กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-11-2012, 22:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,003 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้เฉพาะหน้า เอาความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ ตามแต่ที่เรามีความถนัด

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานวันที่สองของเดือนนี้..วันนี้มีบุคคลถามปัญหาว่า การที่เราสนใจจริยาผู้อื่นนั้น มีขอบเขตเพียงใด ? การสนใจในจริยาของผู้อื่นนั้นส่วนใหญ่แล้วจะก่อให้เกิดรัก โลภ โกรธ หลง ขึ้นในใจของพวกเรา

สมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงย้ำนักย้ำหนาว่า อย่าสนใจจริยาของคนอื่น ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แต่ในเมื่อญาติโยมสงสัยจึงได้ให้คำอธิบายไปว่า บุคคลบางประเภทก็ต้องสนใจในจริยาของคนอื่น บุคคลบางประเภทห้ามสนใจในจริยาของคนอื่นอย่างเด็ดขาด

บุคคลที่ต้องสนใจในจริยาของคนอื่น อย่างเช่น ผู้บังคับบัญชา ถ้าไม่สนใจจริยาความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่มีการว่ากล่าวตักเตือนเมื่อเขาทั้งหลายเหล่านั้นทำผิด ก็อาจจะสั่งสมจนกลายเป็น สันตานานุสัย ที่ฝังรากลึกอยู่ในใจของแต่ละคน ก่อให้เกิดผลร้าย และอาจจะถึงขนาดทำให้หน่วยงานนั้น ๆ พังทลายลงไปได้

ดังนั้น..บุคคลที่เป็นผู้บังคับบัญชา อย่างเช่น ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหาร เจ้าอาวาส ผู้อำนวยการ ผู้จัดการ หรือหัวหน้าคนงานเหล่านี้ จำเป็นต้องสนใจจริยาของผู้อื่น แต่ต้องไม่ประกอบไปด้วยอคติทั้ง ๔ คือ ต้องไม่ลำเอียงเพราะรัก (โลภ) ลำเอียงเพราะโกรธ ลำเอียงเพราะกลัว ลำเอียงเพราะหลง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-11-2012 เมื่อ 03:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 71 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-11-2012, 22:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,003 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนของบุคคลทั่วไป ถ้าเป็นนักปฏิบัติธรรม ไม่ควรสนใจจริยาของบุคคลอื่น แต่ถ้าจะสนใจจริยาของคนอื่นนั้น ให้ดูในลักษณะที่ว่า บุคคลนี้ประพฤติดีแล้ว ถูกต้องแล้ว สมควรที่เป็นแบบอย่างให้เราประพฤติปฏิบัติตาม แล้วก็เอาตัวอย่างนั้น ๆ มาประพฤติปฏิบัติ เพื่อสร้างความเจริญให้แก่ตัวเรา เมื่อเห็นบุคคลที่ทำไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมก็ตาม เราก็เอามาเป็นบทเรียนสอนใจว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราจะไม่กระทำอย่างเด็ดขาด

แต่ในส่วนของการสนใจจริยาคนอื่นเพื่อเป็นบทเรียนแก่ตนนั้น ก็ต้องระมัดระวังไว้ อย่าให้เกิดตัวปฏิฆะหรืออารมณ์กระทบขึ้น เพราะถ้าเกิดปฏิฆะเมื่อไร เราก็จะมีความโน้มเอียงไปในทางที่จิตใจเศร้าหมอง ก่อให้เกิดรัก โลภ โกรธ หลง ขึ้นในใจของเรา

ดังนั้น..ครูบาอาจารย์จึงมักจะเตือนว่าอย่าสนใจในจริยาคนอื่น โดยเฉพาะพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเตือนลูกศิษย์อยู่เสมอ ท่านบอกว่าให้ใช้ อัตตนา โจทยัตตานัง คือการกล่าวโทษโจทย์ตนเองเอาไว้เสมอ ว่าเรายังมีข้อผิดพลาด ข้อบกพร่องที่ใดบ้าง แล้วพยายามแก้ไขให้ดีขึ้น เพื่อให้มีกาย วาจา และใจที่ดีขึ้นกว่านี้

และให้ใช้ นิสสัมมะ กะระณัง เสยโย คือใคร่ครวญเสียก่อนแล้วจึงคิด จึงพูด จึงทำ ดังที่ผู้รู้บางท่านกล่าวว่า ให้คิดทุกอย่างที่เราจะทำ แต่อย่าทำทุกอย่างที่เราคิด ถ้าเรารู้จักตักเตือนตัวเองก่อน เราก็จะกระทำในสิ่งที่ถูกที่ควรมากกว่า โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อยลง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-11-2012 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 70 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 02-12-2012, 18:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,003 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..เมื่อตั้งคำถามว่า การสนใจจริยาของคนอื่นนั้นมีขอบเขตขนาดไหน ? ขอตอบว่า การที่เราสนใจจริยาคนอื่นนั้น ถ้าเอามาเป็นตัวอย่างในการประพฤติปฏิบัติของเรา ก็สามารถที่จะสนใจได้ แต่ต้องระมัดระวัง ตั้งกำลังใจให้เป็นกลาง อย่าไปยินดียินร้ายกับความประพฤติที่เราเห็น ไม่เช่นนั้นจะก่อให้เกิดโทษ รัก โลภ โกรธ หลงเกิดขึ้น ทำให้จิตใจของเราเศร้าหมอง ถ้าตายตอนนั้นก็ตกสู่อบายภูมิ

ในส่วนที่เป็นผู้บังคับบัญชา จำเป็นที่จะต้องสนใจจริยาของผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้รู้ว่าแต่ละท่านมีความประพฤติปฏิบัติอย่างไร จำเป็นจะต้องแก้ไขให้ดีขึ้นอย่างไร แต่ต้องไม่ประกอบไปด้วยอคติทั้ง ๔ คือลำเอียงเพราะรัก ลำเอียงเพราะโกรธ ลำเอียงเพราะกลัว ลำเอียงเพราะหลง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะได้เป็นข้อเตือนใจแก่เราว่า การสนใจจริยาของผู้อื่นนั้น ถ้าวางกำลังใจถูกต้องก็สามารถที่จะสนใจได้ แต่ถ้าวางกำลังใจผิดพลาด เราไปสนใจก็มีแต่ขาดทุน เพราะทำให้จิตใจของเราเศร้าหมองลงไปทุกที เป็นต้น

เราทุกคนที่เป็นนักปฏิบัติ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำการขัดเกลากาย วาจา และใจ ของเราให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะว่าการปฏิบัติในหลักธรรมะนั้น ท่านบอกว่าทำไปแล้วต้องประกอบไปด้วย อัปปิจฉตา คือความมักน้อย สันตุฏฐิตา คือความสันโดษ สัลเลขตา คือการขัดเกลา กาย วาจา ใจ ของเราให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ปวิเวกตา คือการหลีกออกจากหมู่ ไม่คลุกคลีกับคนอื่นที่เป็นเหตุให้จิตใจของตนเองฟุ้งซ่าน เป็นต้น

ถ้าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นแก่เรา ก็เป็นเครื่องวัดว่าการปฏิบัติของเรามีความก้าวหน้าเท่าไร แต่ถ้าปฏิบัติไปแล้วสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้น ก็อาจจะแปลว่าเราหลงไปผิดทางก็ได้ จึงต้องระมัดระวัง ดึงกำลังใจของตนให้กลับมาอยู่กับร่องกับรอย อยู่กับศีล อยู่กับสมาธิ อยู่กับปัญญา อย่าไปฟุ้งซ่านด้วยการไปสนใจจริยาของผู้อื่น เป็นต้น

ลำดับต่อไปนี้ ก็ขอให้ทุกท่านกำหนดลมหายใจเข้าออก พร้อมกับคำภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๕

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าและเถรี)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-12-2012 เมื่อ 19:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 21-12-2013, 15:15
ชินเชาวน์'s Avatar
ชินเชาวน์ ชินเชาวน์ is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Oct 2008
ข้อความ: 259
ได้ให้อนุโมทนา: 13,956
ได้รับอนุโมทนา 50,227 ครั้ง ใน 1,280 โพสต์
ชินเชาวน์ is on a distinguished road
Default

สามารถรับชมได้ที่

http://www.sapanboon.com/vdo/demo.ph...ame=2555-11-03

ป.ล.
- สามารถชมบนไอโฟนและแอนดรอยด์ได้
- ห้ามคัดลอกไฟล์ไปเผยแพร่ที่อื่นเด็ดขาด !
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชินเชาวน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:09



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว