กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-12-2022, 19:59
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 327
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 17,916 ครั้ง ใน 799 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๕


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-12-2022, 01:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอ้าย ถ้านับทางจันทรคติถือว่าเข้าปีใหม่มาครึ่งเดือนแล้ว

ตั้งแต่เช้าหลังจากที่กระผม/อาตมภาพบิณฑบาตและฉันเช้าเสร็จ ก็ไปยังหอประชุมโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา เพื่อร่วมการประเมินนักเรียนรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษาของโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดกลาง ซึ่งเด็กที่เข้ารับการประเมินในปีนี้ก็คือ น้องบัว (นางสาวอัจฉรานันท์ วงศรีรัตนชัย) นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ ๖/๓ ซึ่งเป็นเด็กที่ช่วยงานวัดท่าขนุนมาตั้งแต่สมัยยังเรียนชั้นประถมอยู่

ความจริงแล้วในช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพต้องไปซ้อมรับปริญญาบัตร ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อรอรับจริงในวันที่ ๑๐ แต่ว่าในเมื่อเด็กนักเรียนของเรา ซึ่งปีที่แล้วมีบทเรียนที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เด็กของเรานั้นมีความรู้ความสามารถใกล้เคียงกับของโรงเรียนอื่น แต่ที่ชนะเลิศได้รับรางวัลนักเรียนพระราชทานอันทรงเกียรติยิ่งนั้น เกิดจากทางด้านทองผาภูมิของเรา ผู้นำท้องถิ่นไปกันครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นท่านนายอำเภอ ท่านนายกเทศมนตรี หรือแม้แต่ตัวกระผม/อาตมภาพเอง ซึ่งทางคณะกรรมการประกาศผลตัดสินออกมา บอกว่าที่ได้รางวัลเพราะเห็นความพร้อมเพรียงของผู้นำท้องถิ่นที่มีต่อเด็ก แสดงว่าเด็กของเราต้องดีจริง ผู้นำทั้งหมดถึงได้พร้อมใจกันมาสนับสนุน

โดยเฉพาะเด็ก ๆ ชุดนี้ ซึ่งได้รับการเสริมสร้างมา ทั้งในส่วนของนาฏศิลป์และการละคร ตลอดจนกระทั่งโครงการมัคคุเทศก์น้อยนานาชาติพันธุ์ ต้องบอกว่าเห็นหลวงพ่อไป ดีใจยิ่งกว่าพ่อแม่ตัวเองไปอีก กระผม/อาตมภาพก็เลยต้องสละงานการซ้อมรับปริญญาบัตร ซึ่งอาจจะทำให้เขาสับสนวุ่นวายในวันจริงได้ เพราะว่าอยู่ ๆ ก็จะมีคนเพิ่มขึ้นมา แต่ก็ต้องยอมเพื่อที่จะมาเป็นกำลังใจให้กับเด็กของเรา

เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อยในการแสดงความสามารถช่วงเช้า ทางโรงเรียนถวายภัตตาหาร ฉันเพลเสร็จแล้ว กระผม/อาตมภาพก็วิ่งไปประชุมคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากการตั้งสภาวัฒนธรรมชุดนี้มา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2022 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-12-2022, 01:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ต้องบอกว่าในบรรดาสภาวัฒนธรรมอำเภอทั้งหมด สภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิของเรามีความพร้อมมากที่สุด ทำทุกอย่างตามกรอบเวลาที่ทางราชการกำหนดให้ จึงเป็นสภาวัฒนธรรมแห่งเดียวที่จัดตั้งเสร็จเรียบร้อยก่อนอีก ๑๒ อำเภอ

พวกเราทำงานกันเป็นปีแล้ว กว่าที่อำเภออื่น ๆ จะจัดตั้งคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอสำเร็จ เมื่อครบถ้วน ๑๓ อำเภอแล้ว จึงสามารถที่จะจัดตั้งสภาวัฒนธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีได้ จึงทำให้การประชุมล่าช้ามาจนเกือบจะสิ้นปี โดยเฉพาะในส่วนของการร่างระเบียบข้อบังคับของสภา ซึ่งยังไม่สามารถที่จะคุยให้จบลงไปในครั้งนี้ได้

แม้ว่าทางดร.ธีรชัย ชุติมันต์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรีคนใหม่ยังไม่คุ้นเคยกับงานด้านนี้ แต่ว่ามีความสุขุมรอบคอบ อะไรที่ไม่เข้าใจก็สอบถาม อะไรที่ช้าได้ก็ช้าลง ดังนั้น..ในเรื่องของการร่างระเบียบข้อบังคับสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี จึงต้องรอทีมงานที่ท่านจัดตั้งขึ้น ร่างมาให้เรียบร้อย แล้วนำลงกลุ่มไลน์ เพื่อที่จะให้พิจารณากันก่อนว่าตรงไหนควรลด ตรงไหนควรเพิ่ม แม้ว่ากระผม/อาตมภาพจะขอออกมาก่อนเวลา เพราะว่าการประชุมยังไม่เสร็จ แต่ก็มาถึงเอาตอนที่ท่านทั้งหลายได้เห็น ยังดีว่าทันเวลาในการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน

ในเรื่องของการทำงาน ดังที่กระผม/อาตมภาพเคยบอกพวกเราหลายครั้งแล้วว่า ถ้าเราจัดลำดับความก่อนหลังเร็วช้าของงานได้ เราก็จะไม่เครียด งานไหนมาถึงก่อนก็ทำก่อน เราจะมีงานอยู่เฉพาะหน้างานเดียว ซึ่งไม่หนักเกินกำลัง แต่คนส่วนใหญ่แล้วมักจะเอางานหลาย ๆ ส่วนมาหมกรวมกัน กลายเป็นปัญหาก้อนใหญ่ จนกระทั่งเครียด หาทางออกไม่เจอ กลายเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าขาดสติ สติที่เกิดจากการปฏิบัติธรรมของพวกเรานี่แหละสำคัญที่สุด ถ้าเรามีสติ รู้จักพินิจพิจารณา ก็จะเห็นความก่อนหลังเร็วช้า สำคัญมากสำคัญน้อยของปัญหา แล้วก็จะจัดลำดับได้ทันท่วงที ทำให้สามารถที่จะทำงานแต่ละอย่างไปได้ โดยที่ไม่สับสนวุ่นวาย ไม่เอาหลาย ๆ งานมาสุมรวมกันจนรู้สึกว่าเกินกำลัง

แต่ก่อนที่ท่านจะมาถึงระดับนี้ได้ สำคัญที่สุดก็คืออานาปานสติ การกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกของเรา ซึ่งบางคนก็คิดว่าเป็น "หญ้าปากคอก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2022 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-12-2022, 01:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำนวน "หญ้าปากคอก" นี่เกิดจากคนโบราณเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย พอถึงเวลาตอนเช้า เปิดคอกให้วัวควายออกไปหากิน ด้วยความที่หิวมาทั้งคืน เมื่อเปิดคอกก็ชิงกันเบียด ชิงกันออก ในเมื่อตัวหลังดันมา ต่อให้หญ้าตรงปากคอกงามขนาดไหนก็ตาม วัวควายนั้นก็ไม่มีเวลากิน จะโดนตัวหลังเบียดกระแทกจนกระทั่งขึ้นหน้าไป แล้วด้วยนิสัยของวัวควายก็คือจะรีบเดินตามตัวหน้า

ในเมื่อตัวหน้ามุ่งตรงไป ตัวเองก็ตามไปด้วย ทำให้มองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้แค่ปากคอก หรือว่าเรื่องสำคัญที่อยู่ใกล้ตัวไป จนกระทั่งกลายเป็นสำนวนว่า "หญ้าปากคอก" ก็คืออยู่ใกล้แค่นั้น แต่ไม่มีโอกาสได้กินได้ใช้เสียที

พวกเรานักปฏิบัติส่วนหนึ่งก็มักจะมองข้ามอานาปานสติไป ทั้ง ๆ ที่อานาปานสติหรือว่าลมหายใจเข้าออก เป็นพื้นฐานใหญ่ของกองกรรมฐานทั้งปวง ถ้าไม่มีอานาปานสติ กรรมฐานทุกกองไม่สามารถที่จะทรงตัวได้ อย่างเก่งเต็มที่ก็แค่ปฐมฌาน แล้วเป็นปฐมฌานหยาบด้วย หลังจากนั้นถ้าไม่มีสมาธิมาค้ำจุนก็จะพังไปได้ง่าย ๆ

อานาปานสติจะสนับสนุนให้กรรมฐานทุกกอง สามารถที่จะทรงฌาน ๔ หรือว่าสมาบัติ ๘ ได้ จึงไม่ใช่ "หญ้าปากคอก" ที่พวกเราจะมองข้าม แต่เป็นสิ่งที่พวกเราต้องยึดอยู่ในลักษณะของเส้นเชือกช่วยชีวิตเลย เหมือนกับคนตกเหวแล้วคว้าเถาวัลย์เอาไว้ได้ ต้องเกาะแน่นสุดชีวิตขนาดไหนก็ประมาณนั้น..!

เนื่องเพราะว่าถ้าเราไม่มีกำลังของอัปปนาสมาธิระดับปฐมฌานละเอียดเป็นต้นไป เราก็จะไม่มีกำลังสู้กับกิเลส ก็แปลว่าอย่างน้อย ๆ พวกเราจะต้องภาวนาจนทรงปฐมฌานละเอียดเป็นอย่างต่ำ สูงกว่านั้นต้องแล้วแต่วาสนาบารมีและความพากเพียรพยายามของแต่ละคน

เพียงแต่ว่าในส่วนที่เราทำได้แล้วนั้น ผลข้างเคียงที่ดีอย่างหนึ่งก็คือเรามีสติมั่นคงขึ้น สมาธิยิ่งหนักแน่นเท่าไร สติยิ่งแหลมคมว่องไว จนถึงขนาดสามารถรู้เท่าทันกิเลสที่เข้ามาในใจของเรา ซึ่งเร็วพอ ๆ กับสายฟ้าแลบ เพราะว่าถ้าสติสมาธิของเราไม่เพียงพอ ไม่สามารถที่จะกันกิเลสเอาไว้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2022 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-12-2022, 01:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อในส่วนของกิเลสที่เกิดขึ้นเร็วจนบางทีเราก็ไม่รู้ตัว สติของเรายังเท่าทันและระมัดระวังป้องกันได้ เรื่องการที่เราจะมาใช้กับการดำเนินชีวิตประจำวันจึงเป็นของง่าย สามารถที่จะพิจารณาเห็นความก่อนหลังเร็วช้า ลำดับความสำคัญของเรื่องได้ในทันทีทันใด แล้วเราก็จะได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุด และเหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ตอนนั้นได้

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วกระผม/อาตมภาพก็ทำให้พวกท่านทั้งหลายได้เห็นอยู่ทุกวัน เพียงแต่ว่าพวกท่านอาจจะดูไม่ออก มองไม่เป็น รู้อยู่อย่างเดียวว่าหลวงพ่อทำงานเยอะมาก แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงทำได้ แล้วยกให้เป็นความพิเศษของท่านไป ความจริงแล้วพวกเราทุกคนทำได้ทั้งหมด เพียงแต่ว่าต้องมีความอดทนและพากเพียรอย่างแท้จริง

การปฏิบัติธรรมทุกประเภท ถ้าความอดทนไม่เพียงพอ ก็เลิกเสียกลางคัน ถ้าความพากเพียรไม่เพียงพอ ก็ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางของตน ดังนั้น..เรื่องของขันติบารมีและวิริยบารมี เป็นสิ่งหนุนเสริมการปฏิบัติธรรมของเราอย่างดีที่สุด แต่พวกเรามักจะขาด โดยเฉพาะขาดปัญญาบารมี ไม่รู้ว่าอะไรก่อน อะไรหลัง อะไรควรเร่งทำเพื่อให้เกิดแก่ตัวแล้วจะนำสิ่งดี ๆ เพิ่มเข้ามาในชีวิตของเรา อะไรที่ควรทำทีหลัง เราจะได้ชะลอไว้ก่อน แต่บางทีเราก็ไปทำสับสนปนเปกันไปหมด เรื่องทีหลังเอามาทำก่อน เรื่องก่อนเอาไปทำทีหลัง ความสำเร็จจึงไม่เกิดขึ้นสักที เพราะว่าปัญญาไม่พอ

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2022 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว