กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-12-2020, 09:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๓

ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ เป็นวันชาติ วันพ่อแห่งชาติและวันดินโลก ซึ่งวันสำคัญทั้งหลายทั้งปวงนี้ ก็สืบเนื่องมาจากวันที่ ๕ ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ อันเป็นที่รักยิ่งของชาวไทยทั้งปวง ซึ่งองค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเรานั้น ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติและต่อโลกนี้อย่างเหลือคณานับ แต่ว่าตรงนี้จะไม่ขอกล่าวถึง

สิ่งที่อยากกล่าวถึงในที่นี้ก็คือว่า พระองค์ท่านเป็นพระเจ้าแผ่นดินและเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก แต่พระองค์ท่านก็ทำให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจนว่า ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น ทางโลกและทางธรรมสามารถไปด้วยกันได้

โดยที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติองค์เป็นตัวอย่าง ก็คือแม้ว่าจะทรงงานหนักดึกดื่นค่อนคืนขนาดไหนก็ตาม สิ่งที่พระองค์ท่านไม่ได้ว่างเว้นเลยก็คือการทรงสมาธิ ดังนั้น..ถ้าหากว่าสามารถทรงสมาธิได้ ก็ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องของศีล หรือว่าเรื่องของปัญญา เพราะว่าต้องมีศีลถึงจะมีสมาธิได้ บุคคลที่ทรงสมาธิได้ย่อมจะเกิดปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2020 เมื่อ 17:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-12-2020, 09:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านทั้งหลายที่มักจะอ้างว่า ตนเองมีภาระหน้าที่หนัก ต้องทำกิจการงาน ต้องดูแลครอบครัว และสารพัดข้ออ้างที่จะกล่าวถึง เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ท่านทั้งหลายไม่มีทางที่จะมีภาระหน้าที่หนักไปกว่าในหลวงรัชกาลที่ ๙

ในเมื่อพระองค์ท่านทำได้ ในการที่ประสานทางโลกและทางธรรมเข้าด้วยกันอย่างผสมกลมกลืน นำเอาหลักธรรมมาใช้ในการดูแลไพร่ฟ้าประชากรและบริหารประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เราทั้งหลายที่เป็นพสกนิกร ส่วนมากจะเห็นการทรงงานของพระองค์ท่านมา แทบจะเท่าอายุของตน ก็ควรที่จะเอาพระองค์ท่านเป็นตัวอย่างที่เราจักพึงประพฤติปฏิบัติตาม โดยเฉพาะในเรื่องของการปฏิบัติธรรม

แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งว่า เราทั้งหลายนั้นมักจะเคารพบูชาพระองค์ท่านในลักษณะของสมมติเทพ หรือว่าเป็นเทพเลย ก็คือกราบไหว้บูชาด้วยความเคารพ แต่ไม่ได้นำเอาพระจริยวัตร หรือไม่ได้นำเอาพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน มาประพฤติปฏิบัติให้สมกับที่พระองค์ท่านค้นคว้า ทดสอบ ปฏิบัติมาด้วยพระองค์เองจนเห็นผล แล้วนำบอกกล่าวให้พวกเราได้ประพฤติปฏิบัติบ้าง

ดังนั้น...ในวันนี้ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพ ตรงกับวันชาติ วันพ่อแห่งชาติ และวันดินโลก ซึ่งเกิดจากความปรีชาสามารถของพระองค์ท่านจนโลกเรายอมรับ และตั้งวันเหล่านี้ให้ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ท่านขึ้นมา เราก็ควรที่จะปฏิบัติโดยเฉพาะในส่วนของ ศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล อย่างน้อย ๆ ก็จะได้ไม่เสียชาติเกิด ว่าเราเกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะได้อยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่านมาเกือบจะเท่าชีวิต หรือว่าเกือบจะตลอดชีวิตของทุกคน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2020 เมื่อ 17:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-12-2020, 23:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ในส่วนของศีลนั้น ก็คือเราต้องรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ล่วงศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นล่วงละเมิดศีล และขณะเดียวกันก็ต้องไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นล่วงละเมิดศีล

ในเรื่องของสมาธินั้น เราจะทิ้งลมหายใจเข้าออกไม่ได้ เพราะว่าการดำเนินชีวิตของพวกเรานั้น ต้องสู้กับกระแสโลก ถ้าขาดการกำหนดในอานาปานสติหรือลมหายใจเข้าออก กำลังใจของเราจะไม่เข้มแข็งพอ ไหลตามกระแสโลกไปได้ง่าย

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงสอนให้พวกเรารู้จักความพอเพียง ซึ่งก็คือหลักสันโดษในพระพุทธศาสนา ความพอเพียงไม่ใช่ทำตัวปอน ๆ ทำตัวยากจน เพราะว่าความพอเพียงตามหลักสันโดษนั้น ประกอบด้วย ยถาลาภสันโดษ ยินดีตามที่ได้มา ยถาพลสันโดษ ยินดีตามกำลังของตนที่หาได้

ในเมื่อเรามีเงินมาก มีแนวคิดการลงทุนที่ดีมาก สามารถหามาได้เป็นร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน ก็แปลว่าเรายินดีตามกำลังของตนที่หาได้ และท้ายสุด ยถาสารุปปสันโดษ ยินดีตามฐานะของตน มีเงินมากเราก็สามารถใช้จ่ายให้สมกับฐานานุรูปของตน แต่ว่าก็ควรที่จะคำนึงถึงผู้อื่นที่ยังขาดแคลน ทำอะไรเพื่อตอบแทนประเทศชาติบ้าง คืนกำไรสู่สังคมบ้าง เป็นต้น

ในเมื่อพระองค์สอนเราในลักษณะอย่างนี้ เราก็ต้องใช้ปัญญาแยกแยะ ส่วนไหนที่สามารถหาได้ตามกำลังของตนก็หามา ส่วนไหนที่จะประกอบกองบุญการกุศล คืนกำไรให้สู่สังคม ช่วยเหลือผู้ที่ยังเดือดร้อนอยู่ องค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ก็ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2020 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 28-12-2020, 23:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของปัญญานั้น เราต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราต้องตาย ถ้าหากว่าเราตายไปแล้วต้องเกิดมาใหม่ทุกข์ยากเช่นนี้อีก ก็ถือว่าเราขาดทุน ดังนั้น..เราควรที่จะตั้งเป้าสูงสุดในชีวิตเอาไว้ที่พระนิพพาน

บุคคลที่จะไปพระนิพพานได้ ต้องประกอบไปด้วยความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างแน่นแฟ้นจริงจัง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เป็นผู้มีศีลทุกสิกขาบทบริสุทธิ์บริบูรณ์ตามฐานานุรูปแห่งตน และท้ายสุดรู้ตัวอยู่เสมอว่าต้องตาย ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท ประกอบกรรมความดีทุกอย่าง ตั้งเป้าหมายไว้ที่พระนิพพานแห่งเดียว

ถ้าท่านทั้งหลายสามารถกระทำเช่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ถือว่าไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา เคยอยู่ใต้ร่มบารมีองค์พระมหากษัตริย์ผู้เป็นธรรมมิกราช อย่างในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเรามา คุณงามความดีทั้งหลายเหล่านี้ เราจะได้ถวายเป็นพระราชกุศล ให้สมกับที่วันนี้เป็นวันพ่อแห่งชาติ

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๓
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 29-12-2020 เมื่อ 16:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:11



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว