กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-09-2022, 17:36
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,524
ได้ให้อนุโมทนา: 215,913
ได้รับอนุโมทนา 736,898 ครั้ง ใน 35,896 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 24-09-2022, 23:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่เช้ามืด กระผม/อาตมภาพก็ได้ทำการบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัยให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน

การบวงสรวงนั้นได้ทำต่อหน้ารูปหล่อของหลวงปู่เพิ่ม (นะสีเล) อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทยาน เพื่อที่จะขออนุญาตในการจัดงานภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ และขออนุญาตสร้างรูปหล่อสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๔ ศอก ประจำมณฑปหน้าอาคารปฏิบัติธรรม ของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนนทบุรีแห่งที่ ๑๕ (วัดอุทยาน) แล้วหลังจากนั้น กระผม/อาตมภาพก็ได้นำพระภิกษุสามเณรและญาติโยมทั้งหลาย ร่วมกันภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ

โดยที่ในพิธีนี้ พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ได้ทำวัตถุมงคลมาเข้าพิธีด้วย กระผม/อาตมภาพเมื่อเห็นองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า เจ้าของพระคาถาเงินล้านลอยอยู่เหนือบริเวณพิธี สว่างยิ่งกว่าพระจันทร์วันเพ็ญเป็นร้อยเท่า ก็กราบถวายความไว้วางใจ แล้วแต่พระองค์ท่านจะสงเคราะห์ ตนเองก็เข้าสมาธิยาวไปเลย จนกระทั่งพระองค์ท่านบอกว่าพอแล้วก็คลายสมาธิออกมา พรมน้ำมนต์รอบวัตถุมงคลในพิธี จากนั้นก็มาร่วมการภาวนาพระคาถาเงินล้านต่ออีกประมาณ ๔๐ นาที

การภาวนายาว ๆ แบบนี้ หลายท่านที่อยู่ในบริเวณพิธีก็ดี ฟังอยู่ทางบ้านและตั้งใจภาวนาพระคาถาตามไปด้วยก็ตาม ด้วยความที่ท่านเอาแต่เข้าสมาธิอย่างเดียว จึงเกิดอาการเหมือนกับหม้อแบตเตอรี่เต็ม ใกล้จะระเบิด มีอาการเครียด โดยที่ตนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเครียดอีกด้วย

ในเรื่องของการปฏิบัติสมาธิภาวนานั้น ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายปฏิบัติโดยการเคลื่อนไหว อาการเครียดทั้งหลายเหล่านี้ก็จะไม่มี เพราะว่าไม่ว่าจะปฏิบัติไปนานเท่าไรก็ตาม ก็มีการถ่ายเทพลังงานไปที่การเคลื่อนไหวบ้าง ที่การพินิจพิจารณาบ้าง แต่ว่าท่านทั้งหลายสมถะก็นิ่งอยู่อย่างเดียว พิจารณาก็ไม่ทำ จึงเกิดอาการตัน เพราะว่าสะสมพลังงานเต็มแล้วไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรต่อ

ถ้าในลักษณะแบบนี้อันตรายมาก เพราะว่าท่านทั้งหลายอาจจะพบกับอาการที่กิเลสฉกฉวยเอากำลังสมาธิที่ท่านทำได้ ฟุ้งซ่านไปใน รัก โลภ โกรธ หลงแทน เนื่องจากว่าท่านไม่ยอมเอาไปคิดพิจารณาในวิปัสสนาญาณ ในเมื่อกำลังเหลือเฟือ โดนกิเลสดึงเอาไปรัก โลภ โกรธ หลง แทน ก็จะฟุ้งซ่านอย่างเป็นจริงเป็นจัง เป็นหลักเป็นฐานมาก

ถ้าอยู่ในสภาพนั้นก็ต้องบอกว่า "เวรกรรม" เพราะว่าเท่ากับท่านเลี้ยงเสือเอาไว้กัดกินตนเอง แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมถึงโดนเสือกินจนหมดตัวในลักษณะแบบนั้น ? แปลว่าเราเลี้ยงโจรเอาไว้ปล้นตนเอง เพราะว่าสะสมกำลังเอาไว้แล้ว ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้อะไรต่อ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2022 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 24-09-2022, 23:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของการปฏิบัติกรรมฐานนั้น สมถะกับภาวนาต้องไปคู่กัน คำว่าภาวนาในที่นี้คือการพิจารณาวิปัสสนาญาณนั่นเอง เพราะคำว่า "ภาวนา" แปลว่า "ทำให้เจริญขึ้น" ในเมื่อเรามีกำลังแล้ว ไม่ยอมยกอาวุธไปตัดไปฟันกิเลสให้ขาดเสียที เลยโดนกิเลสขโมยเอาอาวุธนั้นมาสับมาฟันตัวเรา กลายเป็นว่าหลายท่านอาจจะเข็ดไปเลย กับการที่กิเลสตีกลับ ฟุ้งซ่านแล้วเอาไม่อยู่ ทำให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นเลิกการปฏิบัติธรรมไปมากต่อมากด้วยกัน

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีภาวนาพระคาถาเงินล้าน และได้อุทิศส่วนกุศลแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้เปิดโอกาสให้ญาติโยมทั้งหลายร่วมบุญด้วย โดยที่มอบปัจจัยทั้งหมด ๑๙๔,๑๐๐ บาทให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เอาไว้สำหรับใช้ในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดอุทยานแห่งนี้

จากนั้นไปร่วมกันปล่อยปลาที่ริมท่าน้ำคลองบางกอกน้อย โดยมีตุ๊พ่อสิงห์ (พระอธิการสิงห์ วิสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ผู้เป็นรุ่นพี่ เกิดจากโบสถ์วัดท่าซุงมาด้วยกัน แต่ว่าพรรษาท่านมาก อยู่ในระดับครูบาอาจารย์แล้ว มีหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ร่วมกันปล่อยปลาลงแม่น้ำไป ๑,๓๐๐ กิโลกรัม แล้วจึงเดินต่อไปบริเวณที่หล่อพระ เพื่อร่วมด้วยช่วยกันในการเทปูนหล่อสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๔ ศอก ประจำมณฑปหน้าอาคารปฏิบัติธรรม ของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนนทบุรีแห่งที่ ๑๕ (วัดอุทยาน)

หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็กลับไปยังที่พัก โดยมีคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม เจ้าของเอ็นซีทัวร์ มานิมนต์ให้เดินทางร่วมกันในทริปต่าง ๆ ซึ่งได้ตั้งเป้าเอาไว้ถึง ๓ - ๔ ทริปด้วยกัน และเป็นทริปที่อันตรายจนกระทั่งไม่มีใครไปด้วย

คุณนวลจันทร์ ซึ่งอายุถึง ๘๐ ปีแล้วได้บอกว่า "ถ้าหากว่าโยมได้ไปในทริปทั้งหลายเหล่านี้ก็จะตายตาหลับ" กระผม/อาตมภาพเองก็เห็นด้วย เพราะว่าตนเองก็อายุกาลผ่านวัยมากขึ้นทุกปี ถ้าได้ไปในที่อันตรายชนิดที่คนไม่อยากไปเลย ก็ถือว่าเป็นกำไรชีวิตที่หาได้ยาก

โดยเฉพาะตัวกระผม/อาตมภาพเองนั้น ถ้าหากว่าไม่มีใครนิมนต์โดยจ่ายค่าเดินทางให้ ก็จะไม่ไปเที่ยวที่ไหนโดยเด็ดขาด เพราะว่าเงินสงฆ์นั้นสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ไม่ควรที่จะนำมาเที่ยวอีลุ่ยฉุยแฉกแบบนี้

โดยเฉพาะในทริปอันตรายแบบนี้ ทางด้านคุณนวลจันทร์ก็ได้บอกกล่าวเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า จะเอาเฉพาะคนที่มั่นใจเท่านั้น ก็คือพรรคพวกเพื่อนฝูงกัน ไม่เอาลูกทัวร์ เพราะไม่รู้ว่าจะพาเขาไปตาย หรือว่าจะพาเขาไปเดือดร้อนกับตนเองหรือเปล่า !?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2022 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-09-2022, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพก็ต้องเจริญพรขอขอบคุณทางด้านเอ็นซีทัวร์ โดยคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม และคุณฉัตตริน เพียรธรรม ที่อนุเคราะห์สงเคราะห์การเดินทางฟรีหลายรอบแบบนี้ ได้แต่รอดูว่าจะมีเวลาเพียงพอหรือไม่ ?

เพราะว่าตัวกระผม/อาตมภาพนั้น ถ้าหากว่าเป็นฆราวาส ก็ต้องบอกว่าเป็นคนที่ยุ่งกับธุรกิจเสียจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะระยะเวลาเดินทาง ๗ วัน ๑๐ วัน ๑๕ วัน ดังที่กล่าวมานั้น โอกาสที่จะได้ไปแทบจะเป็นศูนย์ แต่ก็จะรับเอาไว้พิจารณาก่อน

หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ได้เดินทางต่อไปยังอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเตรียมตัวไปเป็นประธานในการออกนิโรธกรรมของครูบาวิฑูรย์ ชินวโร ประธานที่พักสงฆ์ปรียนันท์ธรรมสถาน ซึ่งท่านจะเข้านิโรธกรรมตามแบบของหลวงปู่ครูบาศรีวิชัยทุกปีในช่วงเวลานี้

เมื่อเดินทางมานั้น ทางด้านพระครูเทพ (พระครูปฐมสาธุวัฒน์) เจ้าอาวาสวัดสี่แยกเจริญพร ก็ได้ส่งข่าวมาว่า การสร้างเหรียญสมเด็จองค์ปฐม พิมพ์นั่งบัวเสวยสุข เนื้อสเตนเลสนั้น จะสำเร็จเรียบร้อยลงแน่นอน ไม่เกินวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๕ นี้ กระผม/อาตมภาพจึงได้บอกให้ไอ้ตัวเล็ก ทำการเปิดกระทู้ให้ญาติโยมที่ตั้งใจทำบุญกฐินกับวัดท่าขนุนได้จองกันไปเลย

เมื่อมาถึงช่วงที่กระผม/อาตมภาพกำลังบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้
เหรียญสมเด็จองค์ปฐม พิมพ์นั่งบัวเสวยสุข เนื้อสเตนเลส ก็หมดไปเป็นครึ่งแล้ว เพียงแต่ว่าส่วนหนึ่งที่เห็นแล้วไม่สบายใจก็คือว่า บุคคลเจ้าประจำแวะเข้ามาจองไปคนเดียว ๔๐๐ องค์ ก็ได้แต่ขอเอาใจช่วยว่าคงจะไม่ถึงกับบ้านแตกสาแหรกขาด เนื่องเพราะว่าการทำอะไรโดยที่เอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่ สอบถามผู้อื่นพอเป็นพิธี แล้วก็ตีขลุมเอาไว้เขาเห็นด้วยนั้น โอกาสที่ท่านจะทำให้ครอบครัวแตกแยกด้วยตนเองมีสูงเป็นอย่างยิ่ง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2022 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 25-09-2022, 00:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของการอยู่ร่วมกันระหว่างครอบครัว สามีภรรยานั้น ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานฆราวาสธรรม ๔ มา เพื่อให้รักษาครอบครัวของเราให้มั่นคงยั่งยืน ประกอบไปด้วย

ข้อที่ ๑ สัจจะ มีความจริงจังจริงใจต่อกัน ทำอะไรก็ไม่มีการปิดบังอีกฝ่ายหนึ่ง บอกกล่าวให้ทราบอย่างชัดเจน จะได้ก้าวเดินไปในทางเดียวกันได้

ข้อที่ ๒ ทมะ ต้องมีความข่มใจต่อสิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบในชีวิต แต่คำว่าข่มใจในที่นี้ ต้องข่มใจด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย ไม่ใช่ตัวเราเอาแต่ใจตัวเอง แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งข่มใจอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่ครอบครัวจะอยู่รอดมั่นคงก็เป็นไปได้ยาก

ข้อที่ ๓ ขันติ มีความอดทนอดกลั้นต่อความยากลำบากในการดำเนินชีวิตทุกอย่าง ในที่นี้หมายถึงการช่วยกันทำมาหากิน ต่อให้ยากลำบาก อยู่ในลักษณะของ "ผัวหาบเมียคอน" ก็จำเป็นที่จะต้องอดทนอดกลั้น ช่วยกันสร้างครอบครัวจนกว่าจะประสบความสำเร็จมั่นคง

ข้อที่ ๔ จาคะ ต้องเสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อประโยชน์สุขของอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ใช่เอาแต่ตัวเราสุข ตัวเราสบาย คนอื่นจะ "หวานอมขมกลืน" อย่างไร ก็ปล่อยให้ฝืนทำหน้าชื่นทนไป เราไม่ยอมรับรู้ ถ้าอย่างนั้น วันใดที่ความอดทนอดกลั้นของอีกฝ่ายหนึ่งหมดสิ้นลง เราก็จะไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดี ๆ เขาถึงได้หันหลังจากไปเฉย ๆ แบบนั้น..!

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2022 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:54



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว