กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #201  
เก่า 04-12-2019, 19:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แต่คราวนี้พระโมคคัลลานะ ท่านได้เอตทัคคะคือเลิศทางมีฤทธิ์ ท่านจะมีอภิญญาใหญ่ระลึกชาติได้ไม่จำกัดก็เป็นเรื่องปกติ พระสารีบุตร ท่านเป็นเอตทัคคะทางด้านผู้มีปัญญามาก จะระลึกได้ไม่จำกัดก็น่าจะปกติ พระมหากัสสปะท่านปรารถนาพุทธภูมิมา จนกระทั่งมีมหาปุริสลักษณะตั้งหลายประการแล้ว ระลึกได้ นางยโสธราพิมพาหรือบาลีเรียกว่าภัททากัจจานา ก็เป็นคู่บารมีพระพุทธเจ้ามานับชาติไม่ถ้วน ท่านระลึกได้ก็ถือว่าเป็นปกติ

แต่ปรากฏว่าผู้ที่เป็นเอตทัคคะทางมหาอภิญญา กลายเป็นนางยโสธราพิมพาภิกษุณี เพราะว่าท่านอื่น ๆ มีเรื่องอื่นที่เด่นกว่า กลายเป็นว่าผู้หญิงเป็นเอตทัคคะคือผู้เลิศทางมหาอภิญญา ส่วนผู้ชายท่านอื่น ๆ อย่างพระมหากัสสปะท่านก็เป็นเลิศทางด้านธุดงควัตร

ใครจะมาฟังต่อ มาฟังพรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้จะพาเดินขึ้นเขาแล้ว เพราะว่าไม่มีเวลาจะเขียนให้โยมอ่าน ก็เลยเล่าให้ฟัง เป็นภาระคนถอดเสียง ถอดเสร็จก็เหมือนกับบันทึกการเดินทางนั่นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-12-2019 เมื่อ 22:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #202  
เก่า 04-12-2019, 19:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สนทนากับพระเรื่องการเดินทางไปจีน "สถานที่ที่ไปเป็นภูเขา เป็นทะเลสาบ เป็นแม่น้ำ มีความเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนาทางวัชรยาน เป็นที่บำเพ็ญเพียรของพระโพธิสัตว์บ้าง เป็นที่บำเพ็ญเพียรของคุรุของเขาบ้าง จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เขาต้องไปแสวงบุญ เขาใช้คำว่าแสวงบุญ ส่วนเราไปแสวงหาความตาย ไปยากเป็นบ้าเลย

ไปที่นั่นนี่ลอกคราบเลย หน้าล่อนเป็นแผ่น ๆ ผมนี่จมูกล่อนเป็นขุย ๆ หนาวจริง ๆ เพราะว่ายอดเขาหิมะอยู่ห่างไปนิดเดียว แล้วลมพัดมาจากทางนั้น เขาบอกว่าอากาศลบ ๖ องศาเซลเซียส แต่ความรู้สึกของเราน่าจะลบสัก ๑๐ - ๒๐ ถึงได้หนาวแบบนั้น ลมแรงมาก เพราะว่าเป็นช่องลมพอดี ผมไปนึกถึงพวกพระลามะที่เขาไปฝึกกัน เราแค่เดินไปก็จะตายแล้ว นั่นเขาไปฝึกกันเป็นเดือนเป็นปี

ไปแบบนั้นแล้วเห็นสองอย่าง อย่างแรกคือแผ่นดินนี้กว้างใหญ่ไพศาลจริง ๆ อย่างที่สองคือความตายอยู่แค่ปลายจมูก ไม่รู้ว่าจะหายใจเข้าแล้วจะไม่หายใจออกเมื่อไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #203  
เก่า 04-12-2019, 20:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนไปพม่า ผมไม่ได้สังเกตตัวเอง แรก ๆ ก็ไปกันแค่คนสองคน ไม่มีใครกล้าไปด้วย กลัวทหารกะเหรี่ยงบ้าง กลัวพวกกะหร่างบ้าง ประเภทจับเผายิงรถอะไรสารพัด พอไป ๔ - ๕ เที่ยว ทำไมคนเยอะขึ้นเรื่อย ๆ วะ ?

ท้ายสุดไปถามนายท่าว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าพวกนี้สังเกตว่าพระอาจารย์ไปแล้วปลอดภัยทุกครั้ง เขาเลยขออาศัยไปด้วย พวกนี้ช่างสังเกต โดยเฉพาะพวกที่เราเช่ารถเขาไป ไปแล้วปลอดภัยทุกครั้ง ไม่เคยโดนอะไร กลับมาเล่าต่อ ๆ กัน ฉะนั้น..พอถึงเวลาเราไป เขาชวนใครไปด้วยก็ไปทั้งนั้น สรุปว่าค่าเช่ารถ ๓๐,๐๐๐ จั๊ตของเรา เขาเก็บไว้รองรัง แล้วก็ยังไปไล่เก็บคนอื่นได้อีกเยอะแยะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #204  
เก่า 04-12-2019, 21:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สั่งงานโยม "ปีหน้าที่เราจะสวดคาถาเงินล้าน ช่วยขึ้นป้ายด้วยว่าเราจะสวดพระคาถาเงินล้าน อุทิศให้พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ ตอนแรกจะจัดงานให้ท่านต่างหากแล้วเวลากระชั้น เพราะว่าท่านมรณภาพวันที่ ๑๘ มกราคม เราสวดพระคาถาเงินล้านวันที่ ๑๙ มกราคม ไม่อยากให้ท่านตายเปล่า ตายแล้วคนลืม หาทางจัดงานให้ท่านไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยในกลุ่มเล็ก ๆ ของเราก็ยังไม่ลืมท่าน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #205  
เก่า 04-12-2019, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สนทนากับพระ "หลวงหว่างท่านเป็นสหธรรมมิกร่วมงานกันมาตั้ง ๒๖ ปี ตอนนี้แก๊งค์นั้นทั้งแก๊งค์เหลือผมกับหลวงพ่อนิล ๒ รูป นอกนั้นตายเรียบ..! ไปนึกถึงตอนนั้นว่าช่างกล้าหาญเหลือเกิน ผมแค่ ๘ พรรษา หลวงหว่างหรือพระครูประโชติฯ แค่ ๒ พรรษา ตั้งใจอธิษฐานทำงานเพื่อพระศาสนากัน แม้จะต้องสละชีวิตก็ยอม

ตอนนั้นหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดนราธิวาสรูปปัจจุบัน ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี บอกว่าลงมาช่วยงานกันหน่อย แถวนี้ตำแหน่งมีเยอะมากเลย หาคนไม่ได้ ท่านเองรักษาการเจ้าคณะจังหวัด เป็นเจ้าคณะอำเภอ เป็นเจ้าคณะตำบล เป็นเจ้าอาวาส

หลวงหว่างถึงได้โตเร็ว เพราะว่านอกจากท่านกล้าทำงานแล้วยังยอมเรียนด้วย ท่านจบปริญญาโท มจร."

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #206  
เก่า 04-12-2019, 21:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อย่างมหาชรัช (ชรัช อุชุจาโร ป.ธ.๖ ,ดร.) เพื่อนผม ท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัดปัตตานีไปแล้ว น้อยกว่าผมหลายพรรษา บางทีมีโอกาสคุยกันแค่ทางโทรศัพท์ คุยกันแค่เจอหน้าบนเครื่องบิน เดี๋ยวรอให้พ้นกฐินจะโทรไปถามท่านว่า ปีหน้าจะเอากฐินไปช่วยสร้างพุทธมณฑลปัตตานีจะตกลงไหม ถ้าท่านตกลงรับผิดชอบได้ พวกเราก็ลุยตั้งแต่ต้นปีเลย ให้ท่านได้เงินเยอะหน่อย

ปัตตานีนี่อิสลาม ๘๐ - ๙๐ เปอร์เซ็นต์ แล้วท่านกล้าสร้างพุทธมณฑล..! คนแบบนี้ไม่สนับสนุนไม่ได้แล้ว เพราะว่าบ้าพอกับผมเลย ตอนเป็นมหาชรัชอยู่วัดช้างให้ ไม่มีอะไรเลย พอกล้าลงไปอยู่วัดตานีนรสโมสร สักพักเดียวก็เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง เป็นพระครูสิริจริยาลังการ เป็นรองเจ้าคณะจังหวัด เป็นเจ้าคณะจังหวัด เป็นเจ้าคุณ เป็นให้ยุ่งไปหมดเลย ท่านอยู่กลางดงอิสลามเขาเลย

ไปถึงใหม่ ๆ ท่านก็โทรมา "อาจารย์เล็ก..ขอหนังสือสวดมนต์สัก ๓,๐๐๐ เล่ม" ถามว่า "พิมพ์เองได้ไหม ?" "ได้..แต่เล่มละ ๒๐ กว่าบาท" "เออ..นั่นแหละ เดี๋ยวผมส่งเงินไปให้" ให้ส่งหนังสือ ๓,๐๐๐ เล่มไป ตูว่าจ่ายค่าพิมพ์ให้จะง่ายกว่านะ

ตอนที่รู้จักกัน ท่านจบปริญญาโท ผมจบด็อกเตอร์ก่อนท่าน พอสักพักหนึ่งท่านก็ "อาจารย์เล็ก..ลงมาช่วยผมสอนหนังสือหน่อย" "สอนที่ไหน ?" "มจร.ปัตตานี..ผมจะตั้งวิทยาลัยสงฆ์" โห...พ่อคุณเถอะ ตอนแรกขอหนังสือ ๓,๐๐๐ ถามว่า "คุณจะเอาไปแจกใคร ? ที่นั่นมีแต่อิสลาม" เขาบอก "ผมจะเอาเด็กนักเรียนเข้าวัด" บอกท่านว่า "เออ..ถ้าเด็กนักเรียนเข้าวัด ๓,๐๐๐ เล่มนี่สมเหตุสมผล คุณดึงเข้ามาได้สัก ๔ - ๕ โรงเรียน ก็แทบจะไม่พอให้อยู่แล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-12-2019 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #207  
เก่า 04-12-2019, 21:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เวลาผมลงไปช่วงนั้น ถ้าตรงกับวันศุกร์ เขาจะให้ผมไปเทศน์ เพราะว่าวันศุกร์พวกนักเรียนของอิสลามเข้าสุเหร่ากันหมด ไปละหมาดกัน เด็กไทยเราก็โดนปล่อยเกาะ จึงต้องเอาพระไปเทศน์ ตอนแรกผมก็ไม่รู้เหตุผล สงสัยว่าเขานิมนต์เทศน์ทำไม ?

ตอนที่ ดร.หนึ่ง (พระจิตศิลป์ เหมฺรํสี,ดร.) ของเราจะลงไปเก็บวันปฏิบัติธรรมปริญญาเอก ท่านถามว่า "หลวงพ่อ..มีใครรู้จักใกล้เคียงแถวนั้นไหม ?" ผมบอกว่า "ไม่ต้องใกล้เคียงหรอก เจ้าของ มจร. ที่คุณจะไปเก็บวันนั่นแหละ ไปบอกท่านว่าเป็นลูกศิษย์อาจารย์เล็กก็จบแล้ว" ไปได้ ๒ วัน ท่านโทรมา "บารมีหลวงพ่อแท้ ๆ ผมได้อยู่ห้องปรับอากาศเลย" ไปปฏิบัติธรรม ได้อยู่ห้องปรับอากาศ บอกแล้วว่าเพื่อนกัน คุณไปบอกว่ามาจากวัดท่าขนุน มาจากหลวงพ่อเล็กก็จบแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #208  
เก่า 04-12-2019, 21:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ท่านเป็นนักเทศน์รุ่นเดียวกัน ช่วงที่ยังว่าง ๆ ต่างคนต่างไม่มีงานทำ ไปสุมหัวเรียนเทศน์รุ่นเดียวกัน นอนห้องเดียวกันมา ๑๕ วัน แล้วก็นั่งโต๊ะเดียวกันมาตลอด

ส่วนใหญ่เพื่อนร่วมรุ่นจะจำผมได้หมด ที่จำได้หมดเพราะว่าอาจารย์สอนครั้งเดียวแล้วทำได้ อีกอย่างก็คือ พอถึงเวลาก็ไปช่วยงานอาจารย์ มีหน้าที่จับเวลาให้เพื่อน เขาให้คนละ ๕ นาที พอ ๓ นาทีก็เคาะเตือนครั้งหนึ่ง ๕ นาทีก็เคาะเตือน ๒ ครั้ง เพื่อนจึงจำได้หมด

พวกป๋าลอ (พระครูสุตาภรณ์พิสุทธิ์) ก็รุ่นเดียวกันหมด พระครูปริยัติวโรปถัมภ์ วัดอู่ทอง เจอหน้ากัน ถามว่า "หลวงพ่อจำผมได้ไหม ?" "มีเค้านะอาจารย์ ผมว่าผมรู้จักอาจารย์แน่" "รู้จักสิครับ เราเป็นนักเทศน์รุ่นเดียวกัน" "หา...ขนาดนั้นเลยหรือ นานเกินไปแล้ว" "หลวงพ่อจำผมไม่ได้ แต่ผมจำหลวงพ่อได้นะครับ"

ส่วนใหญ่ช่วงที่พรรษายังไม่มาก ต้องรับงานที่เขาให้อบรม ไปนี่ไปนั่น ถ้าใครเคยรับงาน เจ้านายเขาก็จะส่งแต่คนนั้น กี่งาน ๆ ก็ไปเจอหน้ากัน กลายเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #209  
เก่า 04-12-2019, 21:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนมีโยมมาถวายเหรียญบาทรัชกาลที่ ๙ ปี ๒๕๑๗ เลี่ยมมาให้อย่างดี เขาตั้งใจให้ใช้ เหรียญหลังตราครุฑ เกิดจากคนที่เข้าป่าแล้วไปโดนผีหลอก ปรากฏว่ามีเหรียญในหลวงรัชกาลที่ ๙ อยู่ ผีเลยเตลิดเปิดเปิงไม่กล้าหลอก

ทำให้นึกถึงตอนสมัยสร้างทางรถไฟผ่านดงพญาเย็น จำเป็นต้องตัดต้นไม้ใหญ่บางต้นที่อยู่ในแนวทางรถไฟแล้วตัดไม่ได้ ถ้าใช้เลื่อยใช้ขวานก็จะโดนตัวคนทำบาดเจ็บ ใช้รถเกรดเข้าไปถึงรถก็ดับ ท้ายสุดเสนาบดีกระทรวงรถไฟ ก็คือกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ต้องเอาตราแผ่นดินไปตอก ประกาศว่าเป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทำทางรถไฟผ่านตรงนี้ ฉะนั้น..ไม่ว่าท่านจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางอะไรก็ตาม ต้องขออนุญาตตัดต้นไม้เพื่อทำทางผ่าน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #210  
เก่า 04-12-2019, 21:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จะเห็นว่าในเรื่องของตราครุฑตราแผ่นดิน ส่วนใหญ่แล้วแสดงออกถึงซึ่งพระราชอำนาจ แบบเดียวกับหลวงปู่โต วัดระฆัง สมัยรัชกาลที่ ๓ ถวายตำแหน่ง ท่านไม่รับ พอมาสมัยรัชกาลที่ ๔ ถวายตำแหน่ง แล้วท่านรับ

รัชกาลที่ ๔ ตรัสถามว่า ทำไมครั้งนี้ถึงรับ ? ท่านบอกว่ารัชกาลที่ ๓ เป็นแค่พระเจ้าแผ่นดิน ท่านพอจะหนีได้ รัชกาลที่ ๔ เป็นทั้งเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ท่านไม่รู้ว่าจะหนีไปที่ไหน รัชกาล ๓ เป็นลูกสามัญชน เกิดใหม่เป็นแค่หม่อมเจ้า ท่านไม่ได้เป็นเจ้าฟ้าโดยกำเนิดเหมือนกับรัชกาลที่ ๔"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #211  
เก่า 04-12-2019, 21:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “พระปิดตาสี่เกลอยอดบายศรีของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ขอครึ่งล้านบาทถ้วน ตอนแรกลงไป ๒ องค์คิดว่าไม่มีใครเอา ที่ไหนได้..แย่งกันเกือบตาย เขาบอกว่าในตลาดราคาเป็นสิบล้าน..!

พระปิดตาสี่เกลอยอดบายศรี ท่านต้องบวงสรวงครั้งหนึ่งถึงจะได้ทำองค์หนึ่ง พระปิดตายอดบายศรีนอกจากหมายถึงความสุดยอด คือที่สุดของที่สุดแล้ว ท่านยังเป็นแบบสี่เกลอคือหันหลังชนกัน ล้มไม่ได้ ค้ำกันอยู่ โดยเฉพาะพวกนักการเมืองจะหากันมากเป็นพิเศษ ยอมสู้ราคา..สิบกว่ายี่สิบล้านก็เอา”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 132 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #212  
เก่า 04-12-2019, 21:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “หลวงพ่อกวยท่านเป็นที่เคารพนับถือกันมาก เพราะว่าท่านเก่งจริง แล้วอีกอย่างคือท่านรักลูกศิษย์เป็นที่สุด ท่านไม่ได้สนใจว่าลูกศิษย์ของท่านจะดีจะชั่ว ต่อให้เป็นโจรติดคุกอยู่ ถ้าเคารพนับถือท่านก็ไปเยี่ยม ท่านบอกตอนดีเราก็ใช้มัน ตอนมันเดือดร้อนเราก็ต้องไปดูไปแล”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2019 เมื่อ 03:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #213  
เก่า 05-12-2019, 21:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า อัญโญ เม อากัปโป กะระณีโยติ อาการ กาย วาจา ใจ อย่างอื่นที่ดีกว่านี้ยังมีอยู่อีก มิใช่เพียงเท่านี้ฯ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #214  
เก่า 05-12-2019, 21:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ศาสดามหาวีระกับนิครนถนาฏบุตรเป็นคนเดียวกันหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : คนเดียวกัน ลูกศิษย์เขาก็เรียกว่าศาสดามหาวีระ แต่คราวนี้ด้วยความที่เขาเป็นนักบวชประเภทนิครนถ์ก็เลยเรียกว่า “นิครนถนาฏบุตร” นักบวชลูกของนางรำ

ถาม : ทำไมประวัติคล้ายพระพุทธเจ้ามาก ?
ตอบ : คล้ายพระพุทธเจ้าทุกอย่างเลย เพราะว่าเกิดในสกุลกษัตริย์ ถึงเวลาออกบวช ปฏิบัติแล้วเจริญก้าวหน้ากว่าคนอื่นเขา ท้ายสุดก็เป็นศาสดาเอง แล้วโดยเฉพาะว่ารูปร่างก็คล้ายกัน

ถาม : คำว่านาฏบุตร แปลว่า นักฟ้อนรำ ?
ตอบ : ใช่..เป็นลูกของหญิงฟ้อนรำในวัง ที่ท้องกับพระมหากษัตริย์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #215  
เก่า 05-12-2019, 21:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เวลาเราไปอินเดีย ถ้าเจอเหมือนกับพระพุทธรูปต้องดูก่อน ถ้าห่มจีวรเรียบร้อยก็แล้วไป แต่ถ้าโชว์อวัยวะเพศคือนิครนถนาฏบุตรเพราะว่าเขาเป็นชีเปลือย เพียงแต่ว่าลักษณะคล้ายกับพระพุทธเจ้าเลย แสดงว่ามีมหาปุริสลักขณะเหมือนกัน

ต้องบอกว่าท่านเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นอาจารย์ของพระพุทธเจ้า ตั้งศาสนาขึ้นมาก่อน คราวนี้ตอนที่ท่านตาย บรรดาลูกศิษย์ก็ทะเลาะเบาะแว้งกัน จนกระทั่งพระจุนทเถระกับพระสารีบุตรทูลให้พระพุทธเจ้าทำสังคายนาพระธรรมวินัย ก็คือจัดคำสอนให้เป็นหมวดหมู่ ถึงเวลาจดจำง่าย จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน

ลูกศิษย์ของท่านปัจจุบันนี้ก็แบ่งเป็น ๒ พวก พวกหนึ่งนุ่งผ้าขาวเรียกว่า เศวตัมพร อีกพวกหนึ่งแก้ผ้าไปเลยเรียกว่า พวกทิฑัมพร คือนุ่งลมห่มผ้า นั่นอาจารย์ตายแค่ไม่กี่วันลูกศิษย์ก็แตกเป็น ๒ คณะใหญ่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #216  
เก่า 05-12-2019, 22:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้พระจุนทะก็ขอพระพุทธเจ้าทำสังคายนา พระพุทธเจ้าตรัสว่ายังไม่ถึงเวลา พระสารีบุตรขอพระพุทธเจ้าทำสังคายนา พระพุทธเจ้าตรัสว่ายังไม่ถึงเวลา จนกระทั่งพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ๓ เดือน พระมหากัสสปะจึงรวบรวมพระอรหันต์ ๕๐๐ รูป โดยเฉพาะพระอานนท์ ทำสังคายนาพระธรรมวินัยที่ถ้ำสัตตบรรณคูหา ภูเขาเวภาระ

มีคนสงสัยว่าถ้ำสัตตบรรณคูหาเล็กนิดเดียว แล้วบรรจุพระตั้ง ๕๐๐ ได้อย่างไร ? ถ้ำนั้นเป็นแค่ที่อาศัยหน่อยเดียว เขาปลูกเป็นเพิงยาวออกมา ที่รู้เพราะตอนนั้นอาตมาเป็นพราหมณ์ไปดูพิธีเขาอยู่ด้วย ชาตินั้นไม่ได้ถือพุทธศาสนาด้วยนะ เป็นพราหมณ์ ตอนหลังถึงได้ปฏิญาณตนถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

ท่านทำสังคายนาอยู่ ๗ เดือน ถามว่าทำไมสังคายนาพระไตรปิฎกนานถึง ๗ เดือน ? เพราะว่าต้องถาม – ตอบ กันทีละพระสูตร ทีละบท ทีละประโยคเลย สอบสวนทวนความกันจนไม่มีใครขัดค้านแล้วถึงรับรองว่าใช่ พอรับรองว่าใช่ค่อยสวดสาธยายขึ้นพร้อมกัน ถ้าสวดตรงกันไม่มีผิดแล้วค่อยรับรองได้ว่าถูกต้อง ถึงได้เรียกว่าสังคายนา คือการร้อยกรองพระธรรมวินัย มีการสวดสาธยายก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #217  
เก่า 05-12-2019, 22:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างเช่นเขาถามว่า ปฐมํ ปาราชิกํ กตฺถ ปญฺญตฺตนฺติ ปฐมอาบัติปาราชิกบัญญัติขึ้นที่ไหน ? เวสาลิยํ ปญฺญตฺตนฺติ บัญญัติขึ้นที่เมืองเวสาลี คนถามก็ถาม คนตอบก็ตอบ

กํ อารพฺภาติ ด้วยปรารภเรื่องอะไร ? สุทินฺนํกลนฺทปุตฺตํ อารพฺภาติ ปรารภเรื่องของพระสุทินกลันทบุตร ถ้าเราสวดได้แปลได้ จะเข้าใจเนื้อหาเป็นเรื่องเป็นราว แต่ถ้าเราแปลไม่ได้ก็ได้แต่สวดขลัง ๆ ไปเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #218  
เก่า 05-12-2019, 22:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โยมที่บูชาวัตถุมงคลไปกำลังใช้กล้องนั่งส่องอยู่ "แสดงว่าระดับอาชีพแล้ว พกกล้องมานั่งส่อง แต่อาตมาน้อยครั้งที่จะใช้กล้อง เหตุที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าอะไรก็ตามที่ก่ำกึ่งจะไม่แตะ ถ้ามีที่สงสัยให้ “เอ๊ะ” แม้แต่นิดเดียวก็ไม่แตะ

พยายามแนะนำทิดเฟิร์สอยู่ บางทีทิดเฟิร์สเจอของถูกใจแล้วหน้ามืด..โดดใส่ ระวังโดนเขาสอยร่วงนะ..! ถ้าขนาดต้องมาส่องมาพิจารณานี่อาตมาไม่เอาด้วย มีข้อแม้เมื่อไรหยุดทันที ถ้าไม่โลภ..โอกาสโดนหลอกก็มีน้อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #219  
เก่า 05-12-2019, 22:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างที่พูดถึงแชร์แม่มณี ส่วนใหญ่ที่โดนก็เพราะความโลภ อาตมาเองเห็นชัดเลยว่า ถ้าคนเราสร้างกรรมไว้อย่างไรก็โดน แชร์แม่ชม้อย อาตมารู้จักหัวหน้าสายใหญ่เลย เพราะว่าเขาเป็นเพื่อนของน้า ชวนอาตมาเล่นมาหลายปีแต่ก็ไม่เล่นกับเขา จนกระทั่งลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงเล่นกันเกือบครบคน อาตมาก็ยังไม่เล่นกับเขา

แต่ท้ายที่สุดพวกพี่ ๆ น้อง ๆ ก็มาอ้อนขอยืมเงินไปเล่น มาถึงก็ “พี่เป็นคนไม่มีความโลภก็จริง แต่พวกผมยังต้องกินต้องใช้อยู่ ถ้าผมได้มาแบ่งพี่บ้าง พี่ก็ได้เอาไปทำงานพระศาสนาด้วย” สารพัดที่เขาจะกล่อม ท้ายสุดจากที่อาตมาไม่เล่นแชร์ แต่คนยืมเงินไปเล่น ๗ คันกว่า แชร์น้ำมันเขามีแบ่งเป็นคัน แบ่งเป็นล้อ แบ่งเป็นน็อต แล้วแต่ใครเงินมากเงินน้อย อาตมาไม่เล่นเลยโดนไป ๗ คันกว่าเพราะว่าพรรคพวกยืมเงินไปเล่น

ถึงเวลาแม่ชม้อยล้มครืนขึ้นมา อาตมาเองถือว่าเจ็บตัวน้อยที่สุด เพราะว่ารับดอกมาท่วมต้นแล้ว แต่สงสัยเลยไปถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า “ผมทำอะไรมาครับ ผมไม่ได้โลภทำไมถึงโดน ?” “สมัยที่รบกัน เอ็งเป็นกองเสบียง คอยสนับสนุนเขา” โดนจนได้..งานนั้นไม่ได้ออกหน้าแต่โดนด้วยจนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #220  
เก่า 05-12-2019, 22:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนหลังโยมแม่ได้เงินค่าเวนคืนที่มาหลายล้าน บอกกับท่านว่าอาตมาไม่เอา แต่ท่านก็เอามาถวายจนได้ พอโยมแม่แบ่งให้พี่ ๆ น้อง ๆ แล้ว ก็เอาเงินมาถวายให้อาตมาด้วย อาตมาก็ไม่ได้ถามว่าคนอื่นได้เท่าไร แต่ท่านให้อาตมาเยอะน่าดู

มีคนชวนเล่นแชร์น้ำมันอีก ทั้ง ๆ ที่แม่ชม้อยล้มแล้วนี่แหละ เล่นก็เล่น เพราะอาตมารู้นี่ว่าเล่นได้ ก็เล่นไปอยู่ ๓-๔ ปี ดอกท่วมต้นแล้วท่วมต้นอีก ปีนั้นก็บอกกับนายหน้าเขาว่า "ช่วยถอนเงินคืนให้ที อาตมาเลิกเล่นแล้ว" นายหน้ามากระซิบถามว่า "จะมีเรื่องไม่ดีแล้วใช่ไหมครับ ?" บอกว่า "ใช่..ช่วยถอนให้หน่อย จะเอาเงินต้นคืน"

ก็ปรากฏว่าทางด้านหัวหน้าแชร์ก็กราบมือกราบเท้าขอร้อง บอกว่า "พระอาจารย์อย่าถอนเงินเลย ถ้าอาจารย์ถอน เดี๋ยวคนอื่นแตกตื่นแล้วถอนกันหมด หนูเจ๊งแน่" อาตมาเองก็คิดว่าจะเอาอย่างไรดี ? เขาจะล้มอยู่แล้ว ท้ายสุดก็ตัดใจว่า "ล้มก็ช่างมันวะ เราได้ดอกท่วมต้นมาตั้งหลายเท่าแล้วนี่" ท้ายสุดก็ล้มจริง ๆ

สรุปได้ว่าต่อให้คุณมีอนาคตังสญาณดีขนาดไหนก็ตาม ถ้าเวรกรรมมาถึงก็โดนจนได้แหละ ขอถอนล่วงหน้าตั้งครึ่งค่อนปี เขาขอร้องว่าอย่าถอนเลย อาตมาเองได้ดอกมาก็ทยอยซื้อทองคำแท่งเก็บไว้ จำได้ว่าซื้อตั้งแต่บาทละ ๔,๒๕๐ ทยอยขึ้นมาจนบาทละ ๔,๗๕๐ ซื้อเก็บเอาไว้หลายสิบบาท ฉะนั้น...ปัจจุบันนี้ถ้าถามมีเงินส่วนตัวไหม ? มี...เป็นเงินมรดกที่แม่ให้ แต่ว่าไม่ใช่เงินต้นนะ เงินต้นล้มไปกับแชร์เขาเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ดอกที่ท่วมต้นแล้วซื้อทองเก็บเอาไว้

ถึงได้บอกว่าต่อให้คุณมีอภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ อะไรก็ตาม ถ้าวาระกรรมมาถึงก็เลี่ยงไม่ได้ ยังโดนจนได้ ทั้ง ๆ ที่รู้ไปขอเขาเบิกคืน แต่เขาไม่ให้คืน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:29



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว