กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 05-03-2021, 07:38
ปทิตา ปทิตา is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2020
ข้อความ: 10
ได้ให้อนุโมทนา: 72
ได้รับอนุโมทนา 374 ครั้ง ใน 17 โพสต์
ปทิตา is on a distinguished road
Default การภาวนา

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อค่ะ
๑. หนูค้นพบว่าหนูชอบนอนภาวนามาก ใจเบาสบายยิ่งตอนลืมตาตื่นแล้วภาวนาต่อสักพักก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอน เวลานอนหนูภาวนาจนหลับลึกมาก แต่ตื่นมาแล้วก็ยังรู้สึกร่างกายไม่มีแรง แต่กลับเหมือนมีแรงดึงดูดให้สะลึมสะลือตลอดเวลา กินกาแฟยังง่วงเลยค่ะ หนูอยากทราบว่า หนูทำสมาธิผิดวิธีตรงไหนคะ ทำไมใจเบาสบายแต่ร่างกายง่วงและอ่อนเพลียตลอดเวลาคะ

๒. หนูแยกวิธีปฏิบัติได้สามแบบค่ะ
แบบแรกคือ หนูนั่งสมาธิไม่ได้ จะอึดอัด กระสับกระส่าย ใจร้อนรน ถ้าไหว้พระสวดมนต์ หนูจะสวดพระคาถาเงินล้าน แต่ต้องสวดเร็ว ๆ ถึงจะจับลมหายใจได้ไม่สะดุด
แบบที่สองคือ ในระหว่างวันที่ใช้ชีวิตปกติทั่วไป ที่ทำงานบ้าน เดินไปตลาด หนูจะเผลอภาวนาในใจว่า พุทโธ ธัมโม สังโฆ บางทีก็แล้วแต่จิตจะเปลี่ยนคำภาวนาเอง ช่วงนี้อยู่ ๆ หนูก็สวดบท " ปะโตเมตัง ปะระชีวะนัง สุคะโตจุตติ จิตตะ เมตะ นิพพานัง สุคะโต จุตติ " เหมือนเวลาไม่มีสติจะหลุดภาวนาไปเอง บางครั้งถึงกับพูดออกเสียงมาเลย จนคนข้าง ๆ ก็มองค่ะ
แบบที่สามคือ นอนภาวนาหนูจะจับลมหายใจช้า ๆ หายใจเข้าภาวนาว่า พุท หายใจออกภาวนาว่า โธ หนูเคยพยายามเปลี่ยนมาภาวนาคาถาเงินล้าน และ นะ มะ พะ ธะ แต่อึดอัดทำลมหายใจสะดุดหมดเลยค่ะ
หนูขอถามหลวงพ่อว่า
ทั้งสามแบบหนูทำโดยไม่ฝืน ใจเบาสบาย หนูควรจะปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามจิตใจและความรู้สึกพาไปแบบนี้ คือไม่มีแบบแผน หรือหนูควรบังคับใจสวดมนต์ นั่งสมาธิจับลมหายใจ เดินจงกรม ตามกำหนดเวลาแบบที่ครูบาอาจารย์ปฏิบัติกันคะ

๓. มีอยู่ช่วงหนึ่งที่อยู่ ๆ จิตหนูภาวนา นะ มะ พะ ธะ จับลมหายใจตอนหลับเอง แล้วหนูรู้สึกว่าหนูหยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้นประมาณ ๓ วินาที เหมือนถูกขังอยู่ในที่แคบเท่าร่างกาย อยากจะดิ้นรนออกไปสูดอากาศหายใจ ตอนนั้นตกใจ กลัวแต่พยายามตั้งสติคิดว่า เราไม่ได้ถูกขังจริง ๆ ใจหนูก็ภาวนา พุทโธ สลับกับสมองคิดว่าตายก็ตายขอไปนิพพาน ไม่ได้อยากไปด้วยใจ สักพักหนึ่งก็หายใจได้ หนูเหมือนคนจมน้ำที่โผล่มาหายใจเลยค่ะ เวลาตอนที่หยุดหายใจเหมือนยาวนานมาก หนูกลัวเลยภาวนา พอมีสติก็คิดตัดร่างกาย สลับไปมาด้วยความลนลานค่ะ หนูคิดว่าหนูมีปัญหาสุขภาพเรื่องการหายใจ เพียงแต่ครั้งนี้หนูจับลมหายใจภาวนา นะ มะ พะ ธะ ขึ้นมาเอง และหยุดหายใจนานกว่าครั้งอื่น ปกติหนูภาวนา พุทโธ ก็หยุดหายใจแค่ ๑ วินาทีค่ะ ที่คำภาวนาเปลี่ยนเอง มีผลอะไรไหมคะ แล้วหนูควรภาวนา นะ มะ พะ ธะ หรือ พุทโธ ตอนหยุดหายใจคะ

๔. หนูไม่เข้าใจเรื่องที่บอกว่าให้ตามดูอารมณ์ตัวเอง คือตามดูไปเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่ต้องไประงับใช่ไหมคะ จะมากขึ้นหรือน้อยลงก็แค่ดู พอหนูปล่อยให้ถึงจุดที่เต็มที่ที่สุดแล้ว หนูจะมาคิดว่าทั้งหมดไม่มีอะไรเลย แค่เรายึดตัวตนเราไว้ หนูดูตัวเองจนพอเข้าใจว่า หนูต้องเกิดอารมณ์นั้น ๆ ให้สุดก่อน ใจหนูถึงจะปล่อยวางตัวตนได้ แต่การที่ปล่อยให้ระเบิดสุด มันก็สร้างกรรมกับคนรอบข้างขึ้นมาอีก เวลาโกรธหนูเคยลองภาวนา มันก็พอผ่านเหตุการณ์นั้นได้ แต่ใจหนูจะไปไม่ถึงจุดที่ปล่อยวางตัวตน ควรทำแบบไหนคะ

๕. เวลาเกิดความรู้สึกต่าง ๆ จนถึงที่สุดหนูจะหาจุดคิดย้อนเข้ามา สุดท้ายจะมาหยุดที่เพราะมีเรามีตัวเรา แต่เรื่องกามราคะ พอหนูย้อนมาถึงตัวหนูแล้ว หนูกลับย้อนไปต่ออีกว่า เพราะพ่อแม่มีตัณหาราคะ จึงเกิดกาม เมื่อเกิดกามจึงเกิดหนูขึ้นมาวนเป็นวงกลม หนูใช้ปัญญาไปต่อไม่ได้ค่ะ หยุดอยู่ตรงพ่อแม่มีกามราคะ รู้สึกผิดด้วย หนูต้องทำอย่างไรต่อคะ

๖. หนูมีต้นโมกสูงประมาณหนึ่งเมตรครึ่ง ใส่กระถางตั้งไว้ภายในตัวบ้านไว้กรวดน้ำ เวลาสวดมนต์หนูจะอุทิศบุญให้รุกขเทวดาที่ต้นโมกด้วย หนูสังเกตว่าผ่านไปไม่กี่อาทิตย์ ต้นโมกก็จะแตกใบอ่อน หลังจากนั้นไม่เกินห้าวันจะยืนต้นตาย เป็นแบบนี้มาสามต้นแล้วค่ะ หนูสงสัยว่าเป็นที่หนูกรวดน้ำหรือเปล่าคะ เพราะหนูมีต้นโมกเล็กกว่านี้อยู่ในบ้านก็แค่แห้ง แต่ไม่มียืนต้นตาย แล้วรุกขเทวดาเขาได้รับบุญแล้วทำไมไม่ช่วยดูแลต้นไม้ให้งอกงามคะ วิมานเขาจะได้อยู่ดีด้วย

๗. ระหว่างคิดว่าชีวิตเป็นทุกข์ คิดแค่อยากพ้นทุกข์ กับคิดว่านิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง อยากไปนิพพาน เหมือนกันไหมคะ ตอนนี้ใจหนูรู้ว่าการเกิดเป็นทุกข์ การมีร่างกายเป็นทุกข์ อยากหลุดพ้นจากร่างนี้ ไม่อยากไปเกิดร่างใหม่แม้สวรรค์หรือพรหม แต่หนูก็รู้สึกเฉยกับนิพพานเหมือนกัน ใจไม่ได้คิดหรือรู้สึกอยากจะไปนิพพาน แต่ชอบความรู้สึกของนิพพาน หนูควรจะแก้ความคิดตรงไหนให้ถูกต้องคะ

๘. หนูมีคนรู้จักทำงานช่วยเหลือคนเจ็บจากอุบัติเหตุ คนป่วย คนตายที่ยากจน รายได้ได้มาจากชีวิตคนและก็ไม่ได้มาก บางครั้งพวกเขาก็ไม่มีเงินให้ เรายังต้องเสียเงินให้อีก การที่เราทำงานแบบนี้เราควรบูชาท่านใด หรือมีวิธีใดให้หน้าที่การงานเจริญ มีเงินทองคล่องตัวบ้างไหมคะ ทำอาชีพนี้มองไม่เห็นทางจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเลยค่ะ ทั้งสงสารพวกเขาและสงสารตัวเอง

๙. หนูนอนภาวนาแล้วชอบฝันว่าไปโลกของวิญญาณบ่อยมาก เหมือนตัวมีแรงโน้มถ่วง เดินก้าวขาไม่ค่อยออก แต่พวกวิญญาณเขาไปได้เร็วมาก หนูสงสัยว่าหนูไปได้ยังไง ไปเพื่ออะไร เป็นการทดสอบเรื่องอะไรคะ บางครั้งตอนฝันคือรับรู้ทุกอย่าง ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่พอตื่นขึ้นมาความรู้สึกบางอย่างฝังอยู่ในใจลึกมากค่ะ เช่น ความรัก แต่บางครั้งคือในฝันโดนมีดแทง เจ็บเข้ากระดูกตั้งแต่ในฝันจนตื่นมาความเจ็บก็ยังอยู่ หนูคิดว่าอีกทางหนึ่งที่จะดูความก้าวหน้าในการปฏิบัติ คือมีวิญญาณมาทดสอบเราใช่ไหมคะ

๑๐. ถ้าหนูชอบภาวนา พุท โธ แบบนี้คือ หนูเป็นสุกขวิปัสสโกแน่แล้วใช่ไหมคะ หนูควรจะทิ้งคำภาวนา นะ มะ พะ ธะ ไปเลย หรือควรภาวนาควบคู่กันไป แบบไหนจะก้าวหน้าเร็วกว่าคะ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ปทิตา : 08-03-2021 เมื่อ 09:56 เหตุผล: แก้ไขเพิ่มเติมข้อ ๓ ค่ะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ปทิตา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 03-04-2021, 02:30
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,751
ได้ให้อนุโมทนา: 268,267
ได้รับอนุโมทนา 837,322 ครั้ง ใน 12,756 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูค้นพบว่าหนูชอบนอนภาวนามาก ใจเบาสบายยิ่งตอนลืมตาตื่นแล้วภาวนาต่อสักพักก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอน เวลานอนหนูภาวนาจนหลับลึกมาก แต่ตื่นมาแล้วก็ยังรู้สึกร่างกายไม่มีแรง แต่กลับเหมือนมีแรงดึงดูดให้สะลึมสะลือตลอดเวลา กินกาแฟยังง่วงเลยค่ะ หนูอยากทราบว่า หนูทำสมาธิผิดวิธีตรงไหนคะ ? ทำไมใจเบาสบายแต่ร่างกายง่วงและอ่อนเพลียตลอดเวลาคะ ?
ตอบ : เกิดจากความที่ชอบมาก จึงทำบ่อย ๆ จนกำลังใจมีความชำนาญในการทรงสมาธิระดับนั้น ซึ่งอยู่ในระดับปฐมฌานหยาบ ที่ปกติจะต้องตัดหลับไปเลย แต่เป็นเวลาที่เราต้องตื่นไปทำงานพอดี ในเมื่อกำลังใจทรงอยู่ในระดับนั้นก็แทบจะหลับตาเดิน..!

ถาม : หนูแยกวิธีปฏิบัติได้สามแบบค่ะ
แบบแรกคือ หนูนั่งสมาธิไม่ได้ จะอึดอัด กระสับกระส่าย ใจร้อนรน ถ้าไหว้พระสวดมนต์ หนูจะสวดพระคาถาเงินล้าน แต่ต้องสวดเร็ว ๆ ถึงจะจับลมหายใจได้ไม่สะดุด

แบบที่สองคือ ในระหว่างวันที่ใช้ชีวิตปกติทั่วไป ทำงานบ้าน เดินไปตลาด หนูจะเผลอภาวนาในใจว่า พุทโธ ธัมโม สังโฆ บางทีก็แล้วแต่จิตจะเปลี่ยนคำภาวนาเอง ช่วงนี้อยู่ ๆ หนูก็สวดบท "ปะโตเมตัง ปะระชีวะนัง สุคะโตจุตติ จิตตะ เมตะ นิพพานัง สุคะโต จุตติ" เหมือนเวลาไม่มีสติจะหลุดภาวนาไปเอง บางครั้งถึงกับพูดออกเสียงมาเลย จนคนข้าง ๆ ก็มองค่ะ

แบบที่สามคือ นอนภาวนาหนูจะจับลมหายใจช้า ๆ หายใจเข้าภาวนาว่า พุท หายใจออกภาวนาว่า โธ หนูเคยพยายามเปลี่ยนมาภาวนาคาถาเงินล้าน และ นะ มะ พะ ธะ แต่อึดอัดทำลมหายใจสะดุดหมดเลยค่ะ

ทั้งสามแบบหนูทำโดยไม่ฝืน ใจเบาสบาย หนูควรจะปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามจิตใจและความรู้สึกพาไปแบบนี้ คือไม่มีแบบแผน หรือหนูควรบังคับใจสวดมนต์ นั่งสมาธิจับลมหายใจ เดินจงกรม ตามกำหนดเวลาแบบที่ครูบาอาจารย์ปฏิบัติกันคะ ?
ตอบ : การปฏิบัติธรรมต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าทำเพื่ออะไร ไม่ใช่ปล่อยเป็นปลาตายลอยน้ำแบบนี้ เรื่องของจิตถ้าไม่บังคับก็เหมือนลิง กระโดดไปทางนั้นทางนี้ไม่มีหยุด แค่จะภาวนาแบบหนึ่งให้ได้ผลไปเลยก็ทำไม่ได้แล้ว ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วผ่อนสั้นผ่อนยาว จนกว่าจะบังคับได้อย่างที่เราต้องการ

ถาม : มีอยู่ช่วงหนึ่งที่อยู่ ๆ จิตหนูภาวนา นะ มะ พะ ธะ จับลมหายใจตอนหลับเอง แล้วหนูรู้สึกว่าหนูหยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้นประมาณ ๓ วินาที เหมือนถูกขังอยู่ในที่แคบเท่าร่างกาย อยากจะดิ้นรนออกไปสูดอากาศหายใจ ตอนนั้นตกใจ กลัวแต่พยายามตั้งสติคิดว่า เราไม่ได้ถูกขังจริง ๆ ใจหนูก็ภาวนา พุทโธ สลับกับสมองคิดว่าตายก็ตายขอไปนิพพาน ไม่ได้อยากไปด้วยใจ สักพักหนึ่งก็หายใจได้ หนูเหมือนคนจมน้ำที่โผล่มาหายใจเลยค่ะ เวลาตอนที่หยุดหายใจเหมือนยาวนานมาก หนูกลัวเลยภาวนา พอมีสติก็คิดตัดร่างกาย สลับไปมาด้วยความลนลานค่ะ หนูคิดว่าหนูมีปัญหาสุขภาพเรื่องการหายใจ เพียงแต่ครั้งนี้หนูจับลมหายใจภาวนา นะ มะ พะ ธะ ขึ้นมาเอง และหยุดหายใจนานกว่าครั้งอื่น ปกติหนูภาวนา พุทโธ ก็หยุดหายใจแค่ ๑ วินาทีค่ะ ที่คำภาวนาเปลี่ยนเอง มีผลอะไรไหมคะ ? แล้วหนูควรภาวนา นะ มะ พะ ธะ หรือ พุทโธ ตอนหยุดหายใจคะ ?
ตอบ : เป็นแค่อาการปกติของสมาธิที่ทรงตัวมากขึ้น ลมหายใจจะเบาลงหรือว่าหายไป ถ้าเราแค่กำหนดสติรับรู้ไว้เฉย ๆ ไม่กลัว ไม่ตกใจ สมาธิจะทรงตัวแนบแน่นไปกว่านี้อีก แสดงว่ากำลังใจเพียงพอที่จะทรงสมาธิระดับสูงแล้ว เพียงแต่ไม่เข้าใจวิธีในการทำเท่านั้น

ถาม : หนูไม่เข้าใจเรื่องที่บอกว่าให้ตามดูอารมณ์ตัวเอง คือตามดูไปเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่ต้องไประงับใช่ไหมคะ ? จะมากขึ้นหรือน้อยลงก็แค่ดู พอหนูปล่อยให้ถึงจุดที่เต็มที่ถึงที่สุดแล้ว หนูจะมาคิดว่าทั้งหมดไม่มีอะไรเลย แค่เรายึดตัวตนเราไว้ หนูดูตัวเองจนพอเข้าใจว่า หนูต้องเกิดอารมณ์นั้น ๆ ให้สุดก่อน ใจหนูถึงจะปล่อยวางตัวตนได้ แต่การที่ปล่อยให้ระเบิดสุด ก็จะไปสร้างกรรมกับคนรอบข้างขึ้นมาอีก เวลาโกรธหนูเคยลองภาวนา ก็พอผ่านเหตุการณ์นั้นได้ แต่ใจหนูจะไปไม่ถึงจุดที่ปล่อยวางตัวตน ควรทำแบบไหนคะ ?
ตอบ : เวลาขับรถถ้าจะตกเหว อันดับแรกก็คือเหยียบเบรก อันดับที่สอง พยายามหันหัวรถออกไปทางอื่น เวลาอารมณ์ไม่ดีเกิดขึ้น อันดับแรกต้องหยุดให้ได้ก่อน ไม่ใช่ไปปล่อยให้ระเบิด อันดับต่อไปคือ พยายามเปลี่ยนจากอารมณ์ร้ายมาเป็นอารมณ์ดี ก็คือดึงมาภาวนาให้ได้ การตามดูอารมณ์ตัวเองนั้น ถ้าอารมณ์ร้ายเกิดขึ้น ก็ไล่ออกไป ระวังไว้อย่าให้เข้ามาได้อีก ถ้าอารมณ์ดีเกิดขึ้นก็รักษาเอาไว้ แล้วทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เขาดูและทำกันแบบนี้

ถาม : เวลาเกิดความรู้สึกต่าง ๆ จนถึงที่สุดหนูจะหาจุดคิดย้อนเข้ามา สุดท้ายจะมาหยุดที่เพราะมีเรามีตัวเรา แต่เรื่องกามราคะ พอหนูย้อนมาถึงตัวหนูแล้ว หนูกลับย้อนไปต่ออีกว่า เพราะพ่อแม่มีตัณหาราคะ จึงเกิดกาม เมื่อเกิดกามจึงเกิดหนูขึ้นมาวนเป็นวงกลม หนูใช้ปัญญาไปต่อไม่ได้ค่ะ หยุดอยู่ตรงพ่อแม่มีกามราคะ รู้สึกผิดด้วย หนูต้องทำอย่างไรต่อคะ ?
ตอบ : เลิกคิดโทษคนอื่น ให้กล่าวโทษโจทย์ตัวเองว่าเสือกโง่ที่เกิดมา..!

ถาม : หนูมีต้นโมกสูงประมาณหนึ่งเมตรครึ่ง ใส่กระถางตั้งไว้ภายในตัวบ้านไว้กรวดน้ำ เวลาสวดมนต์หนูจะอุทิศบุญให้รุกขเทวดาที่ต้นโมกด้วย หนูสังเกตว่าผ่านไปไม่กี่อาทิตย์ ต้นโมกก็จะแตกใบอ่อน หลังจากนั้นไม่เกินห้าวันจะยืนต้นตาย เป็นแบบนี้มาสามต้นแล้วค่ะ หนูสงสัยว่าเป็นที่หนูกรวดน้ำหรือเปล่าคะ เพราะหนูมีต้นโมกเล็กกว่านี้อยู่ในบ้านก็แค่แห้ง แต่ไม่มียืนต้นตาย แล้วรุกขเทวดาเขาได้รับบุญแล้วทำไมไม่ช่วยดูแลต้นไม้ให้งอกงามคะ วิมานเขาจะได้อยู่ดีด้วย ?
ตอบ : ได้บุญมากพอก็ไปรีบเกิดในภพภูมิที่ดีกว่า ใครจะมาโง่แปะอยู่กับต้นไม้วะ ?

ถาม : ระหว่างคิดว่าชีวิตเป็นทุกข์ คิดแค่อยากพ้นทุกข์ กับคิดว่านิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง อยากไปนิพพาน เหมือนกันไหมคะ ? ตอนนี้ใจหนูรู้ว่าการเกิดเป็นทุกข์ การมีร่างกายเป็นทุกข์ อยากหลุดพ้นจากร่างนี้ ไม่อยากไปเกิดร่างใหม่แม้สวรรค์หรือพรหม แต่หนูก็รู้สึกเฉยกับนิพพานเหมือนกัน ใจไม่ได้คิดหรือรู้สึกอยากจะไปนิพพาน แต่ชอบความรู้สึกของนิพพาน หนูควรจะแก้ความคิดตรงไหนให้ถูกต้องคะ ?
ตอบ : คิดอยากพ้นทุกข์ เป็นสัมมาทิฏฐิ คิดถึงพระนิพพานเป็นอุปสมานุสติ อย่างแรกเป็นปัญญามองเห็นทางไป อย่างหลังเป็นวิธีในการไป จะคิดก็คิดตัดสินใจให้จบว่าจะเอาอย่างไร จะทำก็ทำไปให้จบจะได้พ้นทุกข์

ถาม : หนูมีคนรู้จักทำงานช่วยเหลือคนเจ็บจากอุบัติเหตุ คนป่วย คนตายที่ยากจน รายได้ได้มาจากชีวิตคนและก็ไม่ได้มาก บางครั้งพวกเขาก็ไม่มีเงินให้ เรายังต้องเสียเงินให้อีก การที่เราทำงานแบบนี้เราควรบูชาท่านใด หรือมีวิธีใดให้หน้าที่การงานเจริญ มีเงินทองคล่องตัวบ้างไหมคะ ทำอาชีพนี้มองไม่เห็นทางจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเลยค่ะ ทั้งสงสารพวกเขาและสงสารตัวเอง ?
ตอบ : ปกติก็เห็นบูชาท่านไต้ฮงกง เราก็เพิ่มให้เขาภาวนาพระคาถาเงินล้านแบบจริง ๆ จัง ๆ เท่านั้น กำลังใจพระโพธิสัตว์แบบนี้ไม่ต้องไปสงสารเขาหรอก สงสารตัวเองดีกว่าว่าเมื่อไรจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนแบบพวกเขาบ้าง

ถาม : หนูนอนภาวนาแล้วชอบฝันว่าไปโลกของวิญญาณบ่อยมาก เหมือนตัวมีแรงโน้มถ่วง เดินก้าวขาไม่ค่อยออก แต่พวกวิญญาณเขาไปได้เร็วมาก หนูสงสัยว่าหนูไปได้อย่างไร ? ไปเพื่ออะไร ? เป็นการทดสอบเรื่องอะไรคะ ? บางครั้งตอนฝันคือรับรู้ทุกอย่าง ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่พอตื่นขึ้นมาความรู้สึกบางอย่างฝังอยู่ในใจลึกมากค่ะ เช่น ความรัก แต่บางครั้งคือในฝันโดนมีดแทง เจ็บเข้ากระดูกตั้งแต่ในฝันจนตื่นมาความเจ็บก็ยังอยู่ หนูคิดว่าอีกทางหนึ่งที่จะดูความก้าวหน้าในการปฏิบัติ คือมีวิญญาณมาทดสอบเราใช่ไหมคะ ?
ตอบ : เป็นลักษณะของอตีตังสญาณ ระลึกอดีตได้ ความก้าวหน้าในการปฏิบัติก็คือ ไม่ว่าจะอยู่ในความฝันหรือความจริง ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ใจเราต้องเกาะความดีได้

ถาม : ถ้าหนูชอบภาวนา พุท โธ แบบนี้คือ หนูเป็นสุกขวิปัสสโกแน่แล้วใช่ไหมคะ ? หนูควรจะทิ้งคำภาวนา นะ มะ พะ ธะ ไปเลย หรือควรภาวนาควบคู่กันไป แบบไหนจะก้าวหน้าเร็วกว่าคะ ?
ตอบ : ทำแบบไหนแล้วใจสงบก็ให้ทำแบบนั้นไป ถ้าพื้นฐานเดิมเป็นอภิญญา ภาวนาอะไรถ้าใจสงบได้ที่ก็เป็นอภิญญาได้ทั้งนั้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:49



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว