กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-02-2025, 19:49
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,914
ได้ให้อนุโมทนา: 224,370
ได้รับอนุโมทนา 793,505 ครั้ง ใน 39,009 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-02-2025, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,122
ได้ให้อนุโมทนา: 157,273
ได้รับอนุโมทนา 4,469,884 ครั้ง ใน 35,731 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘ ช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพไปรับโล่เกียรติคุณเพชรพุทธบริหารการศึกษา ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จากพระเดชพระคุณพระพรหมวัชรธีราจารย์, ศ., ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ, ป.ธ. ๙) องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ความจริงก็มีพระเถระหลายรูปที่ให้ตัวแทนไปรับ แต่กระผม/อาตมภาพถือว่าทางด้านเจ้าภาพเขาให้เกียรติเรา ด้วยการมอบโล่เกียรติคุณให้ เราก็ควรที่จะให้เกียรติเจ้าภาพของด้วย อยู่ในลักษณะของปูชโก ลภเต ปูชํ วนฺทโก ปฎิวนฺทนํ ผู้บูชาย่อมได้รับการบูชาตอบ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ

อีกประการหนึ่งก็จะได้ไปพบปะครูบาอาจารย์รุ่นเก่า ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เกษียณอายุราชการ กลายเป็นระดับปูชนียบุคคลไปแล้ว ก็คือถ้าหากว่าจบปริญญาเอกแล้ว อย่าหวังว่าเกษียณอายุราชการแล้วไปอยู่อย่างสงบได้ เนื่องเพราะว่าสิ่งที่ท่านจบมาไม่มีใครจบซ้ำหัวข้อนั้นได้ ก็แปลว่าในด้านนั้นท่านจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ ถ้าผู้อื่นจะทำซ้ำหัวข้อนั้นก็ต้องขยายพื้นที่ หรือย้ายไปพื้นที่อื่น ก็แปลว่าโอกาสที่จะตกงานไม่มี อย่างไรเสียเรื่องหัวข้อเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์ ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็นสารนิพนธ์ เขาก็ต้องอาศัยเจ้าของหัวข้อนั้นไปบรรยายอยู่ดี..!

ครูบาอาจารย์หลายท่านก็ยังกระฉับกระเฉงดูแข็งแรง แต่บางท่านก็คุกเข่าถวายของไม่ได้แล้ว ต้องขออนุญาตยืนถวายของ กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเรียนมาผ่านไป ๒๐ ปีแล้ว เพราะจำได้ว่าเรียนประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์รุ่นแรกที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ปี ๒๕๔๘ แล้วก็เรียนปริญญาตรี ปริญญาโท รุ่น ๑ ของวัดไร่ขิง แต่มาตอนหลังเขาไม่นับรุ่นให้ เขาไปนับรุ่น ๑ เมื่อเปิดวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาฯ วัดไร่ขิง พวกที่เรียนกับส่วนวิทยบริการอย่างกระผม/อาตมภาพ ก็เลยกลายเป็นรุ่นพิเศษ หรือไม่ก็ตกรุ่นไปเลย..!

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก แต่ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพมีงานมากอยู่ทุกวัน ก็เลยไม่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว เพราะว่าเวลาไม่พอให้ทำงาน..! เมื่อรับโล่เกียรติคุณแล้ว กลับมาก็ต้องมาเข้าประชุม เตรียมการจัดงานบรรยายประสิทธิผลการปฏิบัติธรรมแบบธรรมนาวาวัง ซึ่งพระเดชพระคุณพระพรหมวัชรธีราจารย์, ศ., ดร. องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเอง ก็ยังต้องเข้าประชุมผ่านระบบออนไลน์เหมือนกัน

ยังไม่ทันจะเสร็จดี ก็ต้องมานั่งบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนให้พวกท่านทั้งหลายได้ฟัง เสร็จจากนี่ก็ยังต้องไปเข้ารายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมต่อ จนกระทั่งเรื่องพระของเราที่เกิดอุบัติเหตุ เจ็บไข้ได้ป่วยแข้งขาหัก ยังกลายเป็นเรื่องที่สำคัญรองลงไป..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2025 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-02-2025, 23:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,122
ได้ให้อนุโมทนา: 157,273
ได้รับอนุโมทนา 4,469,884 ครั้ง ใน 35,731 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรมไปจนกระทั่งสติทรงตัวแล้ว เราจะสามารถจัดความสำคัญก่อนหลังเร็วช้าของงานได้ ต่อให้ช้ากว่ากัน ๓ นาที ๕ นาทีก็ถือว่าช้ากว่า เราก็ทำเรื่องที่มาถึงก่อน ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ ท่านทั้งหลายจะมีงานอยู่ตรงหน้างานเดียว แล้วก็ไม่หนักเกินกำลังรับผิดชอบของตนเอง

แต่ส่วนใหญ่พวกเราพอเจอหลาย ๆ งานแล้ว ก็มักจะเอามาสุมรวมกัน ไม่มีการแยกแยะว่าอะไรก่อน อะไรหลัง อะไรสำคัญมาก อะไรสำคัญน้อย กลายเป็นว่างานเกินกำลังตนเอง แล้วก็มาเครียด เราจะเห็นได้ว่าผลของการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าเอามาใช้ในชีวิตจริงจะใช้ได้ทุกเรื่อง


มีพระสังฆาธิการหลายรูปบอกว่า "ถ้าผมงานมากแบบหลวงพ่อเล็ก ก็คงเครียดตายไปแล้ว" ถ้าหากว่าท่านไม่สามารถที่จะวางกำลังใจลงตรงหน้าได้ว่า "เราทำเฉพาะตอนนี้" ก็คงจะเครียดแน่นอน จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลาย จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำให้ได้และทำให้ถึง ไม่เช่นนั้นแล้วก็เท่ากับว่า เรากดดันตัวเองอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากว่า
สติไม่มี ปัญญาไม่พอ งานเบาก็กลายเป็นงานหนัก งานหนักก็กลายเป็นงานหนักมาก

เพียงแต่เสียดายว่าการเข้าประชุมเพื่อฟังบรรยายงานวิจัย เกี่ยวกับประสิทธิผลของการปฏิบัติธรรมแบบธรรมนาวาวังนั้น กระผม/อาตมภาพติดงานปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร ไม่อย่างนั้นก็จะไปฟังดูว่ามีความดีเด่นแบบใดบ้าง

ทุกท่านต้องเข้าใจว่าเรื่องของการปฏิบัติธรรมไม่ว่าจะสายไหนก็ตาม ก็จะเกิดผลในเบื้องต้น เบื้องกลาง และเบื้องปลายทั้งสิ้น แล้วแต่ว่าสายนั้นจะสอนดีสอนถูกแค่ไหน เพียงแต่ว่างานนี้ผู้ใหญ่ท่านเน้นเรื่องของธรรมนาวาวัง จึงมีการทำผลงานวิจัยถึงประสิทธิผล ก็คือการที่ปฏิบัติแล้วก่อให้เกิดผลสำเร็จขนาดไหน ถ้าภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า Impact ก็คือส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราและคนรอบข้างอย่างไรบ้าง

โดยปกติแล้ว เรื่องแบบนี้ถ้าหากว่ายกขึ้นเวทีมาแถลงเมื่อไร ก็จะมีการถกเถียงกันอย่างดุเดือดทุกครั้ง จนกระทั่งคนแทบจะไม่อยากจะพูดแล้ว เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วพวกเราจะแบกกิเลสเข้าไปว่า "การปฏิบัติสายกูต้องดีที่สุด" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พอเขายกความดีของสายอื่นขึ้นมา เราก็มักจะรับไม่ได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2025 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-02-2025, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,122
ได้ให้อนุโมทนา: 157,273
ได้รับอนุโมทนา 4,469,884 ครั้ง ใน 35,731 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จากประสบการณ์ที่กระผม/อาตมภาพ ทำงานเกี่ยวกับศูนย์ปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีมาหลายปี แล้วตำแหน่งปัจจุบันก็คือประธานศูนย์ฯ ซึ่งไม่มีใครมารับช่วงสักที เห็นชัด ๆ เลยว่าต้นสายไม่มีปัญหา ครูบาอาจารย์ท่านไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นสายพุทโธแบบวัดป่า สายสัมมาอะระหังแบบหลวงพ่อวัดปากน้ำ สายนามรูปแบบวัดปราสาททอง สายเคลื่อนไหวแบบหลวงพ่อเทียน สายมโนมยิทธิแบบหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ตลอดจนกระทั่งสายอื่น ๆ ซึ่งอาจจะมี ต้นสายไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย

แต่ว่าบรรดาลูกศิษย์มักจะแบกกิเลสไปชนกัน ก็คือเอามานะแบกไปด้วยว่า "ของกูต้องดีที่สุด หลวงพ่อกูต้องเจ๋งที่สุด" ก็เลยกลายเป็นว่าถึงเวลาคุยเรื่องแบบนี้เมื่อไร แทนที่จะกลายเป็นธัมมัสสากัจฉา ก็กลายเป็นวิวาท (วิ-วา-ทะ) แบบภาษาไทย เพราะว่าวิวาทแบบภาษาบาลีก็คือความต่างในคำพูด พูดง่าย ๆ ก็คือมีการถกเถียงกันเพื่อหาข้อยุติ แต่วิวาทแบบไทยนั้นให้อ่านว่าวิวาท (วิ-วาด) ก็คือทะเลาะเบาะแว้งกันแทน..!

อย่าลืมว่าหลักธรรมของหลวงพ่อนั้น ของสายนี้ ความจริงแล้วไม่มี มีแต่หลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น แต่เมื่อพระองค์ตรัสสอนไปถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ เพื่อให้เหมาะแก่จริตของผู้รับฟัง แล้วบรรดาครูบาอาจารย์รุ่นเก่า ๆ ท่านถนัดแบบไหนก็ทำแบบนั้น แล้วเมื่อท่านทำได้ผลก็เอามาเผยแผ่ให้กับลูกศิษย์ของตน ถ้าสายนั้นมีลูกศิษย์มาก ก็จะกลายเป็นสายกรรมฐานขึ้นมา

กระผม/อาตมภาพเคยเปรียบเทียบว่า เหมือนกับพ่อครัวทำอาหาร คนนั้นถนัดผัด คนนี้ถนัดต้ม คนโน้นถนัดแกง คนนั้นถนัดปิ้งย่าง เราชอบแบบไหนก็กินแบบนั้น แต่ไม่ใช่ไปติว่าของคนอื่นไม่ได้เรื่อง ต้องแบบของเราเท่านั้น ดังนั้น..เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าบุคคลที่ไปคุยกัน หรือธัมมัสสากัจฉากัน ถ้ามีบุคคลที่ปฏิบัติธรรมจนได้หลักจริง ๆ คอยอยู่เป็นผู้ควบคุมการสนทนาธรรม เรื่องก็จะไม่เลยเถิด แต่ถ้าหากว่าไม่มี ต่างคนต่างเอากิเลสไปชนกันเมื่อไรก็กระจายเมื่อนั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2025 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-02-2025, 23:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,122
ได้ให้อนุโมทนา: 157,273
ได้รับอนุโมทนา 4,469,884 ครั้ง ใน 35,731 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพตั้งใจจะไปดูว่า ใครจะแบกกิเลสไปมากน้อยเท่าไร แต่พอดีว่าหลวงปู่เชิด - พระเดชพระคุณพระพรหมวชิรมุนี (เชิด จิตฺตคุตฺโต ป.ธ. ๙) เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งปัจจุบันท่านก็เป็นรองสมเด็จพระราชาคณะ ท่านต้องการที่จะให้ช่วยไปปลุกเสกพระกริ่งและพระสุนทรีวาณี ฉลอง ๘๔ พรรษาของท่าน

เมื่อเป็นวาระสำคัญแล้วครูบาอาจารย์ระดับนั้นท่านขอมา
กระผม/อาตมภาพก็ต้องสละงานเพื่อไปให้ท่านก่อน นั่นก็คือเราต้องชั่งน้ำหนักของงานตรงหน้าว่าอะไรสำคัญกว่า การที่จะไปดูไปฟังเพื่อผลวิจัยนั้นออกมาในแนวไหน แล้วต้องการไปดูว่าใครแบกกิเลสไปเถียงกันบ้าง จึงกลายเป็นเรื่องรองลงไป

เรื่องพวกนี้ท่านทั้งหลายอย่าได้แบกกิเลสไปชนกัน ขอให้เข้าใจว่าสรรพสิ่งไม่เที่ยง ต่อให้สายธรรมที่หนักแน่นมั่นคงอย่างสายวัดป่าหลวงปู่มั่น ปัจจุบันนี้ก็ยังเกิดสนิมภายในตนเอง มีบุคคลที่ไม่สวดมนต์ไหว้พระ เพราะว่าไม่ได้บวชมาเพื่อสวดมนต์..! ไม่ปฏิบัติเคร่งครัดแบบเอาชีวิตเข้าแลก เพราะว่าต้องเอาเวลาไปออกยูทูบหรือว่าเฟซบุ๊ก..! สนิมทั้งหลายเหล่านี้ก็จะกัดกร่อนและทำลายสายปฏิบัติเหล่านั้น ให้ค่อย ๆ เสื่อมทรามลงไป

แบบเดียวกับพระพุทธศาสนาของเรา ที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้ นอกจากพุทธบริษัททั้ง ๔ เราท่านทั้งหลายจึงต้องถือเป็นภาระว่า การปฏิบัติธรรมนั้น ต้องทำให้รู้ลึก รู้จริง เข้าถึงจริง ๆ และเอาผลไปใช้งานได้จริง ไม่เช่นนั้นแล้วเราอาจจะกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทำลายพระพุทธศาสนาเสียเอง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2025 เมื่อ 03:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:03



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว