กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 02-07-2022, 17:06
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,531
ได้ให้อนุโมทนา: 215,928
ได้รับอนุโมทนา 737,102 ครั้ง ใน 35,906 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 03-07-2022, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปปลุกเสกวัตถุมงคล ให้กับทางหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ผักไห่ ตำบลผักไห่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เนื่องด้วยไปก่อนเวลา หลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์จึงพาไปพักที่กุฏิของท่านก่อน เมื่อเข้าไปก็ต้องกราบพระประธาน ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติมาในทุกที่ ก็สะดุดตากับพระประธานที่สีแดงอร่าม คล้าย ๆ กับนาก แต่ดูแล้วก็ไม่ใช่นาก จึงได้เรียนถามหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ว่า "ใช่เนื้อเหล็กไหลสุริยันราชาหรือไม่ ?" หลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์บอกว่า "ใช่ครับ ผมใช้เวลาค่อย ๆ สะสมอยู่ถึง ๒ เดือนกว่า จึงสร้างได้ ๑ องค์ ก็เลยเก็บเอาไว้บูชาเอง ถือว่าเป็นการสร้างพระประจำตัวไปด้วย"

คำว่า เหล็กไหลสุริยันราชานั้น เป็นโลหะธาตุศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งผู้ที่ร่ำเรียนวิชาเกี่ยวกับการเรียกเหล็กไหล จะต้องไปทำการเรียกจากสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งสามารถดูออกได้ตามตำราว่า สถานที่นั้นมีเหล็กไหลชนิดนี้หรือไม่ ?

บรรดาเนื้อโลหะเมฆสิทธิ์ เมฆพัตร ชินนพรัตน์ ซึ่งเกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุ ตลอดถึงเหล็กไหลสุริยันราชา จะเป็นโลหะธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว สามารถที่จะแผ่พลังงานออกไปรอบด้านมากน้อยตามแต่ขนาด สามารถที่จะช่วยในการตัดเคราะห์ ตัดกรรม โดยเฉพาะใช้ในการทำน้ำมนต์เพื่อเสริมดวง หรือว่าอธิษฐานรักษาโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดียิ่ง

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าวิชาการเหล่านี้ คนรุ่นใหม่ ๆ ไม่ค่อยได้ศึกษากัน ที่เห็นมีทางด้านหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ก็ดี หลวงพ่อพระครูสมุห์ อภิสิทธิ์ อภิญาโณก็ดี ได้พากเพียรพยายามศึกษาและปริวรรตตำราเก่า ๆ ออกมาเป็นของใหม่ให้คนรุ่นหลังอ่านรู้เรื่อง

แต่คำว่า อ่านรู้เรื่อง ในที่นี้ก็คือต้องอ่านอักขระขอมได้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถที่จะอ่านได้เหมือนเดิม ซึ่งหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ท่านได้นำเอาตำราเก่ามาให้ดูว่า ท่านปริวรรตสำเร็จไปแล้วกี่ส่วน ถ้าหากว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้งใจว่าจะทำถวายกระผม/อาตมภาพด้วยหนึ่งชุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-07-2022 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 03-07-2022, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อสนทนามาถึงตรงนี้ ก็ได้เวลาตามฤกษ์ที่ได้กำหนดไว้ กระผม/อาตมภาพจึงต้องไปทำการบวงสรวงบอกกล่าว เพื่อขออนุญาตในการปลุกเสกวัตถุมงคลในวันนี้ ซึ่งของหลักเลยก็คือโคอุสุภราช หรือที่ชาวบ้านเรียกกันง่าย ๆ ว่า วัวธนู

เมื่อเห็นว่าฤกษ์เป็นวันเสาร์ยังไม่พอ เครื่องบวงสรวงทั้งหมดยังประกอบไปด้วยสีแดงเป็นหลัก ก็รู้ว่าหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ท่านเอาแน่งานนี้ เพราะท่านบอกว่า คราวที่แล้วเมื่อสร้างวัวธนูไป ได้เงินมาก้อนหนึ่ง สามารถถมที่ในบริเวณวัดได้อย่างที่ต้องการ

"สำหรับวัวธนูรุ่นนี้ ขออนุญาตหลวงพ่อช่วยให้ผมได้สร้างกำแพงวัดหน่อยครับ"
เพราะว่าวัดโพธิ์ผักไห่นั้น ตลอดระยะเวลาสองสามร้อยปีที่ผ่านมาไม่เคยมีรั้ววัด ทำให้พื้นที่บางส่วนมีชาวบ้านบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์อยู่ ถ้าหากว่าจะขับไล่กันก็จะเสียน้ำใจ แต่ถ้าหากว่าสร้างรั้วเมื่อไร เขารู้ตัวว่าอยู่ในเขตวัด ถ้าไม่ย้ายออกไปเอง ก็จะต้องมาจ่ายค่าเช่าให้กับวัด ถือว่าเป็นการจัดการที่นุ่มนวลกว่า

กระผม/อาตมภาพรับฟังแล้ว เมื่อเข้าวิหารไปเพื่อทำการปลุกเสกวัตถุมงคล นอกจากระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า พรหม เทวดา และครูบาอาจารย์ทั้งหมดแล้ว ก็ยังสงสัยว่าโคอุสุภราช หรือว่าวัวธนูนั้นมีที่มาอย่างไร ?

กระผม/อาตมภาพทราบแค่ว่า หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทองสร้างวัวธนูจนกระทั่งติดอันดับ ๙ เครื่องรางสะท้านแผ่นดิน ส่วนทางด้านภาคเหนือ ก็มีหลวงปู่ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ ท่านได้สร้างวัวธนูเอาไว้และมีชื่อเสียงมาก เป็นตำราคล้ายคลึงกับตำราของหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง

ส่วนครูบาอาจารย์ที่กระผม/อาตมภาพทันอย่างแน่นอน ก็คือหลวงปู่คำแสน วัดดอนมูล ซึ่งท่านได้สร้างวัวธนูเอาไว้ และมีชื่อเสียงมาก ๆ เพราะว่าหลายคนที่อาราธนาวัวธนูของท่านไป สามารถที่จะเห็นวัวนั้นออกมาเดินป้องกันรอบบ้านให้ด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-07-2022 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 03-07-2022, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อระลึกมาจนถึงตรงนี้ ก็เห็นพญาโคอุสุภราชขยายจนกระทั่งใหญ่เต็มวิหารที่ทำพิธี ลืมบอกกล่าวกับทุกท่านไปว่า หลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์เห็นว่าวัตถุมงคลในวันนี้ ไม่ใช่วัตถุมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จึงไม่ทำในโบสถ์ แต่ย้ายมาทำที่วิหารข้างโบสถ์แทน ก็ต้องบอกว่าเป็นการจัดลำดับได้ถูกต้อง และเป็นการเคารพในคุณพระรัตนตรัยที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง

พญาโคอุสุภราชที่ขยายโตเต็มวิหารนั้นมีท่านปู่พระอินทร์นั่งบนหลังมาด้วย จึงได้กราบเรียนถามท่านปู่พระอินทร์ว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร ?

ท่านบอกว่าวิชาการนี้มาจากทางสายพราหมณ์ ซึ่งนับถือพระอิศวร และพระอิศวรนั้นทรงโคนนทิหรือที่เรียกว่าโคอุสุภราช ทำให้เมื่อบรรดาพราหมณาจารย์ทั้งหลาย ศึกษาวิชาการเพิ่มเติมขึ้นมาจากไตรเพท หรือว่าไตรเวท ซึ่งประกอบไปด้วยตำรา ๓ เล่มก็คือยชุรเวท ฤคเวท และสามเวทแล้ว ก็ยังได้สร้างตำราเล่มที่ ๔ ขึ้นมา เรียกว่าอาถรรพเวท ประกอบไปด้วยเรื่องของไสยศาสตร์เวทมนตร์ต่าง ๆ ซึ่งบรรดาครูบาอาจารย์รุ่นเก่า ๆ เห็นว่าเป็นเครื่องถ่วงให้เนิ่นช้า

แต่ครูบาอาจารย์รุ่นหลังเห็นว่าเป็นเรื่องที่สามารถสงเคราะห์ญาติโยม ลูกศิษย์ลูกหาได้ดี จึงได้บันทึกวิชาการเหล่านี้เอาไว้ มาตอนหลังก็ขยายกลายเป็นวิชาการพุทธตันตระ ซึ่งไปโด่งดังทางด้านทิเบต จนกระทั่งมาภายหลัง พราหมณ์ส่วนหนึ่งที่ศึกษาแล้ว ได้เดินทางมายังสุวรรณภูมิของเรา และนำเอาวิชาการเหล่านี้เข้ามาด้วย ดังนั้น...จึงได้มีการปรับจนกระทั่งกลายเป็นวิชาการสร้างวัวธนูตามแบบที่ทุกคนเห็นอยู่


แล้วพระอิศวรนั้นก็เป็นตำแหน่งหนึ่งของท่านปู่พระอินทร์ เนื่องจากว่าท่านเป็นเทวดาที่มีศักดานุภาพ และตำแหน่งหน้าที่ใกล้เคียงกับพระอิศวรของทางฮินดูมากที่สุด จึงต้องรับหน้าที่นี้ไปโดยปริยาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-07-2022 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 03-07-2022, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านปู่พระอินทร์แนะนำว่า ถ้าหากว่าเราท่านทั้งหลายจะบูชาวัวธนูนั้น ให้รำลึกถึงพระโพธิสัตว์สมัยที่เสวยชาติเป็นวัว อย่างเช่นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่เสวยพระชาติเป็นโคอุสุภราช ชื่อว่าโคนันทวิศาล เป็นต้น กำลังใจของเราจะได้เกาะว่า สิ่งนี้ในอดีตเป็นชาติหนึ่งขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เป็นการดึงให้ทุกอย่างใกล้เคียงเข้ามากับพุทธศาสตร์ แทนที่จะเป็นไสยศาสตร์ล้วน ๆ

หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ต้องใช้ระยะเวลานานมาก ในการที่จะตั้งธาตุ ปลุกธาตุ หนุนธาตุ ลงอาการ ๓๒ แล้วท้ายที่สุด เมื่อเสร็จพิธีแล้วก็ยังต้องมีการเจิมอีกต่างหาก แล้วหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ ได้ประกาศต่อหน้าพระประธานเป็นภาษาบาลีว่า "สุณาตุ เม ภันเตฯ" เป็นต้น ซึ่งแปลเป็นไทยใจความประมาณว่า ทางวัดได้สร้างวัวธนูนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชนหมู่มาก บัดนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยลงมาตามตำราแล้ว ท่านใดก็ตาม ถ้าหากว่านำไปใช้ ไม่อยากภาวนาคาถายาว ๆ ก็ให้ใช้คาถาว่า โคโน มหาโคโน สิทธิสวาหะ เอาแค่สั้น ๆ นี้ก็ได้

อย่าลืมคำแนะนำของท่านปู่พระอินทร์ก็คือ ให้ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสวยพระชาติเป็นโคอุสุภราช แล้วอธิษฐานให้ป้องกันสถานที่หรือว่าตัวเราตามอัธยาศัย

หลังจากที่กระผม/อาตมภาพฉันเพลแล้ว ก็ได้เดินทางไปยังวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เพื่อกราบสักการะพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเคารพนับถือกันมานาน ไปอยู่ ไปคุย เป็นกำลังใจให้แก่ผู้ชรา จนกระทั่งใกล้เวลา ก็เดินทางไปยังศาลหลักเมืองสุพรรณบุรี เพื่อที่จะร่วมปลุกเสกรูปเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี

เมื่อไปถึง บรรดาพระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ ตลอดจนกระทั่งพระที่จะเจริญชัยมงคลคาถามากันเกือบจะพร้อมแล้ว แต่ว่าของกระผม/อาตมภาพนั้น ทางเจ้าภาพนิมนต์เป็นพิเศษ ก็คือเห็นว่ากระผม/อาตมภาพมีเวลาน้อย จึงให้เข้าไปเจริญจิตภาวนา อธิษฐาน ปลุกเสกให้เลย เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงได้ขอตัวกับเพื่อนสหธรรมิก หลวงปู่ หลวงพ่อ บรรดาพระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ เข้าไปทำการอธิษฐานจิตปลุกเสกก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-07-2022 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 03-07-2022, 01:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทันทีที่หลับตาลง ก็เห็นท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณยืนประจำการอยู่ทางด้านทิศเหนือ ท่านปู่ท้าววิรุฬหกบอกว่า "เจ้าพ่อหลักเมืองที่นี่เป็นลูกน้องของผมเองครับ" แล้วท่านเจ้าพ่อหลักเมืองก็ปรากฏตัวออกมาในชุดเทวดา ล่ำสัน ทะมัดทะแมง บอกว่า "กระผมชื่อว่ากีรติเทพครับ แต่ว่าคนส่วนใหญ่เรียกว่าเจ้าพ่อหลักเมือง กระผมก็ต้อง "เจ้าพ่อหลักเมือง" ตามเขาไปด้วย"

กระผม/อาตมภาพจึงได้บอกกับท่านว่า "ในเมื่อท่านมาเองแล้ว ก็ช่วยเสกรูปของท่านเองด้วย" ท่านก็บอกว่า "ถ้าให้เสกนั้น กำลังของผมน้อย ต้องขอท่านท้าววิรุฬหก ผู้เป็นเจ้านายโดยตรง และท่านท้าวเวสสุวรรณ ผู้เป็นเจ้านายใหญ่ให้ช่วยเมตตาสงเคราะห์ด้วย" ทั้งสองท่านก็ได้เรียนให้กระผม/อาตมภาพว่า ขอให้กระผม/อาตมภาพช่วยกราบขอบารมีคุณพระศรีรัตนตรัยให้ก่อน แล้วทั้งสองท่านก็จะอาศัยกำลังตรงนี้ในการปลุกเสกต่อไป

เมื่อเสร็จพิธี พรมน้ำมนต์ยังไม่ทันจะครบรอบ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ
ท่านเจ้าคุณสมชาย หรือพระราชพัฒนากร (สมชาย ฉนฺทสโร) เจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม ก็เข้ามาถึงพอดี ได้ทักทายกันด้วยความคุ้นเคยจาก ที่ออกงานพุทธาภิเษกกันมาแทบจะนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

ท่านยังได้ถามว่า "งานปฏิบัติธรรมของคณะพระวิปัสสนาจารย์ ๖๔ นั้น มีเจ้าภาพถวายภัตตาหารแล้วหรือยัง ?"
กระผม/อาตมภาพได้กราบเรียนถวายท่านว่า "มีครบถ้วนสมบูรณ์แล้วครับ" ท่านก็ยังทำหน้าเสียดาย ประมาณว่าเสียโอกาสที่จะได้ร่วมบุญไป

เมื่อกระผม/อาตมภาพออกมารับปัจจัยไทยธรรมเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ได้เดินทางออกมา ขณะที่มีข่าวว่า พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ท่านกำลังจะเดินทางเข้าไปเป็นประธาน แต่ว่ากระผม/อาตมภาพในฐานะผู้ที่มากด้วยภารกิจ ไม่มีโอกาสที่จะได้กราบท่านเป็นทางการ เพราะว่าเดินทางออกมาก่อนเสียแล้ว

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวประสบการณ์ที่ได้พบเห็นในวันนี้ให้ทราบแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-07-2022 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:27



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว