาใครมาแตะต้องทำลายสมบัติซึ่งเป็นสมบัติของชาตินี้ เป็นโทษมหันตโทษเลยทีเดียวตกนรกหมกไหม้ไม่มีวันขึ้นเลย กี่กัปกี่กัลป์อยู่นั่น..! เงินนี้เป็นเงินพระนะ ไม่ได้เหมือนเงินธรรมดาของคนทั่ว ๆ ไป นี่รวมเข้ามา มาให้เราแล้ว กลายเป็นเงินพระแล้ว เป็นเงินสงฆ์ด้วย ไม่ใช่เงินพระธรรมดา เป็นเงินสงฆ์ พระพุทธเจ้าเป็นเจ้าของสมบัตินี้ด้วย เพราะฉะนั้น..ใครจึงมาทำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ตกนรกไม่มีวันขึ้นเลย..! เรื่องนี้กรรมหนักนะ เพราะมหากุศลของชาตินี้นะ จะทำเล่น ๆ ได้หรือ ? จมอย่างไม่มีวันฟื้นเลย หมดทางเลย..ว่าอย่างนั้นเถอะน่า ถ้าใครมาแตะมายุ่งกับเงินเหล่านี้ เพราะมันเป็นบาปหนัก กรรมหนักจริง ๆ ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ได้เหมือนเงินทั่ว ๆ ไป สงฆ์ยกให้เพื่อชาติ นั่นมีแต่เรื่องใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ฉะนั้น..จึงได้เตือนไว้ให้ทราบทุกคน จะทำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2024 เมื่อ 02:39 |
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
กมลโกศลจิต (17-12-2024), ชุณหพงศ์ (18-12-2024), ต้นบุญ (18-12-2024), นะมะพะทะ (28-12-2024), ปราโมทย์ (18-12-2024), พรรวินท์ (09-01-2025), พุทธภูมิ (17-12-2024), มารวย๙ (18-12-2024), สัญญะจิตโต (18-12-2024), สุธรรม (18-12-2024)
|
#784
|
||||
|
||||
ขอบิณฑบาต..ยุติกฎหมายมหาภัยต่อคลังหลวง
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ รัฐบาลเตรียมเสนอร่าง "กฎหมายรวมบัญชี" ๒ ฉบับในชื่อ "ร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. ..." และ "ร่างพระราชบัญญัติเงินตรา (ฉบับที่...) พ.ศ. ..." ร่างกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ มีเนื้อหาเป็นการทำลายหลักการและเจตนารมณ์เดิมของ "คลังหลวง" โดยสิ้นเชิง เนื่องจากในอดีตบูรพมหากษัตริย์ไทยทรงก่อตั้ง "คลังหลวง" เพื่อรักษาทรัพย์กองนี้ไว้อย่างมั่นคงปลอดภัย เป็นหลักประกันชาติ มิได้หวังเอาทรัพย์กองนี้ไปลงทุนหวังเก็งกำไรแต่อย่างใด สอดคล้องกับเจตนารมณ์ขององค์หลวงตาและพี่น้องประชาชน ที่ต้องการนำ "เงินบริจาค" เข้าสู่จุดที่มั่นคงปลอดภัยสูงสุด คือ"คลังหลวง" แห่งนี้ เพื่อเพิ่มพูนให้แน่นหนามั่นคงยิ่ง ๆ ขึ้นไป ในขณะที่รัฐบาลกลับทำตรงกันข้าม โดยเสนอ "ร่างกฎหมายรวมบัญชี" เพื่อยุบคลังหลวงทิ้งไป โดยรวบเอาทรัพย์สินทั้งหมดของคลังหลวงที่เก็บใน "ฝ่ายออกบัตร" ยึดเอามาเป็น "ฝ่ายการธนาคาร" เสียทั้งหมด นั่นคือ การให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างเต็มที่ ในการบริหารจัดการสินทรัพย์ในคลังหลวง เป็นการทลายกำแพงให้ธนาคารแห่งประเทศไทย สามารถหยิบฉวยเอา "เงินเก็บ" หรือ "เงินมั่นคง" ในคลังหลวงไปใช้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงสูง ถึงขั้นอาจพาชาติล่มจมได้ในที่สุด เมื่อรัฐบาลได้เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ องค์หลวงตาท่านขอบิณฑบาตรัฐบาล "อย่าแตะคลังหลวง" ในทันทีอย่างน้อย ๓ ครั้ง ขอให้ยกเลิกไป ครั้งแรกคือ ๑๕ มีนาคม ๒๕๔๓ ครั้งที่สอง ๓๑ มีนาคม และครั้งที่สาม ๒ พฤษภาคม ปีเดียวกัน โดยท่านได้กล่าวไว้ว่า
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2024 เมื่อ 01:22 |
#785
|
||||
|
||||
"คลังหลวงของเราก็คือหัวใจของชาติไทยเรา รักษากันมานมนาน ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ปู่ย่าตายายแห่งประเทศไทยของเรา รักษาสมบัติกองนี้ไว้มาตลอด ไม่เคยมีใครมาแตะต้อง แม้รัฐบาลมากี่ชุดก็ไม่เคยมีรัฐบาลใดมาแตะต้องเงินจำนวนนี้
เพราะฉะนั้น..เมื่อได้ทราบว่าจะเอาเงินเหล่านี้มารวมกัน ๓ กองนับจำนวนหนึ่งกองนี้ด้วยเข้าไปนั้น เราจึงไม่เห็นด้วยตามหลักของธรรม แล้วไม่ใช่ด้วยเป็นทิฏฐิมานะของเรา ถึงขนาดที่ว่าเราขอบิณฑบาต ขออย่าได้มาแตะต้องเงินจำนวนนี้เลย ซึ่งเท่ากับการเข้ามาทำลายชาติของเราทั้งชาติทีเดียว" อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลมีความจำเป็นเกี่ยวกับภาระหนี้สินของชาติ ก็อาจยังพอมีหนทางแก้ไขได้ โดยไม่กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของคลังหลวง ซึ่งเป็นสมบัติปราการด่านสุดท้ายของชาติ แม้องค์หลวงตาจะขอร้องถึงเพียงนี้แล้วก็ตาม รัฐบาลยังคงเมินเฉยและไม่มีท่าทีจะยุติ ยังเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อทางสื่อ หนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนเห็นคล้อยตาม โดยให้ข้อมูลเพียงบางส่วน หรือบางครั้งถึงกับบิดเบือนความจริง ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยเข้าใจเจตนารมณ์ของ "โครงการช่วยชาติ" ผิดไป และเริ่มตำหนิติเตียน จนในที่สุดองค์หลวงตาจำเป็นต้องแสดงพระธรรมเทศนาอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ยุติการออกกฎหมาย ดังต่อไปนี้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2024 เมื่อ 01:24 |
#786
|
||||
|
||||
รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชน..อย่าแตะคลังหลวง
"รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนตั้งขึ้นมา ต้องฟังเสียงประชาชน จะเอาอำนาจบาทหลวงขึ้นมาว่า เราเป็นรัฐบาล เป็นเจ้าอำนาจบาทหลวง เหยียบย่ำทำลายชาติบ้านเมืองหรือพ่อแม่ของรัฐบาล ได้แก่ประชาชนนี้ไม่ได้..ผิดทั้งนั้นแหละ อำนาจอันใดก็ตาม ต้องให้มีประชาชนเป็นผู้ควบคุมอำนาจนั้นไว้ ไม่ใช่กฎหมายของคนสองสามคนเข้ามาตั้งเป็นเจ้าอำนาจวาสนาใหญ่โต มาเหยียบย่ำทำลายชาติไทยของเรา ก็เรียกว่ารัฐบาลมหาภัยเท่านั้นเอง ไม่ใช่รัฐบาลที่ดีสมความมุ่งหมายของประชาชนที่ตั้งขึ้นมา แล้วกฎหมายใดที่มาทำชาติไทยของเราให้เสียหายไปอย่างนี้ เรียกว่ากฎหมายมหาภัยต่อชาติ จึงไม่ควรเอาเข้ามาทำลาย นี่ละ..หลักของธรรมพูดอย่างนี้ เราจะนำสมบัติเหล่านี้เข้าสู่คลังหลวง คลังหลวงคือจุดนี้เอง จุดที่ปลอดภัย ไม่ให้ใครแตะต้องตลอดมา ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ปู่ย่าตายายของชาติไทยเรา รักษาสมบัตินี้โดยมีกฎหมายเข้มงวดกวดขัน รักษามาตลอด จึงไม่ให้ใครเข้ามาแตะต้อง กฎหมายก็ต้องอยู่ใต้อำนาจของคนทั้งชาติ ไม่ได้เหนืออำนาจนะ ตั้งขึ้นมาเพื่อรักษาประชาชน สมบัติเงินทองข้าวของ ไม่ใช่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำลายชาติบ้านเมือง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2024 เมื่อ 01:20 |
#787
|
||||
|
||||
คลังหลวงเก็บไว้เพื่ออะไร
"คลังหลวงคือคลังสมบัติเดิมของบรรพบุรุษของเรา ที่รักษาไว้เป็นมรดกของชาติ เป็นหัวใจของชาติ เป็นหลักเป็นเกณฑ์ เป็นแก่นเป็นสารของชาติ คือคลังหลวง อันนี้บรรพบุรุษของเราได้รักษามานมนาน มีกฎหมายบ้านเมืองรักษามาด้วยตลอดเวลา ก็ไม่ปรากฎว่ามีใครมาแตะต้องทำลาย สมบัติเหล่านี้มีเก็บไว้เพื่ออะไร ? ก็บรรพบุรุษท่านมีความเฉลียวฉลาด รอบคอบในบ้านในเมืองที่ท่านปกครอง สมบัติเหล่านี้ท่านจึงเก็บไว้เพื่อความจำเป็น เวลามีความจำเป็นจริง ๆ เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤตการณ์หาทางไหนไม่ได้แล้ว ท่านจึงจะนำสมบัติเหล่านี้ไปแก้เหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อเอาตัวเราเป็นพักเป็นตอนไปจากสมบัติเหล่านี้ เพราะฉะนั้น..สมบัติเหล่านี้เมื่อยังไม่ถึงขั้นวิกฤตการณ์ขนาดนั้น จึงต้องเก็บไว้ตลอดมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ เวลานี้ก็ได้ทราบจากทางราชการว่า จะนำสมบัตินี้ออกไปเพื่อความเจริญ ฟื้นฟูชาติไทยของเรา..ว่างั้น แล้วสมบัติเหล่านี้ได้เคยเก็บไว้มาดั้งเดิมอยู่แล้ว เป็นของแน่นหนามั่นคงมาก เพราะหัวใจประชาชนทั้งประเทศอยู่ในสมบัติกองนี้ทั้งนั้น ชีวิตจิตใจศักดิ์ศรีดีงามหรือเครดิตอะไรอยู่ในนี้ทั้งหมด ในสมบัติกองนี้ ซึ่งไม่เคยแตะต้องเลย ก็รู้สึกว่าเป็นศิริมงคลแก่ชาติไทยของเราตลอดมา สมบัติกองนี้ที่เก็บไว้ไม่ใช้จ่ายในเวลาที่ยังไม่จำเป็นอย่างนี้ ก็ไม่เคยปรากฏว่าก่อความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้ใด ก็เป็นศิริมงคลและเป็นที่ภาคภูมิใจของชาติไทยเราตลอดมา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2024 เมื่อ 03:14 |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#788
|
||||
|
||||
ถ้าเอาคลังหลวงไปใช้ประโยชน์ จะฟื้นฟูชาติได้จริงหรือ ?
"ทราบชัดเจนมาโดยลำดับว่า ทางรัฐบาลจะตั้งกฎหมาย จะเข้ามาเอาสมบัติเหล่านี้ แต่ก่อนมีสมบัติอยู่สามกอง..ว่างั้นนะ เท่าที่ทราบ กองนี้เป็นกองใหญ่ที่ไม่มีใครแตะต้องในคนทั้งชาติ รักษาอย่างเดียวกันหมด ไม่มีอะไรมาแตะต้อง ก็ทราบว่าจะเอาสมบัติทั้งสามกองนี้มารวมกัน สมบัติมารวมกันก็เท่ากับว่า โกยเอาสมบัติในชาติไทย หัวใจของชาติไทยทั้งชาตินี้ ออกไปละเลงในน้ำทะเลไปหมด ที่พูดว่าจะไปฟื้นฟู คำว่าฟื้นฟูกับความจะเอาไปล่มจม..ว่างั้นเถอะ เป็นเสียงเดียวกัน ในหลักธรรมชาติตามอรรถตามธรรมนะ ไอ้เรื่องคำพูดของคนว่าจะไปฟื้นฟูอย่างนั้นอย่างนี้พูดได้ทั้งนั้น คนเรามีลิ้นมีปากพูดให้หวานขนาดไหนก็ได้ แต่ความขมมันติดกัน แทรกกันอยู่กับความหวาน จะเอาไปฟื้นฟูหรือจะเอาคนทั้งชาตินี้ไปล่มจมในทะเลหลวง มันก็อดถามกันไม่ได้นะ เพราะสมบัติทั้งชาตินี้พากันรักษาอยู่ ก็ไม่เห็นพาชาติไทยของเราให้ล่มจมด้วยการเก็บรักษาสมบัตินี้ไว้ เมื่อความขัดแย้งเข้ามา เห็นว่าเก็บไว้อย่างนี้ไม่เกิดประโยชน์ เอาไปฟื้นฟูชาติไทยของเราเพื่อเกิดประโยชน์ มันก็เกิดปัญหาสวนทางกันเข้ามาว่า สมบัติเหล่านี้ให้ความร่มเย็นแก่ชาติไทยของเรามาเต็มสัดเต็มส่วนแล้ว ไม่เป็นประโยชน์อย่างใด ? มันมองไม่เห็น มีแต่ประโยชน์เต็มตัว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2025 เมื่อ 09:34 |
สมาชิก 9 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
กมลโกศลจิต (03-01-2025), ชุณหพงศ์ (03-01-2025), ต้นบุญ (04-01-2025), ปราโมทย์ (03-01-2025), พุทธภูมิ (03-01-2025), มารวย๙ (03-01-2025), ศุภชัยรู้แผน (03-01-2025), สุธรรม (03-01-2025), หนุ่มก่อสร้าง (03-01-2025)
|
#789
|
||||
|
||||
ถูกต้องหรือไม่ถ้าจะเอาคลังหลวงทั้งกองไปใช้หนี้ ?
"ชาติไทยของเราภาคภูมิใจด้วยสมบัติกองนี้ทั้งนั้น ไม่ได้ภาคภูมิใจกับสมบัติกองใด แล้วจะนำสมบัติเหล่านี้ไปฟื้นฟูบ้านเมือง จะไปฟื้นฟูแบบไหน ? ที่มันเสื่อม มันเสื่อมเพราะใครเป็นคนทำ ? สมบัติกองนี้ไม่ได้ไปทำอะไรให้ล่มจมไป พอจะนำสมบัติเหล่านี้ไปฟื้นฟู ถ้าสมบัติเหล่านี้มีคดีติดตัวทำให้บ้านเมืองล่มจม จะมาเอาสมบัติกองนี้ไปฟื้นฟูก็มีเหตุผลอยู่ แต่นี่สมบัติกองนี้ไม่เคยทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใด ชาวไทยทั้งชาติมีความสงบร่มเย็น อบอุ่นอยู่ด้วยสมบัติกองนี้ทั้งชาติ ทีนี้เวลาเอาสมบัติเหล่านี้ออกไปแล้ว ก็เท่ากับโกยเอาหัวใจของคนไทยทั้งชาตินี้ ออกไปฟื้นฟูลงในทะเล นี่ละคำว่าฟื้นฟู นี่เอาไปฟื้นฟูลงในทะเล ให้ไปเจริญอยู่น้ำทะเลหรือพุงหลวงของใครคณะใด พี่น้องชาวไทยเราทราบไม่ได้ เมื่อหลุดจากคลังหลวงนี้ไปแล้ว มันจะเป็นทุกแบบทุกฉบับ ถ้ามันไม่ตั้งเค้ามาตั้งแต่ต้นว่าเพื่อจะเป็นอย่างนั้นแล้ว ไม่ควรที่จะเข้ามาทะลึ่งกับสมบัติกองนี้..! สมบัติกองนี้ไม่ไปหากว้านยืมเขามาเพื่อติดหนี้ติดสิน พอจะนำสมบัติกองนี้ไปใช้หนี้เขา เป็นเรื่องของสิ่งภายนอกเท่านั้นก่อขึ้นมา ไปกู้ยืมเขามากี่หมื่นกี่แสนกี่พันล้าน กี่ล้าน ๆ ๆ ก็ไม่ใช่สมบัติกองนี้ไปกู้ยืมมา เช่น คณะรัฐบาล เป็นต้น เป็นผู้ไปกู้ยืมมา กู้ยืมมามากน้อย คณะรัฐบาลไปกู้ยืมเขามานั้น ก็ต้องไปกู้ยืมด้วยความมีปัญญา ถ้ามีปัญญากู้ยืมเขามาได้ ทำไมจะไม่มีปัญญาหาเงินไปใช้หนี้เขา ? จำเป็นอะไรจะต้องมากอบโกยเอาตับเอาปอดของคนทั้งชาติจากสมบัติกองใหญ่นี้ไปฟื้นฟู ? ก็แสดงว่าเป็นมหาภัยต่อชาติไทยของเราอย่างยิ่ง..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-01-2025 เมื่อ 03:20 |
สมาชิก 9 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
กมลโกศลจิต (04-01-2025), ชุณหพงศ์ (04-01-2025), ต้นบุญ (04-01-2025), ต้นสน (04-01-2025), ปราโมทย์ (04-01-2025), พุทธภูมิ (03-01-2025), มารวย๙ (04-01-2025), สัญญะจิตโต (08-01-2025), สุธรรม (04-01-2025)
|
#790
|
||||
|
||||
ออกกฎหมายบีบบังคับ เอาคลังหลวงแล้วชาติจม..!
"คลังหลวงนี้เป็นความแน่นหนามั่นคงแก่ชาติไทยของเรา ทั้งเป็นหลักประกันใหญ่แห่งชาติไทยของเราที่จะติดต่อซื้อขาย การทำหน้าที่การงานระหว่างประเทศต่อกัน เช่น เขามาลงทุนลงรอนหรือกู้ยืมอะไร อันนี้ก็เป็นเครื่องยืนยันรับรองโดยหลักธรรมชาติแล้ว กฎหมายข้อนี้ที่จะมาลุกลามหรือมาโกยเอาสมบัติของชาติไทยเรานี้ เรียกว่ากฎหมายมหาภัย ชาติไทยจะรับไม่ได้ ตามความรู้สึกในแง่แห่งธรรมแล้วเป็นอย่างนั้น จะมีความเจริญที่ตรงไหน ที่ว่ากฎหมายข้อนี้ที่จะมานี้ คือมาบีบบังคับเอาเงินก้อนนี้นั่นเอง ถ้าไม่ใช่มหาภัยจะมาบีบทำไม ? เงินกองนี้ไม่ได้เป็นมหาภัย สิ่งที่จะมาทำลายเงินกองนี้ต่างหากเป็นมหาภัย จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องกำจัด จากพี่น้องชาวไทยทุกคนที่รักชาติหรือรักสมบัติกองนี้ จะต้องต่างคนต่างป้องกันไว้เต็มเหนี่ยว ไม่อย่างนั้นชาติไทยจมไม่มีอะไรเหลือเลยแหละ กฎหมายมหาภัยนี้จะมาเผาแหลกหมดเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-01-2025 เมื่อ 00:55 |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|