กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 12-05-2021, 21:26
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,529
ได้ให้อนุโมทนา: 215,924
ได้รับอนุโมทนา 736,923 ครั้ง ใน 35,904 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 13-05-2021, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขอโอกาสพระเถรานุเถระทุกรูป น้องสามเณร และญาติโยมทุกท่าน

วันนี้เป็นวันพุธที่ ๑๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตั้งแต่เช้ามาอาตมาก็มีกิจกรรมทั้งวัน แล้วบางอย่างก็แทรกเข้ามาอย่างกะทันหันด้วย เรื่องของการเจริญกรรมฐาน ทำวัตร บิณฑบาตนั้น เราทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่พอฉันเช้าเสร็จ ท่านจะเห็นว่า ผมต้องไปตรวจงานที่หน้าวัดเลย เพราะว่าการสร้างอาคารทรงไทย ๒ หลัง อยู่ในระหว่างมุงหลังคา ซึ่งอยากจะให้เสร็จก่อนที่โรงพยาบาลสนามจะเรียบร้อยและเปิดใช้งาน

หลังจากนั้นแล้ว ก็ติดตามผู้รับเหมาไปตรวจการก่อสร้างทางเดินสำหรับนักท่องเที่ยวรอบทางรถไฟสายมรณะ ตรงนี้ ๕ ล้านบาทนะครับ เพิ่งจะจ่ายไป ๒ งวด แล้วหลังจากนั้นก็มาตรวจงานการสร้างอ่างเก็บน้ำสำรองของวัดท่าขนุน ตรงนี้ ๓ ล้าน ๕ แสนบาท จ่ายไป ๒ งวดเช่นกัน แต่เป็น ๒ งวดที่เป็นงวดเดียวกัน แบ่งจ่าย ๒ ครั้ง

หลังจากนั้นก็มาดูทางชุมชนที่ร่วมกันทำอาหาร เพื่อเปิดโรงทานต้านภัยโควิด-๑๙ ตามพระดำริสมเด็จพระสังฆราช เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ค่อยมาทำหนังสือส่งนายอำเภอ ขออนุญาตจัดงานมอบทุนการศึกษา ทำไมถึงต้องขออนุญาต ? ก็เพราะว่ามีเด็กนักเรียนที่มารับทุน ๕๐๐ คนเศษ แต่จำนวนที่ทางด้านคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรีกำหนดไว้ ก็คือไม่เกิน ๒๐ คน..!

แต่ว่าตรงนี้ไม่มีปัญหา เพราะว่าปีที่แล้วเราก็ทำอย่างนี้ ซึ่งใช้วิธีเหลื่อมเวลาเข้ามารับทุน มีการตรวจคัดกรอง ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะ ใช้เวลาในการรับทุนแต่ละโรงเรียนประมาณ ๔ นาทีเท่านั้น เสร็จแล้วก็ส่งกลับเลย

ปีที่แล้วท่านผู้กำกับและรองผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมินั่งประกบซ้ายขวา เกรงว่าผมจะทำอะไรผิดคำสั่งทางราชการ ดูไปได้ประมาณครึ่งหนึ่ง ท่านรองผู้กำกับเกียรติศักดิ์ (พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ วิเศษสิงห์) ก็บอกว่า "หลงกังวลเสียเปล่า ระบบการทำงานของหลวงพ่อดีกว่าราชการอีก" เพราะว่าของเรานอกจากจะมีพระคอยดูแลแต่ละโรงเรียนแล้ว ยังมีบรรดา อสม. ตามประกบทุกโรงเรียนอีกด้วย

หลังจากนั้นก็ไปวัดทองผาภูมิ เพราะว่าคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ โดยหลวงพ่อพระครูวรกาญโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ หลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิราลงกรณ ตัวผมเอง และเจ้าคณะตำบลในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิทั้ง ๑๐ ตำบล ร่วมกันจัดหาข้าวสารอาหารแห้ง มอบให้กับวัดเหมืองปิล็อกและวัดเหมืองอีปู่ ทั้ง ๒ วัด ซึ่งประสบความเดือดร้อนจากคำสั่งปิดหมู่บ้านอีต่อง ตรงนี้จะเห็นว่าคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิของเรานั้นทำงานเร็วมาก เพราะว่ามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสูง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-05-2021 เมื่อ 17:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 13-05-2021, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเสร็จจากตรงนั้น ผมก็กลับมามอบข้าวกล่องให้กับท่านนายกฯ ประเทศ บุญยงค์ ซึ่งมารับข้าวกล่องไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลทองผาภูมิ คณะ อสม. จุดตรวจสามแยกทองผาภูมิ และจุดตรวจหน้าเขื่อนวชิราลงกรณ แล้วค่อยกลับมาฉันเพล

หลังเพลออกไปดูการสร้างห้องกระจก เพื่อแพทย์พยาบาลเอาไว้ใช้งานในการดูแลคนไข้ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ที่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งงานนี้ได้รับการสนับสนุนซุ้มพ่นยาฆ่าเชื้อ ๒ ซุ้ม จากคณะทิดวัดท่าขนุน ก็คือผู้บวชเก่าที่สึกหาลาเพศไปแล้ว นำโดยคุณต๋อง (ณัฐพล สุขวัฒนสิริ) กรรมการบ้านเติมบุญ ช่วยจัดหาให้

พอกลับเข้ามา ท่านปลัดเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า ปลัดอาวุโสทำหน้าที่แทนนายอำเภอทองผาภูมิ กับ ท่านนายกฯ ประเทศ บุญยงค์ ก็มาปรึกษาว่า ทางทหารและตำรวจในพื้นที่จับผู้ลักลอบหนีเข้าเมืองได้ ๗๐ กว่าคน ซึ่งโดยปกติแล้วต้องผลักดันกลับเลย แต่งวดนี้ไม่ได้ เพราะว่าอยู่ในช่วงเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แพร่ระบาดหนักมาก ต้องมีการตรวจหาเชื้อก่อน แล้วค่อยผลักดันกลับ

ในระหว่างตรวจหาเชื้อ ต้องรอผลอยู่ ๒ วันเศษ ๗๐ กว่าคนไม่รู้ว่าจะกินอะไร ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะให้พักที่วัดท่าขนุนด้วย พร้อมกับเลี้ยงอาหารเลย แต่คราวนี้สถานที่ของเราไปจัดทำเป็นโรงพยาบาลสนามแล้ว ก็เลยไปพักที่วัดโชคผาสุกิจ แล้วทางวัดท่าขนุนประกอบอาหารเลี้ยง ๗ มื้อ พวกท่านลองคำนวณคร่าว ๆ นะครับ ตีว่า ๗๐ คนถ้วน คนหนึ่งกินมื้อละ ๓๐ บาท หนึ่งคน ๓ มื้อเท่ากับ ๙๐ บาท แล้ว ๗๐ คน ๖,๓๐๐ บาท แล้วถ้าหากว่า ๗ มื้อล่อไปกี่หมื่น ? แต่ก็ต้องทำเพื่อมนุษยธรรม

ผมเองไปโดนจับที่ทางฝั่งพม่าอยู่หลายครั้ง บางทีเขาสอบสวนอยู่ครึ่งค่อนวัน แม้แต่น้ำแก้วเดียวก็ไม่ให้ แล้วถ้าติดคุกฝั่งพม่าหรือโดนจับที่ฝั่งพม่า ทั้งวันมีข้าวให้จานเดียว อยู่ได้อยู่ไม่ได้เรื่องของคุณ แต่บ้านเราไม่ใช่ เราจะเห็นว่าทันทีที่เกิดการรบราฆ่าฟันกันทางฝั่งโน้น สิ่งแรกที่พี่น้อง มอญ พม่า กะเหรี่ยง นึกถึงก็คือ ต้องข้ามมาฝั่งไทยให้ได้ ข้ามมาได้เมื่อไรรอดตายแน่ แต่ถ้าอยู่ฝั่งโน้น มีโอกาสตายสูงมาก

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงกลายเป็นงานด่วนขึ้นมา แต่โชคดีว่าทางชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนของเรานั้น ชุมชนเข้มแข็งมาก แค่บอกกล่าวไม่กี่นาที บรรดาคณะกรรมการชุมชนทั้ง ๓ ชุมชน ไม่ว่าจะเป็นชุมชนคุณธรรมวังท่าขนุน ชุมชนคุณธรรมริมฝั่งแควน้อย ชุมชนคุณธรรมพัฒนาทองผาภูมิ ส่งคนมาช่วยกันทำอาหาร ประกอบการเสร็จสรรพเรียบร้อย ส่งมอบให้ท่านนายกฯ ประเทศ บุญยงค์ นำไปส่งที่วัดโชคผาสุกิจ ผมก็สรงน้ำแต่งตัว แล้วมาทำวัตรค่ำร่วมกับพวกท่าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2021 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 13-05-2021, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านจะเห็นว่าทั้งวันมีแต่งาน นี่แค่ที่พูดถึง แล้วส่วนที่ไม่ได้พูดถึงก็ยังมีอีก มีญาติโยมหลายท่านถามว่า "งานมากขนาดนี้ในแต่ละวัน หลวงพ่อทำงานอย่างไรครับ ?" พวกท่านทั้งหลายต้องจำ และอนุญาตให้เลียนแบบได้โดยไม่สงวนลิขสิทธิ์

ในเรื่องของงานนั้น เราเป็นนักปฏิบัติธรรม สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ สติ สมาธิและปัญญา เราต้องมีสติรู้ว่างานมาแล้ว ต้องมีปัญญาแยกแยะความก่อนหลังเร็วช้าของงานแต่ละชิ้นแต่ละส่วน อะไรเร็วกว่า มาก่อนทำก่อน อะไรช้ากว่า แม้จะช้าสัก ๓ นาที ๕ นาที ยังไม่ต้องไปคิด เอาไว้ทีหลัง ถ้าอย่างนั้นท่านจะมีงานอยู่ตรงหน้าแค่งานเดียวเสมอ และไม่หนักเกินกำลัง

แต่ส่วนใหญ่ทุกท่าน โดยเฉพาะญาติโยม ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่ต่างประเทศ มักจะเอาหลาย ๆ งานมาคิดรวมกัน เมื่อยำใหญ่รวมกัน ก็หนักเกินกำลังและแก้ไขไม่ไหว

โดยเฉพาะในส่วนของการทำงานแต่ละวัน สมาธิสำคัญที่สุด เพราะว่าถ้ากำลังสมาธิไม่พอจะทำงานไม่ไหว ถ้าท่านอายุขนาดผมแล้ว ทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ เวลาพักก็ไม่มี ยังต้องมาสวดมนต์ทำวัตร มานั่งบันทึกคลิปเพื่อญาติโยมที่ไม่มีโอกาสฟังจะได้ฟังกันได้ คาดว่าก็คงคอพับไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าสมาธิทรงตัวนี่..เราสั่งได้ ก็คือสั่งร่างกายนี้ว่า "งานยังไม่หมด ทำไปก่อน งานหมดเมื่อไร แล้วค่อยพัก"

แต่คนที่จะทำลักษณะอย่างนี้ได้ ต้องไม่กลัวตายด้วยนะครับ เพราะว่าผมทำงานแบบคนที่มีวันนี้วันเดียว อย่างที่ได้บอกแล้วว่า ถ้าเราทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้ว พรุ่งนี้จะมีหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าเราเต็มที่แล้วทุกอย่าง แหงนหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน อยู่ไปคนเขาก็เกรงใจ ตายไปคนก็คิดถึง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2021 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 13-05-2021, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...จึงเรียนถวายพระภิกษุสามเณรทุกรูป ตลอดจนกระทั่งญาติโยมว่า สติต้องรู้รอบ สมาธิต้องทรงตัว ปัญญาต้องแหลมคมว่องไว สิ่งทั้งหลายเหล่านี้สำคัญตรงข้อกลาง คือ สมาธิ ถ้าสมาธิทรงตัว สติจะตั้งมั่น ปัญญาจะแหลมคมว่องไว

ดังนั้น...ท่านทั้งหลายต้องเน้นในการสร้างสมาธิให้ทรงตัว อย่างน้อยก็ระดับปฐมฌานละเอียด ไม่อย่างนั้นแล้วกำลังจะไม่พอสู้กับงาน และที่แย่กว่านั้นคือ ไม่พอที่จะกดกิเลสให้สงบลงได้ ใครจะบอกว่าติดสมาธิ..ปล่อยเขาไป นั่นเป็นเรื่องของคนที่พูดโดยไม่เห็นประโยชน์ของสมาธิ และไม่เข้าใจในสมาธิอย่างแท้จริง

ถ้าหากว่าเรามีสมาธิที่ทรงตัว สติตั้งมั่น รักษาอารมณ์อยู่กับปัจจุบันได้โดยตลอด เราจะเป็นคนที่มีความทุกข์น้อย เพราะว่าไม่ฟุ้งซ่านไปในอดีต และไม่ฟุ้งซ่านไปในอนาคต อารมณ์ใจอยู่กับเฉพาะหน้า งานอะไรมา ก็ทำไปแค่นั้น

ส่วนอื่นก็ใช้ปัญญาในการพินิจพิจารณาเลือกหาทางของเราว่า สิ่งทั้งหมดที่เราทำนี้เพื่ออะไร ? เป้าหมายของเราคืออะไร ? ถ้ารู้ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เราทำเพื่อละกิเลส ลด รัก โลภ โกรธ หลง ลง ขัดเกลาจิตใจของตนให้ผ่องใสที่สุด เพื่อที่ถึงเวลาแล้ว จะได้ล่วงพ้นจากกองทุกข์ไปสู่พระนิพพาน

ถ้าเป้าหมายชัดเจนขนาดนี้ ก็ทำไปเถอะครับ สมาธิยิ่งสูงเท่าไร ก็ยิ่งมีคุณแก่ตัวเท่านั้น เพราะว่าท่านมีสติรู้อยู่เฉพาะหน้า ไม่ได้หลงติดในสมาธิ และใช้สมาธินั้นในการตัดละกิเลส ส่งตัวเราเองให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ไปสู่พระนิพพาน

ก็ขอฝากข้อคิดให้แก่พระภิกษุสามเณรและญาติโยมไว้แต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2021 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:59



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว