กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องบูรพาจารย์ > ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน

Notices

ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน รวมประวัติ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพจากทั่วเมืองไทย

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-08-2009, 09:46
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default เสียงจากถ้ำฉบับที่ ๑๗ เดือนตุลาคม ๒๕๔๙

กระแสพระนิพพาน

(พระครูภาวนาพิลาศ)


ที่จริงอารมณ์กรรมฐานมีอารมณ์เดียวคือ ต้องเข้ากระแสพระนิพพานให้ได้ "กระแส" นี่หมายความว่า สายไฟแดง ๆ นี่กระแสไฟฟ้ามันยาว... ไม่ต้องไปจับปลายกระแส จับต้นมันก็ช็อตตายแล้ว! หรือว่ามันก็สว่างแล้ว...ให้จับกระแสนิพพานให้ได้

"กระแสนิพพาน" ก็คือรู้ว่าร่างกาย "ตาย!" ไม่มีทางหลีกเลี่ยงไปได้ ถ้าใจยังอ่อนก็บอกว่า อีกไม่เกิน ๑๐๐ ปีเราก็ตายแล้ว! อย่างน้อยก็ต้องคิดให้ได้ให้ใจบอก...ใช่ ให้ใจมันยอมรับด้วยปัญญาเขาเรียก "ประจักษ์ใจ" "ไม่เกิน ๑๐๐ ปีก็ตายแล้ว.. ใครจะอยู่ก็อยู่.. พอตายแล้วเราก็ไม่เกี่ยวกับใครแล้ว..." คิดเบา ๆ ให้ใจมันค่อย ๆ ยอมรับไปก่อน

"ตายแล้วเราก็ไม่ต้องใช้หนี้ใคร ไม่ต้องซ่อมบ้านซ่อมช่อง" ก็ว่าไปตามทุกข์ปัจจุบัน ให้ใจมันคิด อือ...ดีเหมือนกัน "ตายแล้วก็ไม่ต้องกินข้าว...อาหารแพงหรือถูกอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับคนตาย" ค่อย ๆ ล่อมันก่อน.. ไปหักหาญทีเดียวมันไม่ยอมคิด !

"ติ๋งต่างว่า ไอ้ ๑๐๐ ปีมันมาถึงพรุ่งนี้นี่นะ แล้วเราก็ทำความดีจนเป็นพระอรหันต์แล้ว" สมมติอย่างนี้นี่นะ...ล่อมัน "ภาระต่าง ๆ ก็หมดแล้ว" ล่อให้ใจมันสบายก่อนนะ "กิเลสก็ไม่เหลือแล้ว โลกก็ไม่ได้อยากอยู่อะไร พระนิพพานก็ใสแจ๋วอยู่ข้างบนนี่ ถ้าภาวะความตายอย่างนั้นมาถึงวันพรุ่งนี้น่าจะดี... จะได้หมดเรื่องเสียที" ขยับเข้ามาเหลือวันเดียวแล้ว ให้ใจมันสบาย หลอกมันบ้างสิ กิเลสน่ะ! มันหลอกเรามานานแล้วนะ...หลอกมันบ้าง!

(มีต่อค่ะ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 28-08-2009 เมื่อ 19:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 98 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-08-2009, 10:07
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

พอใจสบายก็บอก..."ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็เป็นวันสุดท้าย เป็นวันสุดท้ายในวัฏสงสารของเรา จะเอาอะไรกับมันนักหนา ! ร่างกาย อีกวันเดียวนี่.. กินข้าวกินน้ำ ห่มเสื้อผ้าอะไรนี่ ก็สักแต่ว่าก่อนตาย.. เดี๋ยวพอตายเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรา เผาไฟ...ศพก็ไม่มีอะไรเหลือ"

"เพราะฉะนั้น.. อาหารก็ดี เสื้อผ้าก็ดี ยารักษาโรค กินไม่กิน พรุ่งนี้ก็ตาย... ก็เอาที่มันมีนี่แหละไม่ต้องแพงอะไรนักหนา ที่อยู่อาศัย จะทาสีก็ไม่ต้องทาแล้ววันนี้ เดี๋ยวก็ตายแล้ว !

ถ้าตายแล้วทุกข์ต่าง ๆ ก็ไม่มีในมัน นี่มันเรื่องก่อนตาย แล้วต้องทิ้งไว้ในโลกทั้งนั้นเลย กับภาระทุกข์ของร่างกายที่กำลังจะลาตายกำลังจะทิ้งไว้ในโลก ทำไมต้องไปผิดศีลแทนมัน เพราะมัน ให้มะรืนนี้เราต้องตกนรกแทนมันด้วย มะเรื่องนี้เขาก็เผามันเป็นขี้เถ้าไป มันไม่ตกนรกกับเรานี่ มะเรื่องหรือมะรืนนี้ เราไปตกนรกแทนมัน ถ้าเราไปผิดศีลแทนมัน เรื่องอะไรกูจะไปโง่กับมึงอย่างนี้ !

เพราะฉะนั้นวันนี้ทั้งวันจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เราก็รักท่าน ท่านก็เมตตาเราอยู่แล้ว นึกเมื่อไรก็นึกได้ว่าเป็นที่พึ่งไม่สงสัยอยู่แล้ว ถ้าหากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ท่านอยู่ที่ไหน ที่เรียกว่า "พระนิพพาน" ชื่อเป็นภาษามนุษย์ เราก็จะอยู่ตรงท่านอยู่ อยู่แบบนั้นแหละ! มีวิมานก็มีกัน.. ไม่มีก็ไม่มีเหมือนกัน.. สูญก็สูญเหมือนกัน.. ไม่สูญก็ไม่สูญเหมือนกัน.

(มีต่อ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 28-08-2009 เมื่อ 16:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 91 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-08-2009, 17:51
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

เอาเป็นว่า นิพพานัง ปรมัง สุขขัง ที่ท่านบอก “นิพพานเป็นสุขจริงหนอ” เราจะอยู่ใน “ปรมัง สุขขัง” ตรงนั้นแหละ... นิพพานก็เข้าถึงด้วยใจแล้ว พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็เคารพ ศีลก็บริสุทธิ์ ร่างกายก็เบื่อแล้ว เอ้า ! ก็ทำงานไปด้วยอารมณ์อย่างนี้ นี่คือกระแสพระนิพพาน ภาษาที่แยกขั้นตอน เขาเรียก “กระแสพระโสดาบัน” .. อารมณ์พระโสดาบัน เขาเอากันแค่นี้

ถ้าไปเรียก 'พระโสดาบัน' "หู!...พระโสดาบันเกิดอีกตั้ง ๗ ชาติ" อาจจะฟุ้งอีก ถ้าคนเข้ากระแสพระนิพพานไม่ตัดอยู่แล้วใช่ไหม? บางคนก็จับไฟยาวตั้งกิโล ไฟแสนโวลต์นี่ ไปจับกระแสตอนปลายก็ตาย ตอนต้นก็ตายใช่ไหม? เปิดไฟดวงสุดท้ายก็สว่าง ดวงแรกก็สว่างเหมือนกัน ก็เปิดมันตรงกระแสไฟนี่แหละ! เหมาะกับเราเท่าไร... เราก็เปิดมันตรงนั้นแหละ !

ตอนแรกต้องหลอกมันก่อนเพื่อว่า จิตมันจะได้ยอมจับกระแสพระนิพพานง่าย ๆ ถ้าบอกว่า"วันนี้ตายแน่ไม่เหลืออะไร" โห...มันตกใจ "เมียก็สวยผัวก็หล่อ เงินก็ยังมี ลูกก็ยังเรียนไม่จบ ตายได้อย่างไรกัน!!?" มันค้านเลยใช่ไหมลูก ต้องเอา ๑๐๐ ปีล่อมันก่อน จนใจมันยอมรับเหตุผลอย่างนี้ ค่อย ๆ เลื่อนขึ้น จาก ๑๐๐ ปีมันก็เหลือ... อีกหน่อยมันก็ลด

ติ๋งต่างว่ามันมาพรุ่งนี้แล้ว เราพร้อมไหม? "เอ้า! พร้อมสิ ใจก็ไม่เอา ร่างกายยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ศีลก็บริสุทธิ์ ร่างกายก็ไม่เห็นประโยชน์ ..จะอยู่ทำไม !! อยู่ทำไมอีก? ถ้ามีโอกาสได้พัก.. ก็พัก แล้วไปอยู่กับพระพุทธเจ้าแล้ว"

(มีต่อค่ะ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 28-08-2009 เมื่อ 17:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 93 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-09-2009, 09:03
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

ถ้ามีหน้าที่สั่งสอนใคร ก็รีโมทสั่งสอนลงมา (ไม่ใช่เข้าทรง) เอาจิตเพ่งเข้ามา ถ้ามันหงายหน้าจานดาวเทียมรับเราก็ใส่แสงลงไปได้ ถ้าเอาตูดรับ .. ก็ช่างมึงปะไรเล่า! แหม! .. อุตส่าห์ติดจานยูบีซีให้แล้วนะ ติดระบบกรรมฐานให้แล้วนะ สอนให้เสียดีเชียวนะ เวลาเอ็งคิดถึงข้าเอ็งก็ ... เออ จานก็หงายหน้าตรง เปิดตรงนี้ลูก เปิดแล้วก็เลื่อนช่อง ๑ ๒ ๓ บอกอยู่แล้วนะ..ก็มันไม่เปิด ก็ช่างมันปะไรเล่า กูก็รออยู่แล้ว ! หมายความว่า ตอนฝึกเราฝึกให้เข้าถึงความเป็นทิพย์ เวลาจะนึกถึงใครก็นึกถึง...นั่นแหละ ถ้าช่อง ๓ ก็เลข ๓ ช่อง ๗ ก็เลข ๗ ยูบีซี ช่องซีเอ็นเอ็น บีบีซีก็กดถูก รู้อยู่แล้วฝึกอยู่แล้ว เวลาเราไปแล้ว มึงอยากดูอะไรก็กดเอาเอง ทำไมต้อง...

“พ่อจ๋า...ขออนุญาตกดหน่อย”
“นี่ ! ออกไป ๆ .. เดี๋ยวก็ด้ามขวาน” ไม่เป็นผู้ใหญ่เสียที

ครูบาอาจารย์ที่สอนแล้วท่านจะละไปท่านต้องมั่นใจ มั่นใจกับตัวเองว่า ‘พอแล้ว’ แต่ไม่ได้มั่นใจว่า มันจะเชื่อหรือไม่ตามนั้น “แล้วแต่เจ้าเถิด..ได้บอกวิธีไว้หมดแล้ว” นั่นแหละลูกหมายความว่า อารมณ์ที่เอากลับไปทำที่บ้านก็ดี ทำตรงนี้ก็ดี ทำที่ทำงานก็ดี ตลอดกาลตลอดสมัยนี่ ต้องเอาจิตจับกระแสพระนิพพานให้ได้ ถ้าไม่ขึ้นทางพระนิพพาน มันคายไม่ยอมกลืนมันมีทางหลายทางนะลูก ใช่ไหมลูก?

(มีต่อ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 07-09-2009 เมื่อ 08:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-09-2009, 09:30
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

“ไปเป็นพระเจ้าจักรพรรดิอีก ๑๐๐ ชาติเถอะวะ” แล้วตกเวียนลงนรกไป “เป็นพรหมดีกว่ายังไม่อยากเข้านิพพาน” ขึ้นไปเป็นเมฆ แล้วก็ลงจากเมฆ “เป็นมนุษย์พระเจ้าแผ่นดินเถอะ” เอา...แล้วลงไปอีก ก็เวียนลงอย่างนั้นแหละ “แล้วกูจะตั้งอย่างไรดีวะนี่?” ก็ผลสุดท้ายชาติสุดท้ายที่จะไปพระนิพพาน มันก็ต้องมาขึ้นทางนี้ หลังจากเบื่อแล้วเข็ดเขี้ยวขี้อ่อนขี้แก่แล้ว มันก็ต้องมาขึ้นตรงนี้ พอขึ้นตรงนี้ปั๊บ! มันก็เป็นทางใหม่เอง ไม่มีทางหลุดออกไปจากนี้ได้ เขาเรียก ‘กระแสพระนิพพาน’

ก็ไหน ๆ อีกล้านชาติก็ต้องเบื่อแล้วต้องขึ้นมา ก็ขึ้นมาเสียวันนี้ไม่ดีหรือ?.. ลองดูสิว่าพระอริยะเขาอยู่กับผัวกับเมียเขาอยู่กันอย่างไร? อยู่กับทรัพย์สมบัติจะทำอย่างไร?

พระโสดาบันกระแสพระนิพพานขั้นต้นนี่...แบ่งเป็น ๓ ขั้น นี่ขั้นแรกนี่ ! ยังอยู่กับสามีภรรยายังมีลูกต่อกันได้อีก แต่ไม่ตกนรกแต่ว่าตายจากชาตินี้ปั๊บ ! เกิดไปเป็นพรหมเทวดาก็ร่วงลงบนทางนี้อีก มีผัวมีเมียฟังธรรมต่อ แต่ต้องเกิดมาเฉพาะเวลาเจอพระพุทธพระธรรม พระสงฆ์นะ เขาถึงจะเกิดนะ...ถ้าไม่อย่างนั้นเป็นเทวดา ถ้าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์มี ถ้าใจมันบาง..ไม่อยากจะเสพกามแล้ว มันไม่อยากกินข้าวกินน้ำแล้วนะ ก็กูจะลงมากินทำไมอีกตั้ง ๑๐๐ ปีมนุษย์นะ ! ก็เอากายทิพย์ลงมายืน ณ ที่ควร ส่วนข้างหนึ่งฟังธรรมที่ท่านเทศน์ให้มนุษย์ฟังว่า ทุกข์อย่างนี้ ๆ ท่านก็ลงมาฟัง ท่านก็เป็นอรหันต์โดยไม่ต้อง มีหูตาลิ้นจมูก เขาเรียกเทวดาอริยะ พรหมอริยะที่ลงมาฟังธรรม

ในพระสูตรที่บอกว่าเทวดาและพรหมลงมายืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งมากมาย.. มนุษย์บรรลุอรหัตผล ๑๗ องค์ อนาคามีผล ๕๐ องค์ สกิทาคามีผล ๑๘ โสดาปัตติผล ๒๐ เข้าสรณาคมน์ ๒๐๐ เทวดาพรหมได้มรรคผลในชั้นต่าง ๆ มากกว่ามนุษย์ ไม่ต้องประมาณ เพราะท่านไม่เอาร่างกายอยู่แล้ว

(มีต่อ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 07-09-2009 เมื่อ 08:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 91 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 08-09-2009, 11:02
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

ฟังยังไม่อิ่มก็นั่นแหละสลับลงมา ๗ ชาติ พอชาติที่ ๗ ลงมา ฟังธรรมครั้งเดียวก็เป็นพระอรหันต์เลย มันครึ่งทางแล้วนี่มันไม่ลงแล้ว จะมีผัวมีเมียก็มีบนทางสะอาด บางทีก็ได้คู่ที่ให้เห็นทุกข์หนัก ๆ แต่รับรองที่สร้างทุกข์ให้พระอริยะขนาดพระโสดาบันมันอายุไม่ยืนสักคน ! สามีของท่านแม่ทั้งหลายก็เป็นโจรเป็นพรานล่าเนื้ออย่างนี้ ปุบปับตกเขาตายหรืองูกัดตายอย่างนี้ จะมาอยู่ทรมานพระอริยะระดับนั้นจนแก่จนเฒ่า ท่านจะเอาอารมณ์ที่ไหนมาทำกรรมฐานเล่า !

มาให้ลูกท่านสัก ๒ คน ให้รู้ว่ารักลูกเป็นห่วงลูกมันจับใจอย่างนี้ พอลูกตายมันเสียใจอย่างนี้ ผัวตายเสียใจอย่างนี้ ก็ร้องไห้เสียสติ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า.. "ที่เธอเสียใจเพราะลูกตายผัวตาย เธอร้องไห้ชาตินี้น้ำตาหยดลงมาไม่ถึงครึ่งฝ่ามือ น้ำตาที่เคยเสียลูกเสียผัวมานั้น มากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ย้อนหลังรวมกัน แล้วเธอจะร้องไปอีกเท่าไร.." ได้สติ ! "ไอ้ที่ร้องก็ซ้ำบทเดิมทั้งนั้น ! แล้วกูจะร้องทำไมวะนี่ แล้วเราเกิดมาเพื่อทำอย่างนี้ทำไมวะนี่ !" พอใจเบาท่านก็เทศน์อารมณ์ของการไม่มีร่างกาย อารมณ์พระอรหันต์...ก็จบกิจไป..

(มีต่อ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 27-09-2009 เมื่อ 17:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 83 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 15-09-2009, 11:11
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

ท่านบอก...พระอรหันต์กายทิพย์นี่นะ.. ทำกิจที่บริสุทธิ์ได้โดยที่ไม่ต้องใช้ระบบขันธ์ ๕ อย่างลูกหลานนั่งฟังกันอย่างนี้ก็อธิษฐานขอให้ท่านเป็นที่พึ่ง ถ้าเกิดพระอรหันต์องค์ใดองค์หนึ่งที่ท่านสอนอยู่ (ไม่ใช่หลวงตาหรอกนา) เกิดจับใจสงสารกันเมตตากัน.. ท่านขึ้นไปแล้ว.. พวกเรานี่มาปฏิบัติธรรมนุ่งขาวหุ่มขาว ใจเคารพพระธรรม รักศีล อยากจะฟังธรรมเต็มที่อย่างนี้แล้ว เกิดมันเงยหน้าจานยูบีซีกดปุ่มว่า “โอ.. เจ้าประคุณท่านใด..องค์ใด.. ที่เคยสั่งสอนหนูเคยเมตตาหนู.. อธิษฐานว่าจะช่วยหนูเมื่อถึงเวลาช่วย.. โปรดช่วยด้วยเถิด..” กดปุ่มแป๊ว ! ท่านก็เข้ามาเลย.. แต่มันไม่กดนะสิ!

มัวแต่ “เจ้าประคุณรุนช่อง ขอให้ถูกหวยด้วยเถิด สร้างโบสถ์เสร็จแล้วจะทำกรรมฐาน” ไม่เกี่ยวกับตัวท่านแล้ว มันเปิดคนละช่องใช่ไหมลูก? ไปกดช่องอื่นแล้วท่านจะเข้ายังไง !.. ต้องเปิดให้ถูกช่อง ปัญหาของมันอยู่ตรงนี้เท่านั้นเอง

ปุถุชนน่ะลูก.. ตื่นขึ้นมาทำอะไรบ้างละลูก ตื่นจากที่นอนแล้ว เราติ๋งต่างว่าเราเป็นปุถุชนก็แล้วกัน.. ถ้าใครเป็นพระอริยะแล้ว ขอโทษด้วย ! ตื่นเช้าขึ้นมาพอรู้สึกตัวจะแปรงฟันปาดน้ำลาย ปวดท้องขี้ท้องเยี่ยว ภารกิจของร่างกายของปุถุชนนี่... คิดจะเอาร่างกายไปถ่ายทุกข์ออกทั้งนั้นแหละ ! สายขึ้นมา หิวข้าวหิวน้ำก็จะกินข้าว ปวดท้องขี้ท้องเยี่ยว ง่วงนอน ต้องปวดเมื่อย ต้องเจ็บไข้ไม่สบายเล็ก ๆ น้อย ๆ มากบ้างน้อยบ้าง แรงถอยเขาเรียกแก่ชราลงไป.. เคยเดิน ๒ กิโลสบาย.. เดี๋ยวนี้ ๒๐๐ เมตรหอบซี่โครงบาน !

ถามว่า “สิ่งเหล่านี้สุขหรือทุกข์?”

ป่วยหนัก ไปผ่าตัดนี่ สุขหรือทุกข์? และก่อนจะตายทุกขเวทนามันเบียดเสียดกัน กายแตกตายนี่ สุขหรือทุกข์? ตื่นขึ้นมาก็เจอทุกข์ ยันหลับนะลูก ! จะหลับจะนอนอย่างไร บ่นผัวบ่นเมีย.. บ่นลูก.. กินข้าวปิดไฟจะนอน.. นอนไม่หลับ คิดถึงหนี้ตีนก่ายหน้าผากอีก! นอนไปกับความทุกข์อีก วันแล้ววันเล่า.. ก็ตื่นขึ้นมาหิวข้าวหิวน้ำ ปวดท้องขี้ท้องเยี่ยว ปีหนึ่งมี ๓๖๕ วัน นาน ๆ ถึงจะมีอารมณ์แทรกขึ้นมาให้ลืมทุกข์ประจำร่างกาย ตื่นเช้าขึ้นมา.. ไม่มีอะไรที่มันเป็นสาระเลย ! นอกจากกรรมฐาน.. เสพกามตัวผู้ตัวเมีย.. มันก็เดี๋ยวเดียว ! (ขอโทษนะลูก) มันไม่ใช่ แหม...ปลื้มปีติถึงขนาดนั่งปีติอยู่นอกชาน ๓ ชั่วโมง ไม่ใช่ ! รู้อยู่... มันเป็นอย่างไรรู้อยู่ ไม่ใช่เรื่องของความปลอดโปร่งของใจ

(มีต่อ)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 74 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 15-09-2009, 11:28
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

หรือว่าอีกาคาบทองคำมาก้อนหนึ่ง ตกเป๊ง ! มากลางนอกชาน ดีใจ...เดี๋ยวก็กลุ้มใจ ! เดี๋ยวกลัวคนจะแย่ง กลัวคนจะปล้นหรือไปขายที่ไหนดี เดี๋ยวจะหาว่าเราขโมยใครเขามา.. ก็ทุกข์ทั้งนั้นแหละ ! ได้เงินมาไหหนึ่ง...หีบหนึ่ง.. มึงได้มาเต็มที่.. คนเขาก็เห็น ก็กลัวเขาแย่งไปแล้ว ! มันไม่มีทรัพย์อะไรหรอกลูก.. ที่มันเป็นรูปธรรมที่มือจับได้ ตาเห็นได้ จะสร้างความสุขให้สะเทือนใจถึงขั้นปลอดโปร่งโล่งอก...ไม่มีลูกไม่มี ! ลูกสอบได้ที่ ๑ เกียรตินิยมอันดับ ๑ ได้ที่ ๑ แล้วกำลังจะเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยก็ต้องทุกข์ในเรื่องกวดวิชา เรื่องกลัวลูกจะสอบไม่ได้ ทุกอย่างแหละใช่ไหมลูก?

แต่ถ้าหากอารมณ์ที่เป็นสุขตรงนั้นหมายความว่าหลับไป...ก่อนนอนภาวนาไป จิตหลับไปกับอารมณ์ที่ไม่มีนิวรณ์ไม่กังวล จิตก็พักเต็มที่ ร่างกายก็พักจิตก็พัก ตื่นขึ้นมามันผ่องใสขึ้นมาเฉย ๆ ไม่มีเหตุมีผล กราบพระต่อ ทำอารมณ์อันนั้นต่อ...ก็ใจสบายนั่นแหละ

ความสุขที่ไม่มีรูปธรรมมาเกี่ยวข้องนั่นแหละ ถึงจะเรียกว่าทำให้ใจปลาบปลื้มปีติยินดีได้

ศีลบริสุทธิ์..นึกถึงก็อิ่มใจ ขโมยก็ลักไม่ได้ ไม่มีกลัวใครเอาปืนมาแย่ง

“เอาศีลข้อ ๑ มา

พรุ่งนี้กูจะปล้นข้อ ๒ อีก มึงระวังเอาไว้”


เออ...มันไม่มีเรื่องอย่างนั้น จับลมหายใจ พุทโธ...พุทโธแล้วสบายเข้าถึงอุปจารสมาธิ เอามีดจี้

“เอาอุปจารสมาธิมา กูจะกิน กูอยากสบายใจ”

ไม่มีเรื่องอย่างนี้ ไม่มีการแย่งชิง ไม่มีความทุกข์นั่นแหละ ท่านบอกถึงจะเรียกว่า ‘พักทุกข์’

(มีต่อ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 22-09-2009 เมื่อ 12:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 75 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 22-09-2009, 12:30
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

แล้วเป็นอย่างนี้ทุกวันปีละ ๓๖๕ วัน ตัวน้อยอายุเท่าไรแล้วลูก?(ถามลูกศิษย์) อายุ ๒๘ มึงคูณ ๓๖๕ วันเข้าไปสิลูก ! ขี้มากี่ครั้ง... เยี่ยวกี่ครั้ง.. กินข้าวกี่ครั้ง.. นอนกี่ครั้ง.. ตื่นกี่ครั้ง.. มึงไม่เบื่อบ้างหรืออย่างไรวะ? แต่ความที่ภาระมันทำแล้ว เกิดเสร็จเรื่องไปภาระใหม่มาหมุนเวียน มันไม่คิดว่าเป็นความทุกข์ คิดว่าคนทั้งโลกเขาก็เป็นกันอย่างนี้ นอนหลับสบายใจหน่อย ตื่นเช้าขึ้นมาแม่ไม่ด่า หรือว่าอารมณ์ดีหน่อยคิดว่าเป็นความสุข..แต่ไม่ใช่ มันพักได้

พระอริยะท่านเบื่อ... เบื่ออารมณ์เหล่านี้ ! ท่านก็ถามว่า "เอาเหอะ..ร่างกายไม่ต้องขี้ต้องเยี่ยวก็ได้ แต่ใจมันทำอย่างไรถึงจะผ่องใสอิ่มเอิบเบิกบาน แล้วก็ขี้เยี่ยวอย่างเก่า.. หิวข้าวหิวน้ำอย่างเก่า.. ง่วงเหงาหาวนอนเกียจคร้านไม่สบายอย่างเก่า แต่ทำไมใจเราถึงเบิกบานโดยไม่ต้องเศร้าหมอง เสพกามกับสามีภรรยาอย่างเก่า..เลี้ยงลูกอย่างเก่า.. ทำไมใจถึงเป็นตัวของตัวเองผ่องใสขนาดนั้น" พระพุทธเจ้าท่านสอนว่านี่คือกระแสพระนิพพาน

กระแสต้นยังทำอย่างนั้นได้อยู่ พอปลาย ๆ หมดกระแสนี้แล้วนะ เข้าไปกระแสที่ ๒ นะ ...สกิทาคามี ท่านก็บอกศีล ๕ บริสุทธิ์ มีผัวมีเมียคนเดียว "เมื่อวานก็อยู่ด้วยกัน วันนี้ก็อยู่อีก มะรืนก็อยู่อีก อยู่มา ๑๐ ปี ๓,๖๕๐ วัน ทำอะไรก็ทำซ้ำกันน่ะ กูไม่เห็นมันเป็นอะไรขึ้นมาเลยนะลูกนะ ! ซ้ำไอ้ตัวน้อยโผล่ออกมาอีก ค่าเทอมเพิ่มอีก อะไรต่ออะไรอีก กูป่วยคนเดียวไม่พอ เมียป่วยแม่ผัวป่วย แม่เมียป่วย ลูกป่วยอีก หาทรัพย์หาสินมารักษากัน โอ..นะ ภาระเมื่อไรจะจบสิ้น แต่ใจก็ยังมีศีลบริสุทธิ์"

พอว่างจากภาระแล้ว.. ก็จับลมหายใจนึกถึงความตาย นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นึกถึงพระนิพพาน เดี๋ยวตายแล้วก็ไปนิพพาน..ค่อยจบสิ้นกัน

(มีต่อ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 22-09-2009 เมื่อ 13:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 70 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 24-09-2009, 18:41
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

"แม่... ข้าวอยู่ไหน?"

เอ้า ลูกทั้งคนเป็นพระอริยะใจก็ต้องรักลูก มีเมตตาปรานีต้องถอนอารมณ์มา "อยู่โน่นลูก" ถ้าขืนไม่ถอนนะ ถ้าเกิดมันร้องไห้มาทึ้งหัวแม่ มันตกนรกนะ มันต้องรีบคลายอารมณ์ออก เพื่อจะไปรับใช้มัน ไม่อย่างนั้นมันตกนรก เพราะขัดกระแสธรรม ทุกข์ไหม...อารมณ์อย่างนี้? เห็นไหมลูก?

เราก็บอก "ว้าย...ขนาดอย่างนี้ยังทุกข์แล้วนะ" มีเงินกี่ร้อยล้าน..

"เอ้าลูก...เอาไปเลยจะไปกินข้าว แม่ให้แสนหนึ่ง"

อย่างนี้ เอ้า! ...ลูกมันก็ไปกินยาบ้า ฉิบหายแล้ว! โง่แล้วนะแม่นะ แสนหนึ่ง..มันเอาไปเลี้ยงเพื่อน

ทีนี้ไอ้หนู ถ้าคน ๆ หนึ่ง มีเงินกินวันละแสนนี่..เพื่อนมันหลอกตาย มันหลอกว่า

"นี่ เราไปดูหมอมา เธอเคยเป็นเจ้าหญิง.. เป็นฮ่องเต้.. บัดนี้ฮ่องเต้ที่จริงแท้ลงมาเกิดแล้ว.." ก็เลี้ยงเขาหน้าบานเชียว เห็นลูกโง่ขนาดนั้นพระอริยะทุกข์ไหมลูก? มีเงินเท่าไรก็ทุกข์ตาย..มีหุ้นให้ลูกสองหมื่นล้าน ! เกิดผู้ชายขี้เหล้ามาจีบลูก มึงตายตาหลับไหมน่ะ? เห็นไหมลูก เห็นไหม

ก็คิดว่า "เออ!..เรามีทุกข์เพราะร่างกายเราร่างกายเดียวก็พอจะวางได้ เอาความตายมาปลงได้ เลี้ยงไปวันต่อวันด้วยศีลบริสุทธิ์ตายเมื่อไรก็บริจาคศพให้วัด แล้วก็ไปนิพพาน แต่ถ้ายังมีลูกมีผัว มีแล้วนี่ทำอย่างไรได้" เพราะฉะนั้นเขาไม่มีวันมีเมียน้อยผัวน้อยอีกแล้ว

(มีต่อ)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 69 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 02-10-2009, 09:16
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

แล้วก็บอกว่า สมมติว่าถ้าผัวตายและลูกตาย พระอริยะไม่มีใหม่ พอเขาเข้ามาในเขตนี้เขาเห็นการเสพกามไม่ใช่เรื่องราวแล้ว มันก็แค่กิจกรรมจักจั่นแมลงปอมันก็ทำเป็นน่ะนะ..จิ้งจกตุ๊กแกก็ทำเป็นของมัน.. เราก็ไปทำแข่งกับหมากับแมว.. แต่ทำไปแล้วจะได้สิทธิที่มีคู่บุญคู่กรรมฐาน คู่เกื้อกูลกันมา ย่อมจะต้องทิ้งกันไม่ได้ แต่ว่าโดยกิจแท้ ๆ แล้วมันก็เหมือนกับกรรมกรนั่นแหละ กิจของเราก็กิจกรรมกร หรือกิจของหมาตัวผู้ตัวเมีย เหมือนกันหมด! เอ๊..มันไม่มีสาระทั้งนั้น

จิตเขารู้ของเขาอยู่นี่ เขาไม่หาเรื่องมาใส่ตัวหรอก เป็นผู้หญิงเขาก็อุปัฏฐากพระศาสนา ปฏิบัติธรรมไป.. ไม่ทำให้พระฟุ้งซ่านแล้ว แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว พูดจาให้พระเกิดหิริโอตตัปปะแล้ว

"โยมจ๋าเห็นโยมมา..ชื่นใจเหลือเกิน"

"พระคุณเจ้า! ระวังวาจาหน่อยนะเจ้าคะ.. พระสารีบุตรท่านพูดอย่างไร.. ว่ามาตุคามกับพระจะเป็นอย่างไร พระคุณเจ้าคงนึกออกนะเจ้าคะ พูดให้โยมเคารพนับถือหน่อย"

ทีนี้ก็อายไป ๓ พรรษาแล้ว.. ไม่ใช่ไปอาย เขี่ยอะไรจนกระดานกะเทาะหมดนะ .. เขาต้องถวายหิริโอตตัปปะให้หน่อเนื้อของพระพุทธเจ้าเกิดหิริโอตัปปะธรรม เกิดความเพียรพยายามที่จะออกจากกาม เขาก็ปฏิบัติธรรมไป

(มีต่อ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 02-10-2009 เมื่อ 09:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 65 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 02-10-2009, 09:49
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

ที่จริงแล้วพระโสดาบันนะ เอกพิชีหรือว่าสกิทาคามีไม่มีใครเขาลงมาเกิดหรอก อย่างมากเขาลงมายืนฟังธรรมที่ควรส่วนข้างหนึ่ง นอกจากองค์ที่อธิษฐานลงมารับใช้สนองงานพระพุทธเจ้า อย่างท่านพระมหากัสสปะ พระมหาเถระแต่งงานแต่เล็กแต่น้อยแล้วก็แยกกันไป.. สามีก็แยกไปทางภรรยาก็แยกไปทาง ต่างคนต่างเป็นพระอริยะลงมาแล้วได้สมาบัติ ๘ มาแล้ว ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าครั้งเดียวเป็นปฏิสัมภิทาญาณ ไม่มีใครเขามาเล่นขี้เล่นเยี่ยวอีก ใช่ไหมลูก? ก็เลื่อนเป็นระดับนี้

ถ้าเป็นพระอนาคามีแล้วตายขึ้นไปปั๊บ! ยังไม่ใช่พระอรหันต์เขาไม่ลงมาเลย.. แม้กระทั่งมาหุงข้าวใส่บาตรพระหรือมาถวายหิริโอตตัปปะพระก็ไม่เอาแล้ว เรื่องร่างกายขันธ์ ๕ นี่ เขาก็ไม่เอาแล้ว เหลือตัวทิฐิมานะ ตัวนามธรรม ตัวรูปฌาน อรูปฌาน ตัวอะไรที่เป็นอารมณ์ละเอียด ซึ่งยังความปลื้มใจให้เกิดโดยไม่ต้องอาศัยรูป เขายังติดอยู่เขาต้องไปพิจารณาข้างบน

ถ้าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ พระอรหันต์เทศน์นี่ท่านจะลงมาเพื่อมาล้างตัวนามธรรมอันเป็นกุศลที่เป็นอุปาทานนั้นออกแต่ว่าขึ้นมาบนทางนี้แล้ว จะยังใช้ชีวิตได้ตามลำดับขั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้เงินไม่ได้ จะจับเงินไม่ได้ จับตัวผัวตัวเมียตัวลูกไม่ได้ ไม่ใช่ ๆ หอมกันฟอดหนึ่งกันไปเถิด แต่ว่าคนเดียว พอไปถึงขั้นกลางแล้วชักยุ่งแล้ว กลั้นใจหอมแล้ว นี่ก็ปลอดภัยจากอบายเวียนไม่รู้จักจบ เขาเรียกวัฏฏะ

(มีต่อ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-10-2009 เมื่อ 10:03 เหตุผล: แก้จาก ภรรายา เป็น ภรรยา
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 68 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 07-10-2009, 12:49
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

ครูเขาถาม เดี๋ยวจะกลับพรุ่งนี้หลวงตาจะให้อารมณ์อะไรกลับไปคิด ก็อารมณ์พระโสดาบัน หลวงพ่อฤๅษีฯ ก็สอน..หลวงปู่มั่นก็สอน.. สอนอารมณ์เดียวกับหลวงปู่บุดดา.. ทุกองค์รวมถึงพระเดชพระคุณพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สอนอารมณ์เดียว แต่ว่าการสอน..สอนคนละมุม

ถ้าคนเขามีจิตละเอียดจิตมีปัญญามากอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องไปสอนศพเละ(อสุภกรรมฐาน)ขนาดนั้น.. สอนเพียงแค่ว่า

"ร่างกายที่นั่งอยู่นี้ นั่งอยู่ได้เพราะมีธาตุลมยังเลี้ยงไว้ พอลมสลายไปร่างนี้ก็ตั้งอยู่ไม่ได้ ลมพัดให้เคลื่อนไหวไม่ได้ก็นิ่งเฉย..เมื่อลมหายไป ไฟก็สลายออกไป ร่างนี้ก็เย็นเฉียบแข็งทื่อแล้ว..เมื่อลมกับไฟซึ่งเป็นตัวชีวิตตัวพลังงานไม่มี ดินกับน้ำก็คือดินน้ำปกติ เมื่ออยู่ด้วยกันย่อมทำลายกันให้เฉอะแฉะเน่าเปื่อยอยู่แล้ว.. แล้วหนอนบ่อนทั้งหลาย.. ชาติหนอนทั้งหลาย..ในจุลินทรีย์ในไข่ก็อาศัยเป็นที่ทำมาหากิน เหมือนเราอาศัยนาปลูกผัก ปลูกข้าว เขาก็อาศัยสิ่งเหล่านี้เป็นนาสำหรับปลูกอาหารของเขา แมลงวัน กิ้งกือ จิ้งเหลน ก็ถือสิทธิ์มาแย่งกันตามปกติ เหมือนเราแย่งเงินแย่งทองกันแล้ว"

"ร่างกายอันเป็นดินน้ำลมไฟ ซึ่งเธอเคยอาศัย ที่จริงแล้วเธอคงรู้แล้วว่ามันไม่ใช่ของใครตลอด.. อาศัยทำประโยชน์ชั่วขณะที่วิญญาณยังครองร่าง ใจยังครองร่างอยู่ เมื่อเธอหมดอายุขัย หมดสัญญา วิญญาณสลายไป ร่างกายแตกดับ น้ำก็เป็นน้ำ ดินก็เป็นดิน ลมก็เป็นลม ไฟก็เป็นไฟ ก็ไม่มีอะไรเหลือเป็นเราเป็นของเรา"

อารมณ์เขาละเอียดเป็นอย่างไร ท่านก็เทศน์มุมนี้

(มีต่อ)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 69 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 07-10-2009, 12:57
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

เพราะฉะนั้น ธาตุ ๔ ก่อนจะสลายตัว จงรักษาศีลให้บริสุทธิ์ จงยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อันนี้ก็เหมือนกันแล้ว ต่างกันตรงรูปธรรมคือ พิจารณาร่างกายเท่านั้นเอง นอกนั้นสอนเหมือนกันหมด รักษาศีล เข้าถึงไตรสรณาคมน์ ยึดพระนิพพานเป็นอารมณ์ สิ่งที่เป็นนามธรรมหรือเป็นอริยทรัพย์เหมือนกัน

แต่ตัวหนักคือตัวที่ใจมันติดจริง ๆ คือตัวร่างกาย จะสอนแตกต่างกันไปตามแต่จริตนิสัยที่สั่งสมมาไม่เหมือนกัน บางคนก็ไม่ขึ้นตรง ธาตุ๔ ขึ้นตรงอาการ ๓๒ เพราะไปคิดว่าร่างกายนี้มันเป็นแท่งทึบ แข็งแรง ..เล่นกล้าม จับแขนตัวเองมันแข็งแรง ท่านบอกร่างกายเป็นธาตุ ๔ มันไม่เชื่อ ปัญญามันไม่ละเอียดก็ต้องบอกให้ดูอาการ ๓๒ หัวจรดตีน ตีนจรดหัว อันมีหนังหุ้มอยู่โดยรอบ ลองนึกผ่าลงไป คิดถึงความจริงไป

(มีต่อ)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 15-10-2009, 11:16
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ).

ผม ที่อยู่บนหัว ตัดออกมานี่ปลิวไปตามลมนี้ มันใช่ผู้หญิงผู้ชายไหม?

ขน โกนออกมาจากที่ลับที่แจ้งเอามาวางในถ้วยแก้วนี่ โกนขนคนอื่นมาด้วยนี่ แล้วก็จับถ้วยมาสัก ๔ ถ้วย จำได้ไหม? ขนผู้หญิงผู้ชาย..ไม่มี

เล็บ อยู่ในมือเป็นของเอ็ง ทาเสียดีเชียว พอช่างเขาตัดออกมารวม ๆ กันในกระโถน แยกออกไหม?

ฟัน อยู่ในปากเป็นของเรา แค่ถ่ายรูปแล้วมาดูอีกที จำไม่ได้ว่าฟันของใคร ถอนออกมานะ หมอฟันเขาถอนออกมาลงกระโถนแก๊ง!

หนัง นี่ก็เหมือนกัน เรียกหนังของเราเพราะมันอยู่กับตัวเรา พอรถคว่ำหนังถลอกพร้อมกัน ๑๐ คน ล่อนออกมา หมอเขาก็เฉือนออกมาวางในถ้วยแก้วนี่นะ แล้วก็ปิดแผล จำได้ไหมว่าหนังของใคร?..ไม่มี ไม่มีผู้หญิงผู้ชาย

ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง..
หนัง ฟัน เล็บ ขน ผม..


ตอนมีชีวิตอยู่ ใช้ปัญญาลองแยกออกยังไม่ใช่ตัวเราของเรา ยิ่งเขาตายไปแล้ว.. แล้วสิ่งเหล่านี้เน่าเปื่อยขึ้นมาด้วยนี่ ไม่มีอะไรที่จะสะอาดสวยงามเลย ไม่มีอะไรที่เราจะประคับประคอง อยากแต่งงานด้วยเลย..

(มีต่อ)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 58 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 15-10-2009, 12:04
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

๕ อย่างยังไม่เชื่อ ยังเห็นว่าเป็นเราของเราอยู่นา

ถ้าอย่างนั้นลองดูลึกขึ้นไปอีกหน่อยสิ เนื้อนี่นะ ผ่าออกไปแล้วแล่ออกมา ๒ ขีด ๒ กรัม มึงแยกออกไหม? เนื้อแดง ๆ ปริญญาเอากับเณรนี่ เนื้อพระอรหันต์กับเนื้อขอทานยังนี้นี่นะ ไม่รู้เรื่องเลยเหอะ.. เอ็นกระดูก กระดูกแขนล่อนออกมาตัดออกมาคืบหนึ่งนี่นะ ตับ ปอด ไส้มันก็เหมือนสายยางที่ขายในร้านค้านี่ลูก! เราไปตัดซื้อออกมาแล้วก็ใส่ใช้กัน ยี่ห้อใหญ่กว่ากันเล็กกว่ากัน คุณภาพตามบุญตามกรรม.. อาจจะไส้หนาไส้บาง.. เป็นโรคลำไส้ง่ายไม่ง่ายมันก็อันเดียวกัน เวลากลืนมันก็กลืนลงขยัก มันก็เก็บเอาไปทำร่างใหม่ ชักไม่ใช่แท่งทึบแล้วนะ เออ..มันก็ต้องขึ้นด้วยอารมณ์อย่างนี้

เพราะฉะนั้น ก่อนที่มันจะแยกลงไปเป็น ปอด หัวใจ (พอพูดแล้วจะคลื่นไส้) แล้วก่อนจะตาย มึงต้องรักษาศีลให้บริสุทธิ์ มันจะตายแล้ววันนี้..เดี๋ยวก็คืนโลกแล้ว! จะไปตกนรกผิดศีลแทนมันทำไม? นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์ ก็สูตรเดียวกันแล้ว

ต้องนึกถึงความตายลูก ! ความตายของร่างกาย แล้วก็แยกออกมาว่าตายแล้วมันเป็นอย่างไร? นี่มันเรื่องก่อนตาย มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ แยกออกมาให้ได้ ติ๋งต่างก่อนว่า ๑๐๐ ปี ๕๐ ปี มันจะได้ยอมคิด พอคิดชุ่มใจบอก

"ถ้ามัน..ตายวันนี้แล้วเราไม่ต้องมีร่างกายนี่ เอาไหม?"

(มีต่อ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 15-10-2009 เมื่อ 12:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 16-10-2009, 10:16
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

มึงเอาไหมลูก? ตอนแรกอารมณ์ไม่ชำนาญเราก็บอกว่า "เอา...มั้ง?" (ทำเสียงอ่อย) ทำไปวันละ ๒-๓ ครั้ง ๓ เดือน มันก็บอก "เอา!!" ที่เขาบอกว่าบรรลุภายใน ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ก็ตรงที่ขี้เกียจหรือขยันทำ

ตอนแรกบอก "อือ...ยังไม่ตายหรอก จับบุญไปก่อน หลวงตาก็ยังไม่ตาย จะไปตายก่อนได้ยังไงพ่อ แล้วใครจะเลี้ยงหลวงตา" หาเรื่องเอาบุญเอาคุณ... ไม่ยอมนึกถึงความตาย.. ทำไปทุกวัน ๆ หนัก ๆ เข้า...

"๗ ปี ไม่เอาหรอกหลวงตา ! หนูเอาแค่อีก ๗ เดือน ไปเที่ยวเมืองนอกสักทีหนึ่งก่อน ไปไหว้พุทธคยาสักทีหนึ่งก่อน หนูก็ตายได้แล้ว ๔ เดือนก็เอา" นี่อารมณ์ยังห่วง

"โอ๊ย... ๗ วันก็พอแล้ว"
คือพูดถึงว่าการอาลัยภาระของร่างกายยังมีอยู่ หนัก ๆ เข้า อีก ๗ วินาที กูยังไม่อยากอยู่กับมันเลย !

"ขอให้เราได้เป็นพระอรหันต์เถอะ ขอให้กิจที่ควรทำเราได้ปลดเปลื้องไปแล้ว ไม่ติดค้างใครแล้ว ศีลก็บริสุทธิ์มาตั้ง ๗ เดือนแล้วนี่ ! อีก ๗ นาทีมันก็บริสุทธิ์ เดี๋ยวเกิดอีก ๘ นาทีเกิดไม่บริสุทธิ์จะทำอย่างไร กูไม่เอาแล้ว ! ตายไปขณะที่มันพร้อมแล้วอย่างนี้นี่นะ

(มีต่อ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 16-10-2009 เมื่อ 13:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 55 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 28-10-2009, 12:16
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

นั่นน่ะลูกจับอารมณ์กระแสนิพพานให้ได้ พอจับได้..ทำอย่างไรรู้ไหมลูก? วางมันลงไป ! ตายแล้วก็เป็นอย่างนี้ เห็นว่าไม่มีอะไรเป็นของเราแล้ว เมื่อกายแตกดับ เวทนาก็ไม่รบกวนร่างกาย จำอะไรก็ไม่ได้ สัญญาก็ดับไป สังขารปรุงแต่ง ทำโน่นทำนี่ก็ปรุงไม่ได้ สงบแล้ว..วิญญาณตาเห็นรูปหูได้ยินเสียงก็ไม่มีแล้ว..

เมื่อรูปแตกดับนามธรรมก็สลายไป รูปและนามมันยังไม่ใช่ของกันและกันเลย ใจมึงมันออกมาจากรูปนาม จะเป็นมึงของมึงได้อย่างไร?..ลูกเอ๊ย..ย ! "หลงว่าโน่นนี่เป็นเรา..บัดนี้เรารู้แล้ว" ก็พิจารณาหนักเข้ามาอย่างนี้เอง นี่ละเอียดเข้ามา

เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ถ้าวันนี้เขาตายเขาก็แตกดับสลายไป อดีตของศพก็ไม่มี ก็ใจเราไม่มี ศพไม่มีอยู่ในกาลเวลาแล้ว ศีลก็บริสุทธิ์แล้ว ร่างกายก็ไม่เหลือเชื้อความพอใจแล้ว.. สิ่งเดียวที่เรารักเราพอใจที่สุดคือพระนิพพาน

(มีต่อ)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 28-10-2009, 12:27
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

"ณ ที่ใดที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จประทับสบายพระอิริยาบถเป็นสุขอยู่ เกล้าหม่อมฉันขอน้อมจิตกราบแทบพระบาท กราบอยู่ตรงหน้าพระองค์ด้วยความเคารพเรียบร้อยแล้ว..."

คือวางร่างกายด้วยปัญญาเสีย แล้วเอาจิตซึ่งประกอบด้วยปัญญา ใช้กำลังของจิต ที่เอาฤทธิ์ของจิตที่เอามโนมยิทธินี่เข้าไปวางไว้ตรงนั้น พอวางชำนาญแล้วขอให้ท่านดูจิต "ขณะนี้มันไม่มีร่างกายมันสุขอย่างนี้.." แล้วหยั่งจิตลงมาว่า

"สมเด็จพ่อ.. คุมจิตลูกด้วย ให้หยั่งลงไปดูร่างกายที่เน่าแล้วเละแล้ว นั่นเป็นอย่างไร.. ให้เรากลับไปก็ไม่เอาแล้วเพราะอยู่ในนิพพานเสียแล้ว" ถามว่า "ลูกเอยถ้าให้อยู่อีกวันหนึ่ง ลงไปพื้นแล้วก็ต้องไปขี้.. ไปเยี่ยว.. หิวข้าว หิวน้ำ ..ง่วงเหงาหาวนอน.. เจ็บไข้ไม่สบาย.. ต้องแก่แล้วตายไปอีกวัน เอาไหม?"

"หนูจะเอาทำไม หนูตายแล้ว.. หนูจะต้องไปซ้อมตายอีกทำไม?"

"เอาสิลูก วันเดียวไม่พอเอาอีก ๑๐ ปีก็แล้วกัน ให้ตัวผ่องสวยเชียว มีผู้ชายตอมเหมือนหมาตอมขี้เอาไหมลูก? แล้วก็ต้องเยี่ยว ขี้ หิวข้าว หิวน้ำ ถูกเขาหึงหวง มีทรัพย์สินอีกแปดพันล้าน แล้วมึงก็ต้องตายต้องทิ้ง แล้วมึงจะเอาไหมลูก?"

"พ่อ ไม่เอาแล้ว หนู ๆ ๆ ...(เบื่อมัน)"

(มีต่อ)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:24



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว