กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-02-2023, 19:00
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 332
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,238 ครั้ง ใน 804 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-02-2023, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,328 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพมีภารกิจต้องวิ่งไปยังวัดหนองโพ จังหวัดราชบุรี เพื่อร่วมงานทำบุญร้อยวันของคุณแม่ดำ ฉ่ำเม้า โยมมารดาของพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดหนองโพ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์มาด้วยกัน

ในงานก็เจอพรรคพวกเพื่อนฝูงหลายต่อหลายท่านด้วยกัน อย่างเช่น พระครูวิสุทธานันทคุณ (สุรศักดิ์ วิสุทฺธาจาโร ป.ธ.๓ , ผศ.ดร.)เจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดเขาช่องพราน

พระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. (กล้า วีรรตโน) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรวิหาร เมืองเพชรบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนเรียนปริญญาเอกมาด้วยกัน

หรือว่าพระเดชพระคุณพระภาวนาวิหารกิจ วิ. (ทองย้อย สญฺญโม) หรือหลวงพ่อเจ้าคุณทองย้อย เจ้าอาวาสวัดเขาวัง (พระอารามหลวง) เป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ที่กระผม/อาตมภาพภูมิใจมาก เนื่องเพราะว่าท่านเป็นพระเถระที่อายุกาลผ่านวัยถึง ๘๐ กว่าปีแล้ว ได้มีโอกาสอบรมพระอุปัชฌาย์ด้วยกัน เห็นความน่ารัก ความใจเย็นของท่าน โดยเฉพาะสภาพร่างกายของท่านแข็งแรงมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเดินขึ้นเขาวัง ราชบุรีอยู่ทุกบ่อย จึงทำให้คนหนุ่มรู้สึกอายท่านเวลาเดินขึ้นเขาไม่ค่อยจะไหว

หลังจากที่เจริญพระพุทธมนต์ ฉันเพล โดยมีท่านเจ้าคุณอาจารย์พระปิฎกโกศล, ดร. (ปราโมทย์ ปโมทิโต ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นอาจารย์สอนกระผม/อาตมภาพมา ตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์อยู่

เมื่อเสร็จภารกิจ ฉันเพลกันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องรีบวิ่งไปยังวัดสันติคีรี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดตลุงใต้ หมู่ที่ ๖ ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเจริญพระพุทธมนต์ในงานทำบุญอายุวัฒนมงคล ๕๒ ปี พระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. (วีระ มหาวีโร ป.ธ.๗) เจ้าคณะอำเภอศรีสวัสดิ์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสันติคีรี ซึ่งในงานนั้นพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๗ เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหารเป็นประธานสงฆ์อยู่

หลวงพ่อพระพรหมเสนาบดี พอเห็นหน้าก็รีบบอกว่า "วันก่อนในงานเปิดอบรมบาลีก่อนสอบที่วัดสามพระยา เซียนพระเขามาดูพระที่ท่านถวายมาให้ ตีราคามาให้ ๔๒ ล้านบาท..!" กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ขำ จึงกราบเรียนไปว่า "หลวงพ่อปล่อยไปได้เลยครับ เดี๋ยวกระผมจะหาให้ใหม่..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-02-2023 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-02-2023, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,328 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดีนั้น ด้วยความที่ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ เมื่อถึงเวลาบรรดาลูกคณะต่าง ๆ หาของขวัญไปมุทิตาสักการะในวาระสำคัญ ส่วนหนึ่งก็เป็นวัตถุมงคล แต่ท่านปรารภว่า เมื่อให้เซียนเขาตรวจสอบแล้ว ปลอมเสียทั้งหมด..! ไม่มีอะไรที่เป็นของดีในลักษณะของเบญจภาคีเมืองไทยบ้างเลย

กระผม/อาตมภาพได้ยินท่านปรารภเช่นนั้น จึงปลดสมเด็จวัดระฆังองค์ที่แขวนติดประคำอยู่เป็นประจำถวายท่านไป โดยกราบเรียนท่านว่า "ถ้าเขาให้ต่ำกว่า ๒๐ ล้าน หลวงพ่ออย่าปล่อยนะครับ" หลังจากนั้นก็ยังหาพระผงสุพรรณองค์ "สวยหูตากระพริบ" ให้ท่านไปอีก ๑ องค์ กำลังรออยู่ว่าจะไปขุดกรุเจอเมื่อไรว่าเบญจภาคีในส่วนที่เหลือยังมีองค์ใดบ้าง เนื่องเพราะว่าการย้ายวัดหลายต่อหลายครั้งด้วยกันนั้น ทำให้ข้าวของต่าง ๆ ส่วนหนึ่งก็หมกอยู่ก้นลัง ไม่มีเวลาที่จะไปค้นดู ถ้าหากว่าค้นของอื่นแล้วไปเจอเข้า ก็ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญอย่างยิ่ง

คราวนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจอหน้าเมื่อไร ก็ตบหน้าอกให้ดูตรงกระเป๋าอังสะว่า "ใช้ติดตัวอยู่นะ" แต่งานนี้ปรากฏว่าเจอเซียนพระตีราคาเข้า กระผม/อาตมภาพก็เลยขำ ตรงที่ว่าท่านเองก็เกรงใจคนถวาย ก็เลยไม่กล้าที่จะปล่อยให้เซียนตามราคาที่เขาตั้ง หรืออาจจะคิดว่า ถ้าปล่อยไปแล้ว ไม่มีทางที่จะหาองค์สวยขนาดนี้ได้อีก จึงตัดใจเก็บเอาไว้บูชาเองดีกว่า

หลังจากที่เสร็จจากงานทำบุญอายุวัฒนมงคล ๕๒ ปี ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. แล้ว พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ปรารภว่า "อีกไม่กี่วันเราก็ต้องมีการประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ระดับเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ กัน ก็ในเมื่อวันนี้ทุกท่านมากันเกือบจะครบถ้วนแล้ว ก็ประชุมเสียเลยเป็นอย่างไร ?"

พวกเราทุกคนก็เห็นด้วย จึงได้เข้าร่วมประชุมกันก่อน โดยที่ท่านปรารภว่าจะให้จบภายใน ๓๐ นาที เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น รับอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. เนื่องในโอกาสที่ท่านจะหาปัจจัยในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดสันติคีรี หรือว่าวัดตลุงใต้ ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน ซึ่งหลวงพ่อของท่านเองที่มาบวชในยามชรา จนกระทั่งได้เป็นฐานานุกรมที่พระครูใบฎีกา หลังจากที่มรณภาพ
แล้ว ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. ก็ฌาปนกิจหลวงพ่อของท่านที่นี่ แล้วรักษาการเจ้าอาวาสเรื่อยมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-02-2023 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-02-2023, 00:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,328 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเสร็จจากการประชุมแล้ว พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. ก็บอกว่า "อาจารย์เล็กไปเข้าปลุกเสกวัตถุมงคลได้เลยครับ ทางด้านนี้ที่เหลือ ถ้ามีอะไรก็จะว่ากันต่อไปเอง" กระผม/อาตมภาพจึงไปยังมณฑลพิธี ซึ่งจะมีการหล่อพระด้วย

เมื่อทำการอาราธนาบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์เรียบร้อยแล้ว หลับตาลงภาวนา ก็เห็นหลวงพ่อรูปหนึ่ง นั่งอยู่กลางวง กระผม/อาตมภาพยังคิดว่าตัวเองตาฝาด หรือว่าเฝือไปหรือเปล่า ? ลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่าหลวงพ่อองค์นั้นคือหลวงพ่อขาว พระประธานในศาลาการการเปรียญของวัดสันติคีรีนั่นเอง

แต่แปลกตรงที่ว่าท่านมาในรูปของพระสงฆ์ พอลืมตาดูรูปพระสงฆ์ก็กลืนกับรูปพระพุทธที่ตั้งเป็นประธานอยู่ ถึงได้เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าท่านมาสงเคราะห์ โดยเฉพาะเทวดาที่รักษาองค์หลวงพ่อขาว ท่านแสดงนิมิตให้เห็นว่า ท่านรับรู้ในการที่สร้างรูปของท่านให้ประชาชนที่เคารพนับถือได้บูชา

เมื่อเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัว เดินทางไปยังวัดวังโพธิการาม หมู่ที่ ๑ ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อถวายมุทิตาสักการะพระครูโพธิกาญจนธรรม (ทองยุ้ย ฐานธมฺโม) เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ - สังขละบุรี (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดวังโพธิการาม ซึ่งท่านเจริญอายุวัฒนมงคล ๖๐ ปี เจอหน้าก็หัวเราะใส่กัน เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเรียกท่านว่า "หลวงพี่ยุ้ย" มาตลอด โดยที่เพิ่งจะรู้ว่าท่านอายุน้อยกว่าในวันนี้เอง

เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องตลกที่บางทีก็หัวเราะไม่ออก อย่างเช่นว่ากระผม/อาตมภาพนั้นเรียกท่านเจ้าคุณองอาจ พระภาวนาประชานุกูล วิ. (องอาจ อาภากโร) เจ้าคณะอำเภอคลองหลวงแพ่ง เจ้าอาวาสวัดวีระโชติธรรมารามว่า "หลวงพี่" หรือไม่ก็เรียกสั้น ๆ ว่า "พี่องอาจ" มาตลอด

แต่เมื่อจับกลุ่มเข้าวงกันไป มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ก็มีการไล่อายุไล่พรรษากัน ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณองอาจเด็กที่สุด ตอนนั้นท่านเพิ่งจะอายุ ๔๘ - ๔๙ ปี ท่านถึงขนาดนั่งบ่นว่า "ทำไมกูหน้าแก่แท้วะ ?" กระผม/อาตมภาพก็ยังขำ ถึงได้เรียนถวายไปว่า "เรียกแล้วไม่รับคืนครับ" ในเมื่อเรียกพี่มาตลอด ก็ขออนุญาตเรียกต่อไปก็แล้วกัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-02-2023 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-02-2023, 00:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,328 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นก็ได้ขอตัวกับหลวงพ่อทองยุ้ย ไปกราบหลวงพ่อพระพุทธชินราชที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ซึ่งตกคุ้งตรงบริเวณหน้าวัดของท่านพอดี บรรยากาศงดงามมาก ข้างล่างยังมีเรือนแพอีกต่างหาก

ถ้าหากว่าทางด้านวัดท่าขนุนนั้น มีการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณตอนล่างตามโครงการเดิม กระผม/อาตมภาพก็ตั้งใจจะสร้างหมู่เรือนแพเป็นแถวยาวตลอดหน้าวัด แต่ปรากฏว่าโครงการนี้ต้องล้มพับไป เนื่องเพราะว่าทันทีที่ประกาศโครงการ แล้วรู้ว่าบริเวณที่จะสร้างเขื่อนตอนล่างเพื่อสูบน้ำกลับใช้ในการปั่นไฟฟ้านั้น อยู่บริเวณบ้านจันเดย์ ที่ดินบริเวณนั้นก็ขึ้นราคาไปหูดับตับไหม้..! จากราคาประเมินไร่ละหนึ่งแสนก็ขึ้นไปถึงสามล้านบาท ทำให้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ไม่สามารถที่จะหางบประมาณมาซื้อที่ดินเพื่อใช้ในการสร้างเขื่อนได้

กระผม/อาตมภาพก็ยังเคยท้วงในวงประชาพิจารณ์ว่า "ทำไมเราไม่ทำการซื้อที่ดินก่อนแล้วถึงประกาศโครงการ ? เพราะว่าประกาศไปแล้วก็จะมีแต่คนฉวยโอกาสขึ้นราคาในลักษณะอย่างนี้" ปรากฏว่าทางด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยก็มีเหตุผลของเขาว่า "ถ้าหากว่าซื้อที่ดินไปแล้ว โครงการไม่ผ่านการพิจารณาก็แปลว่า กฟผ.เสียเงินฟรีอีก" ตกลงว่าไม่ว่าจะซื้อก่อนหรือว่าซื้อหลัง ก็มีแต่จุดบกพร่องให้คนฉวยโอกาสได้ทั้งสิ้น

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นกระผม/อาตมภาพจึงกลายเป็น "ฝันค้าง" เพราะว่าหลังจากที่ยื้อกันมา ๘ ปี ๑๐ ปี เพิ่งสรุปได้อย่างชัดเจนเมื่อไม่กี่วันนี้เองว่า โครงการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณตอนล่างนั้น พับทิ้งไปโดยปริยาย เพราะว่าไม่สามารถหางบประมาณที่จะมาดำเนินการได้

เป็นที่น่าเสียดายว่าหมู่เรือนแพวัดท่าขนุนไม่สามารถที่จะปรากฏขึ้น ไม่เช่นนั้นถึงเวลาจัดการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ แล้วท่านทั้งหลายเดินจงกรมในเรือนแพรับลมแม่น้ำเย็นชื่นใจ แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าบรรยากาศน่าปฏิบัติธรรมขนาดไหน ตอนนี้ก็ได้แต่ฝันไปก่อนก็แล้วกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-02-2023 เมื่อ 03:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว