กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-01-2022, 20:14
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,529
ได้ให้อนุโมทนา: 215,923
ได้รับอนุโมทนา 736,903 ครั้ง ใน 35,900 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 11-01-2022, 22:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพไปงานฉลองตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอไทรโยคของพระครูกาญจนสุตาภรณ์ (ณัฐพล ปสนฺโน ป.ธ.๔) แล้วก็เลยไปเยี่ยมพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ที่วัดอุทยาน ถนนริมคลองบางกอกน้อย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

บังเอิญได้พบกับเจ้าคุณหลวงตา (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) เจ้าคุณหลวงตาท่านเห็นว่ากระผม/อาตมภาพ ไปเยี่ยมยามพรรคพวกเพื่อนฝูงลูกศิษย์ลูกหาในลักษณะนั้น ก็บอกว่าดีใจที่เห็นพวกรักกัน ถึงเวลาไปมาหาสู่กัน แล้วท้ายที่สุดก็เลยร่วมกันวางโครงการว่า ส่วนใหญ่แล้วเจ้าอาวาสใหม่มักจะไม่ได้รับการยอมรับจากในพื้นที่

ตรงจุดนี้
กระผม/อาตมภาพเคยกล่าวเสมอในการประชุมคณะสงฆ์ว่า เป็น "วงจรอุบาทว์" ก็คือถ้าหากว่าสิ้นเจ้าอาวาสเก่าลงไป เจ้าอาวาสใหม่มา ถ้าความสามารถน้อยกว่า วัดจะโทรมทันตาเห็นเลย

ดูตัวอย่างวัดท่าขนุนนี้ก็แล้วกัน พอผ่านสมัยหลวงปู่สายมาถึงท่านอาจารย์สมเด็จ ท่านอาจารย์สมพงษ์ วัดวาอารามโทรมจนดูไม่ได้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพเมธากร เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีในสมัยนั้น ต้องให้ผมมากู้ชีวิตวัดท่าขนุนไปรอบหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นพอมาเป็นเจ้าอาวาสเองก็ต้องมากู้อีกรอบหนึ่ง เพราะว่าสิ่งที่ทำเอาไว้ในรอบแรกก็เริ่มโทรมลงไปอีกแล้ว

แต่ว่าต่อให้เจ้าอาวาสใหม่มีความสามารถเท่าเทียมหรือเก่งกว่าเจ้าอาวาสเก่า ญาติโยมทั้งหลายก็ยังคงนึกถึงคนเก่าอยู่ดี เพราะว่าเขาอยู่ด้วยกันมานาน ก็เหลืออยู่อย่างเดียวคือ เจ้าอาวาสใหม่ต้องอดทนทำความดีไปเรื่อย จนกว่าจะเป็นที่ยอมรับของชาวบ้าน ซึ่งก็มักจะเป็นช่วงท้าย ๆ ของชีวิตแล้ว พอสิ้นท่านไป เจ้าอาวาสใหม่ก็เจอปัญหาเดิมอีก
กระผม/อาตมภาพถึงได้ใช้คำว่า "วงจรอุบาทว์" ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากจะใช้

เจ้าคุณหลวงตาท่านบอกว่า ให้เราจัดกิจกรรมอะไรซึ่งแสดงออกซึ่ง Power ก็คือพลังของญาติโยมที่จะไปสนับสนุนวัดนั้น ท้ายสุดก็ตกลงกันว่าจะจัดการสวดพระคาถาเงินล้าน เนื่องจากว่าเดือนกุมภาพันธ์
กระผม/อาตมภาพหาวันเหมาะที่จะสวดพระคาถาเงินล้านที่วัดท่าขนุนไม่ได้ เนื่องจากว่าไม่มีวันหยุดต่อเนื่อง ก็เลยย้ายไปสวดที่วัดอุทยานแทน ญาติโยมจะได้ไม่ต้องเดินทางไกลหลายร้อยกิโลเมตรไปวัดท่าขนุน

เมื่อไปร่วมงานกันที่นั่น จำนวนคนหลายร้อยหรือถึงหลายพันคน ก็จะทำให้ชาวบ้านแถวนั้นเห็นว่า อย่างน้อยเจ้าอาวาสใหม่ก็มีผู้สนับสนุนอยู่ ซึ่งตรงนี้กระผม/อาตมภาพเห็นด้วย จึงได้ตกลงกันว่าเป็นวันอาทิตย์ที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕ โดยให้ประกาศบอกญาติโยมแต่เนิ่น ๆ จะได้รู้ว่าควรจะไปที่ไหน ส่วนเดือนมีนาคมเราค่อยมาพิจารณากันอีกทีว่า มีวันเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ ?

พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ถามว่า "แล้วเจ้าคุณหลวงตาจะมาไหมครับ ?" ท่านตอบว่า "มาสิวะ..พี่น้องเพื่อนฝูงกัน เพิ่งจะหัดตั้งไข่ ก็ต้องมาช่วยกันประคับประคองไปก่อน ถ้าเอ็งเดินแข็งเมื่อไร แล้วถึงจะปล่อยให้ไปเอง" ตรงจุดนี้เราจะได้เห็นน้ำใจกันระหว่างพี่น้อง ครูบาอาจารย์ หรือสหธรรมิก ที่มีกำลังใจจะทำความดีเพื่อส่วนรวมจริง ๆ แม้ว่าจะไม่ใช่งานของตน แม้ว่าร่างกายไม่ไหว อายุมาก อย่างน้อยไปเป็น "กองเชียร์" ก็ยังดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-01-2022 เมื่อ 08:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 11-01-2022, 22:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้ควรที่จะมีเอาไว้ เพราะอย่างที่กระผม/อาตมภาพตั้งโครงการกฐินปลดหนี้ปีละ ๑ วัดก็เหมือนกัน ก็ด้วยแนวคิดที่ว่า ถ้าหากว่าวัดไหนมั่นคงเพียงพอแล้ว ก็ควรที่จะช่วยวัดที่เขายังไม่ไหว แต่ว่าในการช่วยนี้ กระผม/อาตมภาพก็มีทีมงานที่ต้องไปสำรวจตรวจตราบรรดาวัดต่าง ๆ ที่เขามาขอเข้าบัญชีรอรับการช่วยเหลืออยู่ ว่าเป็นวัดที่สมควรช่วยจริง ๆ หรือเปล่า ? เจ้าอาวาสมีความประพฤติสมควรที่เราจะช่วยหรือว่าไม่สมควร

เนื่องจากว่าบางวัด เป็น ๑๐ ปีแล้ว การสร้างอาคารก็มีแต่เสา ถามว่า "ทำไมไม่สร้างให้เสร็จ ?" ท่านตอบว่า "ถ้าสร้างเสร็จก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินอย่างไร ?" ถ้าลักษณะอย่างนี้มาขอให้ผมช่วย ก็คงไม่ช่วยหรอก แล้วบางวัดไม่มีความสามารถที่จะทำอะไรเลย แต่มาขอให้ช่วย โดยโยนภาระทั้งหมดมาให้ กระผม/อาตมภาพก็ไม่ช่วยเหมือนกัน คืออย่างน้อย ๆ คุณจะต้องขยับขยายทำอะไรด้วยตัวเองได้บ้าง ไม่อย่างนั้นแล้วการช่วยเหลือพวกนี้ก็จะไม่รู้จบ ก็คือได้แต่ขอ ๆ ๆ โดยที่ไม่ได้คิดจะทำอะไรด้วย
ตนเองเลย

ดังนั้น...ทุกวัดที่ขอมา ไม่ใช่ว่าจะได้ทั้งหมด แต่ว่าอยู่ในลักษณะที่ว่า ถ้าใครตั้งใจทำความดีเพื่อศาสนาจริง ๆ ตั้งใจทำเพื่อส่วนรวมจริง ๆ ต่อให้ไม่รู้จักมักคุ้นกัน ถ้าหากว่าถึง "คิว" กระผม/อาตมภาพก็เต็มใจที่จะไปช่วย

ตอนแรกพอตั้งโครงการว่าปีละ ๑ วัด ญาติโยมหลายท่านก็ทักท้วงว่า "ในเรื่องของบุญกฐินเป็นบุญใหญ่มาก ทำไมไม่ทอด ๗ วัด ๙ วัดไปเลย จะได้อานิสงส์มหาศาล ?" ได้ตอบกลับไปว่า "อานิสงส์นั้นมาก แต่ว่าเงินน้อย ถ้าหากว่าทอดกฐิน ๙ วัด ได้วัดละ ๒ - ๓ แสนบาท ไม่พอทำอะไร กลายเป็นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แต่ถ้าเราเทไปวัดเดียว ก็จะเห็นหน้าเห็นหลังไปเลย"

ปีที่ผ่านมาไปทอดกฐินปลดหนี้ที่วัดท่าโขลง จังหวัดลพบุรี ก็สามารถที่จะปลดหนี้ของเขาได้ แล้วก็มีเงินเหลือให้บรรดาเด็กนักเรียนชาวเขาสามารถที่จะใช้ในการศึกษา และขณะเดียวกันก็มีค่าข้าวปลาอาหารที่จะรองรับ ไม่ให้พวกเขาเหล่านั้นลำบากจนเกินไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2022 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 11-01-2022, 22:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนั้นก็มีเรื่องอัศจรรย์ก็คือ มี "สามเณร ๑๐๐ ศพ" อยู่ตรงนั้นด้วย คำว่าสามเณร ๑๐๐ ศพ ไม่ได้ไปฆ่าแกงใคร แต่ว่าท่านทำหน้าที่สัปเหร่อคอยเผาศพ ก็เลยแนะนำวิชาการอะไรต่าง ๆ ไปตามสมควร โดยเฉพาะสามเณรทำเหรียญหลวงพ่อหนึ่งมา ให้กระผม/อาตมภาพช่วยเสกให้ ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่เคยเสกให้ใครในลักษณะอย่างนั้น เพราะว่าไม่มีการเตรียมตัวมาก่อน อยู่ ๆ ก็ผ่ากลางมาเลย แต่เห็นว่าสามเณรมีความตั้งใจจริง จึงสงเคราะห์ไปเต็มที่ สามเณรได้ถวายเหรียญมา ๑๐๐ เหรียญ ไม่ทราบเหมือนกันว่าหมดหรือยัง ? เพราะจำได้ว่าให้ไอ้ตัวเล็กเอาไปลงในกระทู้ทำบุญ ใครอยากรู้ว่ามีอะไรพิเศษก็ต้องไปหาบูชากันเอาเอง

ตรงจุดนี้ที่ทำโครงการกฐินปลดหนี้ ก็แนวคิดเดียวกับเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย ก็คือถ้าเราเอาตัวรอดวัดเดียว พระศาสนาจะอยู่ไม่ได้ พวกคุณลองนึกดูว่า ถ้าหากว่าเราแข็งแรงแล้วก็เดินไปลิบเลย หันกลับมาข้างหลังจะเจอใครบ้างไหม ? เราจะไม่เหลือใครเลย แต่ถ้าหากว่าเราช่วยเหลือกัน ประคับประคองกัน ถึงแม้ว่าไม่สามารถทำให้พุทธศาสนาเจริญพร้อมเพรียงกันทั้งหมด แต่อย่างน้อย ๆ ความรักความสามัคคีในหมู่คณะที่เกิดขึ้น ถ้าหากว่าจุดประกายให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น เมื่อยืนหยัดได้มั่นคงแล้วนำไปทำต่อ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็จะช่วยให้พุทธศาสนาของเราเจริญมั่นคงขึ้นมาได้อีกวาระหนึ่ง

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น แนวทางในการดำเนินงานเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาของ
กระผม/อาตมภาพกับเจ้าคุณหลวงตา แม้ว่าจะไม่ได้นัดแนะกันไว้ ก็ออกมาในแนวเดียวกัน ก็เลยว่าถ้าหากว่าในช่วงที่วัดท่าขนุนไม่สะดวกที่จะจัดการสวดพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบตามที่ตั้งใจไว้ ก็คือทุกเดือน เดือนไหนไม่สะดวกก็จะยกให้ทางวัดอุทยานไป แล้วทางเราก็ไปร่วมงานด้วย ปัจจัยไทยธรรมอะไรที่เกิดขึ้นตรงนั้น ก็จะได้เอาไว้ในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดอุทยาน

จะว่าไปแล้ว วัดอุทยานเป็นวัดที่ใหญ่มาก ๆ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่หลวงพ่อศรี (พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์) อดีตเจ้าอาวาสท่านทำเอาไว้ เป็นที่ชอบใจของกระผม/อาตมภาพมาก โดยเฉพาะตัวอาคารต่าง ๆ เน้นทรงไทย การสร้างอาคารทรงไทยนั้นแพงมาก เอาแค่ของวัดท่าขนุนก็พอ ถ้าหากว่าพวกคุณดูอาคารตั้งพระชำระหนี้สงฆ์ที่หน้าวัดท่าขนุน เฉพาะค่าแรงในการดัดเหล็กเพื่อทำหลังคาทรงไทยหลังละสี่แสนบาท..! เพราะว่าช่างที่จะดัดเหล็กให้เป็นทรงไทยได้สวยงามลงตัวนั้นหายากมาก จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้ช่างที่มีฝีมือจริง ๆ

พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี สมัยยังเป็นพระราชวิสุทธิเมธี เป็นเจ้าคณะจังหวัดได้ไม่นาน มาเห็นแล้วชอบใจ อยากจะสร้างบ้าง ถามว่าราคาเท่าไร ? กราบเรียนถวายไปว่า "เฉพาะค่าแรงทำหลังคาอย่างเดียวสี่แสนบาทครับ" ท่านเจ้าคุณเจ้าคณะจังหวัดบอกว่า "คงมีแต่พระอาจารย์เล็กจ่ายไหวอยู่คนเดียว" ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่นเลย แค่ค่าแรงทำโครงหลังคาอย่างเดียวล้วน ๆ เจอไปหลังละสี่แสนบาท..!

แต่หลวงพ่อศรีสามารถทำอาคารทุกหลังเป็นทรงไทยได้ ต้องบอกว่าท่านเป็นศูนย์รวมใจของญาติโยมพุทธศาสนิกชนที่บริเวณนั้น วัดวาอารามที่ท่านทำเอาไว้ก็ใหญ่โตมาก แล้วยังมีการซื้อที่ดินเพิ่มอีก ๒๐ - ๓๐ ไร่ เพื่อที่จะทำเป็นพุทธอุทยานไว้ปฏิบัติธรรม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2022 เมื่อ 03:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 11-01-2022, 22:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพเห็นด้วย เนื่องเพราะว่าวัดอยู่ใจกลางความเจริญ ถ้ามีสถานที่สงบ ร่มเย็น ให้ญาติโยมที่เครียดจากการทำงานต่าง ๆ ได้ไปพักผ่อนอิริยาบถ ได้ไปปฏิบัติธรรมสั่งสมความดี ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐและเหมาะสม แต่ว่าก็เป็นภาระหนักของเจ้าอาวาสใหม่ เพราะว่าสมัยนี้การก่อสร้างแต่ละอย่าง ก็ล้วนแล้วแต่ราคาแพงหูดับตับไหม้

ดูแค่ตัวอย่างหอพักนักเรียน ๒ ชั้น ที่กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะมอบให้กับทางโรงเรียนทองผาภูมิวิทยาไปเมื่อวันเด็ก ก็คือ ๓ วันที่แล้วมา นั่นขนาดประหยัดวัสดุอย่างสุดชีวิตแล้ว หมดไป ๑ ล้าน ๔ แสนบาท..! ตอนแรกตั้งงบประมาณไว้ที่ ๘ แสนบาท แต่ปรากฏว่าท่านผู้อำนวยการยงยุทธ สงพะโยม ผู้อำนวยการโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ไปได้แบบของทาง สพฐ. มา ก็คือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แบบมาตรฐานของเขา วิศวกรประเมินราคาอยู่ที่ ๑ ล้าน ๒ แสนบาท

กระผม/อาตมภาพก็ว่า เอาเป็นว่าทางชมรมรักษ์ธรรมรักษ์ไทยรับผิดชอบไป ๘ แสนบาท อีก ๔ แสนบาท กระผม/อาตมภาพรับผิดชอบเอง ปรากฏว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ อาละวาดพอดี ทำให้ผู้รับเหมาทุกรายไม่มีใครกล้ารับเหมาในราคา ๑ ล้าน ๒ แสนบาท กระผม/อาตมภาพจึงต้องหาช่างมาทำเอง แม้ว่าประหยัดวัสดุสุดชีวิตแล้ว ออกมาที่ ๑ ล้าน ๔ แสนบาท เพราะว่าเหล็กขึ้นราคารายวัน ญาติโยมที่เดือดร้อนเพราะหมูขึ้นราคาโปรดทราบว่า..ของขึ้นหมดทุกอย่าง..!

สมัยก่อนเราเป็นเด็กอาจจะคิดว่า "โตขึ้นทำงานแล้ว เราจะซื้อของดี ๆ ของแพง ๆ มากินมาใช้" ตอนนี้ซื้อได้ทุกอย่าง..แพงหมด แม้กระทั่งไข่ไก่ ก็ต้องถือว่ารัฐบาลบริหารงานได้ประสบความสำเร็จ คือทำให้พวกเราทุกคนสามารถซื้อของแพงมากินมาใช้ได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-01-2022 เมื่อ 08:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 11-01-2022, 22:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ถ้าหากบอกว่าไข่ไก่บ้านเราแพง กระผม/อาตมภาพขอคัดค้าน เพราะว่าได้ไปประเทศเนปาลมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะไปเพื่อใช้เป็นทางผ่านเข้าไปทิเบต หรือว่าไปเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ทางพระพุทธศาสนา ตลอดจนกระทั่งไปทำบุญกฐินปลดหนี้

แรก ๆ เมื่อไปที่พัก อาหารทุกมื้อที่เขามาเสิร์ฟจะต้องมีไข่ ไม่ใช่ไข่ต้มก็ไข่ดาว ไม่ใช่ไข่ดาวก็ไข่ทอด ไม่ใช่ไข่ทอดก็เป็นไข่เจียวฝรั่งที่เรียกว่าออมเล็ต กระผม/อาตมภาพยังคิดว่า "สงสัยว่าเขาไม่มีอย่างอื่นจะให้กิน ?" ปรากฏว่าไปรู้ความจริงแล้วจะเป็นลม เพราะว่าตอนนั้นเขาพาไปเที่ยวหมู่บ้าน ในลักษณะของการท่องเที่ยวธรรมชาติ แล้วมัคคุเทศก์ไปซื้อไข่จากชาวบ้าน ฟองละ ๖ บาทไทย..! หลายปีแล้วนะ น่าจะถึง ๑๐ ปีแล้ว ฟองละ ๖ บาทไทย เนื่องจากว่าเป็นอีกจังหวัดหนึ่ง ไม่ใช่ในกาฐมาณฑุ ในกาฐมาณฑุที่มัคคุเทศก์เขาทำงานอยู่ ไข่ไก่ฟองละ ๑๑ บาท..!

ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมต้องหากระป๋องลูกกวาดซึ่งเป็นโลหะ เอาฟางบุอย่างดี แล้วค่อย ๆ จัดเรียงไข่ลงไป ไปไหนก็กลายเป็น "คุณนายประคองศรี" ค่อย ๆ ประคับประคอง กลัวว่าไข่จะแตก พอรู้ราคาแล้ว ที่ทางโรงแรมเขาจัดอาหารให้เราทุกมื้อแล้วมีไข่ แปลว่าเขาตั้งใจบริการเราอย่างเต็มที่ พอรู้ราคาไข่แล้วฉันได้อร่อยกว่าเดิมเยอะเลย..! ตอนแรกเริ่มจะบ่นกันแล้ว เช้าก็ไข่ กลางวันก็ไข่ อะไรกันหนักหนาวะ..ทุกวันมีแต่เมนูไข่ ? แต่เราลองไปดูว่าถ้าเป็นชาวบ้านจะไหวไหม ? ไข่ฟองหนึ่งราคาเป็น ๑๐ บาท

บ้านเรายังอุดมสมบูรณ์พอ เพียงแต่ว่ารัฐบาลจะต้องมีความสามารถมากกว่านี้ ในการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของเราให้ไปได้ ในการที่จะแก้ไขปัญหาของแพง และตัวเราเองก็จำเป็นที่ต้องแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง โดยการประหยัดอดออมตามที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงไว้จนโด่งดังไปทั่วโลก ถ้ารู้จักขยัน ประหยัด อดออม เราจะยังไปได้ เพราะว่าประเทศอื่นลำบากกว่าเรามาก

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-01-2022 เมื่อ 15:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว