กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 17-06-2010, 10:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติพระวินัยมาว่า ห้ามกลืนเลือด เป็นเพราะอะไรครับ ?
ตอบ : แต่แรกพระองค์ท่านห้ามภิกษุฉันอาหารที่เป็นเนื้อสด แล้วท้ายสุดมีคนสงสัย ไปถามพระองค์ท่านว่า ถ้าเป็นเลือดในปากของตัวเอง พระองค์ท่านก็ตรัสว่าไม่ควรกลืน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2010 เมื่อ 11:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 17-06-2010, 11:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเป็นเมื่อก่อนหนูมองเข้าไปในร่างกาย ก็จะเห็นเป็นลำไส้เล็ก ลำไส้น้อย แต่ตอนนี้เห็นในลักษณะที่ว่าข้างในไม่มีอะไร เห็นเป็นแค่รูป และข้างในโล่ง ๆ โปร่ง ๆ ว่างเปล่า ตรงนี้คือ แค่จิตกับรูปใช่หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : เหลือแค่รูปกับนาม

ถาม : ตอนนี้เป็นในลักษณะผู้ดูแล้ว อย่างมองร่างกายก็เห็นในลักษณะมีความเสื่อมไป มีความสกปรกของมัน แต่ทีนี้เมื่อก่อนจะมีความรู้สึกที่จะไปต้าน ไปฝืนไม่ให้เป็นอย่างนั้น แต่ตอนนี้ยอมรับว่าร่างกายเราเป็นอย่างนี้ เรามองในลักษณะเป็นผู้ดู ใช่หรือไม่คะ ?
ตอบ : ใช่

ถาม : แต่ก็เห็นว่าเวลาคลายกำลังใจออกมา ตัวที่เล่นงานเราก่อนเป็นอันดับแรก คือ ตัวมานะ แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ ถ้าหนูไม่คลายกำลังใจออกมาเลย จะตัดหรือทำให้เบาบางได้หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ถ้าไม่บี้ให้ตายไปเลย หลุดเมื่อไรมันก็งอกงาม ไม่เป็นไรหรอก ถ้าโผล่หัวขึ้นมาเราก็ตีให้ยุบไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-06-2010 เมื่อ 12:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 17-06-2010, 16:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าเรื่องการใช้ปัญญาแก้ปัญหา ให้ฟังว่า

"คุณตัน ภาสกรนที ที่ทำชาเขียวโออิชิ นอกจากเป็นคนเก่งแล้วยังรู้จักประเมินตัวเองด้วย

ช่วงที่โออิชิกำลังรุ่ง ๆ อยู่ คุณตันขายหุ้น ขายแล้วมีพ่วงโปรโมชั่นด้วยว่า ใครซื้อไปเขาจะไปบริหารให้ เท่ากับตัวเองเก็บเงินสามพันล้านเอาไว้แล้วไปเป็นลูกจ้าง ไปบริหารให้เขาต่อ บริษัทจะเจ๊งหรือไม่ก็เป็นเรื่องของคนอื่นแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเอง เพราะรับเงินเดือนแล้ว

สายตาเขายาวไกลมาก เพราะเห็นจุดอิ่มตัวแล้ว จะเห็นว่าตอนนี้ปั่นอย่างไรก็ฮือไม่ขึ้น ก็ต้องไปประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างลาวหรือเขมร

ตอนไปที่เขมร เขาขายชาเขียวแถมตุ๊กตาหมีตัวหนึ่ง วันแรกผ่านไปขายได้แค่ไม่กี่ขวด แต่คุณตันไปยืนดูอยู่ เขาเห็นว่าทุกคนที่ผ่านมาจะจับตุ๊กตาหมีดู แสดงว่าเขาอยากได้ตุ๊กตาหมี เขาก็เลยเปลี่ยนใหม่ เป็นขายตุ๊กตาหมีแถมชาเขียว คนเขมรก็ซื้อกันกระจายเลย พอคนชิมชาเข้าไป เห็นว่าเข้าท่าเขาก็ไปซื้อกินกันเอง

คนเราต้องปรับตัวให้ทัน ถ้าเป็นพวกเราทั้งวันลงไป ๓,๐๐๐- ๔,๐๐๐ ขวด ขายได้แค่ ๕ - ๖ ขวด ก็หน้ามืดแล้ว แต่นี่เขาสังเกตดูว่าลูกค้าที่เข้ามา โดยเฉพาะผู้หญิงกับเด็กจะจับตุ๊กตาหมีมาพลิกซ้ายพลิกขวาดูกันทุกคน เขาก็เลยเปลี่ยนใหม่เป็นขายตุ๊กตาหมีแถมชาเขียว


นี่คือปัญญาในการแก้ไขปัญหา ต้องพลิกแพลงเอาไปใช้ในสถานการณ์จริงได้ เราดูตัวอย่างของเขาแล้ว ต้องเอามาดูตัวเราด้วยว่า ถ้าเราอยู่ในเหตุการณ์อย่างนั้น เราจะเอามาแก้ไขอย่างไร

ถ้าสามารถทำตรงจุดนี้ได้ เรื่องของการปฏิบัติธรรมก็ไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจ เพราะว่าการปฏิบัติสำคัญที่สุดก็คือ ทำแล้วสามารถเอาไปใช้จริงได้ ส่วนใหญ่พวกเรารับมือกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าไม่ทัน ยิ่งเหตุการณ์ฉุกเฉินบางทีก็อึ้งไปเลย อย่างเช่นพอเป็นลมขึ้นมาก็คิดอยู่อย่างเดียวว่าเราจะตาย ให้นึกถึงพระก็ไม่เอาแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-06-2010 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 17-06-2010, 16:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อีกรายหนึ่งคือ เจ้าของสาหร่ายทอด ตราเถ้าแก่น้อย ตอนแรกเขาทำขายครึ่งหนึ่งแจกครึ่งหนึ่ง สมมติว่าทำมาห้าหมื่นซองเขาก็ขายแค่สองหมื่นห้า อีกสองหมื่นห้าที่เหลือเขาแจก โดยเฉพาะแจกผู้หญิง เน้นเป้าหมายเลยนะ

เขาบอกว่าผู้หญิงชอบกินของจุกจิกไปเรื่อย และถ้ารสชาติถูกปาก ไม่ต้องห่วงเลย ผู้หญิงจะบอกปากต่อปากกันให้เอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องเสียค่าโฆษณา ค่างบโฆษณาของเขาก็คือ ครึ่งหนึ่งที่แจก และเขาก็ประสบความสำเร็จ ตอนนี้ยอดรายรับเดือนหนึ่งเป็นร้อยล้าน

แสดงว่าเขามองคนออก ใช้คนเป็น เรากลายเป็นเครื่องมือของเขาโดยไม่รู้ตัว นักเศรษฐศาสตร์เขาถึงได้สรุปว่า โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี เขาแจกเราฟรี แต่ไม่ใช่ของฟรีเรา เพราะว่าเท่ากับจ้างเราโฆษณานั่นเอง

สมัยก่อนที่ไปอยู่บึงลับแล ไม่ได้แบกของไปเต็มอัตราเหมือนพวกเราหรอก เอาบะหมี่สำเร็จรูปและสาหร่ายอบแห้งไป ลองต้มบะหมี่ใส่สาหร่ายอบแห้งสิ รสชาติเด็ดอย่าบอกใครเลย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2010 เมื่อ 17:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 23-06-2010, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ความสะดวกสบายยิ่งมีแก่พวกเรามากเท่าไร ยิ่งจำเป็นต้องฝึกลูกฝึกหลานให้หัดสมาธิให้มากเท่านั้น เพราะเมื่อเขาได้รับการตอบสนองทุกอย่างที่รวดเร็ว ทำให้กลายเป็นคนใจร้อน ใจเร็ว รออะไรไม่ได้ ถ้าขาดในเรื่องของสมาธิมาช่วย จะเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง น่าสงสารมาก

มีลูกมีหลานพยายามจับให้หัดสมาธิให้ได้ อย่างน้อย ๆ จะได้เป็นประโยชน์แก่เขาในภายหน้า ไม่ต้องถึงขนาดตายแล้วไปสวรรค์ ไปพรหม หรือไปนิพพานหรอก เอาให้แค่รู้จักระงับยับยั้งชั่งใจตนเองได้ก็พอ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 23-06-2010, 01:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อครู่ไปบ้านเพื่อนมา เขาเชิญลูกศิษย์หลวงพ่อสมัยก่อนมาช่วยตั้งพระพุทธรูปให้ เขายืนยันว่าตั้งหันหน้าไปทิศตะวันตกได้ ผมก็เถียงว่าหลวงพ่อสั่งไว้ ห้ามเด็ดขาด เขาบอกว่า พระอยู่ที่เราเคารพ ถ้าตั้งตรงไหนแล้วเราไม่เคารพ ก็แค่นั้นแหละ เหตุผลเขาก็ดี แต่ผมว่าเขาคงเกิดอีกนาน เลยมาถามท่านดีกว่า
ตอบ : จะถามทำไม อาตมาบอกไปนานแล้ว

ถาม : ผมเป็นห่วงเพื่อนครับ ไม่รู้จะบอกอย่างไรดีว่าฉิบหายแน่นอน
ตอบ : ไม่แน่เขาอาจจะรุ่ง

ถาม : ทำไมละครับ?
ตอบ : ก็เขารู้สึกว่าดี ถ้ากำลังใจเขาเข้มแข็ง สำเร็จด้วยใจขึ้นมา อาจจะดีกว่าที่เราคิดเสียอีก รอดูไปก่อนก็แล้วกัน ถ้าเขาเจ๊งแล้วค่อยไปสะกิดบอกเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2010 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 23-06-2010, 01:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลานั่งสมาธิบางครั้งเห็นหลวงพ่อแล้ว รู้สึกรักหลวงพ่อสุดจิตสุดใจเลย อารมณ์อย่างนี้ดีหรือไม่ดีครับ ?
ตอบ : ดี..แต่รักษาให้อยู่ด้วย ถ้าหากว่ารักจริง รักษาให้อยู่ แล้วตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ ป่านนี้ไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ?

ส่วนใหญ่จะรักแค่ตรงนั้น พอรักษาไม่อยู่ก็สลายไป บางทียังมานั่งเสียดายว่า หายไปไหนหว่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2010 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 23-06-2010, 01:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สวดคาถาเงินล้านวันละ ๑๐๘ จบ ถ้าเราสวดตอนเช้า ๑๐๘ จบไปเลย กับอารมณ์สบายสวดทั้งวันให้ได้ ๑๐๘ จบ อย่างไหนดีกว่ากันครับ ?
ตอบ : ทั้งวันดีกว่า เพราะใจเป็นกุศลมากกว่า

ถาม : ทำไมเวลาเราสวดมนต์ บางครั้งรู้สึกอึดอัดเครียด เหมือนไม่อยากสวดเลยครับ ?
ตอบ : กิเลสมาร เขากลัวเราจะได้ดีก็ต้องขวาง ถือเป็นเรื่องปกติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2010 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 23-06-2010, 01:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเรานั่งกรรมฐานที่บ้าน แล้วส่งกำลังใจแบบมโนมยิทธิว่า เรามานั่งข้างหน้าท่าน จะเหมือนกันไหมครับ ?
ตอบ : ไม่เหมือน เพราะความชัดเจนยังไม่ได้ ถ้าหากความชัดเจนได้ด้วยถึงจะเหมือน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2010 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 23-06-2010, 01:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เราคิดว่า เอาพระองค์นั้นแขวน องค์นี้แขวน องค์นั้นก็ดี องค์นี้ก็ดี อย่างนี้เป็นพุทธานุสติหรือฟุ้งซ่านครับ ?
ตอบ : ฟุ้งซ่าน แต่ยังอยู่ในพุทธานุสติ

ถาม : ขาดความมั่นใจใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ของมีก็ใช้ คนเรากินอาหารรสเดียวกันทุกวันยังรู้สึกเบื่อ ก็ต้องเปลี่ยนบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2010 เมื่อ 09:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 24-06-2010, 10:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงพระรูปหนึ่งว่า "เมื่อเช้ามีโยมจากลพบุรีมาขอพระไปอยู่ที่นั่น โยมเขาบอกว่า ยกที่ตรงนั้นให้พระอาจารย์สมปอง แล้วก็เอาพระของเราไปอยู่

ความจริงพระท่านเพิ่งบวชไม่นาน คราวนี้สิ่งที่ท่านทำมักจะขัดกับคนอื่นเขา ท่านก็เลยอยู่ที่วัดท่าขนุนไม่ได้..ขอออกจากวัดไป คาดว่าไปหาพระอาจารย์สมปอง ท่านก็เลยยกที่ให้ส่วนหนึ่ง

โยมเขาก็ดีใจว่ามีพระไปดูแล ก็เลยมาที่นี่ จะมาขอคำแนะนำ อาตมาบอกว่า "ไม่มีคำแนะนำ พระท่านเพิ่งบวชไม่นาน ศีลมีอะไรบ้างก็ยังรู้ไม่ครบ ถ้าหากว่าโยมเอาไปอยู่ด้วย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นโยมก็รับผิดชอบเองแล้วกัน เพราะว่าเขาพ้นจากวัดไปก็ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของอาตมาแล้ว..!"

เรื่องนี้จริง ๆ แล้วความผิดอยู่ที่พระ เรียนทางโลกมาก็สูง คือ จบปริญญาโท แต่ว่าทางโลกกับทางพระนั้นคนละเรื่องกัน เราจะมีความมั่นใจอะไรสักเท่าใดก็ตาม จะเอามาใช้กับเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญาไม่ได้ เพราะเป็นคนละส่วนกัน ประสบการณ์ทางโลกไม่ใช่ประสบการณ์ทางธรรม

พระพุทธเจ้าก็ระบุไว้ชัดว่า ถ้ายังไม่ได้ ๕ พรรษาขึ้นไป ก็ยังไม่ได้นิสัยมุตตกะ ยังต้องอยู่ภายใต้การปกครองดูแลของครูบาอาจารย์ ท่านรู้ทั้งรู้ แต่ว่าเป็นคนชอบไปเรื่อย ๆ อยู่ไม่เป็นที่ ที่ออกจากวัดไปเพราะวัดมีระเบียบไว้ว่าลาได้กี่วัน แต่ไม่เพียงพอกับเวลาที่ท่านจะไป

ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ส่วนที่เสียหายมากที่สุดคือพระศาสนา พระที่ไปอยู่ยังไม่มีคุณภาพพอ ไม่ว่าปริยัติหรือปฏิบัติยังไม่สามารถรักษาตัวเองได้ แล้วยังต้องรับภาระไปดูแลสถานที่ ซึ่งถ้าได้ยินไม่ผิดก็คือ พื้นที่ ๓๐ ไร่ ยิ่งถ้าต้องมีการก่อสร้างมีอะไรเข้าไปด้วย โดยที่กำลังใจของตนเองยังไม่มั่นคง ก็จะเกิดความเสียหายขึ้นแก่ตัวเองก่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2010 เมื่อ 11:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 24-06-2010, 10:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นแล้วความเสียหายก็จะกว้างออกไป อย่างเช่นว่า อาจารย์เล็กฝึกลูกศิษย์มาได้แย่ขนาดนี้เชียวหรือ ? ไม่มีดีกว่านี้แล้วใช่ไหม ? ก็บรรลัยเราอีก..!

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้พระพุทธเจ้าจึงได้สรุปว่า ศาสนาพุทธจะโดนทำลายจากคนในเท่านั้น ไม่ใช่จากคนนอก ก็คือจาก ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา

อย่าว่าแต่การเรียนรู้และศึกษาธรรมให้แตกฉานเลย แม้กระทั่งศีลและอภิสมาจารมีอะไรบ้าง ก็ยังรู้ไม่ครบ ก็เลยไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ถ้าเกิดญาติโยมเขามีงานอะไรขึ้นมา จะไปปฏิบัติให้ถูกต้องตามศาสนพิธีได้หรือเปล่า ?

เราพูดมากก็ไม่ได้ เพราะว่าถ้าพูดมากไปก็เหมือนไปลดความน่าเชื่อถือของเขา ขณะเดียวกันคนที่ไม่เข้าใจก็จะมองว่าเราอิจฉาลูกศิษย์ ก็เลยไม่อยากให้ไปได้ดี ทั้ง ๆ ที่เขาผิดพระวินัยมาตั้งแต่ต้น

การไปอยู่ลักษณะนั้นเท่ากับฝืนคำของพระพุทธเจ้า เท่ากับโดนอาบัติศีลขาดอยู่ทุกวัน จึงเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก พอโยมเขาถามว่ามีคำแนะนำอะไรบ้าง ถึงได้บอกไปสั้น ๆ ว่า "ไม่มี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2010 เมื่อ 11:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 24-06-2010, 12:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำบุญอะไรจะได้บุญสูงสุดคะ ?
ตอบ : บุญสูงสุดจริง ๆ ก็คือ ทำตัวให้เป็นพระอริยเจ้า ไม่ต้องเสียเวลาไปทำภายนอก

ถาม : แต่ถ้าเป็นทานบารมีละคะ ?
ตอบ : ทานบารมีเป็นสิ่งที่ต่ำสุด สูงขึ้นไปเป็นศีล แล้วเป็นภาวนา ถ้าทำทานบารมีแล้วบอกจะเอาสูงสุด ชาตินี้ก็คงจะไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-06-2010 เมื่อ 20:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 24-06-2010, 17:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราฝึกสมาธิ โดยกำหนดจิตไว้ที่ท้องน้อยหรือเหนือสะดือ แล้วกำหนดคำภาวนาว่า รู้ รู้ รู้ อย่างนี้จะได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้อยู่ แต่ว่าเป็นคำภาวนาเท่านั้น สำคัญที่ตรงสติ ว่าเรารู้ตามจริงหรือเปล่า ? ถ้าหากสติรู้ตามจริงก็จะเป็นวิปัสสนาก็คือ กำหนดรู้เฉพาะหน้า แต่ถ้าไม่ใช่สติรู้ตาม เราสักแต่ว่า รู้ รู้ รู้ ก็เป็นสมถะเต็ม ๆ เพราะเท่ากับสร้างสมาธิให้เกิด

ถาม : ถ้าเอาจิตตามไปในที่สุดผลจะเป็นอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : ถ้ากำหนดรู้ไปเรื่อยก็จะอยู่กับปัจจุบันไปตลอด ในเมื่ออยู่กับปัจจุบันตลอด จิตไม่ส่งไปในอดีตไม่ส่งไปในอนาคต ก็ตัดทุกข์ที่จะเกิดขึ้นได้เยอะเลย

ถาม : ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน คือตรงจุดนี้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เกือบจะใช่ เป็นแค่สติในปัจจุบันเท่านั้น จะเป็นผู้รู้จะต้องมี สติ สมาธิ ปัญญา มากกว่านี้

ถาม : ผมนึกว่ากำหนดคำว่ารู้ ๆ แล้วภาวนาไปจนจิตลุกโพลงขึ้นมา หมายความว่าเราเกิดตัวรู้ขึ้นมาแล้ว แต่จริง ๆ ยังไม่ใช่ ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ยังไม่ใช่ เพราะว่าตัวรู้ที่แท้จริง ต้องรู้ในอริยสัจ ส่วนใหญ่ตัวรู้ของเราที่รู้มา เป็นแค่สติที่เกิดขึ้นในสมาธิที่เราสั่งสม อีกอย่างที่เราว่ามา เท่ากับเป็นการตั้งใจปฏิบัติในสมถะ โดยใช้คำว่ารู้ เป็นคำภาวนาเสียด้วยซ้ำไป

ถ้าจะเอารู้จริง ๆ จิตอยู่ในสภาพตื่นอยู่ตลอดเวลา นั่นจะต้องรู้ในอริยสัจและจะต้องยอมรับแล้ว ในเมื่อยอมรับแล้วว่าทุกอย่างเป็นทุกข์ ปล่อยวางลงได้ ไม่ไปปรุงแต่งอะไรอีก จิตอยู่กับปัจจุบันตลอด ก็จะเป็นผู้ตื่น ไม่ถูกตัณหาและอวิชชาทับถมเอาไว้

ถาม : ก็เป็นแค่สมถะอย่างหนึ่ง ?
ตอบ : เป็นแค่สมถะ แล้วหลังจากนั้นจะเป็นบาทให้ก้าวไปสู่วิปัสสนาได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2010 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 24-06-2010, 17:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ระหว่างกำหนดเป็นดวงแก้ว กับกำหนดเป็นพระพุทธรูป
ตอบ : จัดเป็นกสิณ เพียงแต่กำหนดภาพพระพุทธรูปเราได้พุทธานุสติเพิ่มขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 24-06-2010, 18:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลามีเรื่องเกิดขึ้นกับเรา เราคิดว่าเป็นกรรมของเรา แต่หลัง ๆ เริ่มคิดว่าเป็นธรรมดาของโลกที่เป็นแบบนี้ การคิดแบบไหนจะดีกว่ากัน?
ตอบ : เอาทั้งสองอย่างมารวมกัน ธรรมดาของโลกเป็นแบบนี้ ในเมื่อเราทำไว้ เราก็ต้องยอมรับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2010 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 24-06-2010, 20:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าหากว่าบ้านวิริยบารมีเสร็จ ขอความกรุณาอย่าเอารถส่วนตัวไป เพราะหน้าบ้านเป็นซอยแคบ ๆ แค่รถเก๋งคันหนึ่งขับได้และกลับรถไม่ได้ ส่วนด้านนอกริมถนนรถก็จอดได้ไม่กี่คัน

ถ้าให้สะดวกก็ไปแท็กซี่หรือรอรถไฟฟ้าช่วงสองเสร็จ จะลงหน้าบ้านพอดี ถ้าใครคิดว่าอาตมาขู่ก็ลองเอารถไปดู ปกติอาตมาก็ชอบขู่เขาแบบนี้ บอกพวกที่ไปบึงลับแลว่า ไม่ไหวหรอกเดี๋ยวจะเป็นลมเสียเปล่า เขาก็บอกว่า โอ๊ย..ไม่เป็นไรหรอก..ไปได้ จะแค่ไหนเชียว อาจารย์แก่แล้วยังไปได้เลย.. สรุปว่าเป็นลมตั้งแต่เนินแรก แต่อาจารย์ไปเนินสุดท้ายยังสบายดีอยู่เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2010 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 24-06-2010, 22:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เดี๋ยวนี้ผมแยกไม่ออกว่า ภิกษุรูปไหนควรทำบุญด้วย รูปไหนไม่ควรทำบุญด้วย พิจารณาดูอย่างไรครับ ?
ตอบ : ภิกษุทุกรูปควรทำบุญด้วย..!

ถาม : เห็นจริยวัตรท่านแล้ว...
ตอบ : ยกเว้นว่าเราโง่พอ ถ้าโง่พอก็จะเลือกที่ทำบุญ..! พระท่านจะดีจะชั่วก็เรื่องของพระ เราตั้งใจถวายเป็นสังฆทานก็จบแล้ว

ถาม : เวลาเราจะทำอะไรเพื่อพระศาสนา ทำไมมีปัญหาสารพัดเยอะแยะเลยครับ ?
ตอบ : การทำความดีก็ย่อมมีสิ่งขวางเป็นปกติ โดยเฉพาะทำความดีโดยไม่รู้กาลเทศะ..! ต้องดูด้วยว่าเหมาะควรไหม ถึงเวลาแล้วหรือยัง ไม่ใช่คิดจะทำก็ทำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-06-2010 เมื่อ 12:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 25-06-2010, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จะมีญาณเครื่องรู้เกิดขึ้นว่า เหลืออีกเท่าไร จะต้องทำอีกแค่ไหน ใช้กรรมฐานกองไหน และเราเห็นว่าจะตัดได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ตัดฉับในทันที ตรงนี้คือต้องย้ำอีก ?
ตอบ : กำลังยังไม่พอ ต้องย้ำแล้วย้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยเฉพาะตรงจุดกำลังใจของเราเอง ถ้าหากว่ายังไม่เด็ดขาด แปลว่า สมาธิอาจจะอ่อนไปด้วย เหลือเชื่อ..เราจะคิดว่าปัญญาถึง มองเห็นทางแล้วจะไปได้..ไม่ใช่ มองเห็นทางแต่ถ้ากำลังไม่ถึง ก็ไปไม่รอดเหมือนกัน

ถาม : บางทีหนูก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน กลัวว่าจะเป็นการประมาท เพราะเวลาคลายกำลังสมาธิออกมา ใช่..กำลังใจเท่ากับตอนสมาธิสูง แต่ก็ไม่แน่ว่าจะพลาดตกลงมาเหมือนเดิมหรือเปล่า
ตอบ : ตกแค่นี้ (ทำมือ) ไม่ตกไปมากกว่านี้แน่..

ถาม : กำลังใจไม่เอาเพศตรงข้าม ไม่เกิดความรู้สึกอยากได้เขามาเป็นแฟน แต่ก็ยังเมตตาเขา สนใจเขา
ตอบ : ถ้าหมดรัก หมดโกรธไปเลยจะปลอดภัยกว่า ถ้ายังไม่ถึงตรงนั้น ยังมีสิทธิ์ที่จะหงายท้องได้ตลอดเวลา

ถาม : หนูสังเกตอย่างหนึ่งว่า บางคนเขาไปไล่ตัวรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แต่หนูไม่ถนัดในตัวนั้น ตรงนี้เป็นลักษณะปัจจัตตังของแต่ละคนใช่ไหมคะ ?
ตอบ : เป็นเฉพาะของแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องศึกษาเยอะ ๆ เอาอย่างเดียวให้แน่จริง ก็ไปได้แล้ว รู้มากก็ยากนาน แต่ส่วนใหญ่อยากรู้ให้มากที่สุด ไป ๆ มา ๆ ก็ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2019 เมื่อ 20:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 25-06-2010, 00:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ระหว่างกำลังใจ กับสติ สมาธิ ปัญญาเป็นอย่างเดียวกันหรือต่างกันคะ ?
ตอบ : อย่างเดียวกัน ศีล สมาธิ ปัญญา จะเป็นกำลังใจที่เรียกว่าบารมี โดยเฉพาะตัวสมาธิจะทำให้กำลังใจทรงตัวดี

ถาม : ตอนแรกหนูก็แยกไม่ได้ค่ะ หนูอยากบอกว่า ตอนนี้มีความสุขมากกว่าเดิม เหมือนยกภูเขาออกจากอก โล่ง เบา ถึงแม้ยกออกไม่หมด แต่ก็มีความสุข
ตอบ : ให้สังเกตไว้ว่าอารมณ์ก็ดี งานการก็ดี เวลาที่เราวางแล้วจะเบา ในเมื่อรู้แล้วที่เหลือก็อย่าไปแบกไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2010 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:47



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว