#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๕
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพเพิ่งกลับมาจากงานพุทธาภิเษกที่วัดเดิมบาง (คงคาราม) หมู่ที่ ๑ ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งทางพรรคพวกก็คือพระครูสุวรรณปุญญรักษ์ ได้นิมนต์ไปร่วมงานพุทธาภิเษกครั้งนี้ โดยมีการระบุเอาไว้ด้วยว่า "ขอให้ท่านอาจารย์ช่วยอาราธนาบารมีหลวงพ่อกวยลงมาสงเคราะห์อย่างเต็มที่ด้วยครับ"
ตรงจุดนี้นั้น ขอบอกกล่าวแก่ลูกศิษย์สายหลวงพ่อกวยทั้งหลายทั้งปวงว่า ไม่จำเป็นต้องนิมนต์กระผม/อาตมภาพก็ได้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ตั้งแต่มีครูบาอาจารย์มา ยังไม่เคยเห็นครูบาอาจารย์ท่านใดรักลูกศิษย์เหมือนกับหลวงพ่อกวยเลย หลวงพ่อกวยท่านรักลูกศิษย์แบบไม่เลือกที่รักมักที่ชัง จะเป็นคนรวย คนจน คนดี คนเลว ถ้าหากว่าระลึกถึงท่าน ท่านก็เมตตาสงเคราะห์เขาไปเสียหมด โดยที่ท่านเคยบอกเอาไว้ว่า "มึงต้องการอะไรก็จุดธูป ๙ ดอก ถ้ามีดอกไม้ หาดอกไม้อะไรก็ได้มาสักกำมือหนึ่ง ถ้าไม่มีก็ไม่ต้อง แล้วบอกกล่าวให้กูช่วย การบอกกล่าวก็ให้บอกสั้น ๆ แบบเข้าใจง่าย ๆ อย่ารำพึงรำพันกันมาก เสียเวลากูฟัง..!" เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ บรรดาท่านที่เคารพนับถือในหลวงพ่อกวยนั้นจะทราบดีว่า สิ่งที่ท่านร้องขอนั้นมักจะได้ตามที่ท่านต้องการ แต่ว่าท่านต้องเข้าใจด้วยว่า สิ่งที่หลวงพ่อกวยทำนั้น บางสิ่งก็เป็นเรื่องที่เกินกฎของกรรม แต่ท่านเมตตาช่วยลูกศิษย์ด้วยความรักในตัวของท่านทั้งหลาย จึงทำให้ตรงจุดนี้นั้น บางทีหลวงพ่อท่านก็อาจจะต้องรับทุกข์รับโทษอะไรบางอย่าง แม้ว่าท่านจะอยู่ในลักษณะของขันธ์ทิพย์ก็ตาม โดยอาจจะต้องโดนดึงระยะเวลาของการไปเกิดเพื่อสร้างบารมีของท่านให้ยืดยาวขึ้นไปอีก จึงขอเตือนท่านทั้งหลายว่า ถ้าจะขอให้หลวงพ่อท่านช่วยสงเคราะห์ ไม่ว่าจะเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ตาม ขอให้ท่านทั้งหลายเลือกเฉพาะในเรื่องที่จำเป็นสุดขีดจริง ๆ เท่านั้น ไม่ใช่ว่าเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งอะไรก็ขอไปหมด เห็นว่าครูบาอาจารย์ใจดีก็ไม่มีการเกรงใจเลย..! ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ต้องบอกว่า เป็นการใช้โอกาสที่เปลืองมากจนเกินไป เพราะว่าถ้าท่านขอบ่อย ๆ จนกระทั่งวาระบุญที่จะหนุนเสริมให้สำเร็จ บวกด้วยบารมีครูบาอาจารย์แล้วก็ยังไม่เพียงพอ เพราะว่าพวกเราใช้บุญมากจนเกินไป ถึงเวลาฉุกเฉินขึ้นมาจริง ๆ แล้วขอไม่ได้ ท่านทั้งหลายจะเสียใจก็ไม่ทันเสียแล้ว..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2022 เมื่อ 00:43 |
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ภายในงานนั้น เขานิมนต์พระเดชพระคุณหลวงปู่พระครูสุวรรณธรรมานุยุต หรือว่าหลวงปู่สมบุญ วัดลำพันบอง เป็นองค์จุดเทียนชัยในการเริ่มพุทธาภิเษก และนิมนต์กระผม/อาตมภาพเป็นผู้ดับเทียนชัยหลังการพุทธาภิเษกเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ตรงจุดนี้ก็ต้องบอกว่า ด้วยความที่อายุกาลผ่านวัยมากขึ้นทุกที จากที่เคยเป็นเด็กท้ายแถว ก็ค่อย ๆ ขยับขึ้นมากลางแถว ปัจจุบันนี้หลายงานก็ต้องเริ่มเป็นหัวแถวด้วยตนเอง ต้องขอบอกกล่าวให้ท่านทั้งหลายได้ทราบว่า ตรงจุดนี้ทุกท่านอย่าได้ประมาท เพราะว่าชีวิตเป็นของไม่แน่นอน บุคคลที่เป็นรุ่นพี่ก็มีมรณภาพไปแล้วเป็นจำนวนมาก รุ่นเดียวกันก็มรณภาพกันไปหลายรูปหลายองค์ และรุ่นน้องก็มีมรณภาพไปแล้วหลายรูปหลายองค์เช่นกัน ท่านทั้งหลายอย่าได้หวังว่ากระผม/อาตมภาพนั้นจะอยู่ยั้งยืนยง เพราะว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และอย่าได้คิดว่า กระผม/อาตมภาพต้องอยู่เท่านั้น ต้องอยู่เท่านี้ เพราะว่าเรื่องนี้ได้รับบทเรียนจากหลวงพ่อวัดท่าซุงมาแล้วอย่างถนัดชัดเจนที่สุด เนื่องจากว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้น ท่านจำเป็นต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่จนถึงพุทธศักราช ๒๕๗๙ ถ้านับกันตามอายุแล้วก็คือ ๑๒๐ ปีเต็ม แต่ว่าท่านก็ไปแค่ในระยะที่อายุ ๗๖ - ๗๗ ปีเท่านั้น เนื่องจากว่าสภาพสังขารนั้นรับภาระงานไม่ไหว จึงต้องสละขันธ์หยาบไปทำงานในลักษณะของขันธ์ละเอียด ทำให้ลูกศิษย์จำนวนมากต่อมากด้วยกัน ต้องร้องไห้เสียใจจนแทบเสียผู้เสียคนไปเลยก็มี ตรงจุดนี้ท่านทั้งหลายต้องเร่งรัดปฏิบัติตามคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็คือพยายามที่จะรักษาอารมณ์ของพระโสดาบันเอาไว้ให้ได้ โดยทำใจของเราให้เคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริง ๆ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา หรือว่าด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เป็นผู้ที่ตั้งใจรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล ประการสุดท้ายคือ รู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย เมื่อตายแล้วขอตั้งเป้าหมายเอาไว้ที่พระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น พยายามสร้างกำลังใจเหล่านี้ให้มั่นคงทั้งเช้าและเย็น อย่างน้อยวันละ ๑๕ นาที หรือว่า ๒๐ นาที ก็จะทำให้ท่านเป็นผู้มีคติค่อนข้างจะมั่นคงได้ ไม่ใช่ประมาทเอาแต่ประมาท เอาแต่คอยจะเกาะครูบาอาจารย์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งมีแต่จะทำให้ผิดหวัง พลาดหวัง และเสียใจได้โดยง่าย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2022 เมื่อ 00:47 |
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
สำหรับการพุทธาภิเษกครั้งนี้ก็ได้รับความเมตตาบอกกล่าวจากพระท่านว่า คาถาในการอาราธนาพระยอดขุนพลกาญจนบุรีนั้น ให้ใช้คาถาว่า
"สัตถาธะนุง อากัฑฒิตุง อะเทสะยิ นะโมพุทธายะ" ซึ่งคาถานี้ถ้าหากว่าผู้ฟัง หรือว่าผู้ถอดเสียงฟังแล้วไม่ถนัด เมื่อถอดเสียงแล้วกระผม/อาตมภาพจะให้เขานำมาดูว่า พระคาถาบทนี้ถอดได้ถูกต้องหรือไม่ ส่วนที่ท่านทั้งหลายจะบูชาแล้วนำไปติดตัว ติดรถยนต์ หรือว่าติดบ้าน ก็แล้วแต่ท่านทั้งหลายจะพินิจพิจารณากันเอาเอง เพียงแต่ขอให้ทราบว่าในเรื่องของรูปสตูดิโอนั้น ตอนแรกช่างถ่ายมาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้แบบพิมพ์ใหญ่ สีดำ แก่เนื้อผงดินกากยายักษ์นั้น ต้องอาศัยรูปอื่นแทนอยู่ ๒ วาระ ๓ วาระ ท่านทั้งหลายอาจจะเข้าใจว่ามีการจารหลังให้ ซึ่งนั่นเป็นพิมพ์นำฤกษ์พิเศษ ไม่มีการให้บูชาทั่วไป หรือว่าอาจจะเห็นว่ามีการปิดทอง ซึ่งพิมพ์นำฤกษ์เหล่านั้นก็มีแค่ ๒ - ๓ องค์เท่านั้น ไม่สามารถที่จะให้บูชาได้ เนื่องเพราะว่าไม่เพียงพอแก่บุคคลที่ต้องการ ดังนั้น...ขอให้ท่านทั้งหลายเข้าใจว่า ไม่ว่าจะเป็นพระยอดขุนพลกาญจนบุรีพิมพ์ใหญ่ สีดำ แก่ผงดินกากยายักษ์ หรือว่าพิมพ์ใหญ่ สีขาว แก่ผงพุทธคุณก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่มีการปิดทอง ไม่มีการจารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ถ้าหากว่าจารก็คงมีเวลาไม่เพียงพอที่จะกระทำได้ครบถ้วน อีกส่วนหนึ่งที่อยากจะแจ้งกับท่านทั้งหลายก็คือว่า หลวงพ่อสุคโตนั้นได้หมดไปจากวัดแล้ว ในส่วนที่อยู่ในเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ ก็เหลือในส่วนของเม็ดเงินกลับทองไม่กี่สิบองค์เท่านั้น ส่วนของเหรียญรัชกาลที่ ๕ หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า เหรียญ มจร. ซึ่งกระผม/อาตมภาพสร้างเพื่อหาทุนในการสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์นั้น ณ ปัจจุบันนี้ เนื้อทองคำเหลืออยู่แค่ ๑๘ องค์ ส่วนเนื้ออื่น ๆ ก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว ซึ่งไม่นึกเหมือนกันว่าท่านทั้งหลายจะมาเร่งบูชากันในส่วนของพระเนื้อทองคำที่ราคาแพงมากที่สุด เหตุที่เป็นเช่นนั้นอาจจะเป็นเพราะว่า ในปัจจุบันนี้ราคาทองคำนั้นขึ้นไปสูงมาก แต่ว่าทางวัดไม่ได้มีการขึ้นราคา ยังคงยืนในราคาเดิมเป็นปกติ ท่านทั้งหลายเห็นว่าบูชาไปแล้วไม่ขาดทุน จึงตั้งหน้าตั้งตาบูชากันทั้งในเว็บท่าขนุน และเดินทางไปบูชาที่วัดท่าขนุนด้วยตนเอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2022 เมื่อ 00:52 |
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
อีกส่วนหนึ่งที่จะบอกกล่าวก็คือว่า ท่านที่ "ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียด" ก็คือไม่ได้คิดเลยว่าจะฟังให้ได้ความจนครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อได้ยินว่ามีการให้บูชาพระยอดขุนพลกาญจนบุรี ท่านทั้งหลายก็เหมารถวิ่งตรงไปยังวัดท่าขนุนเลย ซึ่งไปแล้วก็เสียเวลาเปล่า เพราะว่าไม่ได้มีให้บูชาที่นั่น หากแต่มีให้บูชาเฉพาะในกระทู้ของเว็บวัดท่าขนุนที่เดียวเท่านั้น ก็คือกระทู้กฐินปลดหนี้วัดชลธราราม (ท่าซิก) จังหวัดเพชรบุรี ในที่อื่นก็ไม่มี และมีให้บูชาแค่ ๒ พิมพ์เท่านั้น ก็คือพิมพ์ใหญ่สีดำ แก่ผงดินกากยายักษ์ และพิมพ์ใหญ่สีขาว แก่ผงพุทธคุณ
อีกส่วนที่ได้กระทำเอาไว้ก็คือพิมพ์ใหญ่ สีดำ ฝังตะกรุดทองคำ และ พิมพ์เล็ก สีดำ แก่ผงดินกากยายักษ์นั้น จะนำออกให้บูชาในงานทอดกฐินวัดท่าขนุน ซึ่งจะเปิดกระทู้ให้บูชาก็ต่อเมื่อถึงช่วงเข้าพรรษาไปแล้ว แต่ว่าท่านทั้งหลายโทรมาจะเอาพิมพ์โน้น พิมพ์นี้ ซึ่งไม่สามารถที่จะมีให้ได้ โดยที่ไม่พยายามจะอ่านหนังสือให้ครบ ๘ บรรทัด หรือว่าไม่พยายามที่จะฟังให้จบเนื้อหาตามที่ได้บอกกล่าวไป แล้วก็มาเร่งรัดเอากับเจ้าหน้าที่ของทางวัด ทำให้แต่ละคนเครียดจนหัวฟูไปตาม ๆ กัน ตรงจุดนี้จึงขอร้องท่านทั้งหลายว่า ไม่ว่าท่านจะต้องการวัตถุมงคลขนาดไหนก็ตาม ขอให้พินิจพิจารณาดูก่อนว่า ทางวัดให้บูชาในแบบไหนพิมพ์ไหนบ้าง และขณะเดียวกันให้บูชาในกระทู้ใดบ้าง เมื่อท่านบูชาไปแล้ว ก็ขอให้โอนเงินให้ตรงบัญชีในกระทู้นั้น ๆ ด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อผิดกฎผิดกติกา ก็กลายเป็นว่าท่านต้องเสียเงินทำบุญโดยใช่เหตุ เพราะว่าทางเจ้าของกระทู้ได้ตั้งกฎเกณฑ์เอาไว้ชัดเจนแล้วว่าไม่มีการโอนเงินคืน เนื่องจากว่าไม่มีเวลา ท่านโอนเงินผิดกระทู้ ก็แปลว่าตั้งเจตนาที่จะทำบุญกับทางวัดท่าขนุนเอง เรื่องทั้งหลายนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าท่านทั้งหลายมีความรอบคอบ อ่านกฎเกณฑ์กติกาให้ชัดเจน เมื่อถึงเวลาแล้วก็ดูให้ชัดว่าต้องโอนเงินเข้าไปที่กระทู้ไหน บัญชีไหน ซึ่งแต่ละกระทู้นั้นเป็นเลขบัญชีที่ต่างกันไป ไม่ใช่บัญชีเดียวกัน สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2022 เมื่อ 00:57 |
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|