|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#121
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "คำว่า ซากุไร มาจากภาษาอังกฤษว่า สกรูไดรเวอร์ คือ ผู้นำเกลียว คราวนี้คนไทยฟังไม่ชัด จึงเรียกเป็นซากุไร ยังดีไม่ฟังเป็นซามูไร คนทั่ว ๆ ไปเขาเรียกว่า ไขควง ซึ่งก็มาจากคำว่าสกรูไดรเวอร์นั่นแหละ ผู้นำเกลียว เกลียวก็ควง ๆ
ภาษาไทยก็อย่างที่ว่านั่นแหละ เรียกเอาตามสบายใจ สกรูไดรเวอร์ก็เลยกลายเป็นซากุไร ภาษาเก่า ๆ มาถามได้ อาตมาค้นยันรากศัพท์ทุกคำ อยู่ ป.๒ อ่านหนังสือหมดไปหนึ่งห้องสมุด อยู่ ป.๕ หมดไปอีกหนึ่งห้องสมุด อยู่ ม.ศ.๒ หมดไปอีกหนึ่งห้องสมุด เล่มไหนคนไม่อ่านก็จะยืมเล่มนั้น อ่านมาเยอะ ก็เลยพอที่จะเข้าใจคำเก่า ๆ อยู่บ้าง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2021 เมื่อ 12:47 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#122
|
||||
|
||||
ถาม : หลวงพ่อทำใจอย่างไรครับ ในเรื่องงานศาสนา คนอื่นไม่ทำแต่เราทำ ?
ตอบ : ของแบบนี้เราจะต้องมองภาพรวม คำว่า ภาพรวม ก็คือ สิ่งที่เราทำเป็นความเจริญของพระศาสนา ไม่ใช่ที่ใดที่หนึ่ง พระพุทธศาสนาไม่สามารถจะไปได้ ถ้าคุณเด่นอยู่คนเดียว ในเมื่อเราแข็งแรงพอ ต้องช่วยลากเพื่อนฝูงไปด้วย ถ้าหากว่าใครยังมองอยู่แค่วัดตัวเอง ยังมองแค่ตัวเอง ก็ไม่ใช่งานพระศาสนาครับ ยังทำเพื่อตัวเองอยู่ก็เจริญยาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2021 เมื่อ 17:38 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#123
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมากำลังสะสมน้ำหนักได้เพิ่มมา ๒ กิโลกรัม ป่วยทีเดียวหายไป ๒ กิโลกรัมครึ่ง ขาดทุนอีกแล้ว ดวงเป็นอย่างนี้มาตลอด เดี๋ยวต้องตั้งใจใหม่ว่าจะไม่อ้วนแล้ว ทุกวันนี้ที่อยากอ้วน เพราะว่าเวลาไปนั่งกับเพื่อนฝูง รู้สึกจ๋องมากเลย ผอมกะหร่องอยู่คนเดียว
วงการสงฆ์ภาค ๑๔ ทั้งสี่จังหวัดเขาแซวกันทุกวัน "มึงอย่าไปอยู่ทองผาภูมินะ" เขาถามว่าทำไม ? "มึงดูรองอำเภอ ฯ ทั้ง ๒ รูปสิ..ผอมขนาดนั้น ไปก็ไม่มีอะไรจะกินหรอก..!" หลวงพ่อวัดเขื่อนฯ ท่านก็ผอม อาตมาก็ผอม มีแต่เจ้าคณะอำเภอ ที่พอจะมีเนื้อมีหนังไปอวดเขาได้ ถึงเวลาเจ้าคณะอำเภอท่านเดินหน้า พวกเรา ๒ คนเดินตาม ก็โดนบังมิดทั้งคู่ ฉะนั้น...ตั้งใจว่าจะไม่อ้วนแล้ว จะได้อ้วนสักที ตั้งใจว่าจะอ้วน ตะเกียกตะกายมาจะ ๔๐ ปียังไม่ได้สักที ๒๐ พรรษาแรกได้มาแค่ ๒ กิโลกรัม สรุปว่า ๑๐ ปีได้หนึ่งกิโลกรัม โยมเจอหน้าแล้วถาม ทำไมท่านรักษาหุ่นแท้ ? ไม่ได้รักษาหรอก ถ้าโยมเห็นอาตมาฉันแล้วจะตกใจ ที่คนรุ่นเก่า ๆ เขาบอกว่า "กินเหมือนยัดกระสอบ" แล้วทำไมถึงไม่อ้วน ? อ๋อ...ทำงานให้เยอะเข้าไว้ ทำให้มากกว่าที่กิน เดี๋ยวก็ผอมไปเอง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2021 เมื่อ 17:41 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#124
|
||||
|
||||
ถาม : เวลาเราทำความชั่ว เราให้อภัยตัวเองไม่ได้ รู้สึกซึมเศร้า เรามีวิธีไหนที่จะให้อภัยตัวเองได้คะ ?
ตอบ : ไม่ต้องให้อภัยตัวเอง ให้เราคิดว่า ถ้าสติสัมปชัญญะของเราสมบูรณ์ เราต้องไม่ทำเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ธรรมดาของคนที่สติสัมปชัญญะยังไม่สมบูรณ์ก็ย่อมมีผิดพลาดได้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราจะไม่ให้พลาดอย่างนั้นอีก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2021 เมื่อ 10:41 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#125
|
||||
|
||||
ถาม : ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นมาก เช่น เรื่องงาน กลายเป็นว่าเราทำกรรมฐาน แทนที่เราอยากไปพระนิพพาน เรารู้สึก.... หนูรู้สึกว่าไม่โอเคค่ะ ?
ตอบ : ไม่ต้องกลัว เพราะว่าท้ายสุดท่านก็จะนำเราไปนิพพานเอง ตอนนี้อาจจะเลี้ยวนั่นเลี้ยวนี่บ้าง ก็เลี้ยวไปก่อน เพราะว่าความมั่นคงในชีวิตของเราต้องมี เรื่องที่เราปฏิบัติธรรมถึงจะสะดวก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2021 เมื่อ 10:42 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#126
|
||||
|
||||
ถาม : ช่วงนี้อาการของคุณแม่ทรุดลงไป พอจะช่วยอะไรได้บ้างครับ ?
ตอบ : เปิดเสียงสวดมนต์ให้ฟังไปเรื่อย ๆ พี่ชายของอาตมาก็รอดเพราะเสียงสวดมนต์นี่แหละ แล้วก็ไปดีด้วย เพราะว่าฟังจนเป็นสมาธิ ตอนแรกบรรดาพี่สะใภ้กับลูกของเขาบอกว่า "เตี่ยมองอะไรไม่เห็นแล้ว" ก็บอกว่ามองไม่เห็นไม่เป็นไร เพราะว่าหูยังได้ยิน ตอนแรกที่เขาเปิด ส่วนใหญ่เป็นวีดีโอของหลวงพ่อวัดท่าซุงเทศน์ให้ฟัง ก็เลยบอกว่าบางทีการที่ฟังเทศน์สำหรับคนบางคน กำลังใจยังไม่พอที่จะคิดตามได้ ฟังไปมาก ๆ อาจจะกลุ้ม เพราะฉะนั้น..ให้เปลี่ยนเป็นเสียงสวดมนต์แทน เขาก็เลยเปิดเสียงสวดมนต์ให้ คราวนี้หลาน ๆ เขาบอกว่า เขาลองดูว่าเตี่ยจะตั้งใจฟังไหม ? พอปิดปุ๊บ เขาจะขยับตัวเลย แสดงว่ายังได้ยินอยู่ ยังตั้งใจฟังอยู่ ก็เปิดต่อให้ฟัง สรุปว่าตายแล้วไปดี เพราะว่าใจเกาะเสียงสวดมนต์จนเกิดสมาธิขึ้นมาเอง แต่ว่าตอนที่เปิดเสียงเทศน์นี่คิดตามไม่ค่อยได้ เพราะว่าอาการเจ็บปวดมีเยอะ คนเป็นมะเร็งก็จะเจ็บมากอยู่แล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2021 เมื่อ 10:44 |
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#127
|
||||
|
||||
ของพวกนี้ต้องรู้จักสังเกต แล้วก็ต้องบอกว่าอาตมาก็โชคดี อย่างพี่ประสิทธิ์ก็เป็นมะเร็ง อยู่โรงพยาบาล ผอมดำดูไม่ได้ อาตมาไปเตือนให้เขานึกถึงของเก่า จำได้ไหม ? เมื่อ ๓๐ ปีก่อน พี่เคยไปปฏิบัติมาถึงตรงนี้ ๆ เขากำหนดใจตามไปพักหนึ่งก็จำได้ เออ..นั่นแหละ รักษากำลังใจตรงนั้นเอาไว้ ถ้าหากว่าปล่อยจากตรงนั้นก็ตั้งใจเลยนะว่าเราไม่เกิดแล้ว ขอไปพระนิพพานที่เดียว
ปรากฏว่าพอกำลังใจเกาะตรงจุดนั้นได้ เหมือนอย่างกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย หน้าตาดูผ่องใสมีสง่าราศีขึ้นมาทันที เพราะว่ากำลังใจเก่าฟื้นคืนมาได้ ก็กระซิบกับคนเฝ้าไข้ว่า อาการนี้โบราณเขาว่าใกล้จะตายแล้วนะ โบราณเขาบอกว่า ถ้าเห็นหน้า..หน้านวลก็จวนตาย พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า วันที่พระองค์ท่านงามที่สุดมี ๒ วาระ คือวันตรัสรู้กับวันปรินิพพาน แล้วก็จริง ๆ สักพักเดียวก็ไป แล้วก็มาพี่สาว พี่อรทัยนี่ไม่ต้องห่วงเลย เพราะว่าไปวัดปฏิบัติธรรมเป็นปกติ แล้วอยู่ ๆ ก็ล้มตึงไปเลย ก็คือกำลังจะเข้าปฏิบัติธรรมช่วงเช้า ลูกก็พาวิ่งไปหาหมอ แต่ไม่ทันแล้ว แล้วก็มาพี่วิเชียรคนนี้ อาตมาไปเยี่ยมเขาก่อน ถึงได้แนะนำให้เขาทำโน่นทำนี่ได้ สรุปแล้วพี่น้องอาตมา ๑๓ คน ตอนนี้เหลือแค่ ๘ คน ชิงไปกันก่อน ๕ คนแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2021 เมื่อ 10:46 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#128
|
||||
|
||||
คราวนี้มีอยู่อย่างหนึ่งก็คือว่า พวกเราอธิษฐานปรารถนาพระนิพพานกันไว้ คนที่จะไปพระนิพพานต้องมีความเข้าใจในทุกข์อย่างแท้จริง จนกระทั่งหมดความอยากที่จะเกิด คราวนี้ถ้าเราตั้งใจไปพระนิพพาน แต่ไม่ยอมพิจารณาทุกข์ บางทีก็จะโดนบังคับให้ทุกข์ เพื่อที่จะได้ตัดร่างกาย วางร่างกายนี้ได้
สำหรับอาตมาเอง โยมไม่ต้องห่วงหรอก เวลาป่วย หัวถึงตีนมีตรงไหนที่ไม่เจ็บบ้าง ? นี่หาไม่ได้เลย เห็นชัด ๆ ว่าร่างกายนี้เป็นทุกข์ ถ้าญาติโยมไม่อยากโดนบังคับให้เป็น ต้องพิจารณาให้เห็นเป็นปกติว่า ร่างกายนี้มีแต่ความทุกข์ ขึ้นชื่อว่าเกิดมาทุกข์เช่นนี้เราไม่ต้องการอีกแล้ว เราต้องการพระนิพพานที่เดียว ซ้อมบ่อย ๆ ทำบ่อย ๆ จนเห็นเป็นปกติ เห็นอะไรก็ไม่มีอะไรเหลือดีให้เรายึด ทุกอย่างจะจืดหมด พอกันแค่นี้ ถ้าอารมณ์ใจแบบนี้เกิดขึ้น โอกาสที่เราจะพ้นทุกข์มีแล้ว แต่ถ้าหากว่าบอกว่าขอพระนิพพานชาตินี้ ขอพระนิพพานชาตินี้ แต่ไม่ยอมพิจารณาทุกข์แล้วละก็...โปรดระวังไว้ พี่ของอาตมาโดนมา ๒ คนแล้ว มะเร็งกินงอมพระรามเลย กว่าที่จะนึกถึงทุกข์ได้..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2021 เมื่อ 10:47 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#129
|
||||
|
||||
หมอเขาบอกว่าทุกคนมีเชื้อมะเร็งอยู่ในตัว เว้นแต่ว่าจะอาละวาดหรือเปล่า เพราะฉะนั้น..ก็อย่าให้อาละวาดได้ มะเร็งชอบเนื้อสัตว์กับของหวาน อะไรที่เป็นเนื้อก็อย่ากินมาก อะไรที่เป็นของหวานก็อย่ากินมาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2021 เมื่อ 10:48 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#130
|
||||
|
||||
ถาม : สมัครงานใหม่ จะมาขอพรพระอาจารย์ค่ะ ?
ตอบ : สมัครงานช่วงนี้ อย่างไรก็ขอให้ผ่านนะ หางานใหม่ช่วงโควิดนี่สาหัสมาก มีงานเก่าก็ทน ๆ ทำไปก่อนเถอะ แล้วจะรู้ว่าโชคดีที่เรายังมีงานทำ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2021 เมื่อ 10:48 |
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#131
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เฉพาะเงินชนวนที่สร้างสมเด็จองค์ปฐมมหาสะท้อน คิดออกมาเป็นเงิน ๒,๙๗๖,๑๒๐ บาท นี่ยังไม่ได้คิดค่าฝีมือเขานะ นี่คิดเฉพาะเนื้อเงินเท่านั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2021 เมื่อ 10:49 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#132
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานแจกันดอกไม้เยี่ยมนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า คนที่ลงไปคลุกกับงาน จนกระทั่งเกือบจะตัวตาย ซึ่งที่เห็นว่าหายดีขึ้นมา สามารถรับรู้อะไรได้ ไม่ได้แปลว่าจะหายสนิท คนที่เจ็บไข้ได้ป่วยด้วยเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ส่วนใหญ่ ปอดจะโดนทำลายมาก โอกาสที่จะฟื้นดีเหมือนเดิมนั้นยาก แต่ก็ยังดีใจว่าท่านฟื้นคืนมาได้ในระดับหนึ่ง คือคนที่ทุ่มเทให้กับงานแบบท่านผู้ว่าวีระศักดิ์ไม่ใช่หาได้ง่าย ๆ
บ้านเราผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีชื่อติดทำเนียบชนิดที่ว่าชาวบ้านรู้จักในผลงานจริง ๆ มีใคร ? ท่านผู้ว่าฯ หมูป่า..ใช่ไหม ? ท่านผู้ว่าฯ หมูป่าคือ ท่านณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร มีชื่อเสียงจากการทุ่มเทช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าเชียงราย ตอนหลังก็ย้ายไปอยู่จังหวัดพะเยา ปัจจุบันไปอยู่ลำปาง เป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานชนิดตัวตายก็ไม่ว่า มีภาวะผู้นำสูงมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2021 เมื่อ 17:57 |
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#133
|
||||
|
||||
"แล้วอย่างในปัจจุบันที่เพิ่งจะมีข่าว น่าจะเมื่อวานนี้ ที่ผู้ว่าฯ จังหวัดปทุมธานี ไปร่วมงานบวชของอดีตผู้ต้องขัง ก็คือคนที่ติดคุกมาก่อน ถ้าเป็นโบราณเขาเรียกว่า มาบวชล้างซวย ท่านผู้ว่าฯ ก็ไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรด้วย แต่ท่านไปในฐานะที่ให้โอกาสให้กับผู้ที่เคยทำผิด ได้กลับคืนสู่สังคมอย่างสง่างาม ท่านผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม จึงไปถือตาลปัตร สะพายบาตรให้ผู้ขอบวช
ต้องบอกว่าบุคคลที่ตั้งใจทำงานแบบนี้ เป็นเพชรในวงราชการของเรา เป็นเรื่องที่สมควรจะมี แต่ก็มีน้อย เรื่องแบบนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร เป็นเรื่องที่ให้กำลังใจในด้านดีเป็นอย่างมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2021 เมื่อ 17:57 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#134
|
||||
|
||||
"เราจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ท่านผู้ว่าฯ วีระศักดิ์ หรือท่านผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ก็ตาม ท่านจะเป็นตัวอย่างการทำงานให้กับรุ่นหลัง ๆ หรือถ้าท่านมีชื่อเสียงขึ้นมาจากคุณความดีตรงนี้แล้วมีคนเลียนแบบตาม ก็จะเป็นประโยชน์กับสังคมของเราอย่างยิ่ง
อีกท่านหนึ่งก็คือคุณหมอปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ ที่จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งติดเชื้อจากผู้ป่วยไวรัสโควิด-๑๙ จนกระทั่งคุณหมอเสียชีวิตเอง ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้เป็นกรณีพิเศษ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ โดยตรง เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก ต้องบอกว่า ต่อให้ผู้เสียชีวิตไม่ได้รับรู้อะไร ก็เป็นเกียรติประวัติอย่างยิ่งของวงศ์ตระกูลของตน ถ้าหากว่ายังสามารถรับรู้ได้ ก็คงจะปีติยินดี เพราะว่าสิ่งที่ตนเองทำมา อย่างน้อยก็ได้ปรากฏชัดในสังคม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2021 เมื่อ 12:43 |
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#135
|
||||
|
||||
"การทำงานเพื่อสังคม ทำงานเพื่อส่วนรวม โดยมีจิตสำนึกของความเป็นข้าราชการเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วก็มักจะโดนผลประโยชน์ชักนำ จนกระทั่งไหลตามกระแสไป ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตรัสเอาไว้ว่า ต้องเสียสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง จึงเป็นเรื่องที่ข้าราชการทุกคนพึงตระหนักเอาไว้อย่างยิ่ง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2021 เมื่อ 12:43 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#136
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมวันนี้มาก็คงจะลำบาก เพราะว่าม็อบเยอะแยะไปหมด ซึ่งอาตมาเองก็ไม่เห็นประโยชน์ว่าจะไปเดินขบวนทำอะไร เพราะว่าบ้านเราเมืองเรา แผ่นดินทุกวันนี้ มีอยู่ได้ก็ด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ สละเลือดเนื้อชีวิตช่วงชิงมา จนกระทั่งพวกเรามีที่อยู่ที่อาศัย แม้แต่โฉนดที่ดินทุกใบก็ระบุเอาไว้ชัดว่า โดยได้รับพระบรมราชานุญาต เพราะฉะนั้น..ที่อยู่ ๆ จะให้มายกเลิกมาตรา ๑๑๒ แล้วจะให้พระมหากษัตริย์ ซึ่งทุกประเทศในโลกที่มีพระมหากษัตริย์ก็มีกฎหมายคุ้มครองทั้งนั้น จะให้บ้านเราอยู่ ๆ ไม่มีกฏหมายคุ้มครอง ให้ท่านลงมาเป็นเหมือนประชาชนธรรมดาทั่วไปนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้
ถ้าคุณจะอ้างว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ทรงงานไม่ได้เหมือนกับสมเด็จพระบรมชนกนาถ คือในหลวงรัชกาลที่ ๙ คนอ้างก็ปัญญาอ่อน เอาพระมหากษัตริย์ในอดีตจนถึงปัจจุบันของไทยทั้งหมดทุกพระองค์มาเปรียบเทียบกัน ก็ไม่มีใครทรงงานได้เท่าในหลวงรัชกาลที่ ๙ เพราะว่าพระองค์ท่านมีเวลาถึง ๗๐ ปี ไม่ใช่อายุ ๗๐ แต่ครองราชย์นานถึง ๗๐ ปี แล้วพระองค์ท่านทุ่มเทเพื่อประชาชนมาตั้งแต่แรก เราลองนึกดูง่าย ๆ ถ้าคนที่มีพ่อมีแม่เป็นหมอ แล้วทุกคนไปหวังว่าจะให้ลูกเป็นหมอด้วย ลูกจะโดนกดดันขนาดไหน ? แล้วโดยเฉพาะถ้าพ่อแม่เป็นหมอที่เก่งที่สุดในประเทศไทย จนถึงอาจจะเก่งที่สุดในโลก แล้วเราอยากให้ลูกเก่งแบบนั้น จะเป็นไปได้ไหม ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-03-2021 เมื่อ 18:23 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#137
|
||||
|
||||
"ส่วนที่อาตมาชื่นชมก็คือ ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ เอ่ยพระปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป" สิ่งที่ว่ามาก็คือสืบสานผลงานของในหลวงรัชกาลที่ ๙ จะไม่ทิ้งไปไหน ทำตามนั้น จะรักษาผลงานตามแบบในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทำเอาไว้ และถึงขนาดจะต่อยอดถ้าเป็นไปได้
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ อาตมาเคยชี้ให้ดูตัวน้องชายของอาตมาเอง ก็คือพระครูแสง ตอนที่เรียนปริญญาตรี ด้วยความที่พระครูแสงอยู่กับอาตมา อย่างชนิดที่เรียกว่าพี่น้องคลานตามกันมา ถัดจากอาตมาก็เป็นพระครูแสง เรียนหนังสือก็เรียนด้วยกันมาตลอด แล้วก็โดนอาตมากดอยู่ตลอดมา เพราะอาตมาจะได้ที่ ๑ ประจำ เขาเองก็ต้องยอมเป็นที่ ๒ จนมาเป็นปริญญาตรี อาตมาก็ชวนให้มาเรียนด้วยกัน ท่านบอกว่า "แล้วหน้าอย่างผมจะสู้ใครได้ ?" อาตมาก็เลยบอกกับท่านว่า "มึงจำไว้เลยนะว่า ในโลกนี้มึงแพ้กูคนเดียว" แล้วก็จริง ๆ ด้วย จบปริญญาตรีได้เกียรตินิยมทั้งคู่ ปีนั้นอาตมาได้ที่ ๑ ของประเทศ ท่านได้ที่ ๒ ของประเทศ สรุปว่าทั้งประเทศ ท่านก็ยังแพ้พี่ชายอยู่คนเดียว..! แล้วถ้าใครจะเอาในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ไปเปรียบว่าทรงงานสู้ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไม่ได้ โปรดคิดเสียใหม่ ถ้าพ่อใครเก่งขนาดในหลวงรัชกาลที่ ๙ แล้วคิดว่าลูกจะทำงานสู้ได้ ช่วยโผล่หน้ามาหน่อย อาตมาอยากจะเห็น...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2021 เมื่อ 12:48 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#138
|
||||
|
||||
"โดยเฉพาะในวงการสงฆ์ ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ พยายามล้างความฟอนเฟะในวงการสงฆ์ โดยเฉพาะในเรื่องของสมณศักดิ์ที่มีการช่วงชิงกันมา มีการทุ่มเทกันมา จนมีการกินสินบาทคาดสินบน ปรากฏออกไปจนชาวบ้านส่วนหนึ่งรับกันไม่ได้
ตอนนี้เราจะเห็นชัดว่า พระองค์ท่านตั้งตามอัธยาศัย อาตมาสรุปสั้น ๆ ว่า ถ้าไม่ใช่ฝ่ายปฏิบัติ จนกระทั่งปรากฏความสามารถที่แท้จริง และไม่ใช่ฝ่ายปริยัติ สนับสนุนการศึกษาคณะสงฆ์จนปรากฏขึ้นอย่างแท้จริง มีผลงานเป็นที่ยืนยันได้ ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้รับสมณศักดิ์จากพระองค์ท่านง่าย ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2021 เมื่อ 12:48 |
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#139
|
||||
|
||||
"ตอนนี้พระองค์ท่านก็ทุ่มเทสนับสนุนด้านการศึกษาคณะสงฆ์อย่างมาก ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ก็ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าคุณชั้นเทพ ทั้ง ๆ ที่ติดอยู่ชั้นราชมานาน แล้วก็ปัจจุบันอย่างท่านเจ้าคุณพระธรรมราชานุวัตร หรือที่อาตมาเรียกจนติดปากว่าท่านเจ้าคุณอาจารย์สุทัศน์ ก็ได้รับเลื่อนจากเจ้าคุณชั้นเทพขึ้นเป็นเจ้าคุณชั้นธรรม เป็น ๑ ใน ๓ รูปที่ได้เลื่อนของปีนั้น ในฐานะที่เป็นสำนักเรียนบาลีที่มีผลงานสุดยอดมาก
เราจะเห็นได้ชัด อย่างหลวงปู่วิริยังค์ของพวกเรา หรือที่อาตมาเรียกว่าหลวงพ่อมาตั้งแต่เด็ก ก็เป็นพระฝ่ายปฏิบัติ โดยเฉพาะนำเอาความรู้ความสามารถทางสายหลวงปู่มั่นมาตั้งเป็นสถาบันจิตตานุภาพ เป็นพระมหาเถระที่อายุยืนเป็น ๑๐๐ ปี ก็ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระญาณวชิโรดม เพราะฉะนั้น...เราจะเห็นอย่างชัดเจนว่าในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ท่านเน้นทั้งพระปริยัติและพระปฏิบัติ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-03-2021 เมื่อ 18:19 |
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#140
|
||||
|
||||
"อย่างวันจันทร์นี้ก็เป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการสงฆ์ไทย วงการศึกษาบาลีของคณะสงฆ์ ก็คือทรงพระราชทานเลี้ยงนักเรียนที่เข้าสอบบาลีทุกสนามสอบทั่วประเทศ แล้วก็ให้คัดนักเรียนที่เด่น ๆ สนามสอบละ ๒๕ รูป มารับพระราชทานรางวัลพิเศษของพระองค์ท่าน วัดท่าขนุนก็ได้ท่านอินทรปกรณ์ ฐิตสุโภ เป็น ๑ ใน ๒๕ รูปของจังหวัดกาญจนบุรี เข้าไปรับรางวัลด้วย
เรื่องพวกนี้ต้องรอไประยะหนึ่ง ผลงานของพระองค์ท่านถึงจะค่อย ๆ เด่นชัดขึ้น เพราะว่าระยะนี้ก็ยังอยู่ภายใต้เงาของในหลวงรัชกาลที่ ๙ แต่ถ้าก้าวพ้นออกมาเมื่อไร ความเด่นชัดของผลงานปรากฏขึ้นเมื่อไร เราก็จะเห็นเองว่าพระองค์ท่านทุ่มเทให้กับงานพระศาสนาขนาดไหน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2021 เมื่อ 12:50 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|