กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-04-2024, 19:41
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,535
ได้ให้อนุโมทนา: 216,765
ได้รับอนุโมทนา 743,878 ครั้ง ใน 36,250 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-04-2024, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,099 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปทำพิธีบวงสรวงปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดโพธิ์ผักไห่ หมู่ที่ ๔ ตำบลผักไห่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วก็รับเอาพระพิมพ์กลีบบัวสะดุ้งกลับ เนื้อยาวาสนาจินดามณีผสมผงวิเศษคลุกรัก กลับมา ๑๐,๐๐๐ องค์

พระรุ่นนี้ได้ทำการปลุกเสกมา ๔ รอบแล้ว เนื่องเพราะว่าผู้ดำเนินการสร้างหลักเลย ก็คือพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ผักไห่ ท่านยึดถือฤกษ์ยามและรูปแบบตามโบราณทุกอย่าง แม้กระทั่งการเรียกรูป เรียกนาม เรียกอาการ ๓๒ ก็ทำจนครบถ้วน ถึงได้ยอมมอบมาให้กระผม/อาตมภาพ เอามาออกให้บูชา เพื่อเป็นทุนการศึกษาของปีนี้

จะว่าไปแล้ว ทางผู้สร้างเองมีน้อยกว่าของวัดท่าขนุนอีก ก็คือมีเหลือแค่ ๒,๕๐๐ องค์ เพราะว่าตอนแรกที่สร้างก็คือตั้งใจจะถวายมาทั้งหมด แต่คราวนี้ก็มีส่วนที่ขอเอาไว้ ด้วยเกรงว่ามาถึงวัดท่าขนุนแล้วจะหมด ท่านจะเอาไว้สำหรับบูรณะซ่อมแซมวัดโพธิ์ผักไห่ วัดราษฎร์บัวขาว แล้วก็มีส่วนหนึ่งที่ไปช่วยบูรณปฏิสังขรณ์ธุดงค์สถาน กองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโท ที่บางปลาม้า

สำหรับวันนี้คาดว่าข่าวใหญ่ทั้งหลายที่เกิดขึ้นเมื่อวาน พวกเราก็คงทราบกันหมดแล้ว เรื่องที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูเขียว ปิดล้อมจับกุมผู้ลักลอบล่าสัตว์ ปรากฏว่ามีทั้งพระภิกษุสามเณร โดยเฉพาะพระภิกษุนั้น เป็นถึงระดับรองเจ้าคณะจังหวัด เป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ เปรียญธรรม ๙ ประโยค..!

เรื่องนั้นไม่ใช่หน้าที่ของเรา เป็นเรื่องของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ และเจ้าคณะปกครองจะดำเนินการกันเอง แต่ว่าในส่วนที่กระผม/อาตมภาพคิดเมื่อได้ข่าวนี้ก็คือ "กูยังจะมีอายุอยู่อีกกี่วัน เพื่อแก้ไขไอ้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ?"

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าสิ่งหนึ่งประการใดที่เราทำไป จะดีแค่ไหนก็ตาม แทบจะไม่มีข่าวคราวออกสื่อให้คนได้รับรู้ แต่สิ่งไม่ดีเกิดขึ้นเมื่อไร ก็เป็นอันว่ารู้กันทั่วประเทศและทั่วโลก เป็นเรื่องที่น่าหนักใจมาก

เพราะว่าปัจจุบันนี้ เรื่องของสื่อต่าง ๆ ไปเร็วเหลือเกิน แล้วอะไรเกิดขึ้น ถูกผิดยังไม่ทราบชัด แต่มีการฟันธงไปแล้วว่าเรื่องนี้ต้องเป็นอย่างนี้ จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องสังวรระวังเอาไว้ให้ดี อย่างที่กระผม/อาตมภาพเตือนอยู่เสมอว่า เราอยู่ในสายตาชาวบ้านเขา ทำอะไร ชาวบ้านรู้เห็นอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น..ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ อย่าไปทำผิดทำพลาดอะไรให้ใครเขาเห็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2024 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-04-2024, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,099 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อวานนี้ตอนที่กระผม/อาตมภาพเข้าร่วมเสวนาวิชาการ ก็มีพระภิกษุรูปหนึ่ง แม้จะทราบว่าตนเองเสวนาวิชาการออนไลน์ แต่น่าจะอากาศร้อน ท่านก็เลยนุ่งแค่สบงกับอังสะ กระผม/อาตมภาพต้องตักเตือนไปว่า "ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน ไม่เช่นนั้นก็ให้ปิดหน้าจอไปเลย..!"

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า เรื่องของการเสวนาวิชาการครั้งนี้เป็นเรื่องระดับโลก โดยเฉพาะบรรดานักวิชาการต่างประเทศเข้ามาหลายรายด้วยกัน แล้วเราจะไปทำตัวตามสบาย เพราะคิดว่าอยู่ที่วัดของตัวเอง แต่ลืมไปว่าหน้าจอที่เปิดอยู่นั้น ส่งออกไปทั่วโลกแล้ว..!

การเป็นพระภิกษุสามเณรของเราจึงต้องอยู่กันด้วยสติ ก็คือรู้ระมัดระวังอยู่เสมอ และความสำนึกในสมณสารูป ไม่ใช่ไปแก้ตัวว่า "ชอบเที่ยวป่า เพียงแต่ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่อุทยานเท่านั้น" ขออภัย..เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรา..!

คราวนี้ท่านที่ไม่ได้เข้าไปฟังการเสวนาวิชาการ แล้วก็อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก หรือว่าอ่านออกโดยอาศัย Google Translate แล้วแต่ไม่รู้เรื่อง กระผม/อาตมภาพจะบอกคร่าว ๆ ให้ว่าเนื้อหาของ The Meta Secret ที่เขียนโดย ดร.เมล กิลล์ นั้น หลัก ๆ มีอยู่สามเรื่องเท่านั้น

ก็คือ ๑. เรื่องของความร่ำรวยสมบูรณ์พูนสุข ๒. เรื่องของสุขภาพร่างกาย แล้วก็ ๓. เรื่องของความสุขทางใจ ซึ่งเนื้อหาที่เขียนมานั้นเป็นการอ้างอิงความรู้ของนักวิชาการต่าง ๆ ที่กล่าวถึง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ หรือว่าได้ไปสนทนาด้วยตนเอง โดยที่ยกอ้างเนื้อหาให้เข้ากับหัวข้อที่ตนเองจะกล่าวถึง ลักษณะคล้าย ๆ กับการเขียนวิทยานิพนธ์เหมือนกัน

ท่านบอกว่าในเรื่องความร่ำรวยสมบูรณ์พูนสุขนั้น อันดับแรก
เราต้องร้องขอ เมื่อร้องขอแล้ว ยังต้องเชื่อมั่นว่าเราจะได้รับ ฟังดูแปลก ๆ แต่อย่าลืมว่าการร้องขอนี้ก็คืออธิษฐานบารมี ความเชื่อมั่นว่าจะได้รับ คือศรัทธาบารมี แต่เมื่อร้องขอแล้ว สิ่งหนึ่งที่ ดร.เมลกล่าวถึงก็คือ ทำ..ทำ..และทำ เพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่เราต้องการ ไม่ใช่ขอแล้วงอมืองอเท้าอยู่เฉย ๆ..!

เพราะฉะนั้น..ในเรื่องของการทำ..ทำ..และทำ ก็คือวิริยบารมี โดยเฉพาะท่านย้ำว่า ให้ภายในเป็นผู้ควบคุมภายนอก ก็คือลักษณะของ "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" ถ้าใช้บาลีมายืนยันก็คือ มโนปุพพังคมา ธัมมา ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มโนเสฏฐา สูงสุดก็ที่ใจ มโนมยา สำเร็จก็ที่ใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2024 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 28-04-2024, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,099 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านใช้คำว่า ถ้าเรามุ่งมั่นทำไปอย่างเต็มที่ ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่น ความร่ำรวยและสมบูรณ์พูนสุขก็จะเกิดขึ้นกับเรา แต่อย่าทำตัวเป็นผู้รับอย่างเดียว ท่านบอกว่าคุณค่าของตัวเรา คือสิ่งที่เรามอบให้กับโลกนี้ เพราะฉะนั้น..ถ้าเราทำตัวเป็นผู้รับอย่างเดียวถือว่าผิดวิธีการ เพราะว่าไม่มีการหมุนเวียน ถ้าหากว่าเปรียบกับบาลีของพระพุทธเจ้าก็คือ ปูชโก ลภเต ปูชํ วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ ผู้บูชาย่อมได้รับการบูชาตอบ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ

ท่านบอกว่า ถ้าหากว่าเรารู้จักดูใจของตัวเอง ให้ใจเป็นใหญ่ เท่ากับว่าเราปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการของโลก ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่เป็นหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แต่ว่าเป็นสิ่งที่นักจิตวิทยาตะวันตกบ้าง ตะวันออกบ้าง เขียนเป็นตำราสรุปเอาไว้แล้ว โดยที่ท่านสรุปว่า "รักตัวเองให้มาก แล้วสิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้น"

คำว่า รักตัวเอง นี่แบ่งเป็นสองอย่างด้วยกัน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ท่านกล่าวถึง แต่เป็นสิ่งที่กระผม/อาตมภาพอธิบายให้ฟัง ก็คือรักตัวเองแล้วอย่าทำชั่ว ถ้าเป็นหลวงปู่แจ่ม - พระศาสนโสภณ จตฺตสลฺโล วัดมกุฏกษัตริยาราม ราชวรวิหาร ท่านบอกว่า "รักษาตัวกลัวกรรมอย่าทำชั่ว จะหมองมัวหม่นไหม้ไปเมืองผี จงเลือกทำแต่กรรมที่ดี ๆ จะได้มีความสุขพ้นทุกข์ภัย" ก็คือสิ่งที่สอนว่า
ในเมื่อเราเว้นจากชั่วแล้ว ก็ให้ทำดีด้วย ก็คือมาเข้ากับโอวาทปาฏิโมกข์ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือละชั่ว ทำดี

ท่านบอกว่า ทำให้มากเท่าไร กฎของการสะท้อนกลับ ก็คือเราจะได้รับมากเท่านั้น แต่ความจริง อันนี้เป็นทฤษฎีของฝรั่ง เราท่านอย่าลืมว่า สิ่งที่เราให้นั้น อยู่ที่กำลังใจหลายระดับ ระดับสละออกแบบปุถุชนผู้มากด้วยกิเลส ระดับสละออกของกัลยาณชนผู้มีศีลสมบูรณ์ ระดับการสละออกของอริยชนเบื้องต้น และระดับการสละออกของอริยชนเบื้องปลาย ที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรแล้ว

ท่านบอกว่า ต้องมีทั้งความรักและรู้จักการให้อภัย
อภัยทานเริ่มมาแล้ว นอกจากเมตตาแล้วยังต้องมีอภัยทานด้วย จงเรียนรู้ที่จะรักบุคคลที่เราไม่ชอบ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเราทำสิ่งทั้งหลายเหล่านี้แล้ว สิ่งดี ๆ ทั้งหลาย โดยเฉพาะความมั่งคั่งสมบูรณ์พูนสุขก็จะเกิดขึ้นกับเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2024 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 28-04-2024, 00:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,099 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนในด้านของสุขภาพร่างกาย ท่านใช้คำว่า จงเชื่อมั่นว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา เราเป็นเพียงผู้อาศัยเท่านั้น ดังนั้น..ถ้าเราคิดในด้านดี ๆ ว่าสิ่งดี ๆ ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นกับเรา สุขภาพของเราจะแข็งแรง ก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้ร่างกายของเราปรับสภาพตามความคิด ก็คือลักษณะของ "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" อีกตามเคย

ส่วนในเรื่องของความสุขนั้น ท่านบอกว่า ถ้าเราอยู่กับปัจจุบันจะมีความสุข ตรงเป๊ะเลยหลักธรรมของพระพุทธเจ้าแน่นอน อตีตํ นานฺวาคเมยฺย นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ มิบังควรหวนคะนึงถึงความหลัง สิ่งที่ยังมาไม่ถึงอย่าพึงหมาย ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย ธมฺมํ ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ ก็แปลว่าถ้าเราอยู่กับปัจจุบัน คือตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ไม่ฟุ้งซ่านไปหวนหาอาลัยอดีต แล้วก็ไม่ฟุ้งซ่านไปถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึงในอนาคต ตั้งหน้าตั้งตาทำปัจจุบันนี้ให้ดี แล้วสิ่งดี ๆ ทั้งหลายที่ท่านเรียกว่า Meta Secret คือสุดยอดของความลับ ที่จะพาให้เรามั่งคั่งสมบูรณ์พูนสุข มีสุขภาพดี และมีความสุขกายสุขใจ ก็จะเกิดขึ้นกับพวกเราเอง

เดี๋ยวจ่ายค่าหนังสือมาให้
กระผม/อาตมภาพด้วย กระทั่งอ่านยังขี้เกียจกันเลย..!

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราจะเห็นว่า สามารถเอาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเข้าไปจับได้ทุกระดับ
กระผม/อาตมภาพเรียนการจัดการในระดับปริญญาเอก ต้องศึกษาทฤษฎีของทางตะวันตกมาเป็นร้อย ๆ ทฤษฎี ไม่มีทฤษฎีไหนพ้นไปจากคำสอนพระพุทธเจ้าเลยแม้แต่อย่างเดียว

ดังนั้น..ยิ่งเรียนก็ยิ่งเชื่อมั่นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราสุดยอดจริง ๆ สิ่งที่พระองค์ท่านตรัสรู้นั้น ยิ่งใหญ่จริง ๆ เป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การเคารพนับถืออย่างแท้จริง ดังนั้น...การเรียนปริญญาเอกของคนอื่นได้ผลอย่างไรไม่ทราบ กระผม/อาตมภาพได้ผลสรุปกับตัวเองว่า "ไม่มีอะไรเหนือกว่าคุณพระรัตนตรัยนี้อีกแล้ว..!"

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2024 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:49



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว