กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-10-2022, 18:05
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,618
ได้ให้อนุโมทนา: 216,321
ได้รับอนุโมทนา 741,369 ครั้ง ใน 36,110 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-10-2022, 00:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,423 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง กระผม/อาตมภาพก็นำผู้บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติรุ่นที่ ๗/๒๕๖๕ ปฏิบัติธรรม ต่อด้วยการทำวัตรเช้า หลังจากนั้นก็ออกบิณฑบาตตามปกติ คือโดยคติส่วนตัวแล้ว ไม่ว่าจะฝนตกแดดออกขนาดไหนก็ตาม กระผม/อาตมภาพจะนำพระออกบิณฑบาตเสมอ

เนื่องจากว่าสมัยที่อยู่วัดท่าซุงนั้น กระผม/อาตมภาพบิณฑบาตประจำที่สายใต้ แล้วต้องเดินไปจนกระทั่งถึงประมาณหัวสะพาน ซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ แต่จุดเด่นก็คือตรงนั้นจะเป็นสามแยก ซึ่งเป็นทางเก่าที่วิ่งตรงไปยังท่าเรือมโนรมย์ และเป็นทางใหม่ที่วิ่งข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรัง ตรงมโนรมย์เช่นกัน เมื่อเดินถึงตรงจุดนั้นแล้ว ถึงจะวกเข้าหมู่บ้าน เดินเลาะชายแม่น้ำสะแกกรังกลับมายังวัดท่าซุง

วันนั้นปรากฏว่าฝนตกหนัก พระภิกษุสายใต้ซึ่งปกติเคยเดินบิณฑบาตด้วยกัน ๑๐ กว่ารูปก็หายกันหมด เหลือแต่กระผม/อาตมภาพกับพระอาจารย์สมปอง หรือท่านพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ สุธมฺมสนฺตจิตฺโต ๒ รูปเท่านั้น

เมื่อเดินไปจนถึงสุดทางแล้วก็สะท้อนใจมาก เพราะว่ามีคุณยายอายุ ๘๐ กว่า ซึ่งเป็นขาประจำในการใส่บาตร เดินถือใบกล้วยบังหัวอยู่ พร้อมขันข้าว คือคุณยายคงคิดว่าฝนตกแบบนี้ลูกพระอาจจะอด เพราะว่าบ้านอื่นไม่ใส่บาตรกัน จึงอุตส่าห์มายืนรอ

ดังนั้น..เมื่อกระผม/อาตมภาพกับท่านอาจารย์สมปองไปถึง ยายจึงดีใจมาก วางใบกล้วย ยอมเปียกฝนมาใส่บาตร ตั้งแต่วินาทีนั้น กระผม/อาตมภาพก็รู้สึกว่า "ถ้าวันนี้กูไม่มานี่เสียหมาแน่นอน เพราะว่าคุณยายกลัวว่าลูกพระจะอด แต่ลูกพระกลัวเปียกฝน ไม่ยอมออกบิณฑบาต..!"

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ถ้าหากว่ากระผม/อาตมภาพอยู่วัด และไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยจนลุกไม่ขึ้นจริง ๆ หรือว่าติดงานคณะสงฆ์ที่สำคัญจริง ๆ อยากจะบอกด้วยความภาคภูมิใจว่า เคยขาดบิณฑบาตแค่ ๔ ครั้งเท่านั้น ถ้าหากว่าพระภิกษุรูปหนึ่งรูปใดอยู่วัดตลอดระยะเวลาการบวช ๓๗ พรรษา แล้วขาดบิณฑบาตแค่เพียง ๔ ครั้ง โปรดบอกกระผม/อาตมภาพด้วย จะไปกราบคาราวะจนถึงที่..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2022 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-10-2022, 00:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,423 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น บิณฑบาตจนวันสุดท้ายของพระชนม์ชีพ ก็คือรับบิณฑบาตที่บ้านนายจุนทกัมมารบุตร หลังจากที่เสวยพระกระยาหารแล้วก็เกิดปักขันธิกาพาธ ซึ่งถ้าเป็นสมัยนี้ก็น่าจะประมาณกระเพาะทะลุ ถ่ายเป็นเลือด พระองค์ท่านจึงต้องเสด็จพระราชดำเนินไปยังเมืองกุสินารา สถานที่ซึ่งตั้งพระทัยไว้ว่าจะปรินิพพาน

เมื่อเป็นพุทธประเพณีอย่างหนึ่งว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกบิณฑบาตจนวันสุดท้ายของพระชนม์ชีพ ตลอดจนกระทั่งพระเถระ ครูบาอาจารย์ที่เน้นในเรื่องของการ สวดมนต์ทำวัตร เจริญพระกรรมฐาน บิณฑบาตเลี้ยงชีพ แล้วสั่งสอนตาม ๆ กันมา กระผม/อาตมภาพจึงค่อนข้างจะเคร่งครัดกับเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุนจะรู้ดี ถ้าหากว่าฝนตกวันนี้ ก็ทำใจไว้เลยว่าเป็น "วันซักผ้า" เมื่อกลับมาก็รีบฉัน
ฉันอาหาร เสร็จเรียบร้อยก็ฉันยาแก้ไข้ แล้วซักผ้าเพื่อตากแห้งต่อไป

หลังจากนั้นแล้วก็ได้นำญาติโยมทั้งหมดภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ แต่กระผม/อาตมภาพอยู่ไม่ครบ เมื่อตั้งใจอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า พรหม เทวดาและครูบาอาจารย์ทั้งหมด ปลุกเสกวัตถุมงคล ซึ่งส่วนใหญ่ร้อยละ ๙๕ ก็คือพระพุทธรูป สำหรับท่านที่อยากจะได้พระพุทธรูปไว้บูชาประจำบ้าน

เมื่อพระองค์ท่านบอกว่า "เต็มแล้ว" แสดงให้เห็นภาพพระพุทธรูปทุกองค์เปล่งแสงสว่างเจิดจ้าประหนึ่งพระอาทิตย์ยามเที่ยง
กระผม/อาตมภาพคลายสมาธิออกมา ก็ต้องรีบเดินทางไปยังวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพื่อเข้ารับรางวัลสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดที่มีผลงานดีเด่นต่อเนื่อง ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ประจำปี ๒๕๖๕

เมื่อไปถึงแล้วก็เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก เพราะว่าบุคคลที่มารับรางวัลทั้ง ๕๐ กว่าสำนักในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ซึ่งประกอบไปด้วย ภาค ๑, ภาค ๒, ภาค ๓, ภาค ๑๓, ภาค ๑๔ และภาค ๑๕ นั้น ตัดภาค ๑ ออกไป เพราะว่าจัดงานเองต่างหากไปแล้ว อีก ๕ ภาคที่เหลือนั้น ส่วนใหญ่แล้วรู้จักมักคุ้นกับเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นในการเรียน เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์
หรือว่าเพื่อนร่วมรุ่นพระนักเทศน์ เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2022 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-10-2022, 00:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,423 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ยกตัวอย่างก็คือ อย่างของจังหวัดสมุทรสงคราม ก็คือหลวงพ่อพระสมุทรวชิรโสภณ, ดร. หรือหลวงพ่อเจ้าคุณโสภณ เจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือที่เรียกันตามภาษาชาวบ้านว่าวัดบ้านแหลม ท่านเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนปริญญาเอก

ถ้าหากว่าของจังหวัดราชบุรีก็คือ พระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ, ป.ธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม ท่านเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์

ทางด้านของจังหวัดเพชรบุรีก็มีหลวงพ่อพระครูวัชรสุวรรณาธร, ดร. เจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดใหญ่สุวรรณาราม

หลวงพ่อพระครูวัชรชลธรรม เจ้าคณะอำเภอท่ายาง เจ้าอาวาสวัดชลธราราม หรือว่าวัดท่าซิก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี

พระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรวิหาร

ซึ่งทั้งหลวงพ่อพระครูวัชรสุวรรณาธร, ดร.ก็ดี พระครูวาทีวรวัฒน์, ดร.ก็ดี เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนปริญญาเอกมาด้วยกัน ส่วนหลวงพ่อพระครูวัชรชลธรรมนั้น ท่านเป็นที่ปรึกษาขององค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางที่กระผม/อาตมภาพเป็นประธานรุ่นอยู่

ทางด้านจังหวัดสมุทรสาครก็มีพระครูสาครคุณาภรณ์ วัดหนองนกไข่ หรือที่เรียกกันตามความเคยชินว่าพระครูสมชาย ท่านเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนปริญญาโทมาด้วยกัน เหล่านี้เป็นต้น มองไปทางไหนก็เจอแต่พรรคพวกเพื่อนฝูง รับไหว้รับทักทายกันอย่างชนิดที่มือไม่ว่าง จนกระทั่งมาปรารภกันว่า พวกเราเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเอารางวัลแบบนี้ แต่ว่าพวกเราทำเพราะว่าใจรักในการปฏิบัติธรรม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2022 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 25-10-2022, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,423 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อทำไปด้วยใจรัก ก็เลยทำให้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ออกมาดี ประสบความสำเร็จตามหลักอิทธิบาท ๔ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือมีฉันทะ ใจรักในการปฏิบัติธรรม จึงเกิดวิริยะ พากเพียรในการจัดการปฏิบัติธรรม เพื่อสงเคราะห์แก่ญาติโยมทั้งหลาย มีจิตตะ กำลังใจปักมั่น จดจ่ออยู่กับงานของตนเอง ไม่คลอนแคลนไปไหน ถ้าอย่างกระผม/อาตมภาพก็เพิ่งจะจัดงานปฏิบัติธรรม รุ่นที่ ๗/๒๕๖๕ ยังไม่ทันจะสำเร็จเสร็จสิ้นดี ก็ต้องวิ่งมางานนี้

และข้อสุดท้าย วิมังสา หมั่นไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่า มีอะไรที่ดีกว่านี้ให้เราเองสามารถพัฒนาต่อไปได้ เพื่อให้ญาติโยมทั้งหลายเข้าวัดเข้าวามาแล้วเกิดความประทับใจ และปฏิบัติธรรมได้อย่างต่อเนื่อง พวกเราก็จะทำ

เมื่อปรารภกันเช่นนี้แล้ว พอดีพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง มาถึงในงาน ก็เริ่มเข้าสู่พิธีการ ประทานประกาศเกียรติคุณสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดที่มีผลงานดีเด่นต่อเนื่องในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง พัดรอง และผ้าไตร ตลอดจนกระทั่งกัปปิยภัณฑ์ รางวัลสำหรับสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นทั้งหลายเหล่านั้น

เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีก็ได้ให้โอวาทว่า ในเรื่องของปริยัติ คือการศึกษา จะต้องนำมาสู่การปฏิบัติ คือทำให้เกิดผล จะได้เป็นปฏิเวธ คือผลที่แสดงออกต่อพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย

ขอให้สำนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายรักษาความดีอันเป็นแบบอย่างแก่ที่อื่นเขาเอาไว้ให้มั่นคง และขอให้ญาติโยมทั้งหลายได้ร่วมกันสนับสนุนให้งานของสำนักปฏิบัติธรรมเป็นไปด้วยดีต่อไป และขอให้ขยายออกไปสู่สำนักปฏิบัติธรรมอื่น ๆ เพื่อที่เขาทั้งหลายเหล่านั้นจะได้พัฒนาตนเองขึ้นมา เพื่อรับรางวัลดีเด่นบ้าง ไม่เช่นนั้นแล้วท่านที่ได้รับรางวัลดีเด่น ก็ต้องรับซ้ำแล้วซ้ำอีกในปีต่อ ๆ ไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2022 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 25-10-2022, 01:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,423 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพรับโอวาทใส่เกล้าแล้วก็ได้ถ่ายรูปร่วมกับผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด ตลอดจนกระทั่งเพื่อนฝูงทั้งหลาย จากนั้นก็ขอตัวเดินทางเข้าสู่ที่พัก เพื่อไปหาหมอตามที่ได้นัดเอาไว้ในวันพรุ่งนี้

โดยที่ไม่ได้บอกกล่าวให้กับท่านทั้งหลายที่มาแสดงความยินดี ในการรับรางวัลสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดที่มีผลงานดีเด่นต่อเนื่องว่า ตัวกระผม/อาตมภาพนั้น จบปริญญาเอกมาด้วยวิทยานิพนธ์ หัวข้อ "รูปแบบการจัดการสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดที่ได้รับรางวัลดีเด่นในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔"

ถ้าหากว่าท่านใดอยากจะทำวัดของตนเองให้เป็น และได้รางวัลดีเด่นแล้วไซร้ ก็ให้เข้าเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยไปโหลดเอาวิทยานิพนธ์ของพระครูวิลาศกาญจนธรรมมาดูเป็นแนวทาง ท่านทั้งหลายถ้าทำตามนั้น รับประกันได้ว่าท่านจะได้รับรางวัลสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดที่มีผลงานดีเด่นต่อเนื่องอย่างแน่นอน

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2022 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:40



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว