กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 05-08-2021, 20:37
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,274
ได้รับอนุโมทนา 739,779 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-08-2021, 23:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,133 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ เมื่อวานที่เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนหายไป เพราะว่ากระผม/อาตมภาพไปงานศพของนางละออ พุ่มน้อย โยมแม่ของท่านเจ้าคุณพระเมธีปริยัติวิบูล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรี ซึ่งบ้านของท่านเจ้าคุณอยู่ถึงบ้านพนมนาง อำเภอห้วยกระเจา จากที่วัดท่าขนุนนี่ก็วิ่งไปหลายชั่วโมง ถ้าหากว่าอยู่ฟังสวด ก็ไม่ต้องหวังว่าจะกลับทันเคอร์ฟิว จึงจำเป็นที่จะต้องขออนุญาตบอกลาพวกเราไปโดยสัตตาหะกรณียะ

วันนี้ยังมีภารกิจที่พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี มอบหมายให้นำต้นกล้าฟ้าทะลายโจร ๖๐๐ ต้น ก็ประมาณหนึ่งคันรถกระบะ ไปมอบให้กับพระเดชพระคุณพระเทพสาครมุนี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร ท่านจะได้นำไปปลูกและแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน เพื่อใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ได้ในระดับหนึ่ง

ต้องบอกว่าในเรื่องของงานศพนั้น ไม่ว่าจะโดยตำแหน่ง หรือโดยมารยาท กระผม/อาตมภาพก็ต้องไป พระเดชพระคุณพระราชวิสุทธาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านเคยให้หลักการในการดำเนินชีวิตของฆราวาสเอาไว้ว่า ถ้าคนเรา "เจ็บเยี่ยมไข้ ตายเยี่ยมผี มีแบ่งปัน" ไปไหนก็มีแต่คนรัก ซึ่งตรงนี้ผมลองเปรียบเทียบดูแล้วกับสังคหวัตถุ ๔ ก็ลงกันได้พอดี

สังคหวัตถุ ๔ ประกอบไปด้วยทาน คือการให้ ก็คือ มีแล้วแบ่งปัน

ปิยวาจา พูดดี พูดไพเราะ เวลาเขาเจ็บป่วย ไปเยี่ยมไข้ สอบถามอาการ เวลาเขาตาย ไปเยี่ยมศพ พูดจาให้กำลังใจแก่ญาติที่อยู่ข้างหลัง

อัตถจริยา เป็นการทำประโยชน์ต่อผู้อื่น ซึ่งในส่วนนี้ก็คือการช่วยในเรื่องของกำลังใจจริง ๆ

และสมานัตตตา ที่คนอื่นมักจะแปลกันว่า ทำตนเสมอต้นเสมอปลายแล้วคนจะรัก ผมบอกว่า ถ้าหากว่าเขาทำชั่วเสมอต้นเสมอปลาย คนจะรักหรือไม่ ? เพราะว่าสมานัตตตาตัวนี้ต้องแปลว่า เสมอด้วยตนเอง ก็คือเอาใจเขามาใส่ใจเรา เขาชอบอะไร เราทำแบบนั้น เขาไม่ชอบอะไร เราอย่าทำแบบนั้น โดยที่วัดจากตัวเราเองโดยสามัญสำนึก อะไรดีอะไรชั่ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-08-2021 เมื่อ 22:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-08-2021, 23:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,133 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างเช่นว่า เราไม่อยากให้คนอื่นมาฆ่าเรา มาทำร้ายเรา เราก็อย่าไปฆ่าใคร อย่าไปทำร้ายใคร ไม่อยากให้คนอื่นมาลักขโมย หยิบฉวย ช่วงชิงสิ่งของของเรา เราก็ต้องไม่ไปลักขโมย หยิบฉวย ช่วงชิงสิ่งของของคนอื่น ดังนั้น...ส่วนใหญ่แล้วสังคหวัตถุ ๔ ข้อสุดท้าย คนมักจะแปลความผิด ก็คือไปแปลว่าเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งเป็นไปไม่ได้

คราวนี้ในการที่นำเอาต้นกล้าฟ้าทะลายโจรไปมอบให้กับหลวงพ่อเจ้าคุณสมบูรณ์ ที่ผมเรียกแบบเคารพนับถือเป็นการส่วนตัว ก็ถือว่าเป็นอัตถจริยา ก็คือทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะสมุทรสาครเป็นพื้นที่น้ำเค็ม ปกติแล้วต้นฟ้าทะลายโจรขึ้นไม่ได้ เอาไปให้ท่าน ก็ต้องบำรุงรักษากันเป็นพิเศษ แต่ท่านก็จะลองสู้ดู ว่าจะสามารถทำให้ฟ้าทะลายโจรไปเจริญงอกงามใกล้ทะเลได้หรือไม่ ?

สมุทรสาครเป็นจังหวัดที่ติดอันดับหนึ่งในการระบาดรอบแรก ๆ ของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ปัจจุบันนี้หลวงพ่อเจ้าคุณสมบูรณ์ท่านบอกว่า "น่าเสียดาย ตกอันดับไปแล้ว โดนกรุงเทพมหานครแย่งอันดับหนึ่งไปแล้ว สมุทรสาครกลายเป็นอันดับสอง" ซึ่งตรงนี้ผมฟังแล้วรู้สึกว่าน่ากลัวมาก

ถ้าบอกว่ากรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่แออัดที่สุดในประเทศไทย ก็น่าจะว่าได้ และความแออัดนี่แหละ ที่จะเป็นต้นเหตุให้เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แพร่กระจายได้ดีที่สุด ยังดีที่ว่ารัฐบาลของเราบริหารได้ถูกต้อง อย่าเพิ่งด่าอาตมา..! คำว่า บริหารได้ถูกต้อง ก็คือ ปล่อยคนที่มาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ โดยไม่ได้มีที่ทางให้รักษากลับไปตายที่บ้าน ก็เลยทำให้จำนวนคนที่แออัด ลดน้อยถอยลงไปเยอะเลย..!

ถ้าหากว่าจะระบาด ก็คงจะไม่ได้มากมายเหมือนก่อนนี้ เพราะว่าคนกรุงเทพฯ จริง ๆ มีอยู่ประมาณ ๔ ล้านเศษเท่านั้น แต่อีกเป็น ๑๐ ล้านนั้น มาจากต่างจังหวัด ที่เข้ามาทำมาหากินทั้งสิ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2021 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-08-2021, 23:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,133 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ถ้าหากว่าเราทำตามที่ทาง ศบค.หรือว่าทางด้าน อสม. หรือแพทย์พยาบาลแนะนำ ก็คือใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ ก็น่าจะพอช่วยได้ในระดับหนึ่งที่น่าพอใจ เพียงแต่ว่า ต้องประกอบไปด้วยสติ ก็คือต้องไม่เผลอ และต้องประกอบไปด้วยความไม่ประมาท ถ้าหากว่าขาดสติแล้วประมาท เราจะกลายเป็นเหยื่อของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ทันที

ดังนั้น..พวกท่านจะเห็นอย่างชัดเจนว่า หลักธรรมของพระพุทธเจ้านั้นสำคัญในทุกที่ ถ้าหากว่าขาดหลักธรรมเมื่อไร เราไม่ได้เป็นเหยื่อของกิเลสอย่างเดียว แม้กระทั่งเป็นเหยื่อของคน เป็นเหยื่อของสัตว์ เป็นเหยื่อของเชื้อโรค ก็สามารถที่จะเป็นได้หมด

คราวนี้การที่ทุกท่านล้างมือบ่อย ๆ อย่าล้างเสียเปล่า ที่ผ่านมาอาจจะล้างเสียเปล่า เพราะว่ากระผม/อาตมภาพไม่เคยบอกกล่าวก็ได้ ว่าโบราณเขามีคาถาล้างมือ

เหตุที่ต้องมีคาถาล้างมือ ก็เพราะว่าส่วนใหญ่แล้ว บรรดาท่านที่เล่นไสยศาสตร์ อย่าลืมนะว่า คาถาอาคมทุกอย่าง เขาจัดเป็นไสยศาสตร์ทั้งหมด ท่านที่เล่นไสยศาสตร์จะมีกฎเกณฑ์ที่ยึดถือ มีข้อห้ามมากมาย ฉะนั้น...เขาถือว่ามือสองข้างของเราสัมผัสจับต้องสิ่งสกปรกอยู่เรื่อย ถ้าจะหยิบจะจับอะไรที่เป็นวัตถุมงคล หรือว่าชิ้นงานที่จะนำมาเสริมสร้างเป็นวัตถุมงคล เขาก็ต้องมีคาถาล้างมือ เพื่อทำให้มือสะอาดเสียก่อน

ก็ต้องบอกว่า ข้อยึดถือพวกนี้ จริง ๆ แล้วเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่ศึกษาทางคาถาอาคม เพราะว่าถ้าทำครบแล้วก็จะมั่นใจว่า ตนเองมีคุณสมบัติเพียงพอ ที่จะใช้หรือว่าจะสร้างวัตถุมงคลนั้น ตามข้อที่ครูบาอาจารย์ท่านกำหนดมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-08-2021 เมื่อ 17:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-08-2021, 23:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,133 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คาถานี้ผมได้มาจากหลวงปู่กลั่น วัดเขาอ้อ สมัยที่ลงไปขอวิชา เรียนวิชากับท่าน ถ้าหากว่าเป็นทางฝ่ายปกครอง หลวงปู่กลั่นก็คือพระครูอดุลธรรมกิตติ์ ท่านอยากได้ผมไปเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ..! ซึ่งตรงจุดนี้ เป็นเหตุที่ทำให้วัดเขาอ้อเจริญรุ่งเรืองมาได้เป็นร้อยเป็นพันปี เพราะว่าวัดเขาอ้อไม่ได้จำกัดว่าใครจะมาเป็นเจ้าอาวาส ไม่ต้องเป็นลูกหม้อก็ได้ แต่คุณต้องมีคุณสมบัติในการเรียนคาถาอาคมได้ "ขึ้น" เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าเป็นคนนอกเข้าไป แล้วท่านเห็นว่าเราทำคาถาขึ้น มีสมาธิ มีสมาบัติอะไรที่สมควร ท่านยอมมอบตำแหน่งให้เลย

ตรงนี้ก็อยากให้พวกเราพิจารณาอยู่อย่างหนึ่งว่า ในเรื่องของการเป็นเจ้าอาวาส การเป็นผู้นำ จริง ๆ แล้ว ตำแหน่งนั้นมาพร้อมกับหน้าที่ จะเหนื่อยมากกว่าคนอื่น แต่ผมก็เห็นบางคนแย่งชิงตำแหน่งกันเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แปลว่าอยากเหนื่อย อันนั้นเป็นเรื่องของท่าน

คาถาล้างมือ เพื่อที่เราจะทำให้มือไม้บริสุทธิ์ สามารถหยิบจับวัตถุมงคลหรือชิ้นงานต่าง ๆ มา เพื่อใช้งานหรือว่าเพื่อจัดสร้างวัตถุมงคล โดยที่ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ ตัวคาถาเขาว่า คงคาสะระ คงคาสะระ คงคาสะระ

ไอ้ตัวสะระ ก็คือ "สระ" แบบที่เราสระผมนั่นแหละ แต่ถ้าอ่านเป็นบาลี อ่านว่า สะระ ว่า ๓ จบไป ล้างมือไปด้วย

หลังจากนั้น ก็เป็นการไล่ของไม่ดีออก ว่าต่อด้วยคาถาว่า พุทธังปัจจักขามิ ธัมมังปัจจักขามิ สังฆังปัจจักขามิ ว่าไปล้างมือไป ๓ จบเหมือนกัน เคล็ดลับอยู่ตรงคำว่า ปัด ก็คือเอาออก

แล้วหลังจากนั้น ก็เป็นการเสกมือ ก็ล้างมือแล้วว่าต่อไปว่า พุทธัง ปัจจุทะรามิ ปะริสุทโธ อธิษฐามิ ๓ จบเหมือนกัน

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายที่ส่วนใหญ่เป็นพระ ฟังดูก็รู้ว่า เป็นการดึงเอาบาลีจากส่วนต่าง ๆ มา แล้วก็ปนกับภาษาไทยด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2021 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 06-08-2021, 00:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,133 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าเรื่องของคาถา เราต้องใช้ด้วยความเชื่อมั่น โดยปราศจากความลังเลสงสัยจริง ๆ ถ้าถามว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าทำคาถานั้นขึ้นแล้ว ? ก็ต้องทดลองดู..! เวลาหยิบจับวัตถุมงคลมา อธิษฐานใช้งาน ขลังกว่าปกติหรือเปล่า เหล่านี้เป็นต้น

สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านให้คาถาต่าง ๆ แก่ผม ท่านมักจะกำชับว่า "ภาวนาคู่กับลมหายใจอย่างน้อย ๓๐ นาทีนะ แล้วอย่าลืมรักษาศีล ๕ ข้อให้บริสุทธิ์ด้วย" ผมเองไม่รู้หรอกครับ ว่าโดนหลวงพ่อท่านหลอกให้ภาวนา พอทำขึ้นก็วิ่งไปรายงานท่าน ว่าคาถามีผลอย่างนี้ ๆ ตามที่หลวงพ่อบอกมา ท่านก็ชมว่า "เออ...ดี ๆ ลูก เอาคาถาบทใหม่ไป บทนี้มีอานุภาพอย่างนี้"

ก็ต้องไปนั่งทำต่อ ส่วนใหญ่ท่านให้เวลา ๓ เดือน แต่ผมมักจะทำแค่วันสองวันก็สำเร็จแล้ว เพราะว่ามาตอนหลัง เข้าใจว่าสมาธิระดับไหนที่ทำแล้วคาถาเกิดผล ก็ทรงสมาธิระดับนั้นภาวนา ก็เกิดผลจริง ๆ

แต่มีคาถาบางอย่างที่มีข้อกำหนดพิเศษมา ผมลองใช้สมาธิระดับที่เคยเกิดผลแล้วไม่สำเร็จครับ อย่างคาถามหาประสาน เป็นต้น ตำราบอกว่าต้องใช้ใบตองปิดแผลแล้วว่าคาถาเป่า ในเมื่อผมมั่นใจว่าคาถาบทนี้ ใช้กำลังใจแค่นี้ ผมลองโดยไม่ใช้ใบตองดู ปรากฎว่า เป่าแล้วแผลไม่ติด เป็นเรื่องที่แปลกมาก ก็คือคำสั่งครูบาอาจารย์ไม่ควรที่จะไปฝืนอย่างเด็ดขาด

ในวันนี้ท่านทั้งหลายก็ได้คาถาไป ลองไปซักซ้อม ลองไปใช้งานดู วันต่อ ๆ ไปถ้ามีโอกาส ก็จะมาบอกกล่าวกันต่อ เนื่องจากว่าสมัยก่อนที่เรียนจากหลวงพ่อวัดท่าซุงและหลวงปู่ท่านอื่น ๆ มา มีบทพระคาถาไม่ถึงร้อยก็ใกล้เคียง กว่าที่จะทำขึ้นแต่ละอย่าง แรก ๆ ยังไม่มีความเข้าใจ ก็ใช้เวลาหลายวันหน่อย แต่ถ้ามีความเข้าใจว่าใช้กำลังใจแบบไหน พักเดียวก็ทำได้แล้ว

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวให้แก่ญาติโยม ทั้งที่อยู่ที่นี่และที่บ้าน ให้ได้รับทราบแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-08-2021 เมื่อ 22:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:27



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว