กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-09-2021, 20:55
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,643
ได้ให้อนุโมทนา: 219,474
ได้รับอนุโมทนา 768,370 ครั้ง ใน 37,580 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-09-2021, 23:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,452
ได้ให้อนุโมทนา: 154,333
ได้รับอนุโมทนา 4,445,889 ครั้ง ใน 35,057 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ เป็นวันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ ถ้าเป็นทางภาคอีสาน เขามีงานบุญข้าวประดับดิน ซึ่งจะเรียกง่าย ๆ ว่าวันเลี้ยงผีไม่มีญาติ ดังนั้น..ในวันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ กลางค่ำกลางคืนเขาห้ามเดินทาง ห้ามออกนอกบ้าน กลัวว่าจะจับไข้หัวโกร๋นกลับมา..!

วันก่อนที่หายไป เนื่องจากว่ามีงานปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดกลางบางแก้ว ซึ่งถ้าหากว่าเดินทางกลับก็น่าจะทัน แต่พอดีพระครูเทพ (พระครูปฐมสาธุวัฒน์) วัดสี่แยกเจริญพร ขอให้ช่วยจารเหรียญสมเด็จองค์ปฐมยิ้มรับทรัพย์ เนื้อเงินหน้ากากทองคำให้หน่อย โดยมีสินบนให้เป็นล้าน..!

อาตมภาพเป็นคนที่เงินซื้อไม่ได้ ถ้าไม่มากพอ..! ก็เลยต้องอยู่จารเหรียญให้ จนกระทั่งกลับวัดไม่ทัน ยังดีที่สังหรณ์ใจ ขอสัตตาหะฯ ท่ามกลางสงฆ์ไปตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว ก็เลยสามารถค้างคืนด้านนอกได้ แต่ญาติโยมที่รอฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนอยู่ ก็น่าจะมีบ่นกันบ้าง

การปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดกลางบางแก้ว ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกของวัดที่อนุญาตให้คนนอกนำวัตถุมงคลไปเสกในโบสถ์ คนนอกที่ว่านี้ก็คือ กองกำกับการตำรวจภูธรภาค ๗ สร้าง "เหรียญเจ้าสัว รุ่นโภคทรัพย์"

ถ้าเอ่ยถึง "เหรียญเจ้าสัว" ต้นตำรับก็คือวัดกลางบางแก้ว ซึ่งสร้างโดยหลวงปู่บุญ อดีตเจ้าอาวาส แล้วผู้ที่รับไปส่วนใหญ่ก็ทำมาหากินจนร่ำรวย มีฐานะมั่นคง พูดง่าย ๆ ว่ากลายเป็นเศรษฐี เขาก็เลยเรียกว่าเหรียญเจ้าสัว ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็ออกแบบได้สวยมาก แม้ว่าเทคโนโลยีในสมัยก่อนจะไม่เหมือนกับสมัยนี้ก็ตาม จึงมีการทำเลียนแบบขึ้นมาจำนวนมากมายหลายวัด แต่ท้ายที่สุด..วัดต้นตำรับก็สำคัญที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-09-2021 เมื่อ 10:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-09-2021, 23:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,452
ได้ให้อนุโมทนา: 154,333
ได้รับอนุโมทนา 4,445,889 ครั้ง ใน 35,057 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ได้เจอพรรคพวกเพื่อนฝูงหลายคนในงาน ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อสวง (พระครูพิพัฒน์กิตติสาร) วัดเขาพระ จังหวัดลพบุรี ท่านเจ้าคุณทิน (พระโสภรพัฒนคุณ) วัดพุน้อย เศรษฐีเรือทอง แม้กระทั่งท่านอาจารย์ต๋อง (พระครูสุทธิสารโสภิต) วัดพุตะเคียน ก็ได้รับนิมนต์ด้วย ต้องบอกว่าเจ้าภาพใจใหญ่มาก นิมนต์พระเกจิอาจารย์ ๑๐๘ รูปมาช่วยกันเสก

ทันทีที่เข้าไปในพิธี กระผม/อาตมภาพตั้งใจกราบขอบารมีพระสงเคราะห์ ซึ่งถ้าเป็นการเสกวัตถุมงคลที่วัดอื่น ก็ต้องปิดท้ายด้วยอดีตเจ้าอาวาสของวัดนั้น ๆ ก็ปรากฏว่าขอแล้วหลวงปู่บุญท่านไม่มา ในเมื่อตื๊อขอซ้ำ ท่านบอกว่า "ให้เชิญครูบาอาจารย์ก่อน" จึงกราบเรียนถามว่าจะให้เชิญใคร ? ท่านบอกว่า "หลวงปู่ปาน วัดตุ๊กตา" แล้วก็ให้ว่ากันไปตามลำดับ

จากหลวงปู่ปาน วัดตุ๊กตา ก็เป็นตัวท่านเอง หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เพิ่ม แล้วมาเป็นหลวงปู่ทองใบ ที่อาตมภาพไม่คุ้นเคยเลย แล้วก็มาหลวงปู่เจือ เมื่อครูบาอาจารย์มาครบ กระผม/อาตมภาพก็มีหน้าที่นั่งดูว่าท่านทำอะไรกันบ้าง พอครบเวลาก็พรมน้ำมนต์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา แล้วขอตัวกลับ เพราะว่าเดินทางไกล

พอดีท่านพระครูเทพส่งไลน์มา แจ้งเรื่องขอความเมตตาในการจารเหรียญสมเด็จองค์ปฐมยิ้มรับทรัพย์ เนื้อเงินหน้ากากทองคำ พอถามว่าเหรียญมีจำนวนเท่าไร ? ก็บอกว่าประมาณหกเจ็ดสิบเหรียญ เมื่อเห็นว่าพอที่จะจารไหว จึงนัดพบกันที่วัดท่ามะขาม (วัดราษฎร์ประชุมชนาราม)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2021 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-09-2021, 23:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,452
ได้ให้อนุโมทนา: 154,333
ได้รับอนุโมทนา 4,445,889 ครั้ง ใน 35,057 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปรากฎว่าพอท่านอาจารย์เทพมาถึง ท่านบอกว่า "หลวงพ่อครับ คนจองหมดแล้ว" อะไรวะ ? ท่านบอกว่า "ปกติเหรียญนี้จำหน่ายราคา ๗,๐๐๐ บาท แต่พอมีลายมือจารของหลวงพ่อ ลูกค้าตั้งราคาให้เองว่า ๒๕,๐๐๐ บาท..!" อาตมาได้ยินแล้วน้ำตาจะไหล ทำไมขายกันได้แพงขนาดนั้น ??!! แล้วเหรียญของอาตมภาพเอง ๒๐๐ บาท, ๓๐๐ บาท จะไปสู้เขาได้อย่างไร ?

บ่นไปบ่นมา ท่านอาจารย์เทพท่านก็เลยบอกว่า เหรียญที่จารทั้งหมดนี้ ถ้าจำหน่ายได้แล้วก็จะถวายเงินให้กับหลวงพ่อ
อยากจะร่วมบุญด้วย เอ้า..ถ้าอย่างนี้ค่อยน่าจารให้หน่อย

ดังนั้น..ในส่วนนี้ต้องบอกว่ากำลังใจของท่านอาจารย์เทพนั้น "เกินคน" คำว่าเกินคนในที่นี้ก็คือ ตัวท่านเอง แม้ว่าก่อนที่กระผม/อาตมภาพจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ท่านเองก็ช่วยวัดอื่นอยู่เป็นปกติ บางทีทำให้ที่อื่นมากกว่าวัดของตัวเองอีก

อย่างเช่นว่าช่วยศูนย์ปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนครปฐมแห่งที่ ๒ ซึ่งทางวัดไร่ขิงใช้ในการปฏิบัติธรรมของนิสิตวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาฯ ตลอดจนกระทั่งการอบรมพระอุปัชฌาย์ ท่านอาจารย์เทพไปสร้างกุฏิให้ ๕๐ หลัง..! เป็นกุฏิเดี่ยวสำหรับนอนคนเดียวแบบพระนักปฏิบัติ

แล้วก็มาสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม โดยที่หลวงพ่อท่านมีที่ดินให้ ส่วนที่เหลือท่านอาจารย์เทพช่วยทำทั้งหมด ทำจนตัวเองเป็นหนี้หัวโต แล้ววัดวาอื่น ๆ ก็ไม่ได้ดูว่าท่านทำอะไรอยู่ มาช่วยกันซ้ำเติม ขอโน่น ขอนี่ ขอนั่น บางท่านก็ไม่ได้ขอ แต่ปล้นเอาเลย ก็คือไปถึงวัด เห็นวัสดุก่อสร้างกองอยู่ ก็ขนขึ้นรถกลับวัดตัวเองเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-09-2021 เมื่อ 10:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 06-09-2021, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,452
ได้ให้อนุโมทนา: 154,333
ได้รับอนุโมทนา 4,445,889 ครั้ง ใน 35,057 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพชอบคนบ้าแบบนี้ ก็เลยมาช่วยท่าน โดยเฉพาะช่วยสร้างศาลาหลังใหญ่ที่ท่านตั้งใจจะติดป้ายว่า "พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. อุปถัมภ์" ดังนั้น..อะไรถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ช่วยได้ก็จะช่วย แต่ถ้ารำคาญมาก ก็ตัดความช่วยเหลือ..!

คราวนี้อีกส่วนหนึ่งก็คือว่า เมื่อเดินทางกลับมา วันนี้เป็นวันพระสิ้นเดือน แล้วก็เดือนขาด จึงต้องมาให้ทันการทำบุญวันพระทางด้านนี้ โดยเฉพาะในส่วนของการลงฟังพระปาฏิโมกข์

การทบทวนพระปาฏิโมกข์ทุกกึ่งเดือน เป็นกิจของสงฆ์ที่ขาดไม่ได้ เพราะว่าถ้าขาดก็โดนปรับอาบัติ แต่คราวนี้ถ้าหากว่าพระสงฆ์ที่ไม่สะดวก อย่างเช่นว่า เจ็บไข้ได้ป่วย ติดธุระสำคัญ ก็ต้องมอบฉันทะให้เพื่อนสงฆ์ไปทำหน้าที่แทนตนเอง ถ้าหากว่ามีการประชุมสงฆ์ตัดสินเรื่องอะไร ผู้ที่รับฉันทะไป เท่ากับว่าออกได้ ๒ เสียง ก็คือของตนเองด้วย กับของบุคคลที่รับฝากมาด้วย

อย่างของวัดท่าขนุนนี้ ก็มีพระที่คอยอยู่เวรยาม ดูแลความเรียบร้อยในช่วงที่พระส่วนใหญ่ทำกิจกรรมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเจริญกรรมฐาน ทำวัตร บิณฑบาต ฉันเช้า ฉันเพล หรือว่าลงโบสถ์ฟังพระปาฏิโมกข์ เนื่องเพราะว่าผู้ร้ายสมัยนี้ฉลาดมาก

รู้ว่าพระสงฆ์มีกิจวัตรเวลาไหน ก็มักจะเข้ามาโจรกรรมในเวลานั้น ซึ่งสารพัดวัดโดนกันมานับไม่ถ้วนแล้ว ยกเว้นวัดท่าขนุนที่พระท่านมีจิตศรัทธาจัดเวรยามกันขึ้นมา ช่วยป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพต่าง ๆ ทำหน้าที่ได้ ไม่อย่างนั้นอาตมภาพที่กำลังบันทึกเสียงให้ญาติโยมฟังอยู่ ตลอดจนกระทั่งพระสงฆ์ สามเณร แม่ชีทั้งหลายก็อยู่รวมกันตรงหน้า ถ้ามิจฉาชีพเข้ามา เขาจะขนอะไรไปก็ได้ เพราะว่าไม่มีใครดูแลเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2021 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 06-09-2021, 23:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,452
ได้ให้อนุโมทนา: 154,333
ได้รับอนุโมทนา 4,445,889 ครั้ง ใน 35,057 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของการรักษาของสงฆ์นั้นเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะว่าของสงฆ์ทุกอย่างได้มาด้วยศรัทธาญาติโยม บรรดาท่านที่อยู่เวรอยู่ยามก็สละความสุขส่วนตัว เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นกับวัด ซึ่งก็เท่ากับเกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา ตรงนี้มีอานิสงส์ใหญ่มาก

แต่ขอให้เป็นท่านที่เสียสละทำหน้าที่จากใจจริง ไม่ใช่อู้เพราะขี้เกียจทำวัตรสวดมนต์หรือนั่งกรรมฐาน ถ้าลักษณะของการหลบไปเป็นเวรยามเพื่ออู้ ไม่ต้องเจริญกรรมฐาน ไม่ต้องทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น แบบนั้นแทนที่จะมีผลดี ก็กลายเป็นผลชั่วไป เนื่องจากว่าของเราเองไปทำในสิ่งที่คนอื่นเขาคิดว่าดี แต่จริง ๆ แล้วเจตนาจะหลบเลี่ยงหน้าที่ ที่พระสงฆ์ของเราควรกระทำ

ดังนั้น..ในเรื่องพวกนี้ เราต้องเข้าใจว่า พระภิกษุสงฆ์สามเณรของเรา หน้าที่หลักก็คือสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต เจริญพระกรรมฐาน หน้าที่อื่นก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันรับผิดชอบไป ถ้าหากว่าหน้าที่หลักของเราทำไม่ดี โอกาสที่จะก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมก็น้อย

ญาติโยมทั้งหลาย ไม่ว่าจะอยู่ที่นี่หรือว่าอยู่ที่บ้านก็ตาม ก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน ก็คือ ถ้าหากว่าเป็นบุคคลที่กำลังใจทรงตัวอยู่ในการปฏิบัติธรรม ก็มักจะทำหน้าที่ของตนเองได้ดีที่สุด ทำแบบผู้ที่ไม่ประมาท ทำแบบบุคคลที่มีวันนี้วันเดียว ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่ท่านจะหลุดพ้นเข้าพระนิพพาน ก็จะมีดังที่ตั้งใจปรารถนาไว้

จึงขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณร และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายได้ทราบแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2021 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว