กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #121  
เก่า 19-05-2019, 21:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ประเทศเราทำพิธีบรมราชาภิเษก ก็คือประกาศการขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการ ส่วนของญี่ปุ่นพระเจ้าจักรพรรดิสละราชสมบัติให้มกุฎราชกุมาร ตอนนี้สมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิอากิฮิโตะก็เลยกลายเป็น...ถ้าประเทศจีนก็คือ ไท่ซ่างหวง กษัตริย์เหนือกษัตริย์ มกุฎราชกุมารนารูฮิโตะเสด็จขึ้นเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เฉลิมรัชสมัยเรวะ รัชสมัยเฮเซจบลงแล้ว

แต่ที่ยอดที่สุดต้องโน่นเลย สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก ของภูฏาน สละราชสมบัติให้สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคอร์เซ นัมเกล วังชุก ตอนที่พระองค์ท่านสละราชสมบัตินั้น พระชนมายุเพิ่งจะ ๕๑ พรรษา แต่เห็นว่ามกุฎราชกุมารจิกมีทำหน้าที่แทนได้อย่างแน่นอนมั่นคงแล้วก็สละเลย ตอนนี้อยู่อย่างมีความสุขมาก ไม่ต้องรับผิดชอบงานอะไรแล้ว ลูกชายขึ้นบริหารเอง เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีแต่เนิ่น ๆ

ปรากฏว่าสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีก็เอาแนวคิดและการกระทำ ก็คือพระราชดำริและสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงปฏิบัติกับประชาชน เอาไปใช้งานจริง ๆ สถานที่ซึ่งไม่เคยย่างเหยียบไปถึง พระองค์ท่านก็เสด็จไป สมเด็จพระราชาธิบดีองค์เดิมกลายเป็นผู้ที่มีความสุขมาก ทิ้งภาระให้ลูกชายรับงานแทนทั้งหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2019 เมื่อ 04:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #122  
เก่า 19-05-2019, 21:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของพระมหากษัตริย์ อย่างน้อยก็ต้องเคยสร้างบารมีในระดับเนกขัมมบารมีอย่างอ่อนมาแล้วถึงจะเป็นได้ ที่แน่ ๆ มาสายพุทธภูมิทั้งนั้น หลายท่านในเรื่องของบารมี ต้องบอกว่าสร้างบารมีมาจนกระทั่งปรากฏอย่างเด่นชัด สมัยอาตมาใหม่ ๆ ๒-๓ พรรษา น้องชายคือพระครูแสงทำงานอยู่ซาอุดิอาระเบีย เขาบอกว่าประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นทะเลทรายแห้งแล้งมาก แต่พอเวลากษัตริย์เสด็จมานี่ฝนตก ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าในเรื่องบารมีของกษัตริย์ที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำของชนหมู่มาก ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องสั่งสมบารมีมาในระดับที่เรียกว่า พรหมเทวดาต้องติดตามอารักขา คอยดูแล คอยจัดการ

อย่างในหลวงรัชกาลที่ ๙ สมัยที่ความแตกแยกทางความคิดระหว่างระบบคอมมิวนิสต์กับเสรีประชาธิปไตย มีคนหวั่นเกรงว่าพระองค์ท่านจะโดนเขาลอบปลงพระชนม์ ท้าวมหาราชทั้ง ๔ โดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณไปยืนยันกับหลวงพ่อวัดท่าซุง บอกว่าพวกท่านเป็นผู้ตามรักษาในหลวงรัชกาลที่ ๙ รับรองว่าจะไม่สวรรคตเพราะเหตุปลงพระชนม์อย่างเด็ดขาด

พระที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านรู้แล้วก็นำมาบอกกล่าวกันได้ ผู้นำในแผ่นดินถ้าหากว่าทรงศีลทรงธรรม ประเทศชาติก็สงบร่มเย็น ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล พืชผลก็สมบูรณ์บริบูรณ์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2019 เมื่อ 04:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #123  
เก่า 19-05-2019, 22:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่ถ้าลูกหลานรู้ว่าอะไรเป็นบุญเป็นกุศล ถึงเวลาคนตายก็สบาย พอตายถวายสังฆทานทันที ต้องบอกว่ารับกันต่อหน้าต่อตา ไม่ทันจะรู้ตัวว่าตายเลย จะโดนบุญทับตายซ้ำอีกทีแล้ว...!

ส่วนท่านที่ไม่รู้จักบุญไม่รู้จักกุศล อย่างสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าต้องแนะนำพระเจ้าพิมพิสารทำพิธีปุพพเปตพลี ก็คือทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลให้กับคนตาย เพราะว่าสมัยนั้นเขามีแต่บูชายัญ มีแต่บวงสรวงเทพเจ้า ปรากฏว่าพอพระพุทธเจ้าแนะนำทำบุญให้แล้ว บอกให้อุทิศส่วนกุศล

พระเจ้าพิมพิสารด้วยความที่นับถือศาสนาพราหมณ์มาก่อน พวกพราหมณ์นี่เวลาให้อะไรใครก็เอาน้ำรดมือคนนั้น เป็นสัญลักษณ์ว่าฉันให้เธอแล้ว คราวนี้ผีก็ไม่ยื่นมือมาให้รด พระเจ้าพิมพิสารก็เอาน้ำรดมือตัวเอง อุทิศส่วนกุศลให้ อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหตุ ญาตะโย ขอผลบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายจงมีความสุข

พวกเราก็ถือรูปแบบตาม ๆ กันมา ก็เอาน้ำรดมือ รดไปรดมาเปียกมือ ขี้เกียจเช็ดก็เหลือแค่นิ้วเดียว ที่เขาเรียกว่ากรวดน้ำ ถ้าจะเอาถูกต้องตามแบบต้องรดใส่ฝ่ามือเลย ระยะหลังนี้พอหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า แค่เราคิดอุทิศให้ก็ได้แล้ว ก็ไม่ต้องเอาน้ำรดมือให้เสียเวลา คนก็เลิกรดไปจำนวนหนึ่ง เพียงแต่ว่าถ้าอยู่ที่ไหนเขายังนิยมรดก็รดตามเขาไปเถอะ อย่าไปขวางเขา เดี๋ยวมีรายการสงสัยแล้วอธิบายไม่ได้ ก็จะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันอีก ไปเถียงชาวบ้านเขานี่เหนื่อย

โบราณเขาบอกว่า ขัดถ้วยขัดจานยังขาวสะอาด ไปขัดคอคนไม่ได้อะไรเลย นอกจากจะโดนด่าเอา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2019 เมื่อ 04:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #124  
เก่า 19-05-2019, 22:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยอยู่วัดท่าซุงมีพระรุ่นน้องชื่อวีรัฐ ไม่รู้ว่าเขียนชื่อผิดหรือเปล่า ? น่าจะชื่อวิรัตน์แล้วนายทะเบียนเขียนผิด วันหนึ่งวีรัฐเดินขากะเผลก หน้าแข้งบวมมาเลย ถามว่าไปโดนอะไรมาวะ ? “เตะโต๊ะครับ” “อ้าว...แล้วเรื่องอะไรไปเตะโต๊ะ?” “นึกจะอยากสึกไปมีเมีย โมโหก็เลยเตะโต๊ะ” พอขาบวมก็ได้สติ เลิกคิดอยากจะสึก

นั่น...โมโหตัวเอง แต่ว่าตอนหลังก็สึกไปจนได้ แสดงว่ากิเลสแรงกว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2019 เมื่อ 04:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #125  
เก่า 20-05-2019, 21:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ของบางอย่างบางเวลาเหมือนอย่างกับคนไม่เห็นคุณค่า พระพุทธเจ้าบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ พิจารณาดูอุปนิสัยสัตว์โลก เกิดความขวนขวายน้อยว่า หลักธรรมที่บรรลุลึกซึ้งเหลือเกิน สอนไปผู้ฟังก็น่าจะไม่เห็นผล ไม่เกิดผล ท้าวสหัมบดีพรหมต้องลงมากราบทูลอาราธนาว่า สัตว์โลกที่ธุลีในดวงตาน้อยนั้นมีอยู่ จักรู้ทั่วถึงธรรมนั้น ขอพระองค์ได้โปรดแสดงธรรมเถิด ที่บาลีเขาว่า พ๎รัห๎มา จะ โลกาธิปะตี สะหัมปะติฯ เป็นต้น

จากที่เมื่อวานได้กล่าวว่าไปงานพุทธาภิเษกมากขึ้นเรื่อย ๆ คนส่วนมากก็คือยึดติดในวัตถุมงคล เมื่อยึดติดในวัตถุมงคลก็ไม่ค่อยจะเอาธรรมะ อีกส่วนหนึ่งก็หลงระเริงอยู่กับอบายมุข ทั้งละเมิดศีล บอกกล่าวไปก็เหมือนกับตักน้ำรดหัวตอ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2019 เมื่อ 08:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #126  
เก่า 20-05-2019, 21:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มีอยู่ปีหนึ่ง นานมากแล้ว นิมิตเห็นคนจำนวนหนึ่งไปเที่ยวชายทะเลที่สวยงามมาก มีแหลมทอดยาวลงไปในทะเล คนก็ไปเดินเล่นกัน ส่วนอาตมามองเห็นแล้วใจหาย เพราะว่าแหลมที่ทอดยาวลงไปในทะเลคือจระเข้ตัวใหญ่มหึมา ใหญ่ขนาดคนเห็นเป็นแหลมที่ทอดลงไปในทะเล ใครเดินเข้าใกล้ปากก็โดนงับไปทีละคน ๆ ที่เหลือก็ยังไม่มีใครรู้ ยังคงเดินใกล้ปากไปเรื่อย

อาตมาตะโกนจนเสียงแหบเสียงแห้งก็ไม่มีใครฟัง เขาว่าทิวทัศน์บริเวณนั้นสวยงามที่สุด น่าถ่ายรูปที่สุด เมื่อเอามาประมวลรวมกันว่าพระพุทธเจ้าเกิดความขวนขวายน้อย ไม่อยากแสดงธรรม ก็เพราะว่าคนส่วนมากไม่สนใจที่จะฟังนั่นเอง

การที่คนส่วนหนึ่งเกาะวัตถุมงคล ซึ่งก็ยังดีกว่าเกาะวัตถุอัปมงคล อย่างน้อย ๆ ก็มีเครื่องยึด ถ้ากำลังใจเขาเข้มแข็งขึ้น ปัญญามีมากขึ้น เขาก็จะรู้ว่าของดีกว่านั้นยังมีอยู่ คือ เรื่องของศีล สมาธิ ปัญญา แล้วก็มาประมวลกับนิมิตหลายปีก่อนที่เห็นคนไปเที่ยวชายทะเล หลงอยู่กับทิวทัศน์อันสวยงาม โดยไม่ได้เห็นว่าจุดที่ตัวเองเดินลงไปเพื่อถ่ายรูปนั้นเป็นจระเข้ที่คอยจับคนกิน

อาตมายังว่าจระเข้ตัวนั้นร้ายกาจมาก หันหลังขึ้นชายหาด ส่วนหัวยื่นออกไปอยู่ในน้ำ ถึงเวลาแล้วมีดิน มีต้นไม้ มีอะไรขึ้น ก็เหมือนอย่างกับเป็นแหลมที่ยื่นลงไปในทะเล"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2019 เมื่อ 08:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #127  
เก่า 20-05-2019, 21:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านกล่าวไว้ว่า ครูบาอาจารย์รุ่นเก่าท่านแยกแยะเอาไว้ว่า

อายุพระพุทธศาสนาพันปีแรก มากด้วยพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
พันปีที่สอง มากด้วยพระอรหันต์อภิญญา ๖
พันปีที่สาม คือช่วงนี้ มากด้วยพระอรหันต์วิชชาสาม
พันปีที่สี่ มากด้วยพระอรหันต์สุกขวิปัสสโก
พันปีที่ห้า จะมากด้วยพระอนาคามี

คำว่ามากด้วย คืออย่างอื่นมีอยู่ แต่มีน้อยกว่า คราวนี้คำว่ามากก็ไม่รู้ว่าจำนวนเท่าไร สามร้อยห้าร้อยถือว่ามากไหม ? ถ้าเปรียบกับประชากรโลกเป็นพัน ๆ ล้านคน สามร้อยห้าร้อยนี่ถ้าถือว่ามากก็เวรกรรมพอดี ก็แปลว่าโลกเดินทางไปข้างเสื่อมอยู่เสมอ คือเป็นสังวัฏฏอสงไขยกัป กัปที่กำลังเสื่อม ของเรานี่มาถึงช่วงปลายแล้วจะเป็นสังวัฏฏัฏฐายีอสงไขยกัป ก็คือกัปที่เสื่อมสนิท"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2019 เมื่อ 08:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #128  
เก่า 20-05-2019, 21:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"คราวนี้เรามาเกิดอยู่ในยุคกัปข้างเสื่อม ก็ต้องบอกว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่ง เพราะว่าเห็นทุกข์ได้ง่าย เพียงแต่ปัญญาจะถึงหรือเปล่า ?

ความทุกข์ทุกประเภทปรากฏให้เห็นชัด ๆ ต่อหน้า เอาแค่ฤดูกาลนี้ ก็ไม่รู้ว่าพายุฤดูร้อนถล่มบ้านไปกี่ร้อยกี่พันหลังแล้ว อยู่ดี ๆ ก็บ้านพัง ต้องสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ถ้าหากว่าไม่มีรายได้ก็ต้องกู้หนี้ยืมสิน หรือรอทางราชการมาช่วยเหลือ บรรดาชาวสวนชาวไร่ก็โดนพายุทำลายพืชผล อย่างทางจันทบุรีนี่ทุเรียนหมดไปทั้งสวนเลยก็มี

หรือถ้าจะเอาใกล้ ๆ อย่างในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พวกเราแค่ไปเฝ้าดูพระราชพิธี ในหลวงทรงมีรับสั่งให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนให้มากที่สุด ถามว่าอำนวยความสะดวกอย่างไรบ้าง ? ที่อยู่ที่กิน ก็แปลว่าเห็นชัด ๆ ถึงความทุกข์ ก็คือความหิวความกระหาย ปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ พวกนี้พอบรรเทาได้

แต่ในพระราชพิธีกินพื้นที่กว้างไกลมาก บรรเทาเรื่องอากาศร้อนไม่ได้ ก็แปลว่าอย่างไรเสียก็ต้องแบกรับความทุกข์ไปส่วนหนึ่ง แต่เนื่องจากว่าความปีติที่จะได้เห็นสิ่งที่เห็นได้ยาก ก็อาจจะทำให้มองข้ามความทุกข์ไป เราจะเห็นว่าไม่ว่าใกล้หรือไกล ความทุกข์อยู่กับเราตลอดเวลา เพียงแต่ว่าจะมีปัญญามองเห็นหรือไม่เท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2019 เมื่อ 08:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #129  
เก่า 20-05-2019, 21:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมเอากล้วยมาถวาย "พอเห็นกล้วยแล้วนึกถึงงานบวงสรวงทำบุญประจำปีวัดพุทธบริษัท ตอนนั้นแม่ชีอุษณีเป็นคนดูแลเรื่องเครื่องบวงสรวง โทรถามอะไรก็เรียบร้อยทุกอย่าง ถึงวันจริงปรากฏว่ากล้วยน้ำว้าดิบ มีไก่ ๓ ตัว หัวหมู ๑ หัว...!

พอพระท่านโทรมาบอก อาตมาก็เตรียมชิ่งแล้ว ถ้าลองว่าจัดแบบนี้ละก็ตัวใครตัวมัน เพราะว่าในส่วนของพระ ของเทวดา เครื่องบวงสรวงท่านบอกมาอย่างไรต้องอย่างนั้น โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า แม่ชีชื่นมาถามว่า "หลวงพ่อ..กล้วยน้ำว้าสุกไม่มี ใช้กล้วยหักมุกแทนได้ไหม ?" บอกว่าแทนได้ แต่ถ้าเอาไปแทน อาตมาก็ไม่ทำบวงสรวงให้หรอก ทำไปเองก็แล้วกัน เพราะว่าของแบบนี้ถึงเวลาคนโดนลงโทษไม่ใช่เขา แต่คืออาตมาเอง

เคยมีเมื่อหลายปีก่อน มีการบวงสรวงใช้หัวหมูเจ แล้วก็ไก่เจ ประเภทต้องบอกว่าหรูดูดีมาก พอถึงเวลาพิธี อาตมาถอยไปยืนข้างหลังเลย ใครจะทำก็ทำไปเถอะ ครูบาเจ้าของงานท่านก็บวงสรวงด้วยความปลื้มอกปลื้มใจ เพราะว่าเครื่องบวงสรวงบริสุทธิ์มาก ไม่มีเนื้อสัตว์เลย ทุกอย่างเป็นเจหมด

ส่วนอาตมาก็เผ่นไปอยู่ไกล ๆ กูไม่เกี่ยว กูไม่รู้จักมึง หลังจากนั้นไม่นาน ลูกศิษย์ก็พาท่านไปเสยกับสิบล้อเกือบตาย เมื่อรักษาตัวหายมา อาตมาก็ไม่ได้บอกหรอกว่าท่านโดนเพราะอะไร ปล่อยท่านต่อไปเผื่อท่านจะบวงสรวงซ้ำอีกสักที เรื่องแบบนี้ถ้าเรารู้แล้วยังไปฝืน ตั้งใจทำ ในเมื่อตั้งใจฝืน ถึงเวลาโดนลงโทษ ก็ไปโทษใครไม่ได้"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2019 เมื่อ 08:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #130  
เก่า 20-05-2019, 21:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาบวงสรวงท่านที่จุดธูปจุดเทียน มีกฎอะไร หรือว่ามีส่วนไหนอะไรพิเศษไหมคะ หรือว่าเวลาแจ็คพ็อตจะโดนมากกว่า ?
ตอบ : คนเชิญจะโดน...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2019 เมื่อ 08:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #131  
เก่า 22-05-2019, 17:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระราชพิธีแต่ละอย่างไม่ใช่ของที่จะได้เห็นกันง่าย ๆ ฉะนั้น..เฝ้าหน้าจอไปเลย ถ้าเฝ้าหน้าจอไม่ได้ก็ไปโหลดจาก YouTube มาเก็บเอาไว้เป็นสมบัติของตัวเอง

ถ้าไม่ได้งานอย่างนี้ เราก็ไม่รู้ใช่ไหมว่า พระมหาสังข์เพชรใหญ่ พระมหาสังข์เพชรน้อย หน้าตาเป็นอย่างไร ? หอยสังข์ที่เขาเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ความจริงเป็นอสูรนะ คราวนี้พออาละวาด พระนารายณ์ก็ตามไปปราบ จับตัวบีบจนเป็นรอยนิ้วมือ เขาก็เลยเชื่อกันว่าขลัง เพราะว่าเป็นรอยนิ้วมือของพระนารายณ์

คราวนี้สังข์ก็ยังมีทักษิณาวรรต..เวียนขวา และมีอุตราวรรต...เวียนซ้าย เวียนซ้ายจะหายากหน่อย ก็พอ ๆ กับเถาวัลย์ ถ้าหากว่าเถาวัลย์โดยปกติก็ขึ้นเวียนขวา ต้นไม่ปกติก็ขึ้นเวียนซ้าย เขาถือเป็นของขลัง ดังนั้น...ถ้าคนไหนติ๊งต๊องก็เป็นคนขลัง..เพราะว่าไม่ปกติ สัตว์หรือต้นไม้ไม่ปกติถือว่าขลัง ถ้าคนไม่ปกติก็ต้องขลังด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2019 เมื่อ 21:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #132  
เก่า 22-05-2019, 17:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ติ๊งต๊องเป็นภาษาจีน ประมาณว่าไม่เต็มบาท ตอนนี้ทั้งพระทั้งเณรวัดท่าขนุนย่ำแย่ไปหมด คงต้องไปให้หมอตรวจสุขภาพจิตเพิ่มขึ้น เพราะว่าระยะนี้ตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถว บิณฑบาตไม่เคยเต็มบาท (บาตร) สักรูป...! รัฐบาลก็ยืนยันว่าเศรษฐกิจดี แต่ว่าชาวบ้านไม่มีจะกิน แทบจะไม่มีใครใส่บาตรกันแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2019 เมื่อ 21:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #133  
เก่า 22-05-2019, 17:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เมื่อวานหมอไปตรวจสุขภาพพระที่วัดท่าขนุน เจ้าอาวาสก็ไม่อยู่ ถ้าอยู่จะให้ตรวจสุขภาพจิตเพิ่มขึ้น เผื่อว่าใครจะมีอาการบ้าง คราวนี้เขามีโครงการหนึ่งตําบลหนึ่งโรงพยาบาล ส่วนใหญ่แล้วก็คือสาธารณสุขตำบลเก่า ที่ได้รับการยกขึ้นเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ตัวย่อคือ รพ.สต. เพื่อที่จะได้ให้มีผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมา มีตำแหน่งหน้าที่เพิ่มขึ้นมา มีงบประมาณเพิ่มขึ้นมา แต่เท่าที่ดู ๆ ผลงานก็ยังห่วยเหมือนเดิม..! อะไร ๆ เพิ่มหมด ยกเว้นผลงานด้านการบริการ

ส่วนใหญ่แล้วเหมือน ๆ กันก็คือ ขาดกำลังใจในการทำงาน ต้องดูตัวอย่างในหลวงรัชกาลที่ ๙ สู้กับความยากจนของชาวบ้านมา ๗๐ ปี สู้ในสงครามที่แทบไม่มีทางเอาชนะ แต่พระองค์ท่านก็สู้มาตลอด จนตอนนี้ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงเป็นที่ยอมรับกันไปทั่วโลก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2019 เมื่อ 21:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #134  
เก่า 22-05-2019, 17:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แล้วอัศจรรย์ที่สุด ประเทศที่นำไปใช้ได้ผลก่อนคือรัสเซีย ประธานาธิบดีปูตินเอ่ยเต็มปากเต็มคำเลยว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๙ บอกให้ทำอย่างนี้ ทำอย่างไรก็ได้ให้ชาวบ้านมีกิน แล้วเขาจะสนับสนุนท่านเอง

จากรัสเซียก่อนหน้านี้เป็นคอมมิวนิสต์ พอเปลี่ยนการปกครองใหม่เรียกว่าระบบเปเรสทรอยกา จำกันได้ไหม ? ก็คือกึ่ง ๆ ทุนนิยม ก็เลยทำให้คนที่เคยทำงานถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง เพราะว่าส่วนกลางต้องเลี้ยงอยู่แล้ว ก็เริ่มมีการแข่งขันกัน พอแข่งขันกัน คนขยัน คนมีความคิด ก็ร่ำรวยขึ้นมา ส่วนคนไม่ขยัน แนวคิดคับแคบ เพราะการศึกษาน้อย ก็ลำบากยากจน

เมื่อประธานาธิบดีปูตินเดินทางมาเยี่ยมประเทศไทย ได้เข้าเฝ้าในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงประทานแนวคิดให้ คือให้เอาหลักการเศรษฐกิจพอเพียงไปให้ชาวบ้านทำ ยังไม่ต้องไปหวังร่ำรวยข้างนอก ให้ชาวบ้านมีกินไว้ก่อน

แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงแก้ไขปัญหาการดำรงชีวิตของชาวรัสเซียได้อย่างถึงรากถึงโคน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2019 เมื่อ 21:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #135  
เก่า 22-05-2019, 17:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ปัจจุบันนี้ต่อให้รัฐบาลของเราอัดเงินลงไปอีกกี่โครงการก็เจ๊งหมด เพราะว่าเหมือนกับไฟไหม้ฟาง ไม่เกิดประโยชน์กับชาวบ้านทั่วไปนอกจากนายทุน ประเภทบัตรคนจนก็เหมือนกัน ไปซื้อของที่ไหน ก็ซื้อของร้านสะดวกซื้อ ที่รวยก็ร้านสะดวกซื้อ ไม่ใช่ชาวบ้าน ก็เท่ากับว่าเอาเงินภาษีชาวบ้านไปใส่กระเป๋าให้นายทุน

สิ่งที่อาตมาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นก็คือ ชาวบ้านที่ไปรับเงินจากบัตรคนจนคนละ ๕๐๐ บาท เบียดกันแน่นไปทั้งธนาคาร ในความรู้สึกของอาตมา ๕๐๐ บาทไม่มาก แต่ในความรู้สึกชาวบ้าน ๕๐๐ บาทมาก ยังดีที่อาตมามีบัตรเบ่งลัดคิวได้ ไม่อย่างนั้นคงได้รอกันเป็นวัน

ตอนนี้ก็รอพระราชพิธีบรมราชาภิเษกต่าง ๆ ผ่านพ้นไป หลังจากนั้นจะได้ทะเลาะเบาะแว้งกันได้เต็มที่เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ตั้งรัฐบาลมาเพื่ออะไร ? เพื่อให้ชาวบ้านสามัคคีกัน เพราะฉะนั้น..ต้องทะเลาะกันก่อน พอข้างบนทะเลาะกันพอแล้ว ข้างล่างจะได้เลิกทะเลาะกัน

ด้วยความที่สายตาคับแคบ แนวคิดคับแคบและจิตใจคับแคบ ทำให้ไม่เอาประโยชน์ส่วนรวมเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ก็ยังคงไปแบ่งสีแบ่งฝ่ายกัน หลายอย่างที่เกิดขึ้นเราก็รู้ว่าไม่ยุติธรรม แต่ว่าหลายอย่างที่ทำไปก็มีทั้งถูกและผิด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2019 เมื่อ 21:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #136  
เก่า 22-05-2019, 17:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อย่างเช่น กกต. แจกใบส้มหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หัวหน้าพรรคก็เอาหลักฐานมาหักล้างว่าโอนหุ้นทันเวลา เป็นต้น แล้วไปขอคำตอบจาก กกต.เดี๋ยวนั้นเลย ว่าแจกใบส้มด้วยสาเหตุอะไร ?

การถามนั้นสามารถทำได้ เป็นสิทธิของคุณ แต่จะเอาคำตอบเดี๋ยวนั้นเลยมีใครตอบคุณได้บ้าง ? อาตมาตอบแทนก็อาจจะตายแทนเขาเลย แล้วคุณคิดว่าบรรดา กกต.หรือหน้าเสื่อที่มารับแทน กกต.จะมีใครตอบปัญหาแทนคุณได้เดี๋ยวนั้นบ้าง ? ของบางอย่างต้องดูบริบท ดูจารีตประเพณี และดูกระแสสังคมด้วย อย่าทำตัวเป็นเด็กวัยรุ่นสมัยใหม่ระบบ ๔.๐ กดปุ่มแล้วต้องได้เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2019 เมื่อ 21:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #137  
เก่า 22-05-2019, 17:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เป็นที่น่าเสียดายว่า นักการเมืองที่ควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนได้เดินตามรอย ก็กลายเป็นไม้หลักปักเลนบ้าง ใจร้อนใจเร็วบ้าง กลืนน้ำลายตัวเองบ้าง เห็นแก่ผลประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมบ้าง บ้านเรายังต้องรอพัฒนากันอีกนาน แต่ก็ไปเจอบรรดา สนช.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับห่วยแตกที่สุดในประเทศไทยออกมา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2019 เมื่อ 21:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #138  
เก่า 22-05-2019, 20:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"การเมืองในทุกประเทศ โดยเฉพาะในระบอบประชาธิปไตย พอพัฒนาไปถึงขั้นสุดท้าย จะเหลือพรรคการเมืองใหญ่แค่ ๒ พรรค ก็คือพรรคที่ได้เป็นรัฐบาล กับพรรคฝ่ายที่เป็นฝ่ายค้าน แต่ในบ้านเราร่างรัฐธรรมนูญออกมา เพื่อกระจายให้เป็นพรรคเล็กพรรคน้อยให้มากที่สุด ซึ่งผิดหลักสากลเขา โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันเผด็จการรัฐสภา

ดูเผด็จการรัฐสภาที่สิงคโปร์สิ..มีฝ่ายค้านที่ไหน ? ประเทศสิงคโปร์ทุกวันนี้เวลาเลือกตั้ง ต้องเว้นเก้าอี้ให้ฝ่ายค้าน ๓ ที่ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีฝ่ายค้าน โคตรเผด็จการรัฐสภาเลย แต่คนเขาเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว เขาก็ทำได้

แต่บ้านเราขาดความไว้วางใจในเพื่อนมนุษย์ มองว่าทุกคนต้องเป็นคนเลวหมด ก็เลยไปร่างรัฐธรรมนูญเฮงซวยออกมา ต้องบอกว่าสร้างเวรสร้างกรรมไว้กับประเทศชาติไปอีกยาวนาน ไม่รู้ว่าคนร่างจะโดนสาปแช่งไปชั่วลูกชั่วหลานหรือเปล่า ? เพราะว่าอายุปู่แกก็เยอะแล้ว ลูกหลานอาจจะซวยแทน เพราะว่าเดี๋ยวปู่ก็ตายแล้ว

ทั้ง ๆ ที่บ้านเราเกือบ ๆ จะเป็น ๒ พรรคใหญ่อยู่แล้ว เพราะว่าพรรคเล็กพรรคน้อยที่อยู่ไม่ได้ก็ค่อย ๆ สาบสูญไป เนื่องจากว่าช่วงยุคของนายกฯ ทักษิณ และนายกฯ ยิ่งลักษณ์ มีการต่อสู้หาเสียงกันโดยนโยบายรัฐบาล ซึ่งเกือบจะเป็นสากลเทียบเท่าต่างประเทศแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2019 เมื่อ 21:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #139  
เก่า 22-05-2019, 20:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แล้วอยู่ ๆ ก็โดนปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งต้องบอกว่าคนกำลังจะตาย ดันไปทำให้เขากลายเป็นอมตชน กลายเป็นบุคคลที่ตายไม่เป็น ทุกวันนี้ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลทหารหรือรัฐบาลประชาธิปไตย จะเป็นนักเลือกตั้งหรือนักการเมืองก็ตาม นอนละเมอถึงแต่คุณทักษิณ ชินวัตร

ถ้าเป็นอาตมาจะภูมิใจมากเลย กูไม่ได้ยุ่งอะไรด้วยมาเป็น ๑๐ ปีแล้ว แต่ละคนยังไม่สามารถจะก้าวข้ามไปได้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าทำผิด ถ้านายกฯ ทักษิณอยู่นาน ๆ นิสัยคนไทยเบื่อเร็ว เลือกตั้งอีกครั้งสองครั้งก็เจ๊งแล้ว แต่ดันไปปฏิวัติ ก็เลยทำให้กลายเป็นแวมไพร์ ไม่รู้จักตายสักที...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2019 เมื่อ 21:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #140  
เก่า 22-05-2019, 20:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมถวายแป้งตรางู "เขาไม่ให้พระใช้ พระจะใช้ได้ต่อเมื่อเจ็บไข้เท่านั้น อย่างเช่นว่าระคายเคือง ไปหาหมอแล้วหมอจ่ายแป้งมาให้เป็นยา ลักษณะของแป้งหรืออะไรพวกนี้ก็พอได้ ไม่อย่างนั้นแล้วจัดอยู่ในวิเลปนะ เครื่องลูบไล้ แม้แต่ศีล ๘ เขายังไม่ให้ใช้เลย

เรื่องของศีล ถ้าเราระวังรักษาจนชิน แค่เราขยับตัวก็รู้แล้วว่าจะทำผิดหรือเปล่า หลายอย่างญาติโยมหรือพระเณรถามมา พออาตมาพูดไปแล้วค่อยนึกได้ แสดงว่าพวกเขายังไม่สามารถจะกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับศีล

มาลา...ดอกไม้ คันธัง...ของหอม วิเลปนะ...เครื่องลูบไล้ ส่วนใหญ่สมัยนี้ก็ครีมทาผิวอะไรพวกนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2019 เมื่อ 21:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:03



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว