กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 30-06-2022, 17:21
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,532
ได้ให้อนุโมทนา: 216,107
ได้รับอนุโมทนา 737,096 ครั้ง ใน 35,914 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 01-07-2022, 00:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปยังวัดถ้ำแก้ว ตำบลโพไร่หวาน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพนายจิตต์ ขำทวี ซึ่งเป็นโยมพ่อของพระครูปภากรวชิรกิจ หรือว่าหลวงพ่ออำนวย ปภากโร เจ้าคณะตำบลโพไร่หวาน เจ้าอาวาสวัดถ้ำแก้ว ซึ่งเป็นเพื่อนพระอุปัชฌาย์รุ่นเดียวกัน

คำว่า เพื่อนพระอุปัชฌาย์รุ่นเดียวกัน ในที่นี้ เกิดจากการที่รุ่นของกระผม/อาตมภาพนั้น เมื่ออบรมพระอุปัชฌาย์กันแล้ว ในส่วนของผู้ที่มาจากคณะสงฆ์หนกลาง ก็ได้รวมตัวกันปฏิบัติธรรมอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมโมลี ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และได้ปรึกษาหารือกันว่า

ในเมื่อพวกเราเป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าคณะปกครองที่มีความสำคัญที่สุด เพราะว่าเป็นผู้ที่ให้การบวชกุลบุตร ก็ควรที่จะจับกลุ่มกันก่อตั้งเป็นองค์กรขึ้นมา เมื่อถึงเวลามีอะไรก็จะได้ช่วยเหลือกัน ในขณะเดียวกันจะได้ทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกัน ในนามขององค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นนี้ จึงได้จัดตั้งองค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางขึ้นมา

ในรุ่นนี้มีบรรดาเจ้าคุณระดับรองเจ้าคณะภาคบ้าง เจ้าคุณเจ้าอาวาสพระอารามหลวงบ้าง ๗ - ๘ รูปด้วยกัน ในที่ประชุมได้มีการเสนอชื่อบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ประธานรุ่น และรองประธานรุ่นอีก ๒ รูป มีผู้เสนอชื่อของท่านเจ้าคุณชำนาญ วัดชินวราราม หรือถ้าหากว่าในนามที่คนทั่วไปรู้จักคือ หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง ซึ่งท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระมงคลวโรปการ แล้วให้ไปครองวัดชินวราราม (พระอารามหลวง) มีผู้ยกมือสนับสนุนประมาณห้าหกสิบรูป

อีกฝ่ายหนึ่งเสนอชื่อพระครูโสภิตปัญญากร (เชาวลิตร ชิตงฺกุโร) เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง ซึ่งก็มีผู้ยกมือสนับสนุนสี่ห้าสิบรูป แล้วก็มีผู้กล้าหาญเสนอชื่อ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๒ เข้าไปชิงตำแหน่งด้วย ซึ่งมีผู้เสนอเพียงรูปเดียวและไม่มีใครยกมือสนับสนุนเลย..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทางที่ประชุมพระอุปัชฌาย์ทุกรูปได้ลงความเห็นว่า ให้ทั้ง ๓ รูปไปตกลงกันเองว่า ให้รูปใดรูปหนึ่งทำหน้าที่ประธาน อีก ๒ รูปให้ทำหน้ารองประธานรูปที่ ๑ และรองประธานรูปที่ ๒ กันเอาเอง เมื่อเข้าไปปรึกษาหารือกันภายในห้องซึ่งจัดเอาไว้ต่างหากสำหรับทั้ง ๓ รูป ก็คือท่านเจ้าคุณชำนาญ หลวงพ่อเชาวลิตร วัดป่าประดู่ และตัวกระผม/อาตมภาพเอง

หลวงพ่อเชาวลิตรกล่าวว่า "กระผมจะสละสิทธิ์ของตนเอง ยกตำแหน่งให้กับหลวงพ่อพระครูสุธีปริยัตยาภรณ์ (สมพงค์ อุทโย ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสวัดชุมพลนิกายาราม พระอารามหลวง เจ้าคณะอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ท่านรับตำแหน่งแทน" ปรากฏว่าหลวงพ่อชำนาญจับมือหลวงพ่อวัดป่าประดู่แล้วกล่าวว่า "ถ้าหากว่าไม่ใช่หลวงพ่อเล็กเป็นประธานรุ่น ผมไม่ยอมรับ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2022 เมื่อ 01:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 01-07-2022, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น หลวงพ่อวัดป่าประดู่จึงจำเป็นต้องโอนอ่อนผ่อนตาม ยกตำแหน่งประธานรุ่นให้กับกระผม/อาตมภาพแบบงง ๆ ด้วยกันทั้งคู่..! แล้วหลวงพ่อชำนาญกับหลวงพ่อวัดป่าประดู่ ก็รับหน้าที่รองประธานรูปที่ ๑ และรูปที่ ๒ ตามลำดับ

เมื่อกระผม/อาตมภาพออกมาแจ้งต่อที่ประชุมข้างนอก ทุกคนก็มึนกันไปหมด ยกเว้นพระปลัดธวัช สุทฺธจิตฺโต เจ้าคณะตำบลห้วยกระเจา เจ้าอาวาสวัดสวนมะม่วง ซึ่งบังอาจเสนอชื่อกระผม/อาตมภาพไปโดยที่ไม่มีใครสนับสนุนเลย ท่านมากระซิบบอกว่า "ผมยอมรับหลวงพ่อเล็กแล้ว เพราะว่าผมตั้งใจอธิษฐานต่อพระประธานว่า ถ้าหากหลวงพ่อเล็กมีบารมีมากจริง ๆ ท่านต้องได้เป็นประธานพระอุปัชฌาย์รุ่นนี้"
กระผม/อาตมภาพแทบจะถวายบาทาเป็นรางวัลให้กับท่านไป..! เพราะว่าอยู่ ๆ ก็มอบหมายหน้าที่การงานที่หนักหนาสาหัสให้อีกงานหนึ่ง แต่ในเมื่อรับหน้าที่มาแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด จึงได้ทำการบริหารองค์กรพระอุปัชฌาย์มาจนกระทั่งหมดวาระแล้วมีการเลือกตั้งกันใหม่

คราวนี้ได้รับการรับรองจากที่ประชุมอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้กระผม/อาตมภาพดำรงตำแหน่งประธานรุ่นเป็นวาระที่ ๒ เป็นระยะเวลา ๕ ปี แต่กระผม/อาตมภาพเองกล่าวว่า "การดำรงตำแหน่งวาระ ๕ ปีนั้นนานเกินไป เราควรที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันบริหารองค์กรของเรา เพื่อจะได้เห็นฝืมือของพรรคพวกเพื่อนฝูงบ้าง กระผม/อาตมภาพเอง ก็ยินดีที่จะสนับสนุนเพื่อนฝูงท่านที่ทำหน้าที่ตรงนี้อย่างเต็มที่เหมือนเดิม" จึงได้พร้อมใจกันตกลงว่า พวกเราจะรับตำแหน่งกันวาระละ ๓ ปี

แต่ว่ากระผม/อาตมภาพรับตำแหน่งมา ๒ วาระ รวม ๖ ปีแล้ว ยังไม่สามารถที่จะสรรหาประธานองค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางรูปต่อไปได้ เนื่องจากว่าช่วงที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ทำให้ไม่สะดวกต่อการประชุมพร้อมหน้าพร้อมตากัน นอกจากกิจการงานบางอย่าง อย่างเช่นว่าไปร่วมงานศพ หรือว่าไปทำกิจกรรมสาธารณะ ซึ่งไปกันครั้งละประมาณ ๑๐ กว่ารูปเท่านั้น ไม่ได้มากมายถึงขนาดรวมหมดทั้งรุ่น ๘๒ รูป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2022 เมื่อ 01:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 01-07-2022, 01:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..จึงได้เลื่อนการเลือกประธานองค์กรพระอุปัชฌาย์วาระที่ ๓ ออกไปเป็นปลายเดือนนี้ แปลว่ากระผม/อาตมภาพขณะนี้ นั่งเก้าอี้รักษาการอยู่ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๕ ไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ ถึงจะได้รู้ว่าผู้ใดจะมาเป็นประธานองค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นนี้แทน

คราวนี้ในนามขององค์กระพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางนั้น กล่าวได้ว่าเป็นองค์กรที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สมัยที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ อุปสมมหาเถร (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ. ๙, Ph.D.) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชยญาติการาม ยังดำรงชีวิตอยู่ ท่านได้ให้คำชมเชยเป็นอย่างสูง เมื่อเห็นเราไปช่วยเหลือพระอุปัชฌาย์รุ่นน้อง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานอบรม งานปฏิบัติธรรม หรือว่างานสาธารณประโยชน์ ถึงขนาดออกปากในที่ประชุมว่า "พระอุปัชฌาย์รุ่นอื่น ๆ ควรที่จะทำแบบนี้" ซึ่งก็มีผู้สนองเจตนารมณ์ แต่..ไปไม่รอด ตั้งองค์กรรุ่นของตนขึ้นมา แล้วก็หายไปเป็นคลื่นกระทบฝั่ง

พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน ป.ธ. ๙) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๕ ประธานในการฝึกอบรมพระอุปัชฌาย์ของมหาคณิสสร ท่านได้กล่าวชมเชยทุกครั้ง เพราะว่าพวกเราไปแสดงตนสนับสนุนงานอบรมพระอุปัชฌาย์รุ่นน้อง ๆ เป็นประจำ

ถ้าหากว่าพระอุปัชฌาย์อาจารย์ร่วมรุ่นมรณภาพ พวกเราก็จะไปช่วยงานศพ ซึ่งจะมีการกำหนดอัตราแน่นอนว่าจะต้องทำพวงหรีดในราคาเท่าไร ? จะต้องช่วยเหลืองานในจำนวนเท่าใด ? ถ้าหากว่าเป็นพ่อแม่ของพระอุปัชฌาย์ร่วมรุ่นเสียชีวิตลง ก็จะไปทำในลักษณะเดียวกัน

ดังนั้น...วันนี้ที่ไปร่วมงานของนายจิตต์ ขำทวี ซึ่งเป็นโยมพ่อของพระครูปภากรวชิรกิจ เจ้าอาวาสวัดถ้ำแก้ว เจ้าคณะตำบลโพไร่หวาน ก็ได้ทำหน้าที่ตามที่ตกลงกันแบบนี้ ซึ่งทุกคนบอกว่าซาบซึ้งมาก เพราะว่าท่านประธานเดินทางมา ๔ ชั่วโมงกว่าที่จะมาถึงหน้างาน..!

ขณะเดียวกันท่านอื่น ๆ ซึ่งว่างเว้นจากภารกิจ หลายต่อหลายท่านก็เดินทางมาร่วมงาน อย่างเช่นพระเดชพระคุณพระภาวนาวิหารกิจ วิ. (ทองย้อย สญฺญโม) หรือหลวงพ่อทองย้อย เจ้าอาวาสวัดเขาวัง (พระอารามหลวง) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี

หลวงพ่อเจ้าคุณท่านเองมีนัดกับหมอเพื่อตรวจสุขภาพในวันนี้ พอได้รับข่าวว่าพวกเราจะมางานนี้ก็ขอเลื่อนนัดหมอ พาลูกศิษย์ก็คือพระมหาพงศ์ศิริ ปญฺญาวชิโร ป.ธ. ๙ เลขานุการคู่บุญของท่านมาด้วย ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้นึกว่าเป็นคนอื่นไกล เพราะว่าพระมหาพงศ์ศิรินั้น ท่านร่วมงานกับองค์กรพระอุปัชฌาย์มาตั้งแต่แรกเริ่ม ท่านเป็นผู้ที่สอบบาลีได้เปรียญธรรม ๙ ประโยคมา แบบที่ครูบาอาจารย์ทุกท่านทึ่งเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าได้คะแนนเต็มร้อย ไม่โดนเก็บเลยแม้แต่ที่เดียว..! ได้รับคำชมเชยจากที่ประชุมตรวจข้อสอบและสถานที่ซึ่งประกาศผลสอบเปรียญธรรม ๙ ประโยคในปีนั้นเป็นอย่างสูง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2022 เมื่อ 01:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 01-07-2022, 01:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อพระสมุห์เจิม ฉนฺทโก เดินทางมาไกลจากวัดสิงห์ จังหวัดนนทบุรี ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสิงห์ เจ้าคณะตำบลบางคูเวียง

หลวงพ่อพระครูศรีธรรมรัตน์ (ชำนาญ รตนธมฺโม ป.ธ.๖) เดินทางมากจากวัดไร่ดอน จังหวัดเพชรบุรี แม้ว่าจะไม่ไกลจากวัดของท่าน แต่ก็เป็นน้ำใจของท่านที่มีต่อพระอุปัชฌาย์รุ่น ไม่ว่าจะไปใกล้ไกลแค่ไหน หลวงพ่อพระครูไม่เคยขาด และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือขนมหวานมีชื่อของจังหวัดเพชรบุรี ที่ท่านนำไปฝากเพื่อนร่วมรุ่นอยู่เสมอ ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ดอน เจ้าคณะตำบลไร่ส้ม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี

อีกท่านหนึ่งคือพระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. (กล้า วีรรตโน) หรือว่าพระครูกล้า เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรมหาวิหาร รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี ท่านเป็นเลขานุการรุ่น ส่วนท่านพระครูปภากรวชิรกิจ หรือหลวงพ่ออำนวยนั้น ท่านเป็นผู้ช่วยเลขานุการรุ่น

เมื่อเดินทางมาร่วมงาน ก็ทำให้ทุกคนปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง ที่พวกเรายังรักใคร่กันดี ท่านที่ว่างเว้นภารกิจ ทราบข่าวก็รีบมาตั้งแต่วันแรก ส่วนท่านที่ยังไม่ว่างเว้นภารกิจ ก็ยังมีวันต่อ ๆ ไปที่จะมาร่วมงานกัน

ตรงนี้ต้องขอบอกว่า ในเรื่องของการจัดตั้งองค์กรก็ดี ในเรื่องของการบริหารหน่วยงานก็ดี จนถึงเรื่องของการบริหารประเทศชาติก็ดี แม้ว่าจะมีระเบียบปฏิบัติที่เข้มงวดขนาดไหนก็ตาม ถ้าไม่มีหลักธรรมเข้ามาประกอบ ก็ไม่สามารถที่จะพาองค์กรให้อยู่รอดได้

ดังนั้น...เราจะเห็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ไม่เคยที่จะสรรเสริญว่าระบอบการปกครองแบบไหนดี แต่พระองค์ท่านจะทรงประทานหลักธรรมเอาไว้ประกอบเสมอ

อย่างเช่นว่า ถ้าเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มีพระราชาเป็นประมุข พระองค์ท่านก็มอบหลักทศพิธราชธรรมให้ไปประกอบ

ถ้าหากว่าปกครองแบบพระเจ้าจักรพรรดิ พระองค์ท่านก็มอบจักรวรรดิวัตรไปให้ประกอบการปกครอง

ถ้าหากว่าปกครองแบบสามัคคีธรรม ซึ่งคล้ายคลึงกับระบอบประชาธิปไตยในปัจจุบัน พระองค์ท่านก็มอบหลักอปริหานิยธรรมทั้ง ๗ ให้ไปประกอบในการปกครอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 01-07-2022 เมื่อ 22:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 01-07-2022, 01:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..เราจะเห็นว่าอัตตาธิปไตย การถือตนเป็นใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี ถ้าเราสังเกตแค่ในประเทศไทยของเรา เอาแค่ยุครัชกาลที่ ๕ นั่นเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นอัตตาธิปไตย ซึ่งปัจจุบันนี้มีคนบางจำพวกบอกว่าเป็นเผด็จการ ซึ่งถ้าหากว่าเราพิจารณาดูแล้ว ในยุคนั้นสมัยนั้น ประเทศไทยของเราเจริญที่สุดในอเชีย เจริญกว่าประเทศญี่ปุ่น ถึงขนาดที่ประเทศญี่ปุ่นต้องส่งช่างมาศึกษาวิชาการในบ้านในเมืองของเราทีเดียว..!

พอมาปัจจุบันเป็นระบอบประชาธิปไตย เราก็จะเห็นว่าเป็นประชาธิปไตยที่ชาวบ้านทั้งหลายแทบจะสาปส่ง เพราะว่าสิ่งที่เป็นความต้องการอย่างแท้จริงของประชาชนไม่ได้รับการตอบสนอง

ดังนั้น..ไม่ว่าจะอัตตาธิปไตย ถือตนเป็นใหญ่ก็ดี โลกาธิปไตย ถือเสียงข้างมากเป็นใหญ่ก็ตาม ก็สู้ธรรมาธิปไตย การถือธรรมเป็นใหญ่ไม่ได้ โดยเฉพาะว่า ถ้าไม่มีหลักธรรมประกอบแล้ว ระบอบต่าง ๆ ไม่มีทางที่จะเป็นไปด้วยดีเลย เพราะว่าบุคคลย่อมมี รัก โลภ โกรธ หลง เป็นปกติ ถ้าหากว่าไม่สามารถควบคุม รัก โลภ โกรธ หลง ให้อยู่ในกรอบได้ ต่อให้ระบอบดีแค่ไหน ก็พาให้พังทลายลงไปในเวลาอันไม่นาน..!

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2022 เมื่อ 01:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว