กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-07-2022, 18:08
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,269
ได้รับอนุโมทนา 739,760 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-07-2022, 23:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,095 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘ อีกไม่กี่วันก็จะเข้าพรรษาอีกแล้ว

วันนี้กระผม/อาตมภาพออกไปร่วมงานแห่ผ้าและเปลี่ยนผ้าถวาย หลวงพ่อ ภปร. พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวอำเภอทองผาภูมิเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าเป็นพระพุทธรูป ภปร. ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก็คือหน้าตักประมาณ ๙ เมตร

โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บนพระเกตุขององค์พระพุทธรูป เมื่อวันที่ ๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๒๙ ก็คือ ๓๖ ปีล่วงมาแล้ว ซึ่งทางด้านวัด หน่วยราชการ โรงเรียน และชุมชนได้ร่วมกันจัดขบวน เพื่อแห่ผ้าไปถวายและเปลี่ยนถวายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตรงส่วนนี้เราจะเห็นว่า ถ้านับตามทฤษฎีบวรแล้ว ทางด้านวัดท่าขนุนก็ดี ทางวัดทองผาภูมิเจ้าของพื้นที่ก็ตาม ตลอดจนกระทั่งที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ นำโดยนายนภเดช เกลียวศิริกุล นายอำเภอทองผาภูมิและคุณนาย

เทศบาลตำบลท่าขนุนซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ นำโดยนายจิตรกร ว่องประเสริฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าขนุน

เทศบาลตำบลทองผาภูมิ ซึ่งต้องบอกว่าอยู่ในพื้นที่ใกล้ชิดที่สุด นำโดยนายประเทศ บุญยงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ก็ได้พร้อมเพรียงกันมาร่วมขบวนแห่ในครั้งนี้

โดยมีคณะครูและนักเรียนของโรงเรียนเทศบาลทองผาภูมิ โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา และโรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิ ก็มาร่วมขบวนโดยพร้อมเพรียงกัน

ความสามัคคีกลมเกลียวกันตามหลักทฤษฎีบวรของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เกิดขึ้น โดยที่พวกเราไม่จำเป็นที่จะต้องไปบังคับให้เกิด หรือว่าพากเพียรพยายามให้เกิด เพราะว่าสิ่งที่ทำนี้เป็นความภาคภูมิใจของชาวทองผาภูมิรวมกันว่า เรามีพระพุทธรูป ภปร. องค์ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วยังได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ว่า พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์ ซึ่งพระพุทธรูป ภปร. ทั่วประเทศไทยนั้น อย่างเก่งก็หน้าตักประมาณ ๙ นิ้ว แต่ว่าชาวทองผาภูมิของเรามีพระพุทธรูป ภปร. หน้าตักกว้างถึง ๙ เมตร ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดขึ้นในโลก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2022 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-07-2022, 23:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,095 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีเรื่องเล่ากันเป็นตำนาน ซึ่งชาวทองผาภูมิจดจำขึ้นใจโดยเฉพาะรุ่นเก่า ๆ ที่ผ่านมา เนื่องจากว่าหลวงพ่ออาบ ปคุโณ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสาย วัดท่าขนุนนั้น ท่านได้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ไว้หน้าวัดทองผาภูมิ ต้องขอกล่าวย้อนหลังไปว่าวัดทองผาภูมินั้น โยมแป้น (นางปรียา สิทธิสร) เป็นผู้ถวายพื้นที่ให้กับหลวงพ่อสาย วัดท่าขนุน เพื่อสร้างวัดใหม่ไว้ใจกลางชุมชน

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าวัดท่าขนุนนั้น แม้ว่าจะเป็นวัดสำคัญประจำอำเภอทองผาภูมิก็ตาม แต่ว่าชาวบ้านต้องลำบากในการข้ามน้ำ เพื่อที่จะมาทำบุญที่วัดท่าขนุน จึงมีผู้ที่เห็นว่าควรจะมีวัดประจำชุมชนเอาไว้ตรงกึ่งกลาง ไม่ต้องอ้อมโลกไปยังวัดท่าขนุน หรือไม่ต้องข้ามน้ำไปยังวัดท่าขนุน

ดังนั้น...โยมแป้น
(นางปรียา สิทธิสร) ซึ่งเป็นคหปตานีสำคัญของอำเภอทองผาภูมิยุคนั้น จึงได้ถวายพื้นที่ให้หลวงพ่อสาย วัดท่าขนุน ซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภออยู่ในขณะนั้น ได้สร้างเป็นวัดทองผาภูมิขึ้นมา และได้มอบให้ลูกศิษย์องค์สำคัญคือหลวงพ่ออาบ ปคุโณ ที่ภายหลังได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นพระครูกาญจนประสิทธิ์ ได้มาครองวัดนี้

ดังนั้น..วัดท่าขนุนกับวัดทองผาภูมิจึงเป็นวัดพี่วัดน้อง หรือว่าเป็นวัดพ่อวัดลูกกันตั้งแต่ดั้งเดิมมา แล้วก็เป็นส่วนที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะในการตั้งศพเพื่อบำเพ็ญกุศล เพราะว่าอยู่เยื้องกับโรงพยาบาลทองผาภูมินิดเดียวเท่านั้น พูดง่าย ๆ ว่าถ้านำศพออกจากโรงพยาบาลข้ามถนนมาก็เข้าวัดได้พอดี จึงทำให้มีความนิยมในการตั้งศพ เพื่อที่จะบำเพ็ญกุศลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แม้ว่าภายหลังพระเดชพระคุณหลวงพ่อสาย หรือว่าพระครูสุวรรณเสลาภรณ์ได้สร้างสะพานแขวนหลวงปู่สาย เพื่อให้ญาติโยมทั้งหลายได้เดินทางมาทำบุญที่วัดท่าขนุนได้สะดวกขึ้น แต่ว่าทุกคนก็ยังสะดวกใจที่จะบำเพ็ญกุศล โดยเฉพาะงานศพกันที่วัดทองผาภูมิมากกว่า ยกเว้นคนรุ่นเก่าจริง ๆ ที่ยึดมั่นถือมั่นกับคำว่า "วัดหลวงพ่อสายของเรา" ก็จะสั่งให้ลูกหลานนำศพมาตั้งเพื่อบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าขนุน ดังนั้น..วัดท่าขนุนจึงนาน ๆ ครั้งที่จะมีงานศพ แต่ว่าวัดทองผาภูมินั้น แทบจะมีงานศพอยู่ทุกวัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2022 เมื่อ 01:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-07-2022, 23:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,095 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประกอบกับว่า ทางราชการสามารถกราบทูลอัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ มาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่เบื้องพระเกตุมาลาองค์หลวงพ่อ ภปร. พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์ด้วย ก็ยิ่งเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของชาวทองผาภูมิ ว่าเรามีพระพุทธรูป ภปร.องค์ใหญ่ที่สุด ซึ่งในหลวง ร.๙ พระราชทานให้เป็นขวัญและกำลังใจแก่ชาวทองผาภูมิทั้งหลายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แม้ว่าภายหลังกระผม/อาตมภาพได้สร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๒๑ ศอกไว้ที่หน้าวัดท่าขนุน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่บุคคลที่เดินทางไปยังสังขละบุรี ที่จะต้องฝ่าฟันเส้นทางทุรกันดาร ประกอบไปด้วยหุบเหวมากมายก็ตาม ชาวบ้านก็ยังคงรักหลวงพ่อ ภปร. ของเขา และทำการเปลี่ยนผ้าถวายให้อยู่ทุกปีเป็นประจำ ก็คือจะเปลี่ยนผ้าในวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘ ของทุกปี

ประกอบกับกระผม/อาตมภาพเอง ปีนี้ไม่ได้ติดภารกิจภายนอก เนื่องจากว่าเป็น "ผู้เสี่ยงสูง" จึงสามารถที่จะมาร่วมงานได้ โดยที่ทางราชการ ตลอดจนกระทั่งประชาชนทุกหมู่ทุกเหล่า และหลวงพ่อพระครูสมุห์ฉันธ์ วรปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิ ก็มีความยินดีที่
กระผม/อาตมภาพได้มาร่วมงานด้วยกัน

แม้จะบอกกับทุกคนว่าเป็นผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ทุกคนก็รายล้อมเป็นไข่แดงไม่ยอมให้ไปไหนอยู่ดี ดังนั้น...ถ้าหากว่ามี "คลัสเตอร์" ใหญ่จากการแห่ผ้าถวายหลวงพ่อ ภปร. พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์ ก็ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าเกิดจากฝีมือของกระผม/อาตมภาพเอง..!

อีกส่วนหนึ่งก็คือ หลังจากนั้นในช่วงบ่าย
กระผม/อาตมภาพได้ไปเข้าร่วมการพิจารณาโครงการต่าง ๆ ตามแผนพัฒนาท้องถิ่นของทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ซึ่งท่านนายกเทศมนตรี ก็คือนายประเทศ บุญยงค์ ได้นิมนต์และเชิญผู้ร่วมงานทุกคนมาร่วมกันพิจารณาดูว่า โครงการนั้น ๆ เป็นประโยชน์แก่ชุมชนในพื้นที่อย่างแท้จริงหรือไม่ ? และขณะเดียวกันก็คือมีการใช้งบประมาณอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2022 เมื่อ 05:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 06-07-2022, 23:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,095 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าที่ประชุมมีการคัดค้าน ก็จะได้ถอนโครงการนั้นออกจากแผนพัฒนาของเทศบาลตำบลทองผาภูมิ แต่ถ้าหากว่าไม่คัดค้าน ก็จะนำเข้าสู่แผนพัฒนาประจำปี ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐ ซึ่งต้องเสนอต่อทางด้านสำนักงบประมาณแผ่นดิน ในการใช้งบประมาณประจำปีนั้น ๆ

กระผม/อาตมภาพเมื่อพิจารณาดูความสอดคล้อง ระหว่างวัตถุประสงค์และผลที่คาดว่าจะได้รับของแต่ละโครงการแล้ว ก็ได้ทักท้วงว่า ในส่วนของโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยของทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ซึ่งตั้งเป็นงบประมาณผูกพันเอาไว้ปีละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท เป็นระยะเวลา ๕ ปีต่อเนื่องกันนั้น เป็นจำนวนเงินที่น้อยไปนิดหนึ่ง

เหตุเพราะว่าการที่เราจะใช้งบประมาณได้นั้น ก็ต่อเมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยขึ้น อย่างเช่นว่า น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือว่าเขื่อนแตก เป็นต้น แต่ว่าจากปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ร่วมกันไปช่วยเหลือบ้านที่ถูกไฟไหม้ จะเห็นว่าทางด้านสำนักงบประมาณนั้นได้จำกัดยอดเอาไว้ว่า ช่วยเหลือได้ไม่เกินบ้านละ ๔๖,๐๐๐ บาท แล้วถ้าหากว่าปีนั้นเกิดไฟไหม้
ขึ้นมาสัก ๓ หลัง งบประมาณในส่วนนี้ก็ไม่น่าที่จะเพียงพอ

ดังนั้น...เพื่อความไม่ประมาทและความอุ่นใจ ว่าเราไม่ต้องไปควักเอางบสะสมมาใช้งาน เพราะว่างบประมาณสะสมนั้นมีเป้าหมายใหญ่ ที่กระผม/อาตมภาพได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะให้ทางเทศบาลตำบลทองผาภูมินั้น เอามาใช้ในการนำสายไฟลงสู่ใต้ดิน ซึ่งเป็นโครงการใหญ่โตมโหฬารมาก งบประมาณที่มีอยู่ไม่น่าจะเพียงพอ จึงขอให้ทางเทศบาลตำบลเพิ่มงบประมาณช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยขึ้นมา จนกระทั่งในที่ประชุมตกลงกันว่า ตั้งงบประมาณเอาไว้ปีละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท

แล้วขณะเดียวกัน ก็จะนำเอาเรื่องของการนำสายไฟทั้งหมดลงสู่ใต้ดิน เพื่อภูมิทัศน์อันงดงามของทองผาภูมิของเรา จะได้ไม่มีอะไรมาเกะกะต่อสายตา เข้าสู่โครงการ เพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณผูกพันกันต่อไป

ดังนั้น...แม้ว่าจะเป็นผู้เสี่ยงสูง โดนกักตัวอยู่ก็ดี แต่ว่างานที่รับปากทางเจ้าภาพเขาเอาไว้แล้วทั้ง ๒ งาน กระผม/อาตมภาพก็ต้องไปร่วมงานด้วยความระมัดระวัง และในการแห่ผ้านั้น กระผม/อาตมภาพได้เดินจากหน้าหลวงพ่อ ภปร. ลงไปจนถึงกระทั่งบริเวณด้านหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อที่จะถ่ายรูปขบวนแห่ แล้วเดินกลับจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวขึ้นมายังหลวงพ่อ ภปร.อีกครั้งหนึ่ง

ระยะทางก็ประมาณ ๒ กิโลเมตร ไปกลับอยู่ที่ ๔ กิโลเมตร ยังรู้สึกว่าสบายดี ไม่มีอะไรผิดปกติ น่าจะอยู่ที่ว่าไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แต่อย่างใด แต่เพื่อความไม่ประมาทก็ยังคงจะกักตัวอยู่ จนกว่าจะครบตามเวลาที่ทางคณะ อสม.ตำบลท่าขนุนได้แนะนำเอาไว้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสงฆ์สามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-07-2022 เมื่อ 00:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:39



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว